778 - การชุมนุมยอดฝีมือรุ่นเยาว์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
778 - การชุมนุมยอดฝีมือรุ่นเยาว์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ระหว่างทาง เขาได้ยินการพูดคุยเช่นนี้มากมาย และมันเป็นเหตุการณ์ที่เข้มข้นที่สุดในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต้นกำเนิด พวกเขาออกคำสั่งให้ฆ่าอย่างชัดเจนแล้ว
เมื่อคิดอย่างรอบคอบ พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำเช่นนี้ บุตรศักดิ์สิทธิ์และสตรีศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ตายเพราะเย่ฟ่าน พวกเขาจะละทิ้งความเกลียดชังอันยิ่งใหญ่นี้ได้อย่างไร?
นอกจากนี้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์ม่วง ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เต๋าและดินแดนศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ต่างก็เต็มไปด้วยความโกรธแค้น ทุกคนกำลังค้นหาที่อยู่ของเขา
เย่ฟ่านได้รู้ข่าวอื่นว่าเซียงอี้เฟย บุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งต้าเหยียนได้ก้าวข้ามขีดจำกัดและกลายเป็นขุมพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งที่สองของอาณาจักรลับแปลงร่างมังกรและความแข็งแกร่งของเขาก็พัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด
“ด้วยคำสอนของข้าในที่สุดบุตรศักดิ์สิทธิ์ของเราก็ประสบความสำเร็จในช่วงอายุที่เหมาะสม จะมีสักกี่คนที่สามารถกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่อาณาจักรแปลงมังกรระดับสองด้วยวัยเช่นนี้?” ผู้อาวุโสไท่ซ่างกล่าวอย่างอหังการ
“ช่างเป็นอัจฉริยะจริงๆ” ทุกคนประหลาดใจ
เมื่อบุตรศักดิ์สิทธิ์กลายเป็นมังกร ความแข็งแกร่งของพวกเขาจะน่ากลัวอย่างยิ่ง มันไม่มีทางที่คนธรรมดาจะเปรียบเทียบได้
ผู้อาวุโสไท่ซ่างของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต้าเหยียนภาคภูมิใจมาก และพูดอย่างคลุมเครือว่าตอนนี้เซียงอี้เฟยสามารถต่อสู้กับร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณได้แล้ว และเขาเป็นผู้นำของคนรุ่นใหม่
“เซียงอี้เฟยรอดชีวิตไปได้?” เย่ฟ่านประหลาดใจและเข้าใจในทันทีว่าบุคคลนี้รอดจากภัยพิบัติและได้รับผลประโยชน์มหาศาลถึงขั้นทะลวงผ่านอาณาจักร
“ทะลวงขั้นแล้วงั้นหรือ? ข้าจะส่งเจ้าไปที่แม่น้ำเหลืองเอง” เย่ฟ่านเยาะเย้ย คนๆ นี้ต้องถูกฆ่า
บุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งต้าเหยียนเซียงอี้เฟยบุกทะลวงไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งที่สองของอาณาจักรลับแปลงมังกรซึ่งทำให้คนรุ่นเยาว์มากมายเกิดความประหลาดใจ
ไม่ว่าในกรณีใด ไม่มีใครรู้ว่าการฝึกฝนของจี้ฮ่าวเยว่และบุตรศักดิ์สิทธิ์เหยากวงแข็งแกร่งแค่ไหนแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงมีความคาดหวังต่อเซียงอี้เฟยเป็นอย่างมาก
กลางดึกของคืนฝนตกหนัก เย่ฟ่านปรากฏตัวในเมืองเล็กๆ ราวกับเทพปีศาจที่ถือไม้เท้าสีทอง หลังจากทำงานหนักมาครึ่งเดือน เขาได้ติดตามตำแหน่งของเซียงอี้เฟยจนเจอ
“เจ้ากล้าหาญจริงๆที่ออกมาข้างนอกแบบนี้...”
เย่ฟ่านเยาะเย้ย เขาเกิดมาพร้อมกับดวงตาศักดิ์สิทธิ์ และเขารู้ตัวตนของเซียงอี้เฟยที่ปลอมแปลงตัวอย่างชัดเจน
ฝนเทลงมา เย่ฟ่านถือไม้เท้าศาลสวรรค์ แยกโรงเตี๊ยมให้กลายเป็นซากปรักหักพังและผนึกเซียงอี้เฟยด้วยพลังสังหารที่ไม่รู้จบ
“ใครกัน?” บุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งต้าเหยียนอุทานและทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า
“คนที่จะฆ่าเจ้า” เย่ฟ่านฝ่าสายฝนตกอย่างหนักออกมา และเมืองก็สั่นสะท้านทุกย่างก้าว
“เป็นพี่เย่นี่เอง”
บุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งต้าเหยียนตกใจ และเมื่อฟ้าแลบวาบผ่านท้องฟ้ายามค่ำคืน เขาก็เห็นร่างที่แท้จริงของเย่ฟ่านท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก
“ใช่”
“พี่เย่ หมายความว่าอย่างไร?”
“ข้าจะส่งเจ้าไปที่แม่น้ำเหลือง”
“บูม”
เจตนาฆ่าพุ่งขึ้นไปบนฟ้า ฝนก็เทลงมา ม่านฝนคลุมฟ้าและดิน ดำสนิท เย่ฟ่านโจมตีด้วยไม้เท้า
รัศมีอันเจิดจ้าพุ่งขึ้น บุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งต้าเหยียนต่อสู้กับเย่ฟ่าน แสงศักดิ์สิทธิ์ที่ทำลายท้องฟ้าเปลี่ยนให้ทั่วทั้งเมืองสว่างไสวราวกับช่วงเวลากลางวัน
ในคืนที่ฝนตกอย่างหนัก แสงสาดส่องไปทุกที่ ยอดฝีมือลายคนต่างออกมาชมการต่อสู้ของพวกเขา
“อา…”
บุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งต้าเหยียนตะโกน กระบี่ศักดิ์สิทธิ์สีทองในมือของเขาถูกทำลายด้วยไม้เท้าสังหารและจากนั้นด้วยเสียง
“ฉุบ” เบาๆ ศีรษะของเขาก็ถูกตัดออก เย่ฟ่านจากไปทันทีที่ลงมือประสบผล
ในวันที่สอง เมื่อมีข่าวออกมาทุกคนในโลกต่างก็ตกตะลึง บุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งต้าเหยียนผู้ยิ่งใหญ่ถูกตัดศีรษะโดยเย่ฟ่าน เรื่องนี้ทำให้ใบหน้าของผู้คนมากมายบิดเบี้ยวด้วยความกลัว
“โอ้สวรรค์ ร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณกล้าหาญเกินไป เขามาเพื่อตัดหัวบุตรศักดิ์สิทธิ์ต้าเหยียนอย่างชัดเจน เขาต้องการจะทำอะไร?”
บุตรศักดิ์สิทธิ์ต้าเหยียนเซียงอี้เฟยถูกตัดศีรษะในเมืองเล็กๆ เหลือเพียงศพไร้หัว
ยุคทองของร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณมาถึงแล้ว ด้วยความแข็งแกร่งในตอนนี้เขาไม่จำเป็นต้องปิดบังระดับบ่มเพาะของตัวเองอีกต่อไป
“ถ้าเจ้ากล้าที่จะตามล่าข้า ข้าจะทำลายลูกหลานของเจ้าทีละคน” ในวันเดียวกัน เย่ฟ่านได้ปล่อยคำพูดดังกล่าวออกมา
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้กระจายออกไปตงหวงก็ความโกลาหล ร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณไม่เกรงกลัวใครเลย
เซียงอี้เฟยบุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งต้าเหยียนถูกฆ่าตาย ผู้คนยังคงประหลาดใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ว่ากันว่าการต่อสู้ครั้งนั้นดำเนินไปไม่ถึงสิบกระบวนท่า แม้แต่ผู้สูงสุดที่คอยปกป้องเซียงอี้เฟยก็ยังลงมือไม่ทัน
เรื่องนี้สร้างความโกรธแค้นให้กับผู้คนมากมาย โดยเฉพาะคำพูดที่ว่า
‘ข้าไม่สามารถเอาชนะคนแก่ได้ แต่ข้าสามารถฆ่าลูกหลานของเจ้าได้’ นี่เป็นสัญญาณเตือนที่ไม่ว่าใครก็ต้องหวาดกลัวเย่ฟ่าน
เหล่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องการตามหาเย่ฟ่านและฆ่าเขา ต่างถอนคำสั่งล่าสังหารด้วยเกรงว่าเย่ฟ่านจะตอบโต้แบบนั้นจริงๆ และพวกเขาเปลี่ยนเป็นลงมืออย่างลับๆแทน
เย่ฟ่านมุ่งไปทิศตะวันตกตลอดทางโดยไม่รีบเร่ง ในปัจจุบันเขาไม่สามารถเข้าสู่สันโดษได้ และจึงจำเป็นต้องเข้าใจธรรมชาติของสวรรค์และปฐพี
เขาท่องไปตามภูเขาแม่น้ำ ด้วยการสัญจรเช่นนี้ ร่างกายและจิตใจของเขาก็ผ่อนคลายลงอย่างมาก นี่คือความสงบของจิตใจที่ไม่ต้องอยู่ในภาวะกดดันตลอดเวลา
“วางทุกอย่างลง ภูเขาและแม่น้ำสวยงามกว่าการฆ่าฟันเสมอ”
เย่ฟ่านพูดกับตัวเองขณะยืนอยู่บนเรือลำเล็กที่ลอยไปตามน้ำท่ามกลางสายหมอกที่โปรยปรายของทะเลสาบ
ผู้บ่มเพาะไม่ใช่เทพเซียน พวกเขาคือคนที่มีอารมณ์เจ็ดประการ และความปรารถนาทั้งหก หากคิดจะยกระดับจิตใจของตัวเองให้สูงขึ้นจำเป็นต้องมีช่วงเวลาที่สงบเช่นนี้
“เจ้าดูเหมือนคนยุ่งๆ และไม่ค่อยมีเวลาว่างในวันธรรมดา” ชาวประมงสูงวัยเจ้าของเรือกล่าว
ในห้องโดยสารของเรือลำเล็ก มีการจุดไฟขึ้น ประมงเฒ่าทำอาหารจากปลาในทะเลสาบสองสามจาน จากนั้นก็นำสุราที่หมักจากออกมาแล้ววางลงบนโต๊ะไม้
เย่ฟ่านนั่งลงมองวิวทะเลสาบท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย และจิบสุราช้าๆ เขารู้สึกสบายและสงบในใจมาก
“สหายของข้าอารมณ์ดีจริงๆ”
ถัดจากเขาเรือลำหนึ่งกำลังพายมาเทียบข้างอย่างช้าๆ ในทะเลสาบภายใต้สายฝน เขาคือจี้ฮ่าวเยว่ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์น้อยแห่งตระกูลจี้
บนเรือมีแสงจันทร์ส่องลงมาเพียงเล็กน้อย เห็นดวงตาที่กลมโตและส่องสว่างของจี้จื่อเยว่นางยิ้มทักทายเขาพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะเบาๆ พวกเขาเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของทะเลสาบภายใต้สายฝน
เย่ฟ่านยิ้ม สะบัดข้อมือแล้วดื่มสุราจนหมดถ้วย
หมอกปกคลุมทั่วทั้งทะเลสาบ ในขณะนั้นมีเรือลำเล็กอีกลำแล่นมาแต่ไกล ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหน้าของเรือสวมชุดสีฟ้า ผมสีดำยืนอยู่บนนั้น เขาผสมผสานกับธรรมชาติด้วยเสน่ห์ที่อธิบายไม่ได้
เย่ฟ่านรู้สึกประหลาดใจที่บุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงก็มาที่นี่ด้วย เขาไม่ได้ดูโอ่อ่าเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป ตอนนี้กลิ่นอายของเขาหลอมกลืนไปกับธรรมชาติ
“ข้าก็ทะลวงทะลุไปถึงอีกระดับหนึ่งแล้ว” จี้ฮ่าวเยว่ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์น้อยกระซิบ
ดวงตาของจี้จื่อเยว่เป็นประกายด้วยควมสุข และนางก็พึมพำอะไรบางอย่าง แต่ไม่มีใครได้ยินมันชัดเจน จากนั้นนางก็ย่นจมูกและพูดว่า “ข้าอยากดื่มสุราสีเหลืองนี้”
เย่ฟ่านยิ้มและยกมือขึ้น ไหสุราที่ที่ยังไม่ได้เปิด และอ
าหารที่ทำจากปลาในทะเลสาบสองจานซึ่งยังไม่ถูกแตะต้องก็ถูกส่งออกไป
ในเวลานี้บุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงก้าวเข้ามาด้วยรอยยิ้มและกล่าวว่า
“หวังว่าข้าคงไม่มาสายเกินไป” เขาผลิบานราวกับแสงอรุณรุ่ง สง่างามและเงียบสงบ
ในขณะนั้นมีหญิงสาวชุดม่วงคนหนึ่งแล่นเรือเข้ามา ความงามของนางผสมผสานกับสายหมอกและลมฝน ทำให้ผู้คนรู้สึกถึงความขลังที่กลมกลืนเป็นธรรมชาติ
นางคือตัวอ่อนเต๋าโดยกำเนิด ซึ่งเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์ม่วงนางดูสูงส่งไม่สามารถจับต้องได้ แม้ว่านางจะยืนอยู่ต่อหน้าต่อหน้าทุกคนแต่กลับไม่มีกลิ่นอายของมนุษย์เลย
เกือบจะในเวลาเดียวกัน ไอน้ำก็กระจายออกและสตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกก็มาพร้อมคลื่นลูกใหญ่
ผมสีดำดุจน้ำหมึกและรูปร่างที่งดงามราวหยกสลัก เย่ฟ่านประหลาดใจ เขาไม่เคยคาดหวังว่าจะได้พบกับคนหนุ่มสาวที่มีอำนาจมากที่สุดในดินแดนรกร้างตะวันออก แต่พวกเขามารวมกันที่นี่ด้วยเหตุผลบางอย่าง