STY-ตอนที่ 69 สามปีต่อมา!
ในวันต่อมา เย่เฉิน ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
เขาได้สอนศิษย์พี่หญิงเจ็ดจ้าวซือเหยา ฝึกฝนในทุกวัน แล้วเขาก็ลงชื่อเข้าใช้และฝึกฝนในทุกวันเช่นเดียวกัน จากนั้น 3 ปีก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในช่วง 3 ปีมานี้
อย่างไรก็ตาม ไม่มีอะไรสำคัญเกิดขึ้น
แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ยังพบกับวิกฤติเล็ก ๆ น้อย ๆ และมีข้อโต้แย้งกับนิกายอมตะอื่น ๆ ซึ่ง เย่เฉิน ได้ปราบปรามพวกเขาครั้งหรือสองครั้ง จนทำให้ แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ ได้รับชัยชนะ
หลังจากไปถึงอาณาจักรเทวะ ความเร็วในการบ่มเพาะพลังของ เย่เฉิน ก็ช้าลง
ผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรเทวะสามารถสื่อสารกับสวรรค์และปฐพีได้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับสวรรค์และปฐพี และ จากอาณาจักรเทวะ ไปจนถึงอาณาจักรทันฑ์สวรรค์ บางคนได้ใช้เวลาทั้งชีวิต ก็ยังไม่สามารถข้ามไปได้ บางคนมีอายุมากกว่าร้อยปีหรือใช้เวลามากกว่าครึ่งชีวิตกว่าจะถึงอาณาจักรทันฑ์สวรรค์
บางคนก็ใช้เวลาทั้งชีวิต ก็ไม่สามารถบ่มเพาะไปจนถึงอาณาจักรทันฑ์สวรรค์ได้
เย่เฉิน ที่ฝึกฝนมาเป็นเวลา 3 ปี ตอนนี้ได้มาถึงขั้นปลายของอาณาจักรเทวะแล้ว เขาอยู่ห่างจากอาณาจักรทันฑ์สวรรค์เพียงก้าวเดียว
อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนนี้ ก็เปรียบเสมือนกระดาษ ที่เขาสะกิดนิดเดียวมันก็จะขาด
แน่นอนว่า ถ้า เย่เฉิน บังคับฝ่าทะลวงด่านพลัง เขาก็สามารถก้าวเข้าสู่อาณาจักรทันฑ์สวรรค์ได้ทุกเมื่อ
อย่างไรก็ตาม เย่เฉิน ชอบที่จะฝึกฝนอย่างมีเงื่อนไข เขาไม่ชอบที่จะแดกดันและบังคับความก้าวหน้าของเขา ดังนั้น เขาจึงปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ โดยการให้ เขาทะลวงไปยังอาณาจักรทันฑ์สวรรค์อย่างช้า ๆ
จุดสูงสุดของอาณาจักรเทวะ และ จุดเริ่มต้นของอาณาจักรเทวะ คือสองอาณาจักรที่แตกต่างกัน
เพราะเมื่อใดที่คน ๆ นึงก้าวขึ้นสู่อาณาจักรเทวะ คน ๆ นั้นจำเป็นจะต้องสื่อสารกับสวรรค์และปฐพีเพื่อได้รับความสามารถในการตุ้นพลังปราณสวรรค์และปฐพี
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน เย่เฉิน ดูเหมือนว่าจะได้รับความร่วมมือจากสวรรค์และปฐพีอย่างเต็มที่ ทุกการเคลื่อนไหวของเขาล้วนเต็มไปด้วยแก่นแท้ของเต๋า และ ทุกสิ่งในโลกก็ได้ให้ความร่วมมือกับเขา
ดังนั้นแม้ว่าเขาจะอยู่ที่จุดสูงสุดของอาณาจักรเทวะ แต่เขาก็มั่นใจว่าเขาจะสามารถต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญในอาณาจักรทันฑ์สวรรค์ได้
ไป๋ลั่วหลี่ เองก็เคยลองมาก่อน
เมื่อ ไป๋ลั่วหลี่ ยืนอยู่ต่อหน้าของ เย่เฉิน นางก็สัมผัสได้ถึงแรงกดดันมหาศาลจากเขา
ราวกับว่า เย่เฉิน คือผู้เชี่ยวชาญในอาณาจักรทันฑ์สวรรค์ที่แท้จริง
แน่นอนว่าพวกเขาเผชิญหน้ากันภายใต้เงื่อนไขที่ เย่เฉิน ไม่ได้เปิดใช้เทคนิคการสะกดข่มของเทพ เพราะหาก เย่เฉิน ใช้เทคนิคการสะกดข่มของเทพ ไป๋ลั่วหลี่ จะถูกระงับในทันที
ปัจจุบัน เย่เฉิน ได้นั่งไขว่ห้างบนยอดเขาอวี๋เซียว
โดยแสงแดดยามเช้าได้ส่องลงมากระทบกับร่างของ เย่เฉิน
มันได้สะท้อนบนร่างกายของเขา
ในขณะนี้ เย่เฉิน อายุ 16 ปีแล้ว
ร่างกายของเขาได้พัฒนาจนมีส่วนสูงมากกว่า 1.75 เมตร และ จากรูปลักษณ์ของ เย่เฉิน ในตอนนี้มันก็นับได้ว่าเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว
เขามีใบหน้าที่หล่อเหลาและดูดีเป็นพิเศษภายใต้แสงแดดยามเช่านี้ ในขณะนี้ เย่เฉิน ไม่ได้ปลอมตัวและใช้รูปลักษณ์เดิมของเขา
ในปัจจุบัน เขามีร่างที่ผผอมเพรียว ใบหน้าที่หล่อเหลา และ แต่งกายด้วยชุดยาวสีขาว
เย่เฉิน ในเวลานี้ ค่อนข้างหล่ออย่างแท้จริง
อันที่จริง เขาดูน่าทึ่งยิ่งกว่า เย่กู่เฉิง ที่เขาปลอมตัวก่อนหน้านี้
เมื่อพูดถึง เย่กู่เฉิง เขาได้กลายเป็นตำนานของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ แม้ว่า เย่กู่เฉิง จะไม่ค่อยปรากฏตัว แต่เขาก็ได้รับความสนใจจากศิษย์หญิงเกือบทั้งหมดของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ เพราะเมื่อมีการกล่าวถึง เย่กู่เฉิง…ศิษย์หญิงเหล่านี้ก็มีการแสดงออกที่หลงใหลบนใบหน้า
ไม่เพียงแต่ ศิษย์หญิงเหล่านี้เท่านั้น เพราะ เย่กู่เฉิง ที่กลายเป็นตำนานของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ เขายังได้รับตำแหน่งบุตรแห่งสวรรค์ของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์อีกด้วย
เหล่าศิษย์บุรุษจำนวนมากต่างก็อิจฉา เย่กู่เฉิง เป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเหล่าศิษย์หญิงได้แสดงออกถึงการชื่นชม เย่กู่เฉิง มันทำให้ ศิษย์บุรุษเหล่านั้นเต็มไปด้วยความอิจฉา
อย่างไรก็ตาม เย่กู่เฉิง ก็คือ เย่เฉิน
ในปัจจุบัน เย่เฉิน หล่อกว่า เย่กู่เฉิง และ มีอารมณ์ที่ดูดีกว่า ถ้าหากพวกเขารู้ว่า เย่กู่เฉิง ก็คือเขา พวกเขาจะหลงใหลในตัวของเขามากกว่านี้หรือไม่?
อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ไม่สำคัญ
เย่เฉิน ไม่สนใจความรู้สึกของพวกเขา เพราะว่าคนเหล่านี้ มองเขาในฐานะต่ำต้อยมาโดยตลอด โดยเฉพาะ 8 ปีแห่งการเรียนรู้ ดังนั้นแม้ว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนได้แล้ว แต่ นิสัยที่เขาสร้างมาตลอด 8 ปี ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังชื่นชอบความสงบมากกว่า
ทุกวันเขามักจะนอนอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์แห่งนี้ และ ไปแสดงท่าทีเจ้าชู้กับศิษย์พี่หญิงใหญ่และศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขา หลังจากการฝึกในทุกวัน เขาก็ไปเยี่ยมแม่ของเขาเป็นครั้งคราว ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่วันเวลาของเขาค่อนข้างสุขสบายเป็นอย่างมาก
ข้อบกพร่องเพียงอย่างเดียวก็คือ ศิษย์พี่หญิงคนอื่น ๆ ได้จากไปหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม สัญญา 3 ปี ก็ได้ผ่านไปแล้ว เมื่อ เย่เฉิน ทะลวงพลังอาณาจักรทันฑ์สวรรค์ เขาตัดสินใจที่จะออกเดินทางไปตามหาพี่สาวของเขา
“เจ้าบ้าเย่เฉิน! ไอ้ตัวเหม็น! เจ้าไปซ่อนตัวอยู่ไหน?”
ในเวลานี้ ก็มีเสียงดังมาจากเบื้องล่างของยอดเขาอวี๋เซียว
เมื่อ เย่เฉิน ได้ยิน เขาก็ไม่จำเป็นจะต้องมองด้วยซ้ำก็รู้ว่าเป็นใคร
นอกจากศิษย์พี่หญิงเจ็ดจ้าวซือเหยา จะมีใครบ้างที่กล้าเรียกเขาแบบนี้
ในเวลานี้ จ้าวซือเหยา ได้ปีนขึ้นไปบนยอดเขา นางในเวลานี้ สวมชุดยาวสีชมพูด และ มีใบหน้าที่สดใส พร้อมกับ กระบี่ยาวที่ห้อยอยู่ตรงเอว
กระบี่นี้เป็นกระบี่ระดับสวรรค์ที่เขามอบให้ มันถูกเรียก ‘บุพผาสวรรค์’
กระบี่เล่มนี้ค่อนข้างเข้ากับลักษณะของศิษย์พี่หญิงของเขาเป็นอย่างมาก
จ้าวซือเหยา ที่ถือกระบี่บุพผาสวรรค์ได้เดินมาถึงยอดเขาอวี๋เซียว
“เย่เฉิน ข้าคิดแล้วว่าเจ้าจะต้องอยู่ที่นี่!”จ้าวซือเหยา มองไปที่ เย่เฉิน และ กล่าวออกมา
เย่เฉิน มองลงไปและพบ จ้าวซือเหยา ดวงตาของเขาได้จ้องมองไปที่หน้าอกของนาง
ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จ้าวซือเหยา ได้กินอะไรหลายอย่างเข้าไป ทำให้ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา หน้าอกของนางได้เปลี่ยนไปเป็นขนาดที่ไม่ใหญ่และไม่เล็กจนเกินไป
แต่ในที่สุด จ้าวซือเหยา ก็เติบโตกลายเป็นหญิงสาวที่งดงาม
ตามที่คาดไว้ หญิงสาวมักจะเติบโตเต็มที่ในช่วงอายุ 18
จ้าวซือเหยา ในปีนี้มีอายุแค่ 18 ปี ซึ่งรูปร่างของนางก็ดูดีมาก แม้ว่า หน้าอกของนางจะไม่สามารถเทียบกับ ศิษย์พี่หญิงใหญ่ ศิษย์พี่หญิงรอง และ ศิษย์พี่หญิงสาม แต่นางก็สามารถแข่งขันกับ ศิษย์พี่หญิงสี่ ศิษย์พี่หญิงห้า และ ศิษย์พี่หญิงหก ได้
จ้าวซือเหยา ได้เอามือกอดหน้าและกล่าวพูดออกมาด้วยท่าทางที่มั่นใจ “เย่เฉิน เจ้าหายหัวไปไหนตั้งแต่เช้า รีบมาสอนวิชากระบี่ให้ข้าเร็วเข้า!”
จ้าวซือเหยา ได้ดึงกระบี่บุพผาสวรรค์ออกมาและเตรียมท่าจะทะเลาะกับ เย่เฉิน
ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จ้าวซือเหยา ก็พัฒนาขึ้นเช่นเดียวกัน นางได้ทะลวงจากขั้นกลางของอาณาจักรก่อตั้งจิตวิญญาณไปยังขั้นกลางของอาณาจักรแห่งการตระหนักรู้ที่ว่างเปล่าแล้ว
ดังนั้น จ้าวซือเหยา จึงได้กลายเป็นเทพธิดาที่แข็งแกร่งของยอดเขาหยกอมตะ
“เย่เฉิน รับมือ!”
จ้าวซือเหยา ได้แทงกระบี่ใส่ เย่เฉิน
เย่เฉิน ได้ขยับนิ้วของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจและปิดกั้นกระบี่ของนาง แม้ว่า เย่เฉิน จะสามารถจัดการ จ้าวซือเหยา ได้ในการโจมตีเดียว แต่นางก็เป็นศิษย์พี่ของเขา ดังนั้น เขาจะทำอย่างนั้นได้อย่างไร?
เขาได้ต่อสู้กับ จ้าวซือเหยา อย่างอดทน จนกระทั่ง ไป๋ลั่วหลี่ ได้ตกลงมาจากบนท้องฟ้าและพุ่งเข้ามาหา เย่เฉิน
“นายท่าน เรื่องที่ท่านขอให้ข้าไปตรวจสอบ ข้ามีความคืบหน้าแล้ว!”