ตอนที่ 10 ชิ้นส่วนที่ซ่อนอยู่ของบทฝึกสอน (1) [อ่านฟรี]
[ ‘หญิงสาวผู้เที่ยงธรรม’ เริ่มจับตาดูคุณด้วยความสนใจ ]
คิม ฮยอกจิน สะดุ้งทันทีที่ได้ยินเสียงแจ้งเตือนนั้น
‘หญิงสาวผู้เที่ยงธรรม’
เมื่อเขาได้ยินชื่อของเธอเพียงเขาก็ไม่ได้ดีใจอะไรมากนักและเขานั้นรู้ดีอยู่แล้วว่า ‘หญิงสาวผู้เที่ยงธรรม’ นั้นเป็นผู้พิทักษ์แบบไหน
‘เธอคือผู้พิทักษ์ของ โจ ซองฮยอน’
เขาเป็นเพลย์เยอร์หนึ่งใน 8 คน ที่ได้เป็นตัวแทนของเกาหลีและเธอก็เป็นผู้พิทักษ์ที่ให้ความสำคัญกับ ‘ความยุติธรรม’ เหนือสิ่งอื่นใดและชอบเพลย์เยอร์ที่สามารถ ‘ทำความดี’ได้
‘บุคลิกของเธอเหมือนกับผู้พิทักษ์ความยุติธรรมที่ทำทุกอย่างตามกฎ’
เธอไม่เหมือนกับ ‘ราชาสิงโตผู้กล้าหาญ’ ที่ไม่สนใจว่าเพลย์เยอร์ที่ได้รับการสนับสนุนของเขาต้องตายหรือไม่ แต่กับ ‘หญิงสาวผู้เที่ยงธรรม’ เธอเป็นผู้พิทักษ์ยึดความยุติธรรมเป็นหลักมากที่สุดและให้ความสำคัญกับผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นกับเพลย์เยอร์ของเธอ
‘เธอจะให้ค่าตอบแทนที่เหมาะสมและเป็นหนึ่งในผู้พิทักษ์ที่จะเป็นผู้ให้การสนับสนุนที่สามารถเชื่อถือได้เป็นอย่างมาก’
การที่หญิงสาวผู้เที่ยงธรรมมีเขาอยู่ในสายตา มันไม่มีอะไรเลยนอกจากเป็นข่าวที่น่ายินดี
‘ความเป็นธรรม ความยุติธรรม การเสียสละ และความมุ่งมั่น หญิงสาวผู้เที่ยงธรรมเป็นผู้พิทักษ์ที่จะตอบสนองต่อสิ่งเหล่านี้เป็นหลัก’
เขาเหลือบมองไปที่ซุนฮวาที่กำลังยืนอยู่ข้างหลังเขา ผู้คนมักจะพูดกันอยู่เสมอว่าผู้พิทักษ์นั้นจะมองดูเราลงมาจากข้างบน
‘จากตรงนั้น คงจะดูเหมือนว่าฉันกำลังปกป้องซุนฮวาสินะ’
นั่นคือการเดาที่เป็นไปได้มากที่สุดของเขา แต่ไม่ว่าจะด้วยเพราะเหตุผลอะไรสิ่งนี้นับว่าเป็นเรื่องที่ดี คนที่ถูกบอกว่า [ไม่มีพรสวรรค์] อย่างเขากลับกำลังได้รับความสนใจจากผู้พิทักษ์ถึงสามคนแล้วและการที่เขาได้รับสิทธิพิเศษเป็นการส่วนตัว นั่นหมายความว่าเขาในตอนนี้ได้พัฒนาขึ้นอย่างมาก
“โอปป้า ตอนนี้พวกเราต้องทำอะไรต่อ? ”
แผนที่วางไว้ก่อนหน้านี้ของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย
‘เดิมที… พวกเราในตอนนี้จะต้องออกไปข้างนอกและซ่อนตัวอยู่ในจุดเซฟโซนที่อยู่ใกล้ๆ จากนั้นก็รอจนกว่าราชาหมัด โซ ยูฮยุน มาที่ชั้น 2 และสังหารเจ้านั่น แต่…’
หลังจากสังหารก็อบลินโซล์เยอร์ที่ชั้น 1 เสร็จแล้วและเมื่อการบุกโจมตีครั้งใหญ่อย่างการโจมตีของก็อบลินสิ้นสุดลง นั่นหมายความว่าเพลย์เยอร์ทุกคนก็จะได้รับประกันความปลอดภัยในภายหลัง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาต้องรีบมาสังหารก็อบลินโซล์เยอร์
‘ตอนนี้เราปลอดภัยแล้ว’
ถ้าเขาฆ่าผู้ชายคนนั้นที่ชั้น 2 ของตึกดีทาวเวอร์ เขาก็จะได้รับฉายา ‘เพลย์เยอร์อันดับหนึ่งแห่งบทฝึกสอน’ แต่เขาไม่ได้มีความต้องการมากขนาดนั้น
‘มาใช้ประโยชน์จากความพิเศษของสนามฝึกสอนให้เต็มที่ดีกว่า’
เขามีเป้าหมายที่เขาอยากจะทำให้สำเร็จนั่นก็ คือ เขาจะต้องหาเงิน 1 ล้านดอลลาร์
‘ถ้างั้น...’
อันที่จริงแล้วเขาอยากจะตั้งเป้าหมายให้ก้าวไกลยิ่งกว่านี้เหมือนกันกับคนอื่นๆ เขาต้องการที่จะประสบความสำเร็จและมีชีวิตที่ดี เขาอยากใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวอย่างมีความสุขและทำทุกอย่างตามที่เขาต้องการ แต่มันยังเร็วเกินไปที่จะด่วนสรุปเพราะในตอนนี้เขากำลังสงสัยว่าพรสวรรค์ของเขานั่นดีพอแล้วหรือยังและเขา…ไม่อยากปล่อยให้พรสวรรค์แบบนี้ต้องสูญเปล่า เขาไม่อยากเป็นภาระให้ครอบครัวอีกต่อไปและต้องไปเรียนหนังสือเพิ่มเพื่อที่จะได้สอบเข้าเป็นข้าราชการ
เมื่อเขาหันไปหาซุนฮวา เขาพูดว่า “เราจะไปล่ามอนสเตอร์ที่อยู่ข้างนอกตึกดีทาวเวอร์ให้มากที่สุดเท่าที่เราจะล่าได้ ”
“ซิตี้ ฟ็อกซ์?”
“ไม่ใช่ ”
ถ้าพวกเขาไปที่ย่านชองเกชอน พวกเขาก็จะเจอ ‘ซิตี้วูล์ฟ’ แทนที่จะเป็น ‘ซิตี้ฟ็อกซ์’ พวกมันเป็นฝูงมอนสเตอร์ที่ดุร้ายกว่ามาก แต่ถึงกระนั้นพวกมันก็มีเลเวลที่สูงกว่าก็อบลินนิดหน่อยเท่านั้น
“เลเวลของพวกมันประมาณเลเวล 7 บางครั้งก็อาจจะมีตัวที่เป็นระดับอัลฟ่าอยู่ด้วยและพวกมันก็เลเวลประมาณเลเวล 9 สำหรับเราสองคนแล้วสามารถล่าพวกมันได้โดยไม่มีปัญหาแน่นอน ”
“โอปป้ารู้ได้ยังไงเหรอ? ”
“เอาเป็นว่าผมรู้แล้วกันน่า”
“ หนูเข้าใจแล้ว ”
ซุนฮวาไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำเป็นหายสงสัย แต่ในแววตาของเธอนั้นแสดงถึงความเชื่อใจในตัวของเขาอย่างแท้จริง
‘เอาล่ะ เรามาเต้นรำกันเถอะ ผลักและดึง’
ในการเต้นรำของการผลักและดึง ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรที่จะได้เห็นว่าใครจะจบลงที่ด้านบน — สตรีมเมอร์ที่ไม่มีอะไรดีเลยนอกจากรูปร่างหน้าตาของเธอกับผู้ถดถอยที่มีข้อมูลของอนาคต? เห็นได้ชัดว่าใครกันแน่ที่เป็นฝ่ายได้เปรียบ ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นที่จะต้องรีบทำอะไรเกินไป
‘คนที่ใจร้อนจะเป็นผู้แพ้’
ซุนฮวาเป็นแทงค์ที่มีพรสวรรค์อย่างแท้จริง
ซิตี้วูล์ฟ เลเวล 8
บรู๊ววววววว!
ซิตี้วูล์ฟส่งเสียงเรียกพรรคพวกของพวกมัน
“ยั่วยุ! ”
ไม่มีซิตี้วูล์ฟแม้แต่ตัวเดียวเดินไปหา คิม ฮยอกจิน พวกมันทั้งหมดทุกตัวพุ่งตรงไปหาซุนฮวา และในระหว่างนี้ คิม ฮยอกจิน ก็ลอบสังหารพวกมันทีละตัวจากด้านหลังได้อย่างง่ายดาย หลังจากการต่อสู้ไม่กี่ครั้ง ดูเหมือนว่าอาวุธประเภท “กระบอง” จะมีประสิทธิภาพมากกว่าอาวุธอย่าง “ ดาบ” ดังนั้นเขาจึงล่าพวกมันโดยใช้ “กระบองไม้” ที่ดรอปมาจากหมาป่า
[ ได้รับค่าประสบการณ์ ]
[ ได้รับ 8 คอยน์ ]
หลังจากล่าไปได้ประมาณ 1 ชั่วโมง พวกเขาก็หยุดพักในร้านสะดวกซื้อใกล้ๆ ก่อนที่จะออกเดินทางต่อ
[ เลเวลอัพ ]
[ เลเวลปัจจุบัน: 11 ]
ในที่สุดเลเวลของเขาก็เพิ่มขึ้น
‘ฉันเลเวล 11 แล้วจริงๆ’
เขาทำลายขีดจำกัดที่จำกัดเลเวลสูงสุดภายในบทฝึกสอนที่เลเวล 10 และการที่เขาในตอนนี้สามารถเลเวล 11 ได้ในสนามฝึกสอนเป็นสิ่งที่แม้แต่เขาที่เป็นผู้ที่ท่องจำประวัติศาสตร์ตลอดของทั้งสิบปีตั้งแต่เกิดระบบก็ไม่เคยมีเรื่องแบบนี้เลย เขาเชื่อว่าแม้แต่ราชาหมัด โซ ยูฮยุน ก็ไม่รู้เรื่องนี้ด้วยเช่นกัน
เสียงแจ้งเตือนยังคงดำเนินต่อไป
[ ยินดีด้วย! ]
[ คุณเป็นคนแรกที่มีเลเวล 11 ]
[ ความสำเร็จของคุณได้รับการยอมรับแล้ว ]
[ คุณได้รับฉายา ‘ผู้บุกเบิกคนแรก’ ]
เขาได้แต่สงสัยเสียงที่ดังอยู่ภายในหูของเขา
‘ฉายา?’
มี ‘ฉายา’ อยู่ในระบบ ความสามารถของเพลย์เยอร์นั้นอาจแตกต่างกันอย่างมากได้จากจากการได้รับฉายา อาจเรียกได้ว่าเป็นผลประโยชน์ที่มอบให้ติดตัวถาวรแบบพิเศษ
‘มีฉายาอื่นอยู่ในสนามฝึกสอนนอกจากฉายา เพลย์เยอร์อันดับหนึ่งแห่งบทฝึกสอน อีกงั้นเหรอ?’
เขาไม่เคยได้ยินหรือได้เห็นสิ่งนี้มาก่อนเลย การที่จะได้รับ ‘ฉายา’ อื่นๆ นั้นจะต้องเลเวล 30 ขึ้นไปเท่านั้น ขนาดเขาสังหารมินิบอสของสนามฝึกสอนอย่าง ‘ก็อบลินโซล์เยอร์’ ก็ยังไม่ได้รับฉายาอะไรเลย เขาอดประหลาดใจไม่ได้ที่เขานั้นได้รับฉายาเมื่อเขาเลเวล 11
“คุณได้รับฉายาอะไรบ้างไหม? ”
พระเจ้า เธอทำให้เขากลัวจริงๆ จู่ๆ เซเนียก็ปรากฏตัวมาที่ข้างหลังเขา แม้ว่าใบหน้าของเธอจะไร้อารมณ์ แต่ปีกของเธอก็สั่นอย่างเห็นได้ชัดและเหล่าผู้พิทักษ์เองก็อาจถึงกับต้องร้องตะโกนออกมาว่า “บอกมาเดี๋ยวว่าเขานั้นได้ฉายาอะไรมา! เร็วสิ! ”
“ใช่ ผมได้รับฉายามาแล้ว ”
“ฉายาอะไร ”
เซเนียถามด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์เช่นเคยแต่แอบแฝงไปด้วยความตื่นเต้นและความอยากรู้ของเธอ ท่าทางของเธอก็แข็งกระด้างมาก มันดูราวกับหุ่นยนต์
“ไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรเลย”
“…”
หากเพลย์เยอร์ไม่ต้องการเปิดเผยข้อมูลและก็ยังไม่ได้ทำพันธะกับผู้พิทักษ์ ก็จะไม่มีใครสามารถสแกนดูฉายาของเขาได้ จากนั้นเขาลองทดสอบฉายาที่เขาได้มา
[ ผู้บุกเบิกคนแรก ]
ฉายาอันแสดงถึงความรุ่งโรจน์ที่มอบให้กับผู้บุกเบิกรุ่นใหม่
ค่าประสบการณ์ที่ได้รับจะเพิ่มขึ้น 20%
สามารถซ้อนทับกับฉายาอื่นๆ ได้
ซุนฮวาดึงเสื้อของเขา
“โอปป้า? โอเคดีหรือเปล่า?”
“โอเคดี ไม่เป็นไร”
เขาตกอยู่ในความงุนงงโดยไม่รู้ตัว
[ ‘ผู้สังเกตการณ์นิรนาม’ อยากรู้รางวัลของคุณมาก ]
[ ‘หญิงสาวผู้เที่ยงธรรม’ อยากรู้รางวัลของคุณ ]
ดูเหมือนว่าผู้พิทักษ์จะไม่รู้ว่าเขาเพิ่งได้รับอะไรมาและไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเปิดเผยทุกอย่างให้ผู้พิทักษ์รู้ เขาต้องซ่อนข้อมูลของเขาไว้ให้ดีและเลือกแต่ข้อมูลที่จำเป็นที่จะสามารถเปิดเผยให้ผู้พิทักษ์รู้ได้อย่างรอบคอบ
‘ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะเป็นบัฟเพิ่มค่าประสบการณ์ 20%’
มันเป็นฉายาที่จะช่วยทำให้เลเวลของเขาเพิ่มขึ้นได้ไวมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบัฟค่าประสบการณ์ในช่วงเริ่มต้นนั้นจะมีผลดีมากกว่าที่เขาจะได้มันมาในภายหลัง เพราะมันจะช่วยให้เขาได้เป็นที่หนึ่งในทุกสิ่ง
‘ถ้าฉันสามารถพัฒนาได้แบบนี้ต่อไป...’
เขาสามารถเป็นแรงค์เกอร์ได้จริงๆ ได้ครอบครองความมั่งคั่ง ความรุ่งโรจน์ พลัง สิ่งเหล่านั้นทั้งหมดสามารถกลายเป็นของเขาได้อย่างง่ายดายและถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่ได้ทำให้เขายิ่งใหญ่ได้ขนาดนั้นก็ตาม แต่ยังไงสิ่งนี้ก็จะทำให้เขาประสบความสำเร็จได้มากพอที่จะเลี้ยงดูคนในครอบครัวของเขาให้อยู่อย่างสบายได้
‘ไม่’
ก่อนหน้านี้สิ่งที่จะทำให้เขาประสบความสำเร็จมีเพียงทางเลือกเดียวคือการศึกษาเหมือนคนอื่นๆ เพื่อสอบเข้าเป็นข้าราชการแต่ตอนนี้มันแตกต่างออกไป เขาสามารถสร้างเส้นทางที่แตกต่างจากอดีตได้อย่างสิ้นเชิง
เขาพูดกับซุนฮวาว่า “ไปล่ากันต่อเถอะ เราจะเลเวลอัพในอีกสองวันหรืออาจจะมากกว่านั้น ”
* * *
“ย๊ากกก! ”
ยูฮยุนชก
เอ๋งงง!
เสียงของซิตี้วูล์ฟ
[ เลเวลอัพ ]
[ เลเวลปัจจุบัน: 8 ]
ยูฮยุนใช้นิ้วโป่งปัดไปที่ปลายจมูกของเขา พร้อมกับเสียงเชียร์ของคนข้างหลัง
“ตายในหมัดเดียวอีกแล้วเหรอ?”
“เขาคือใครกันแน่ ไซตามะ เหรอ? ”
“แม้แต่มอนสเตอร์เลเวล 8 ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาใช่ไหม?”
ซิตี้วูล์ฟเป็นหมาป่าแค่ชื่อหรือยังไงกัน จากการต่อสู้นั้นทำให้พวกมันดูอ่อนแอกว่าหมาจรจัดเสียอีก ดังนั้นยูฮยุนจึงได้ตระหนักถึงหลายสิ่งหลายอย่างในช่วงห้าวันที่ผ่านมา เขาเลเวลอัพได้เร็วกว่าคนอื่น เขาแข็งแกร่งกว่าคนอื่น เขาไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่มันเป็นเรื่องจริง
แทบไม่มีมอนสเตอร์ตัวใดที่จะรอดชีวิตได้จากสกิล ‘พลังแห่งหมัด’ ของเขาได้เลย นั่งจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้มีคนจำนวนมากเดินตามหลัง โซ ยูฮยุน คนเหล่านั้นคิดว่าพวกเขาจะสามารถมีชีวิตรอดออกไปได้ถ้าติดตาม โซ ยูฮยุน ไป มีคนเลือกที่จะติดตามเขาประมาณสิบคน
“คุณช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ ”
“คุณคิดอย่างนั้นเหมือนกันหรือเปล่า?”
“แน่นอนสิ เพราะอย่างนั้นยูฮยุนจะต้องเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในสนามฝึกสอนใช่ไหม?”
“ไม่จริงเลย ผมไม่ได้แข็งแกร่งอะไรขนาดนั้นหรอกน่า ”
ทุกคนสามารถรับรู้ได้ ถึงแม้ว่าเขาจะพูดว่า ‘ไม่จริงเลย!’ พร้อมกับแสดงท่าทางถ่อมตัว แต่ติ่งหูของยูฮยุนก็แดงเล็กน้อย แน่นอนว่าตอนนี้เขารู้สึกเขินอายที่ถูกชมอย่างนั้น ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นเขา เขาดูเหมือนสมองทึบทั่วไป แต่ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่ไม่ธรรมดาผ่านการฝึกมาอย่างดี แต่อย่างไรก็ตามในขณะนั้นยูฮยุนก็มองเห็นใครบางคนอยู่ไกลๆ
“ฮะ?”
ในบริเวณใกล้เคียงของชองเกชอนที่พวกเขาอยู่ เขาเห็นอีกทีมหนึ่งกำลังไล่ล่า ‘ซิตี้วูล์ฟ’ ซึ่งปาร์ตี้นั้นมีเพียงชายหนุ่มหนึ่งคนและหญิงสาวหนึ่งคน โดยที่เธอคนนั้นอยู่ในตำแหน่งแทงค์ ในขณะที่ชายหนุ่มคนนั้นกำลังสร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่อง
“ยังมีผู้รอดชีวิตคนอื่นอีก! ”
ยูฮยุนจึงรีบเดินตรงไปทางนั้นทันที
“สวัสดี! ”
หลังจากล่าซิตี้วูล์ฟเสร็จแล้ว คิม ฮยอกจิน ก็มองไปที่ โซ ยูฮยุน เขาจำชายคนนั้นได้ทันที
‘ราชาหมัด’
คนๆนี้คือราชาหมัด โซ ยูฮยุน ฮยอกจินกำลังสบตาเขา มีหลายคนติดตาม โซ ยูฮยุน—ดูเหมือนว่ายูฮยุนจะช่วยชีวิตพวกเขาไว้ทั้งหมด ไม่เหมือนฮยอกจินที่หันหลังให้กับผู้คนมากมาย
‘ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันจะได้เจอเพลย์เยอร์อันดับหนึ่งแห่งบทฝึกสอนตัวเป็นๆ’
เขาเป็นหนึ่งในแปดเพลย์เยอร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในเกาหลี เขาดูสูงประมาณ 190 เซนติเมตรและมีร่างกายที่กำยำมาก แต่ดวงตาของเขาดูซื่อตรงและเรียบง่ายมาก รอยคล้ำใต้ตาทำให้เขามีรูปลักษณ์อย่างกับหมีแพนด้าตัวใหญ่
หลังจากพูดคุยกันสั้นๆ ยูฮยุนก็ยื่นข้อเสนอ
“คุณอยากร่วมปาร์ตี้กับเราไหม? ผู้รอดชีวิตควรที่จะรวมกลุ่มกันไว้จริงไหม? คุณคิดว่าไง?”
คิม ฮยอกจิน มองตา โซ ยูฮยอน ตรงๆ
‘ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่ฉันรู้มาในอดีต...’
ทุกคนที่อยู่ข้างหลังเขานั้นจะต้องตายและมีคนเดียวที่รอดจากการล่าสิ่งนั้นบนชั้น 2 ของกวางฮวามุนดีทาวเวอร์ คือโซ ยูฮยุน จากคำพูดของ โซ ยูฮยุน เขาบอกว่าสิ่งที่เขาเสียใจมากที่สุดคือการพาคนเหล่านั้นไปที่ชั้น 2 ของดีทาวเวอร์
“ไม่เป็นไรขอบคุณ ”
ฮยอกจิน ปฏิเสธข้อเสนอของโซยูฮยุน เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะล่าสิ่งนั้น มันอันตรายกว่าก็อบลินโซล์เยอร์มากและมีโอกาสสูงที่เขาเองก็อาจจะตายได้และนี่ก็เป็นโอกาสที่หาได้ยากมาก เขาไม่สามารถปล่อยให้มันสูญเปล่าไปโดยเปล่าประโยชน์ได้
ฮยอกจินกล่าวต่อว่า “ผมได้ยินมาว่าสนามฝึกสอนนี้จะสิ้นสุดลงหลังจากเอาชีวิตรอดได้ครบเจ็ดวัน ”
เป้าหมายอันดับ 1 ของเขาคือการหารายได้ 1 ล้านดอลลาร์ และด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องเอาชีวิตรอดจากสนามฝึกสอนให้ได้และเขาก็ไม่จำเป็นต้องเผชิญกับอันตรายมากเกินไปอย่างการเอาชนะบอสมอนสเตอร์ของสนามฝึกสอน ทันทีที่เขาฆ่าก็อบลินโซล์เยอร์ ‘การบุกโจมตี’ หรือ ‘คลื่น’ หยุดลงอย่างถาวร ซึ่งหมายความว่าไม่จำเป็นต้องไปทำอะไรที่เสี่ยงตายเลย
“อืม ถ้างั้นก็ช่วยไม่ได้ ” โซ ยูฮยุน พูด
ยูฮยุนไม่ได้ยึดติดหรือยืนกรานที่อยากจะให้เขาเข้าปาร์ตี้ เพราะบุคลิกของเขาเป็นเช่นนั้นเสมอมา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาก็แค่ยอมรับในสิ่งที่มันเป็น แต่อย่างไรก็ตามคนที่ติดตามเขาคิดว่า คิม ฮยอกจิน เป็นคนหยาบคายที่กล้าปฏิเสธผู้นำของเขา
‘เขาคงไม่รู้ถึงความแข็งแกร่งของ โซ ยูฮยุน...’
‘เขาเพิ่งปฏิเสธข้อเสนอที่ดีออกไปด้วยตัวของเขาเอง’
ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะค่อนข้างชื่อมั่นในตัวของยูฮยุนมาก เพราะในสายตาของพวกเขา โซ ยูฮยุน ที่มีพลังในการสังหารซิตี้วูล์ฟได้ในการโจมตีครั้งเดียวเป็นที่พึ่งที่ดีที่สุดมีแต่คนโง่เท่านั้นที่เลือกจากปฏิเสธข้อเสนอของยูฮยุน
‘ช่วยไม่ได้ เขาทิ้งโอกาสอันทีค่ามากที่สุดของเขาเอง’
พวกเขาไม่แสดงความรู้สึกไม่พอใจออกทางหน้า แต่ คิม ฮยอกจิน ก็รู้สึกได้เพียงแค่มอง จากนั้นยูฮยุนก็พูดขึ้นมาว่า “เอาตัวรอดให้ได้ล่ะ ผมขอให้คุณโชคดี หากคุณพบมอนสเตอร์ที่ทรงพลังมากและตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังอย่างแท้จริง… ก็ให้เล็งไปที่ตาซ้ายของมันนะ ”
หลังจากที่ยูฮยุนพูดจบเขาก็หันหลังกลับและเดินไปตามทางของเขา เขาคิดแค่ว่าจะต้องออกจากไปจากที่นี่ให้ไวที่สุด ประวัติศาสตร์จะยังคงดำเนินเหมือนเดิมต่อไปบนเส้นทางของมัน และในเส้นทางมันต้องเป็นไปนั้น คิม ฮยอกจิน จะได้รับผลกำไรมากที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้
เขายังคงล่าฝูงหมาป่าต่อไป
[ ได้รับ ‘เขี้ยวหมาป่ากลายพันธุ์’ ]
[ เลเวลอัพ ]
[ เลเวลปัจจุบัน: 12 ]
ด้วยบัฟค่าประสบการณ์ของฉายา ‘ผู้บุกเบิกคนแรก’ ทำให้เขาในตอนนี้เลเวลอัพได้เร็วกว่าที่คิดไว้มาก แม้ว่าเขาจะล่า ‘ซิตี้วูล์ฟ’ ที่ค่อนข้างอ่อนแอสำหรับเขาในตอนนี้ แต่ค่าประสบการณ์ของเขาก็เพิ่มขึ้นดีเลยทีเดียว เมื่อเวลาผ่านไปเขาได้เรียนรู้วิธีต่อสู้บางอย่างที่ใช้ในการล่ามันได้ดีและสามารถล่าได้เร็วจนหมาป่านั้นเกิดใหม่ไม่ทันเลยทีเดียว
‘เราล่าหมาป่าทั้งหมดในบริเวณนี้หมดแล้ว’
หมาป่าได้หายไปไม่เหลือแม้แต่ตัวเดียวและทันใดนั้นเอง เขาก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือน
[ คุณได้ล่า ‘ซิตี้วูล์ฟ’ 500 ตัว ]
[ ตรวจสอบเงื่อนไขของชิ้นส่วนที่ซ่อนอยู่ ]
[ เงื่อนไขคุณสมบัติของชิ้นส่วนที่ซ่อนอยู่สำเร็จแล้ว ]
‘เงื่อนไขคุณสมบัติชิ้นส่วนที่ซ่อนอยู่?’ นั่นเป็นแจ้งเตือนเดียวกันกับที่เขาได้ยินตอนอยู่ที่ชั้น 1 ของดีทาวเวอร์ ‘นั่นไม่ใช่แจ้งเตือนที่ฉันได้ยินไปแล้วหลังจากสังการก็อบลินโซล์เยอร์ใช่ไหม?’
ตอนนั้นเขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่มันถูกเขียนไว้ที่นี่
[ คุณได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทั้งสามข้อแล้ว ‘เงื่อนไขคุณสมบัติของชิ้นส่วนที่ซ่อนอยู่ ทะลุขีดจำกัดเลเวลและล่าซิตี้วูล์ฟ 500 ตัว’]
คิม ฮยอกจิน บรรลุเงื่อนไขสามประการที่ไม่เคยมีใครเคยทำได้มาก่อน
[ เงื่อนไขของชิ้นส่วนที่ซ่อนอยู่สำเร็จแล้ว ]
การแจ้งเตือนที่ไม่เคยมีอยู่ในอดีตยังคงดังอย่างต่อเนื่อง