ตอนที่แล้วเกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 259
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 261

เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 260


ตอนที่ 260

วันถัดมา ดวงตะวันสาดแสงลงมายังผืนดิน ตามมาด้วยเสียงบางสิ่งแตกหัก และนั่นก็ดึงดูดความสนใจของผู้คนทั้งหลาย...

หอสวรรค์จุติที่แต่เดิมมีขนาดเท่าฝ่ามือขยายใหญ่ขึ้นในทันที ทำให้ไม่อาจมองเห็นจุดยอดของมันได้ในตอนนี้ เสียงที่แลดูไร้อารมณ์ดังออกมาจากด้านในของหอคอยนั้น

“การตายในหอสวรรค์จุติย่อมเทียบได้กับการตายตกในแดนลึกลับแห่งนี้ หอสวรรค์จุติไร้ซึ่งกฎเกณฑ์ รูปจำลองขนาดเล็กของหอสวรรค์จุติจะปรากฏขึ้นในมือของพวกเจ้า หากเจ้าต้องการยอมแพ้ ก็ทำเพียงแค่บดขยี้มัน แต่นั่นย่อมหมายความว่าเจ้าจะถูกส่งออกไปนอกแดนลึกลับด้วยเช่นกัน ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะสามารถกลับออกได้โดยยังมีชีวิตอยู่ หอสวรรค์จุติบัดนี้เปิดขึ้นแล้ว!”

แสงสว่างเจิดจ้าขึ้นอย่างต่อเนื่อง และรุ่นเยาว์กว่าครึ่งถูกดึงเข้าไปยังด้านในของหอสวรรค์จุติทันที

“ข้าจะสังหารเจ้าในหอสวรรค์จุติ” องค์ชายสามเผยรอยยิ้มชั่วร้ายให้หลินซวนได้เห็นก่อนจะหายไปอย่างช้าๆ

สัมผัสได้ถึงสายตาจากรอบด้าน เป่ยเฉินหลานหยอกเย้า

“ดูเหมือนว่ามีคนมากมายต้องการให้เจ้าตกตายนะ”

“เพียงยอดคนเท่านั้นจึงจะได้รับการริษยาจากผู้อื่น” ความไร้ยางอายของหลินซวนยังคงหนักแน่นจนทำให้คนโดยรอบหัวเราะออกมา

“รอดชีวิตออกมาให้ได้ล่ะ” เล่ยหยุนซีเอ่ยพลางมองมาที่เขา

จากนั้น ทุกคนก็ถูกส่งเข้าไปยังหอสวรรค์จุติจนหมดสิ้น

ในชั้นแรกของหอสวรรค์จุตินั้นปกคลุมไปด้วยค่ายกลมนต์บังตาจำนวนมาก ในทุกย่างก้าว ภาพหลอนจากค่ายกลจะปรากฏขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างของคนใกล้ชิดหรือศัตรูก็ตามที ทำให้ผู้คนไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนได้และเสียชีวิตลง ณ ที่แห่งนี้

ผู้ที่สามารถเข้ามายังแดนลึกลับได้นั้นล้วนแล้วแต่เป็นระดับอัจฉริยะของกองกำลังขนาดใหญ่ พวกเขาจึงสามารถผ่านด่านภาพลวงตาเช่นนี้ไปได้ คนนับหมื่นที่เข้ามาในชั้นแรกนี้เดินทางผ่านไปถึงชั้นที่สองได้มากกว่าแปดพันในเวลาไม่ถึงหนึ่งเค่อ

ในชั้นที่สอง ประตูเก้าบานปรากฏขึ้น มีเพียงบานเดียวเท่านั้นที่มีผู้พิทักษ์เผ่าพันธุ์มนุษย์เฝ้าอยู่ด้านหลัง และระดับแดนปราณของผู้พิทักษ์จะสูงกว่าผู้เข้าท้าทายไปหนึ่งแดนเสมอ มีเพียงผู้ที่สามารถล้มผู้พิทักษ์ประตูได้จึงจะเข้าสู่ชั้นที่สามของหอคอย

บรรยากาศรอบด้านแปรเปลี่ยนไป แต่สักพักมันก็กลับมาเป็นปกติอีกครา

นี่ทำให้หลินซวนสับสนเล็กน้อย

“แปลกยิ่ง มิใช่พวกเขากล่าวกันว่าในชั้นแรกของหอคอยนั้นเป็นค่ายกลภาพลวงตาหรอกหรือ? เหตุใดข้าจึงไม่เห็นสิ่งใดเลย?”

“ดวงใจเต๋าสัมบูรณ์!”

ทันใดนั้นเอง คำนี้ก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าของหลินซวน

ภาพลวงตาในชั้นแรกนั้นจะส่งผลเฉพาะกับผู้ที่มีจุดบกพร่องในจิตใจเท่านั้น พวกเขาย่อมได้เห็นเหตุการณ์ที่มืดมนหรือหวาดกลัวที่สุดในส่วนลึกของหัวใจ แต่นั่นกลับไร้ค่าเมื่ออยู่ต่อหน้าดวงใจเต๋าสัมบูรณ์

หลินซวนตระหนักได้ในทันที เห็นคำเหล่านั้นปรากฏขึ้นในรูปจำลองขนาดเล็กของหอคอย เขาจึงมิได้ตัดสินใจรีบเข้าไปยังชั้นที่สอง

ในชั้นแรกนั้น ภาพลวงตาเหล่านี้เป็นเสมือนโลกขนาดเล็กใบหนึ่ง ทว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ นอกจากนั้น ไม่ว่าจะเป็นภูเขา แม่น้ำ พุ่มต้นไม้ หน้าผา และพฤกษาใหญ่ยักษ์กลับมิได้แตกต่างจากโลกภายนอก

หลินซวนค่อยๆ ก้าวเดินไปอย่างเชื่องช้าโดยรอบชั้นที่หนึ่งนี้พลางสังเกตอย่างถี่ถ้วน

ในตอนนั้นเอง กลุ่มของรุ่นเยาว์ที่รวดเร็วที่สุดในบรรลุถึงชั้นที่สามแล้ว และไม่ว่าจะเป็นคนที่อ่อนแอเพียงใดก็ยังผ่านไปยังชั้นที่สองในตอนนี้ มีเพียงหลินซวนเท่านั้นที่ยังคงอยู่ในชั้นแรกและมิได้จากไป

“หืม? เหตุใดเจ้าทารกน้อยนั่นจึงยังอยู่ในชั้นแรกและมิได้ขึ้นไปยังชั้นถัดไป?” เสี่ยวหวงเพ่งมองในหอคอยขนาดเล็กบนมือด้วยความแปลกใจ หอคอยจำลองขนาดย่อมนี้มีวิธีใช้งานมากมาย มันเป็นเสมือนสิ่งที่ใช้บ่งบอกถึงความรวดเร็วและความสามารถในการข้ามผ่านแต่ละชั้นของหอคอย และคนสุดท้ายที่ยังอยู่ในชั้นแรกนั้นย่อมเป็นหลินซวน

หยิงเจาที่อยู่ในชั้นที่สามมองไปยังหอคอยขนาดเล็กและหัวเราะออกมาดังลั่น สีหน้าของมันชั่วร้ายยิ่งนัก

“เจ้าต้องใช้ทักษะลับบางประการในการสังหารข้าก่อนหน้านี้ใช่หรือไม่? เพียงค่ายกลเล็กน้อยเช่นนั้นยังสามารถกักขังเจ้าเอาไว้ได้ ดูเหมือนว่าข้าจะประเมินเจ้าสูงเกินไป” หยิงเจาแย้มรอยยิ้มเย็นชา

ผู้คนจำนวนมากถูกขังอยู่ที่ชั้นสองของหอคอย เสียงกรีดร้องยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง บางคนก็เลือกขยี้หอคอยขนาดเล็กในมือและจบการเดินทางในแดนลึกลับของตนลง

สำหรับประตูทั้งเก้าบาน รุ่นเยาว์ทั้งหลายทำได้เพียงอาศัยประสาทสัมผัสของตนเพื่อค้นหาว่าผู้พิทักษ์อยู่ที่ประตูบานใด หากเข้าไปยังประตูผิดบาน เบื้องหลังของประตูนั้นจะกลายเป็นค่ายกลที่สามารถทำลายได้กระทั่งยอดฝีมือแดนก่อตั้งจิต แต่หากพวกเขาโชคดี อาจได้พบสมุนไพรวิญญาณ แต่นั่นก็เป็นโอกาสเพียงน้อยนิดเท่านั้น

ในประตูทั้งเก้า นอกเหนือจากบานที่มีผู้พิทักษ์เฝ้าอยู่แล้ว ที่เหลือย่อมกลายเป็นดินแดนต้องห้ามและผู้ที่ผ่านเข้าไปจะตกตายลงอย่างไม่ต้องสงสัย

หลินซวนไม่ได้อยู่ในชั้นแรกของหอคอยอย่างไร้จุดประสงค์ ตำนานกล่าวขานว่าหอสวรรค์จุติแห่งนี้เต็มไปด้วยโอกาสลึกลับมากมาย การจะผ่านมันไปโดยง่ายดายและรวดเร็วเช่นนี้ย่อมไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน

เหตุใดค่ายกลลวงตาจึงปรากฏอยู่ในโลกใบเล็กที่ดูสามัญแห่งนี้? ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่เห็นว่าจะมีรากฐานของค่ายกลถูกสลักไว้ แล้วภาพลวงตากำเนิดมาจากสิ่งใด?

หลินซวนหยุดอยู่หน้าต้นไม้ยักษ์ ต้นไม้ต้นนี้ดูแตกต่างจากต้นไม้อื่นๆ รากของมันปลดปล่อยแสงสีม่วงออกมาบางเบา คล้ายจะสามารถทำให้ผู้คนหลับใหลลงได้

หลินซวนตัดสินใจต่อยต้นไม้ยักษ์ จากนั้นมาก็จางหายไปอย่างช้าๆ ก่อนจะกลายเป็นศิลาม่วงก้อนหนึ่ง

“ศิลาฝันร้าย!”

หลินซวนหยิบศิลาฝันร้ายขึ้นมา นี่นับว่าเป็นสมบัติชั้นยอดของเหล่าผู้บ่มเพาะที่มุ่งมั่นในวิถีของภาพลวงตา

ศิลาฝันร้ายเป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่ดีที่สุดในการสร้างค่ายกลลวงตา หากว่าเขาได้รับความรู้มากเพียงพอและใช้ศิลาก้อนนี้กับค่ายกลของตระกูลหลิน กระทั่งผู้บ่มเพาะในแดนก่อตั้งจิตก็ยังต้องตกตายลงเพราะภาพลวงตาจากค่ายกล

เมื่อเห็นว่ามีหลายพื้นที่ในชั้นแรกปลดปล่อยแสงสีม่วงออกมา หลินซวนก็มีความสุขในทันที เมื่อเขาค้นพบพวกมันแล้ว เขาจะปล่อยให้สมบัติหลุดมือไปได้อย่างไรกัน? เขาจึงเริ่มไล่เก็บเกี่ยวพวกมันทั้งหมด

หลังจากไล่เก็บศิลาฝันร้ายจนหมด ร่างของหลินซวนก็หายไปจากชั้นที่หนึ่งและไปปรากฏอยู่ที่ชั้นสองของหอคอย

“ประตูทั้งเก้า” หลินซวนมีสีหน้าครุ่นคิด เขาควรจะเปิดประตูบานใดก่อนดี?

หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ หลินซวนก็เตะประตูบานที่ใกล้ตนเองที่สุด ชายที่ดูราวกับเป็นรูปปั้นปรากฏขึ้นด้านใน ก่อนจะเปิดเปลือกตาเผยให้เห็นแววคมกล้าในนั้นที่กำลังมองมายังหลินซวน

ในเวลาเดียวกัน เสียงไร้อารมณ์ก็ดังขึ้นไปทั่วทั้งหอสวรรค์จุติ

“หวงซวนทำลายสถิติในชั้นที่สองของหอสวรรค์จุติ เข้าค้นพบผู้พิทักษ์ในเวลาเพียงสองลมหายใจและได้รับรางวัลเป็นทักษะกระบี่โบราณระดับสรวงสวรรค์ เก้ากระบี่สัมบูรณ์!”

หลินซวนงุนงงมิใช่น้อย เขาทำลายสถิติด้วยการเตะประตูเช่นนั้นหรือ?

ภายหลังเขาจึงมารู้ว่าผู้คนล้วนแล้วแต่คอยอ่านคำแนะนำที่ถูกติดเอาไว้ในชั้นที่สอง ก่อนจะเลือกค่อยๆ เปิดประตูบานแรกอย่างระมัดระวังยิ่ง ใครไหนเลยจะมั่นใจเสียจนเตะประตูให้เปิดออกแบบหลินซวน?

เมื่อเหล่าคนที่กำลังเสี่ยงชีวิตตนเองเพื่อขึ้นไปยังหอคอยชั้นที่ห้าได้ยินเกี่ยวกับรางวัลนี้ พวกเขาแทบจะสิ้นสติ พวกเขามาถึงชั้นที่ห้าของหอคอยแล้ว ทว่าอย่าได้กล่าวถึงทักษะกระบี่ระดับสรวงสวรรค์ พวกเขาไม่แม้แต่จะได้สัมผัสกับรางวัลแค่เพียงใบหญ้าเสียด้วยซ้ำ สิ่งนี้มันหมายความว่าอย่างไรกัน?

ในตอนนี้ ชายที่คล้ายรูปปั้นผู้นั้นเอ่ยขึ้นอย่างเฉื่อยชา

“สยบข้า แล้วเจ้าจะได้ผ่านไปยังชั้นที่สาม”

ชายผู้นั้นดึงดาบเหล็กอันหนาหนักออกมาจากแท่นศิลาเบื้องหลังก่อนจะเดินตรงมายังหลินซวนทีละก้าวพร้อมด้วยกลิ่นอายของเวลาที่กำลังกัดกร่อนสรรพสิ่ง

“เหยียบย่าง!”

ร่างของหลินซวนกะพริบไหวและหายไปจากจุดที่ยืนอยู่ เขาตบเข้าที่ศีรษะของชายผู้นั้นในทันที ร่างและหัวของชายเจ้าของดาบเหล็กแยกออกเป็นสองส่วน เขาสูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวและค่อยๆ หมอบราบลงกับพื้น

หลินซวนชะงักค้าง ชั้นที่สองของหอคอยง่ายดายถึงเพียงนี้?

หากว่าผู้อื่นที่ผ่านชั้นที่สองของหอคอยไปแล้วได้เห็นสิ่งนี้ พวกเขาคงจะตกใจจนกระโดดตัวลอย

ในยามที่พวกเขาเผชิญกับบททดสอบ พวกเขาต่างใช้ชีวิตของตนเข้ามาเสี่ยงเพื่อให้สามารถผ่านมันไปได้ ทว่าหลินซวนกลับจบมันลงด้วยก็ใช้เพียงฝ่ามือเดียว จะมี สิ่งใดที่น่ามหัศจรรย์ไปมากกว่านี้อีกหรือ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด