ตอนที่แล้วตอนที่ 540 : ความหวังของคนทั้งเมือง!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 542 : นี่มันบ้ามาก!

ตอนที่ 541 : การลงทุนครั้งนี้นับฉันเข้าไปด้วย!


ตอนที่ 541 : การลงทุนครั้งนี้นับฉันเข้าไปด้วย!

ชิปโฟโตนิกส์!

เมื่อเทียบกับชิปอิเล็กทรอนิกส์ทั่วไปความเร็วในการคำนวณของมันสามารถสูงได้มากกว่า 1,000 เท่า!

ถามหน่อยเถอะว่ามันน่ากลัวมั้ย?

เนื่องด้วยความเร็วของโฟตอนนั้นสูงกว่าความเร็วของอิเล็กตรอนแบบเดิมมาก!

แล้วชิปขนาด 14nm คืออะไร 7 nmหรือจะ 5nmพวกมันจะนับเป็นอะไรได้?

เมื่อเทียบกับชิปโฟโตนิกชิปส์แล้วพวกมันก็แค่ของธรรมดาๆทั้งหมด!

ชิปขนาด 5 นาโนเมตรของไต้หวันจะนับเป็นอะไรได้อีก?!

เอาล่ะ

พวกเราจะไม่สนใจชิปอิเล็กทรอนิกส์แบบดั้งเดิมแล้วเพราะพวกเราจะหันหน้าไปหาชิพโฟโตนิกส์!

เจียงเฉินตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง

เขาไม่ได้คาดหวังเลยว่าระบบสัมผัสประสบการณ์ชีวิต 5.0 จะให้รางวัลที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้กับเขา!

มันถึงกับมอบเทคโนโลยีการผลิตชิปโฟโตนิกส์ให้เขาทันที!

สิ่งนี้ถ้าหากว่าเอามันออกมามันจะกลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ทำให้ทั้งโลกต้องตะลึง

ลองคิดดูสิว่าถ้าหากโครงการอุตสาหกรรมการผลิตชิปของเมืองเหลียงเฉิงซึ่งจู่ๆก็สามารถมีเทคโนโลยีการผลิตชิปโฟโตนิกส์ขึ้นมาและก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของตลาดเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก มันจะทำให้ทั่วทั้งโลกตะลึงขนาดไหน?

ในปัจจุบันทั่วทั้งโลกกำลังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาและวิจัยชิปโฟโตนิกส์อยู่ซึ่งมันอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น แม้แต่ประเทศจีนเองก็ได้ลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาพวกมันอยู่เหมือนกัน แต่มันก็ยังห่างไกลจากการที่จะสามารถนำมาใช้งานและทำการผลิตขายได้และจากการคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญพวกเขาคาดว่าชิปโฟโตนิกส์ที่สมบูรณ์แบบนั้นจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยสิบถึงยี่สิบปีจึงจะออกมาให้คนทั่วโลกได้ใช้!

ดังนั้น [เทคโนโลยีการผลิตชิปโปนิกส์] ที่เจียงเฉินได้รับมามันคือเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าโลกไปถึงยี่สิบปี!

เจียงเฉินรู้สึกตื่นเต้นไปชั่วขณะหนึ่ง

ในใจของเจียงเฉินในตอนนี้มีเพียงแค่คำเดียวที่สามารถบรรยายถึงอารมณ์ของเขาได้ในเวลานี้ – คุ้มค่าแล้ว!

เจียงเฉินเคยทำงานหนักมาตลอดชีวิต มีประสบการณ์ชีวิตหลากหลายรูปแบบจนกระทั่งวันที่เขาได้รับระบบสัมผัสประสบการณ์ชีวิตมาและเขาก็ได้ทำการอัพเกรดมันอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งวันนี้มันก็ได้แสดงพลังของมันออกมา!

เทคโนโลยีนี้มันไม่ได้ด้อยไปกว่าการทิ้งระเบิดปรมานูญในอุตสาหกรรมไฮเทคระดับโลกเลย!

ในอนาคตเจียงเฉินสามารถตั้งตารอผลกำไรอย่างมหาศาลได้อย่างต่อเนื่อง!

ลองคิดดูสิว่าถ้าหากว่าเขาผลิตชิปนี้ขึ้นมาได้แล้วเขาจะสามารถทำงานได้ขนาดไหน?

และจากการอ้างอิงข้อมูลที่มีอยู่

จากโรงงานผลิตชิปบนเกาะไต้หวัน

พวกเขาได้กำไรเท่าไหร่?

ในไตรมาสแรกพวกเขานั้นสามารถทำกำไรไปได้กว่าสามหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ!

ดังนั้นกำไรต่อปีพวกเขาจึงอยู่ที่ประมาณหนึ่งแสนสองหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ!

นี่คือธุรกิจที่ใหญ่โตมาก!

แต่ถึงอย่างนั้นธุรกิจนี้ก็ยังมีคู่แข่งอยู่!

แต่ถ้าเป็นชิปโฟโตนิกส์ของเจียงเฉินที่เกิดเร็วกว่าที่ควรจะเป็นถึงยี่สิบปีเขาจะสามารถทำเงินต่อปีได้มากถึงเท่าไหร่?

สองแสนล้านดอลลาร์! นี่คือจำนวนที่น้อยที่สุดแล้ว!

ยิ่งไปกว่านั้น!

ชิบโฟโตนิกส์นั้นมีความเร็วที่มากกว่าชิปปกติทั่วไปถึงหนึ่งพันเท่า ใครบ้างล่ะที่ไม่ต้องการชิปโฟโตนิกส์?

ดังนั้นเมื่อเทคโนโลยีนี้ออกมาชิปอิเล็กทรอนิกส์ทั่วไปจะถูกโยนทิ้งถังขยะทันที!

และเจียงเฉินจะเป็นเพียงคนเดียวที่ผูกขาดการผลิตชิปโฟโตนิกส์ทั่วทั้งโลก!

เจียงเฉิน : เริ่มรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อยแล้วสิฉันควรทำยังไงต่อไปดีนะ?

…..

ในเวลานี้เองหวู่เจิ้งยี่ก็กำลังจ้องมองเจียงเฉินพร้อมกับคิดด้วยสิ่งที่เข้าใจแบบผิดๆ

เขาคิดไปเองว่าสิ่งที่เขาพูดว่าประเทศจีนนั้นไม่มีเทคโนโลยีอะไรเลยที่เกี่ยวกับชิปมันจะทำให้เจียงเฉินตกใจ

เขาก็เลยพูดเยาะเย้ยออกมา “ทีนี้นายเข้าใจแล้วใช่มั้ย ธุรกิจนี้มันไม่สามารถสร้างได้ด้วยเงินเพียงอย่างเดียว แม้ว่านายจะมีเงินแล้วเทคโนโลยีล่ะ? นายมีเทคโนโลยีที่ทั่วโลกต้องการหรือยัง? ต่อให้นายคิดจะพัฒนามันแต่นายก็ล้าหลังไปนานแล้ว! ประเทศจีนของพวกนายมันเหมาะกับเป็นโรงงานแปรรูปให้กับตลาดทั่วทั้งโลกมากกว่า! ส่วนเทคโนโลยีชิพมันเหมาะกับประเทศของฉันกับไต้หวันมากกว่า!”

ในเวลานี้เอง….

ก็มีคนหนึ่งผลักประตูแล้วรีบเข้ามา

เป็นบัฟเฟตต์!

เขาจับมือกับเจียงเฉินอย่างตื่นเต้น “เมื่อกี้พวกนายพูดถึงชิปอะไรกันอยู่นะ? ฉันสนใจชิป! ฉันต้องการลงทุนกับมัน!”

ด้านข้างหวู่เจิ้งยี่ที่เห็นว่าเป็นบัฟเฟตต์ที่เดินเข้ามา....

เขาก็ตกตะลึงไปทันที!

เกิดอะไรขึ้น?

เป็นคุณบัฟเฟตต์จริงๆงั้นเหรอ?

ก่อนหน้านี้เขายังจินตนาการเล็กน้อยว่าเจียงเฉินอาจจะกำลังโกหก แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว….

บัฟเฟตต์เป็นคนรู้จักกับจียงเฉินคนนี้จริงๆ!

ใบหน้าของหวู่เจิ้งยี่เห่อร้อนด้วยความอับอาย....

คนที่อยู่ในเหตุการณ์ถึงกับช็อกเมื่อเห็นว่าบัฟเฟตต์ปรากฏตัว!

ในหัวใจของพวกเขาสถานะของเจียงเฉินเพิ่มขึ้นอย่างเงียบๆอีกครั้ง….

แม้แต่บอสหม่าและหม่าหยุนเฟิงเมื่อพวกเขาเห็นเจ้านายที่ร่ำรวยระดับโลกอย่างบัฟเฟตต์พวกเขาก็ต้องยืนขึ้นและกล่าวทักทายด้วยความเคารพ

บัฟเฟตต์โบกมืออย่างไม่ใส่ใจราวกับว่าเขานั้นไม่สนใจคนพวกนี้ ดวงตาของเขาเป็นประกายและดึงเจียงเฉินเข้ามาแล้วถามว่า “เอาเลย! นายต้องการลงทุนในธุรกิจนี้สินะนายคิดยังไงกับมันบ้าง?”

หวู่เจิ้งยี่รู้สึกแปลกๆเขาพูดออกมาว่า “คุณบัฟเฟตต์ อย่าคาดหวังมากเกินไปเลยแม้ว่าเด็กคนนี้จะรวยแต่เทคโนโลยี....”

บัฟเฟตต์ตะโกนออกมาด้วยความโมโห “ฉันกำลังพูดกับน้องเจียงเฉิน นายเป็นใครกันถึงกล้าส่งเสียงรบกวนแบบนี้?! นายคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงสามารถมาพูดกับฉันได้?!”

หวู่เจิ้งยี่พูดอย่างอ่อนแรง “ผมคือหวู่เจิ้งยี่ เจ้าของบริษัทหรวนฟาน…”

“หวู่เจิ้งยี่ ฉันไม่รู้จัก!”

บัฟเฟตต์โบกมืออย่างไม่ใส่ใจ “ไปให้พ้นได้แล้ว!”

หวู่เจิ้งยี่ : ร้องไห้….

โดนเจ้านายด่า!

ฉันคือคนที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชียแต่กลับถูกดูหมิ่น!

ฉันเป็นคนที่มีทรัพย์สินมูลค่าสามหมื่นล้านดอลลาร์เลยนะ!

แต่เมื่อนึกถึงความมั่งคั่งของบัฟเฟตต์ จำนวนเงินลงทุนที่สามารถระดมได้นั้นคำนวณเป็นนักล้านล้านดอลลาร์! (บัฟเฟตต์เป็นเจ้าของบริษัทลงทุนดังนั้นจึงมีคนรวยทั่วโลกยินดีที่จะซื้อกองทุนหุ้นของบริษัทเขา)

เจ้านายที่มีทรัพย์สินมูลค่าหลายล้านเหรียญแบบนี้คนแบบเขาแทบไม่มีคุณสมบัติจะคุยด้วยเลยด้วยซ้ำ

หวู่เจิ้งยี่ที่เคยทำตัวเย่อหยิ่งก่อนหน้านี้ก็กลายเป็นคนตัวเล็กๆเมื่ออยู่ต่อหน้าบัฟเฟตต์ที่ยิ่งใหญ่ แล้วมันก็ทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องหัวเราะออกมา.....

หยิ่งนักไม่ใช่หรือยังไง?

ทำไมตอนนี้ถึงดูตัวเล็กไปแล้วล่ะ?

เจียงเฉินไอและพูดออกมาอย่างเคร่งขรึม “หวู่เจิ้งยี่พูดถูก ผมยังไม่มีเทคโนโลยีชิปจริงๆ ดังนั้นผมจึงแนะนำว่าคุณไม่ควรลงทุนกับผมเพราะผมลงทุนเพื่อความสนุกเท่านั้น”

เจียงเฉินมีสีหน้าที่ขมขื่นและพยายามเกลี้ยกล่อมบัฟเฟตต์ไม่ลงทุน

แต่จริงๆแล้วเจียงเฉินกำลังคิดว่า….

ท้ายที่สุดแล้วบัฟเฟตต์นั้นก็เป็นคนจากประเทศสหรัฐอเมริกา ดังนั้นมันคงจะเป็นการดีกว่าที่เจียงเฉินจะเป็นผู้ควบคุมสิ่งที่อยู่เหนือกาลเวลาอย่างเช่นโฟโตนิกส์เพียงคนเดียว

เงิน?

มันคืออะไร?

คนอย่างฉันขาดเงินด้วยหรอ?

หากจำเป็นเจียงเฉินก็สามารถรวบรวมเงินหลายแสนล้านดอลลาร์ได้ในเวลาไม่กี่นาที

แม้ว่าเขากับบัฟเฟตต์จะค่อนข้างสนิทกันและสามารถพูดคุยกันอย่างสบายใจได้ แต่เมื่อพูดถึงเรื่องชิปโฟโตนิกส์แล้วเจียงเฉินไม่ต้องการให้บัฟเฟตต์เข้ามาแทรกแซง!

หมดหนทาง~~

บัฟเฟตต์นั้นสามารถเรียกได้ว่าเป็นชายชราที่มีสายตาที่เฉียบแหลมและเขามั่นใจแล้วว่าเจียงเฉินนั้นกำลังหลอกเขาอยู่อย่างแน่นอน!

เมื่อได้ยินการเกลี่ยกล่อมของเจียงเฉินบัฟเฟตต์ก็ตะโกนออกมา!

“อะไรนะ! นายพยายามจะโกหกฉันงั้นเหรอ!? ไม่มีทาง! ฉันรู้จักนายดีเจ้าหนู นายเป็นคนที่ไม่มีทางทำอะไรที่นายไม่มั่นใจหรอก ตั้งแต่ตอนที่นายไปถ่ายรายการ”Millionaire Extreme Challenge“ฉันก็สังเกตพฤติกรรมนายมาโดยตลอด! นายเป็นจิ้งจอกตัวน้อยที่พยายามหลอกฉันให้พลาดโอกาสดีๆแบบนี้ไป! ดังนั้นไม่ว่ายังไงฉันก็จะต้องลงทุนกับนาย!”

เจียงเฉิน “….”

ให้ตายเถอะ!

(╯‵□′)╯︵┻┻!

ใครเป็นจิ้งจอกเฒ่ากันแน่!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด