ตอนที่แล้วSTY-ตอนที่ 60 ข้าไม่ได้ชอบเจ้า!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSTY-ตอนที่ 62 ประลองยุทธ์หาคู่!

STY-ตอนที่ 61 เมื่อข้าโตข้าจะแต่งงานกับท่าน!


เย่เฉิน ได้พาศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขากลับไปที่ยอดเขาหยกอมตะ

และกลับไปพักที่บ้านของเขาเอง

ในขณะนั้น เย่เฉิน ก็ได้ยินเสียงเคาะประตู

เย่เฉิน ได้เปิดประตูออกมา อีกฝ่ายไม่ใช่ใครอื่นนอกจากศิษย์พี่หญิงใหญ่ของเขา ซู่ชิวหยา

ซู่ชิวหยา ได้เดินเข้าไปในห้องของ เย่เฉิน และ มองไปที่ เย่เฉิน อย่างรวดเร็วราวกับว่านางมีอะไรจะพูด

“เฉินน้อย ออกไปเดินเล่นกับข้าสักครู่จะได้รึไม่?”ซู่ชิวหยา มองไปที่ เย่เฉิน และ กล่าวถาม

เย่เฉิน มองไปที่ ศิษย์พี่หญิงใหญ่ที่เดินอยู่ข้างหน้าเขา นางแต่งกายด้วยชุดยาวสีแดงและปล่อยให้ผมยาวสีดำพริ้วไสวไปตามลม โดยร่างที่เย้ายวนของนางได้เคลื่อนไหวขณะที่เดินอยู่ด้านหน้าของ เย่เฉิน

“อันที่จริง ข้าก็ได้คาดเดาไว้ตั้งนานแล้ว เพียงแต่แค่ยังไม่แน่ใจ!”ในเวลานี้ ซู่ชิวหยา ได้กล่าวพูดออกมาก่อน

นางและเย่เฉินอยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืน ดังนั้น นางจะไม่สามารถคาดเดาในตัวตนของ เย่เฉิน ได้อย่างไร?

แม้ว่า เย่เฉิน จะไม่เคยบอกว่าเขาเป็นปรมาจารย์ยุทธ์ผู้อยู่ยงคงกระพันของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ แต่ ซู่ชิวหยา ก็ได้คาดเดาความน่าจำเป็นส่วนใหญ่ได้ตั้งนานแล้ว

และนางก็ไม่ได้แปลกใจเป็นพิเศษเกี่ยวกับสถานะตัวตนของ เย่เฉิน

“ศิษย์พี่ ข้าขอโทษที่ปิดบังท่าน!”

ในขณะนี้ ซู่ชิวหยา ได้หันกลับมา และ ใช้มือที่เรียวยาวของนางปิดปาก เย่เฉิน

“เฉินน้อย ไม่ต้องอธิบายอะไรแล้ว อันที่จริงข้าเข้าใจเหตุผลส่วนตัวของเจ้า!”ซู่ชิวหยา ได้ตอบกลับ

“แน่นอนว่ายังมีอีกสิ่งที่ข้ายังไม่ได้กล่าว ขอบคุณที่ช่วยเหลือข้านะ!”

ซู่ชิวหยา กำลังหมายถึงเรื่อง การแต่งงานระหว่าง นางกับซ่งอวี๋เซียง

เย่เฉิน เกาศีรษะและตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณอะไรกัน ท่านเป็นศิษย์พี่ของข้า นี่คือสิ่งที่ข้าสมควรกระทำ!”

ซู่ชิวหยา และ เย่เฉิน ได้ยืนอยู่ข้างกันที่ด้านข้างทะเลสาบหยกอมตะ สายลมที่อ่อนไหวได้พัดผ่านผมและเสื้อผ้าของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง

แม้แต่ปลาในทะเลสาบก็กระโดดขึ้นมาเป็นบางครั้ง ทำให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นมีชีวิตชีวา

เพียงแต่ ซู่ชิวหยา ไม่มีอารมณ์ที่จะชมทิวทัศน์ นางได้กล่าวพูดต่อ “ในตอนที่ข้ายังเด็ก ตั้งแต่จำความได้ ข้าก็ได้มาอาศัยอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์แห่งนี้แล้ว”

เมื่อได้ยินคำพูดของ ซู่ชิวหยา เย่เฉิน ก็รู้ได้ในทันทีว่านางกำลังตัดสินใจที่จะบอกสิ่งสำคัญกับเขา

ซึ่งหลังจากคิดได้ เย่เฉิน ก็ได้นิ่งเงียบและฟังนางพูดต่อไป

“ต่อมาข้าได้ยินท่านอาจารย์บอกว่านางรับข้ามาจากที่ลานบ้านของตระกูลซู่ในเมืองหยุนไท่ ตั้งแต่ที่ข้าลงจากเขาไป ข้าก็ได้ไปเยือนเมืองหยุนไท่ เพื่อตรวจสอบเรื่องของตระกูลซู่ในตอนนั้น”

“ในตอนนั้น ตระกูลซู่ของข้า เป็น 1 ใน 8 ตระกูลที่ยิ่งใหญ่ของเมืองหยุนไท่ และ พ่อของข้า ซู่เสิ่นหยิง ก็เป็น คู่แขjงที่ทรงพลังในการคว้าตำแหน่งเจ้าเมืองหยุนไท่”

“แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ตระกูลซู่ของข้า ก็ได้ถูกทำลายล้าง ท่านพ่อ และ ท่านแม่ ของข้า ต่างก็เสียชีวิตอย่างน่าอนาถ มีเพียงข้าที่ถูกท่านแม่ซ่อนไว้ในตู้เก็บของเท่านั้นที่รอดมาได้ ต่อมา ท่านอาจารย์ที่ได้ผ่านมาก็ได้ช่วยชีวิตข้าเอาไว้ และ ได้พาข้ามาที่แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์”

“ดังนั้นข้าจึงคิดมาโดยตลอดว่า เหตุผลที่ ตระกูลซู่ ของข้าถูกทำลาย มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเกี่ยวข้องกับ ตระกูลที่ยิ่งใหญ่อีก 7 ตระกูลที่อยู่ในเมืองหยุนไท่”

“ตระกูลซ่ง ก็เป็น 1 ใน 8 ตระกูลที่ยิ่งใหญ่ในสมัยนั้น ดังนั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าก็ไม่อยากจะแต่งงานกับคนจากตระกูลซ่ง”

เมื่อได้ยินสิ่งที่ ซู่ชิวหยา พูด หัวใจของ เย่เฉิน ก็บีบรัด

เขาไม่เคยได้ยินศิษย์พี่หญิงใหญ่ของเขาเอ่ยถึงภูมิหลังของนางมาก่อน ดังนั้น เขาจึงไม่ได้คาดหวังเลยว่าภูมหลังของศิษย์พี่หญิงใหญ่จะน่าเศร้าขนาดนี้

อันที่จริง เย่เฉิน ก็พอจะคาดเดาบางอย่างได้หลังจากรับฟัง

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะตรวจสอบโดยละเอียด เย่เฉิน ก็ไม่กล้าที่จะสรุป

ซู่ชิวหยา ได้กล่าวพูดต่อ “อันที่จริง ไม่ใช่ว่าข้าไม่ต้องการแก้แค้น แต่ด้วยความแข็งแกร่งของข้าในปัจจุบัน มันก็เหมือนกับมดที่พยายามเขย่าต้นไม้ที่สูงใหญ่อย่างตระกูลที่ยิ่งใหญ่ทั้ง 8 ของเมืองหยุนไท่ ดังนั้น ข้าจึงเก็บซ่อนเรื่องนี้เอาไว้ในใจ แต่พอวันนี้ ซ่งอวี๋เซียง ได้นำสัญญาหมั้นหมายมา มันก็ทำให้ข้าได้รู้ในทันทีว่าในตอนนั้น ตระกูลซ่งกับตระกูลซู่ของข้ามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน กล่าวอีกนัยนึงคือ ตระกูลซ่งสามารถปกป้องตระกูลซู่ในตอนนั้นได้ แต่ทว่า หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นบางอย่างกับตระกูลของข้า ตระกูลซ่งกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย พอได้พบกับพวกเขาอีกครั้ง พวกเขาก็กลายเป็นแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ มันทำให้ข้าได้รู้ว่าตระกูลซ่งน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องมากมายกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้น”

เย่เฉิน พยักหน้าให้กับเรื่องนี้

เรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับ ตระกูลที่ยิ่งใหญ่ทั้ง 8 ในตอนนั้นอย่างแน่นอน

ดังนั้นด้วยการพูดคุยทางความคิด เย่เฉิน ก็ได้ส่งสัญญาณออกไป “เสี่ยวไป๋!”

ทันใดนั้น หญิงสาวในชุดยาวสีขาวก็ได้ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของ เย่เฉิน และ ซู่ชิวหยา

ซู่ชิวหยา รู้สึกตกใจทันที เมื่อเห็น ไป๋ลั่วหลี่

แม้ว่า นางจะแปลงกายเป็นมนุษย์ แต่กลิ่นอายของปีศาจจิ้งจอกของนางก็ยังคงอยู่

ดังนั้น ซู่ชิวหยา สามารถบอกได้ในทันทีว่า นี่คือ ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง ที่คุกคามความปลอดภัยของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ในตอนนั้น

“ศิษย์น้องเล็ก นี่เจ้า…?”

ซู่ชิวหยา กล่าวถามด้วยความตกใจ

เย่เฉิน ยิ้มและตอบกลับ “เผอิญข้าโชคดีพอที่จะปราบปรามนางได้!”

หลังจากนั้น เย่เฉิน ก็ไม่ได้กล่าวพูดต่อ เขาได้มองไปที่ ไป๋ลั่วหลี่ และ กล่าวออกมา “ข้าจะให้เวลาเจ้า 3 ปี จงไปสืบเรื่องราวเกี่ยวกับภูมิหลังของตระกูลซู่และสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้นมาซะ!”

“เจ้าค่ะ!”ไป๋ลั่วหลี่ ได้กลายเป็นควันและหายไปทันที

เหตุผลที่ เย่เฉิน กล่าวว่าเขาให้เวลา 3 ปี นั่นก็เพราะ แม่ของ เย่เฉิน ได้ขอให้ เย่เฉิน ไม่เปิดเผยตัวตนก่อนที่เขาจะอายุ 16 ปี และ ไม่อนุญาติให้เขาลงจากเขา

ดังนั้น หลังจากครบกำหนด 3 ปีแล้ว เขาจะสามารถออกมาจากความสันโดษและลงจากเขาได้

เมื่อถึงตอนนั้น เขาก็จะสามารถแก้แค้นให้กับศิษย์พี่หญิงใหญ่

“ศิษย์น้องเล็ก นี่เจ้าคิดจะ…?”ซู่ชิวหยา มองไปที่ ศิษย์น้องเล็กด้วยความประหลาดใจและกล่าวถาม

“ศิษย์พี่ท่านก็เหมือนกับพี่สาวของข้า ดังนั้น เรื่องของท่านก็คือเรื่องของข้า!”เย่เฉิน ได้กล่าวออกมา

ซู่ชิวหยา รีบหยุดเขาในทันที “ศิษย์น้องเล็ก ไม่ได้ นี่มันอันตรายเกินไป”

“ตอนนี้มีตระกูลที่ยิ่งใหญ่ทั้ง 7 อยู่ในเมืองหยุนไท่ นอกจากนี้ พวกเขายังได้รับการคุ้มครองจากผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรเทวะ แม้ว่าจะเป็น ศิษย์น้องเล็ก ข้าเกรงว่าเจ้าคง…”

ในขณะนี้ ใบหน้าของ เย่เฉิน ได้เผยให้เห็นรอยยิ้มที่สดใส เขาได้กล่าวออกมา “ศิษย์พี่ ท่านไม่ต้องห่วง ข้าไม่ใช่คนที่จะประมาทเลิ่นเลอ อีกอย่างข้ายังมีเวลาอีกตั้ง 3 ปีไม่ใช่เหรอ? หากข้าไม่สามารถทะลวงเข้าสู่อาณาจักรทันฑ์สวรรค์ ภายใน 3 ปี ข้าก็จะไม่เคลื่อนไหว”

ซู่ชิวหยา มองไปที่ ศิษย์น้องเล็กของนางด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความขอบคุณ

“ใช่แล้ว ศิษย์น้องเล็ก ข้ายังมีอีกเรื่องที่จะถามเจ้า!”ในขณะนี้ ซู่ชิวหยา ได้มองไปที่ เย่เฉิน และ กล่าวถามอย่างจริงจัง

เมื่อเห็นว่า ศิษย์พี่หญิงใหญ่ของเขาจริงจังมาก เย่เฉิน รีบกล่าวถามทันที “อะไรงั้นหรือ?”

“ก่อนหน้านี้ที่เจ้าบอกว่าชอบข้า เป็นเพราะว่าเจ้าต้องการจะจัดการกับซ่งอวี๋เซียงเท่านั้นหรือไม่?”ซู่ชิวหยา ได้กล่าวถามด้วยความไม่มั่นใจ

เย่เฉิน มองไปที่ ศิษย์พี่หญิงใหญ่ของเขาและกล่าวพูดอย่างจริงจัง “คำพูดในตอนนั้นมันเป็นความรู้สึกจากใจจริงของข้า นั่นก็เพราะว่าข้าชอบท่าน!”

“นี่ หมายความว่ายังไง?”ซู่ชิวหยา ได้กล่าวถามอีกครั้ง

“ชอบก็คือชอบ นั่นก็เพราะข้าชอบท่านที่สุด!”เย่เฉิน ได้ตอบกลับ

สีหน้าของ ซู่ชิวหยา ได้กลายเป็นเขินอายเล็กน้อย

“เมื่อเจ้าโตขึ้น พี่สาวก็คงจะแก่แล้ว มิฉะนั้น พี่สาวคนนี้จะต้องแต่งงานกับเจ้าอย่างแน่นอน!”ซู่ชิวหยา ได้มองไปที่ เย่เฉิน และ พูดติดตลก

“ไม่เลย ท่านไม่ได้แก่ อีกอย่าง ศิษย์พี่ท่านไม่มีวันแก่ในใจของข้า!”เย่เฉิน ได้ตอบกลับ

“จะบอกว่าเจ้ายินดีที่จะแต่งงานกับข้างั้นหรือไม่?”ซู่ชิวหยา มองไปที่ เย่เฉิน และ กล่าวถามด้วยรอยยิ้มจาง ๆ

“ใช่แล้ว ข้าให้สัญญา…เมื่อข้าโตขึ้น ข้าจะแต่งงานกับท่าน!”

3 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด