ตอนที่แล้วEp.229 - แบ่งสินสงคราม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.231 - ฮัสกี้นักปรัชญา

Ep.230 - โน๊ตนักกลั่นโพชั่นมนตรา


1/3

Ep.230 - โน๊ตนักกลั่นโพชั่นมนตรา

ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นที่น่าพอใจมาก

ทุกคนต่างได้รับผลกำไรกันถ้วนหน้า

ฮังอวี่หยิบ ‘โน๊ตนักกลั่นโพชั่นมนตรา’ ออกมา

ในบรรดาสินสงครามล้ำค่ามากมายในครั้งนี้ นี่คือไอเท็มสีเขียวขุ่นที่ไม่โดดเด่นอะไร

แต่ในความเป็นจริงแล้ว การใช้งานและมูลค่าในระยะยาวของไอเท็มชิ้นนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าอุปกรณ์สีเขียวใสเลย เพียงแต่คนอื่นๆไม่ได้ตระหนักถึง นี่จึงเป็นสาเหตุที่ ฮังอวี่ได้มันมาครองอย่างง่ายดาย

โน๊ตเล่มนี้ มองแวบแรกมันดูเหมือนหนังสือที่ถูกเขียนด้วยลายมือพร้อมปกหนังวัวสีดำ

พลังงานที่จุอยู่ข้างในหนังสือทรงพลังมาก

ถึงมันจะอยู่ในรูปแบบหนังสือ แต่การใช้งานมัน ไม่ได้หมายความว่าเราต้องอ่านทั้งหมด

ฮังอวี่เพียงเปิดหนังสือ พลังงานที่อยู่ข้างในก็ถูกปล่อยออกมาจากหน้ากระดาษ เข้าโอบคลุมและหลอมรวมเข้ากับร่างเขาอย่างรวดเร็ว ฮังอวี่รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเขาได้รับทั้งความรู้และพลังมหาศาล

โพชั่นมนตราเป็นการผสมผสานระหว่างการเล่นแร่แปรธาตุและการกลั่นโพชั่น

ดังนั้น โน๊ตเล่มนี้จึงเป็น ‘หนังสือเสริมสกิล’ อย่างแท้จริง

เอฟเฟกต์ของมันเรียบง่ายมาก

ช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพระดับของการเล่นแร่แปรธาตุและการกลั่นโพชั่น

เทคนิคกลั่นโพชั่นของฮังอวี่ไม่เคยได้รับการอัพเลเวลมาก่อน ตอนนี้มันกระโดดขึ้นเป็นเลเวล 2 ได้ในคราวเดียว

สำหรับเทคนิคเล่นแร่แปรธาตุที่อยู่ในเลเวล 2 อยู่แล้ว มันได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพเป็นอย่างมากในตอนนี้

[การกลั่นโพชั่นระดับต่ำ] เลเวล 2 (200/500) , ความชำนาญ  (1500/1500) , ต้องใช้หินสกิลในการอัพเลเวลครั้งต่อไป

[การเล่นแร่แปรธาตุระดับต่ำ] เลเวล 2 (500/500) , ความชำนาญ (1500/1500) , ต้องใช้หินสกิลในการอัพเลเวลครั้งต่อไป

นี่คือเอฟเฟกต์โดยรวมของหนังสือเล่มนี้

มันช่วยเพิ่ม 500 แต้มวิญญาณ แก่เทคนิคกลั่นโพชั่นและเล่นแร่แปรธาตุ

หรือเท่ากับว่าเจ้าสิ่งนี้ช่วยให้เขาประหยัดแต้มวิญญาณที่ต้องใช้งานได้ถึง 1000 แต้ม!

ต่อให้เป็นฮังอวี่ นี่ก็ยังไม่ใช่จำนวนน้อยๆ

นั่นคือเหตุผลที่เขาเลือกไอเท็มชิ้นนี้

เพราะสำหรับเขาแล้ว โน๊ตของนักกลั่นโพชั่นมนตรานั้นมีคุณค่ายิ่งกว่าอุปกรณ์สีเขียวหรือกระทั่งหินสกิลดีๆ

ฮังอวี่ตรวจสอบข้อมูลของเขา

นักรบเลเวล 7 พลังชีวิต 66 , พลังจิต 40 , พละกำลัง +9 , ค่าร่างกาย+6 , ความว่องไว +3 , จิตวิญญาณ +3 , จิตรับรู้ +2 , การโจมตีทางกายภาพ +4 , การป้องกันทางกายภาพ +4 , ความเร็วในการเคลื่อนที่ +0.5 , อัตราฟื้นฟูพลังชีวิตเพิ่มขึ้น +0.1, , อัตราฟื้นฟูพลังจิตเพิ่มขึ้น +1 แต้มวิญญาณ 423/3000

แต้มวิญญาณยังเหลือราวๆ 420 แต้ม

ฮังอวี่ไม่รอช้า เขาจ่าย 200 แต้มวิญญาณเพื่อเปิดใช้งานหินสกิลเล่นแร่แรธาตุระดับกลาง

เทคนิคเล่นแร่แปรธาตุระดับต่ำของมันได้รับการอัพเกรดขึ้นเป็นเล่นแร่แปรธาตุระดับกลางทันที

[การเล่นแร่แปรธาตุระดับกลาง] เลเวล 3 (0/2000) , ความชำนาญ  (5000/5000)

สกิลสายผลิตโดยทั่วไปแล้วจะมีเงื่อนไขดังนี้

เลเวล 1-2 คือจัดอยู่ในสกิลผลิตระดับต่ำ

เลเวล 3-4 คือจัดอยู่ในสกิลผลิตระดับกลาง

เลเวล5-6 คือจัดอยู่ในสกิลผลิตระดับสูง

ดังนั้น จากเลเวล 2 ไป 3 จึงต้องใช้หินสกิลผลิตระดับกลาง และจากเลเวล 4 ไป 5 จึงต้องใช้หินสกิลผลิตระดับสูงในการอัพเลเวล

ฮังอวี่เปิดใช้งานหินสกิลขั้น 2 โจมตีลมกรดที่พึ่งได้มาต่อทันที

[โจมตีลมกรด] (ชิ้นส่วนมรดกของนักท่องวายุ) เลเวลปัจจุบัน 1 (0/200) , ความชำนาญ (300/300) , จ่ายพลังจิต 5 หน่วยเพื่อเปิดการโจมตีแบบเส้นตรงเป็นเวลา 1 วินาที , ความเร็วในการจู่โจมจะขึ้นอยู่กับค่าคุณสมบัติว่องไวที่มี , สร้างดาเมจทางกายภาพ 10 หน่วย และเพิ่มพลังของสกิลโจมตีในระยะประชิด , ระยะเวลาคูลดาวน์ 6 วินาที

ฮังอวี่ทดสอบทันที

ช่วงเวลาที่สกิลถูกเปิดใช้งาน

ทั้งร่างของเขาถูกห่อหุ้มไปด้วยรัศมีสีฟ้า

ไม่เลว ไม่เลว สกิลนี้ดูเท่ซะไม่มี

หลังจากใช้งานมัน เขารู้สึกว่าสายลมที่อยู่รอบตัวปราศจากแรงต้านอีกต่อไป ตรงกันข้าม มันช่วยขับเคลื่อนให้เขามุ่งไปข้างหน้าได้เร็วขึ้น กระโดดออกไปไกลกว่า 10 เมตรในพริบตา ว่องไวกว่าความเร็วตามปกติถึง 3 เท่า!

รัศมีสีฟ้าหายไป

กลับสู่สภาพเดิมอีกครั้ง

อย่างที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้

มันคือสกิลที่ดีมาก

แม้ดาเมจที่สร้างจะไม่สูงนัก

แต่นั่นก็เพราะมันไม่ใช่สกิลสายโจมตี แต่เป็นสกิลประเภทสนับสนุน ซึ่งจะช่วยหาจังหวะและทำดาเมจได้ต่อจากนั้น

กล่าวคือมันสามารถใช้ร่วมกับการโจมตีปกติหรือสกิลระยะประชิดได้

จุดที่สำคัญที่สุดก็คือ

ระยะเวลาคูลดาวน์ของสกิลนี้สั้นมาก

สิ่งนี้ไม่เพียงแต่เสริมพลังให้กับการโจมตีเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้หลบหลีกหรือล่าถอยได้

ดังนั้นสามารถสร้างผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึงได้อย่างน่าทึ่งในหลายๆโอกาส

หากใช้ควบคู่ไปกับสกิลประจัญบาน

ด้วยสองสกิลสายพุ่งเข้าโจมตีนี้

ความดุดันของฮังอวี่สามารถกล่าวได้เลยว่าแข็งกร้าว!

หินสกิลระดับกลางใช้แต้มวิญญาณ 200 แต้ม หินสกิลโจมตีลมกรดใช้แต้มวิญญาณ 150 แต้มในการเรียนรู้ ตอนนี้ฮังอวี่จึงเหลืออีก 70 แต้มวิญญาณ

ฮังอวี่ตัดสินใจใช้มันอัพเลเวลสกิลโจมตีต่อเนื่อง

นี่เป็นเวลาเหมาะสมที่จะอัพมันสู่เลเวล 3

‘โจมตีต่อเนื่อง’ นี่ไม่ใช่สกิลที่มีดาเมจในตัว

อย่างไรก็ตาม เมื่อเปิดใช้งานมัน ความเร็วในการโจมตีจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก และเวลาคูลดาวน์ของสกิลนี้ก็สั้นมากเช่นกัน ดังนั้นส่งผลอย่างยิ่งต่อประสิทธิภาพการต่อสู้โดยรวม

ด้วยประการฉะนี้

ฮังอวี่จึงเหลือเพียง 3 แต้มวิญญาณเท่านั้น

เขายากจนมากในแง่แต้มวิญญาณสะสม

ยังไงก็ตาม สิ่งที่แลกเปลี่ยนไปนั้นคุ้มค่า

การลงทุนจ่ายไปในราคาไม่กี่ร้อยแต้มวิญญาณ

แต่กลับช่วยให้พลังรบเพิ่มพูนขึ้นเป็นอย่างยิ่ง!

ทุกคนไม่ได้อยู่ในเขาวงกตต่อ เพราะต้องเตรียมพร้อมสำหรับการใช้นกหวีดพ่อค้าลึกลับในครั้งต่อไปเมื่อเข้าสู่โลกวิญญาณ ดังนั้นพวกเขาจึงใช้หินคริสตัลขาว 10 ก้อนเพื่อเทเลพอร์ตกลับค่ายมนุษย์หมูป่า

ค่าเทเลพอร์ต 10 หินคริสตัลขาว!

เจียงหนานรู้สึกเหมือนถูกกรีดเลือดเฉือนเนื้อ

ในบรรดาทุกคนในทีม เธอเป็นคนที่ยากจนที่สุด

หินคริสตัลในมือกล่าวได้เลยว่ามีน้อยมาก

ฉะนั้น สินสงครามในครั้งนี้ เจียงหนานจึงเลือกรับอุปกรณ์ชิ้นอื่นๆน้อยลง และขอหินคริสตัลมากกว่าคนอื่นๆ

ในตอนแบ่งสินสงคราม เธอได้รับหินคริสตัลขาว 120 ก้อน และหินคริสตัลเขียวอีก 10 ก้อน พลิกผันจากนักศึกษายากจนกลายเป็นนักศึกษาผู้ร่ำรวย

ถึงแม้จะได้ครอบครองเม็ดเงินจำนวนมากที่ไม่เคยได้ครอบครองมาก่อน

แต่ค่าธรรมเนียมในการเทเลพอร์ตก็ยังสูงเกินไปอยู่ดี

ฮังอวี่เดินไปรอบๆค่ายและพบว่าไม่มีอะไรน่าซื้อ

เขาส่งต่ออุปกรณ์หลายชิ้นให้เหล่าเซี่ยง จากนั้นกลับมาพูดกับทุกคนว่า “ผมขอตัวกลับก่อน ทุกคนอย่าลืมเตรียมหินคริสตัลให้พร้อม นำพวกมันมาให้ได้มากที่สุด”

“อื้ม ได้อยู่แล้ว ต้องขอบคุณพี่มหาเทพที่ช่วยดูแลฉัน กำไรในครั้งนี้ยอดเยี่ยมมาก ไม่ใช่แค่ได้รับอาวุธคุณภาพสูง แต่ยังได้โพชั่นลับแสนล้ำค่า หินสกิลที่เหมาะสม และหินคริสตัลอีกจำนวนมาก นอกจากนี้ฉันยังเลเวลอัพอีก”

เจียงหนานแสดงความขอบคุณต่อฮังอวี่อีกครั้ง

เธอก้มลงลูบหัวฮัสกี้ “แล้วก็ขอบคุณหวังเอ๋อด้วย”

ฮังอวี่ยิ้มและพูดว่า “ไม่จำเป็นต้องขอบคุณ นั่นคือสิ่งที่เธอควรได้รับ”

ฮัสกี้พยักหน้าเลียบแบบท่าทางของคน “ฮ่ง เธอต้องพยายามต่อไปเพื่อจะได้ตามจังหวะของเจ้านายให้ทัน”

จ้าวหมิง เฉินหยู ฉูเทียนหัว จางเสี่ยวเฉียง และฉินมู่กล่าวอำลาฮังอวี่อย่างสุภาพ

ผลกำไรของทุกคนในทีมนั้นยอดเยี่ยม

ครั้งนี้ไม่ว่าจะเรื่องแต้มวิญญาณที่เพิ่มขึ้น หรือสินสงครามที่ริบมารวมไปถึงจำนวนหินคริสตัลที่กอบโกยได้นั้นเหนือความคาดหมาย หลายคนรู้สึกพอใจ ดังนั้นเกิดความเคารพในตัวฮังอวี่มากขึ้น

หากมีโอกาสก็อยากจะร่วมมือกันอีก

มีสัมพันธ์ที่ดีกับบุคคลเช่นนี้ย่อมไม่ขาดทุน

ในเวลานี้ ฉูเทียนหัวเอ่ยถามขึ้นว่า “น้องชายฮังอยู่ที่เจียงเฉิงใช่ไหม?”

เมื่อได้ยินคำถามนี้ ฮังอวี่ตื่นตัวขึ้นทันที “เหล่าฉู ทำไมถึงถามแบบนั้น อย่าบอกนะว่าจะส่งคนมาสอดแนมผม?”

ใบหน้าที่มักจริงจังของฉูเทียนหัวเผยรอยยิ้มที่หาได้ยาก “ไม่ต้องกังวล ฉันแค่ถามเฉยๆ ไม่ได้คิดจะรบกวนอะไร”

อย่าลืมนะว่า

ชายคนนี้คือพันโท

เป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่

และกองทัพมีส่วนเกี่ยวข้องกับสกายเน็ตเป็นอย่างมาก

เช่นนี้แล้ว ฉูเทียนหัวสมควรรู้จักระดับสูงของพวกสกายเน็ตด้วยถูกไหม?

ในแง่ของยศทหาร เขาสูงกว่าหัวหน้ากองพลน้อย(ร้อยเอก)อย่างลั่วหยวนเจิ้งจากสกายเน็ตสาขาเจียงเฉิงเสียอีก

อย่างไรก็ตาม ฮังอวี่ไม่ใส่ใจเรื่องนี้ เขาคิดทบทวนดูแล้ว และพบว่าฉูเทียนหัวคนนี้โอเค น่าจะไม่ทำอะไรเกินควร ดังนั้นเรื่องสอดแนมเขาคงไม่ต้องกังวลมากเกินไป

เจียงหนานไม่เต็มใจบอกลาฮังอวี่และหวังเอ๋อ “ดูแลตัวเองด้วยนะ แล้วพบกันใหม่”

ฮังอวี่ไม่เสียเวลา

การผจญภัยในโลกวิญญาณครั้งนี้จบลง

เขาเชื่อมต่อกับโลกจริงผ่านมือถือ เปิดอุโมงค์แห่งห้วงมิติและเวลา กลับมายังคฤหาสน์เก่าที่คุ้นเคย