SWO ตอนที่ 46 หินแห่งชีวิต
ไม่นานผู้บัญชาการจ้าวก็นำกลุ่มปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธมาถึงหอประชุม
“เป็นความประมาทของเมืองที่นำไปหายนะมาสู่โรงเรียนมัธยมเมืองฉู ในนามของเมืองหัวตง ข้าขอแสดงความเสียใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น!” ผู้บัญชาการจ้าวโค้งคำนับ
แปะ! แปะ! แปะ!
เสียงปรบมือดังขึ้นในหอประชุม
ไม่มีใครคาดคิดว่าเทพเจ้าสงครามที่ยิ่งใหญ่ของเมืองหัวตงจะก้มหัวขอโทษพวกเขาแบบนี้
“นักเรียนที่ได้รับความเดือดร้อนในครั้งนี้จะได้รับการชดเชยอย่างเหมาะสม…” หลังจากพูดไปครู่หนึ่ง ผู้บัญชาการจ้าวก็ออกไปพร้อมกับปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธคนอื่น ๆ
ผู้นำโรงเรียนสั่งให้อาจารย์จัดนักเรียนออกจากหอประชุมอย่างเป็นระเบียบ
ในอีกสามถึงสี่วันข้างหน้า โรงเรียนคงจมอยู่ในความโศกเศร้าของผู้ที่ได้รับผลกระทบ
นอกจากนี้ยังต้องจัดการกับศพของเผ่าพันธุ์ภายนอกที่อยู่ในสนามตลอดจนซ่อมแซมอาคารที่พังทลายไปให้กลับมาเป็นดังเดิม
…
ณ ชุมชนหยางหยวน
โจวเฮาซึ่งกำลังนอนอยู่บนเตียง เปิดหน้าจอเสมือนขึ้นมา
แต้มโชค: 67,200 (ระดับปัจจุบัน: โชคท่วมท้น)
ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย เพราะในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา เขาไม่มีอารมณ์ออกจากเมืองไปฆ่าเผ่าพันธุ์ภายนอกในพื้นที่รกร้าง
แม้ว่าผู้ปกครองของนักเรียนที่เสียชีวิตไปจะได้รับการชดเชยจำนวนมาก แต่ความเจ็บปวดจากการสูญเสียลูกไม่ใช่สิ่งที่สามารถบรรเทาได้
พ่อแม่ของโจวเฮาดีใจที่เขากลับมาได้อย่างปลอดภัย แต่ด้วยเหตุนี้เองทำให้หลายวันมานี้พวกเขาตั้งใจเลิกงานเร็ว เพราะกังวลว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับเขาเมื่อพวกเขาออกไป
สิ่งนี้ทำให้โจวเฮาไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ด้วยความแข็งแกร่งระดับปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธขั้นสูงสุด มีหรือที่เขาจะได้รับบาดเจ็บ? หากบอกว่าเขาไปทำร้ายผู้อื่นยังฟังดูเป็นไปได้มากกว่า
อย่างไรก็ตามเวลานี้การตรวจสอบความปลอดภัยของเมืองนั้นเข้มงวดกว่าเมื่อก่อนมาก สังเกตได้จากการลาดตระเวนที่มีอยู่ทั่วทุกถนน
เวลา 22.30 น. หลังจากสัมผัสได้ว่าพ่อแม่หลับหมดแล้ว โจวเฮาจึงแอบออกจากบ้านไป
เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะอยู่บ้านตลอดไป เนื่องจากถ้าเขาต้องการเปิดหาไอเทมที่ดีกว่านี้ในกล่องปริศนาสีเงินของซอฟต์แวร์เต๋าสวรรค์ เขาต้องหาแต้มโชคเพิ่ม
แต้มโชค 60,000 แต้มในปัจจุบันยังไม่เพียงพอ ครั้งนี้โจวเฮาวางแผนว่าจะสะสมแต้มโชคให้ได้หนึ่งล้านแต้มเป็นอย่างน้อย ท้ายที่สุดเมื่อเขาเปิดกล่องธรรมดาครั้งแรก เขาได้รับเคล็ดวิชานาคคชสารปัญญาบารมีด้วยแต้มโชคหนึ่งล้านแต้ม
มาตอนนี้สิ่งที่เขาจะเปิดคือกล่องปริศนาสีเงิน สิ่งของที่อยู่ภายในนั้นดีกว่ากล่องธรรมดามาก ด้วยแต้มโชคหนึ่งล้านแต้ม เขาเชื่อว่าเขาจะได้รับของที่ดีกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย!
นอกจากนี้ เขายังต้องการเพิ่มระดับ และกลายเป็นผู้ใช้ระดับทองเพื่อดูว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในกล่องปริศนาหรือไม่อีกด้วย
ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!
ภายใต้แสงจันทร์ โจวเฮาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วจนมาถึงแนวป้องกันของสถานีทางใต้พร้อมภาพติดตา
คลิก
ชุดเต่าดำกลายเป็นเกราะสีแดงปกคลุมทั้งร่างของเขา
ขณะที่เขาเดินไปถึงประตูเหล็ก ผู้บัญชาการกองพันชูก็ปรากฏตัวขึ้น
เขามองไปที่โจวเฮาในเกราะแดงก่อนกล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น “ท่านคือผู้อาวุโสที่ฆ่าจระเข้มังกรเขี้ยวเหล็กใช่รึไม่?”
โจวเฮาพยักหน้าอย่างไม่ลังเล
เมื่อเปลี่ยนเป็นเกราะแดง เขาพร้อมเป็นที่รู้จัก
แน่นอน เหตุผลที่เขาทำเช่นนี้เป็นเพราะเขาต้องการยืมกำลังของกองทัพ ท้ายที่สุดแล้วพื้นที่รกร้างก็ใหญ่เกินไป เพื่อที่จะหาสัตว์อสูรระดับราชันได้อย่างแม่นยำ เขาจำเป็นต้องมีแผนที่
ผู้บัญชาการกองพันชูรีบกล่าว “ท่านครับ มีบางอย่างที่ท่านควรรู้ ผู้บัญชาการจ้าวสั่งไว้ว่าหากข้าเจอท่านให้ข้าเชิญท่านไปที่แนวป้องกันของสถานีทางตะวันออก”
โจวเฮารู้สึกประหลาดใจ “ผู้บัญชาการจ้าวต้องการให้ข้าไปที่แนวป้องกันของสถานีทางตะวันออก? ด้วยเหตุใดกัน?”
โจวเฮารู้สึกเคารพผู้บัญชาการจ้าวขึ้นมาอีกเล็กน้อยหลังจากได้เห็นสิ่งที่เขาทำในหอประชุม
ผู้บัญชาการกองพันชูรีบอธิบายเรื่องนี้ทันที
ปรากฏว่าผู้บัญชาการจ้าวได้วางแผนที่จะทำงานร่วมกับปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธคนอื่น ๆ เพื่อทำความสะอาดพื้นที่รกร้าง ซึ่งเป้าหมายหลักของเขาในครั้งนี้คือการค้นหา และจัดการแมลงเงาที่หลบซ่อนอยู่
เมื่อได้ยินดังนั้นโจวเฮาก็เข้าใจทันทีว่าเหตุผลที่เผ่าพันธุ์ภายนอกสามารถโจมตีโรงเรียนมัธยมเมืองฉูได้โดยไม่ถูกตรวจพบส่วนใหญ่เป็นเพราะแมลงเงา หากพวกเขาไม่กำจัดพวกมัน ในอนาคตเมืองนี้จะถูกโจมตีเป็นรายต่อไป
"ข้าจะไปพบเขา"
สิ้นเสียงร่างของเขาก็หายไปจากจุดเดิม
ผู้บัญชาการกองพันชูยิ้มอย่างขมขื่น และแอบคิดกับตัวเองว่าผู้อาวุโสท่านนี้ช่างรวดเร็ว และเด็ดขาดจริง ๆ
ณ แนวป้องกันของสถานีทางตะวันออก ผู้บัญชาการจ้าวสัมผัสได้ถึงโจวเฮาทันทีที่เขาปรากฏตัว
ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!
ร่างเจ็ดถึงแปดคน รวมทั้งผู้บัญชาการจ้าวหันมามองทางโจวเฮา
นั่นทำให้โจวเฮาถึงกับผงะ
ด้วยประสาทสัมผัสที่เฉียบแหลมของเขา เป็นธรรมดาที่เขาจะสัมผัสได้ว่ากลิ่นอายของคนตรงหน้านั้นทรงพลังมาก พวกเขาต้องเป็นปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธอย่างไม่ต้องสงสัย
ผู้บัญชาการจ้าวหัวเราะและกล่าว “ฮ่าฮา ในที่สุดข้าก็ได้เจอท่าน!”
“ใช่ กว่าจะได้เจอไม่ง่ายเลย!”
“หลังจากค้นหาหลายครั้ง ในที่สุดข้าก็ได้เจอเขา!”
เหอเปียว และปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธที่เหลือหัวเราะพร้อมถอนหายใจ
โจวเฮาที่งุนงงถามด้วยความสงสัย “ผู้บัญชาการจ้าว ดูท่านรู้เรื่องข้าค่อนข้างมาก ท่านรู้จักข้าด้วยงั้นรึ?”
ผู้บัญชาการจ้าวอธิบายสถานการณ์ทั้งหมดให้เขาฟัง
เมื่อได้ฟังโจวเฮาก็ตระหนักทันทีว่าปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธกลุ่มนี้ติดตามเขามาตั้งแต่เขาฆ่าจระเข้มังกรเขี้ยวเหล็ก พวกเขารู้ด้วยซ้ำว่าเขาไปขายวัตถุดิบที่ไหน
เขาอดยินดีไม่ได้ที่จากไปอย่างรวดเร็ว มิฉะนั้น หากเขาได้รับการยอมรับจากปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธเหล่านี้ คงยากที่เขาจะมีวันที่สงบสุข
“ท่านผู้บัญชาการจ้าว ข้าได้ยินจากผู้บัญชาการกองพันชูว่าเมืองกำลังเตรียมทำความสะอาดพื้นที่? ข้าขอฟังรายละเอียดหน่อยได้รึไม่!” โจวเฮาไม่ได้วางแผนพูดคุยกับปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธเหล่านี้ และตรงเข้าประเด็นทันที
ท้ายที่สุด ขอบเขตที่แท้จริงของเขายังเป็นเพียงผู้ฝึกยุทธเท่านั้น
ถ้าเขาโต้ตอบกับพวกเขามากเกินไป ความเสี่ยงที่จะถูกเปิดเผยยิ่งมากเป็นเงาตามตัว
ผู้บัญชาการจ้าวกล่าวทันที “ได้สิ ยังไงข้าก็จะอธิบายให้ท่านฟังอยู่แล้ว ครั้งนี้เผ่าพันธุ์ภายนอกมันได้ใจเกินไป พวกมันกระทั่งโจมตีนักเรียนถึงในเมืองของเรา หากเราไม่สอนบทเรียนให้พวกมันเสียหน่อย พวกมันคงคิดว่าเราอ่อนแอ และลงมือหนักขึ้นเป็นแน่”
“ส่วนการทำความสะอาดครั้งนี้ ข้าวางแผนว่าจะแบ่งทุกคนออกเป็นสี่กลุ่ม แต่ละกลุ่มจะมีคนสองคน รับผิดชอบสี่ทิศ”
เมื่อถึงจุดนี้ เขาหยุดครู่หนึ่งแล้วกล่าวต่อ “จริงสิ ข้าขอทราบชื่อของท่านได้รึไม่?”
“เรียกข้าว่าเฒ่าโจวก็ได้ ไม่จำเป็นต้องสุภาพให้มากนัก” โจวเฮากล่าวอย่างเป็นกันเอง
“เฒ่าโจว” ผู้บัญชาการจ้าวกล่าวอย่างเชื่องช้าเนื่องจากไม่คุ้นเคย “ท่าน และข้าจะไม่อยู่ในกลุ่มใด ภารกิจของเราคือการสนับสนุนผู้อื่นเป็นหลัก แน่นอน เรายังสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระเมื่อทีมอื่นไม่ตกอยู่ในอันตราย!”
โจวเฮาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า "ตกลง"
ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธคนอื่น ๆ ไม่ได้กล่าวอะไร เห็นได้ชัดว่าพวกเขารู้แผนนี้อยู่ก่อนแล้ว
ตอนนั้นเองผู้บัญชาการจ้าวได้หยิบหินคริสตัลสีเขียวออกมา
มันเป็นคริสตัลที่ปล่อยกลิ่นอายเย็น ๆ
“หินแห่งชีวิต!!”
จู่ ๆ ก็มีคนตะโกนขึ้น..