เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 257
ตอนที่ 257
หลินซวนหัวเราะมิได้ร้องไห้มิออก เขานำเอาผลไม้วิญญาณที่เหลืออยู่ออกมา เสี่ยวหวงที่มองเห็นผลไม้เหล่านั้นดวงตาเป็นประกายพลางคว้าพวกมันมากัดกิน
หลังจากนั้นเขาก็พาดเสี่ยวหวงกลับมายังสนามรบก่อนหน้าอีกครั้ง ด้วยเราระลึกได้ถึงคำพูดของชายหนุ่มในชุดม่วง เขาพลางสอดส่ายสายตาไปยังเทือกเขาเบื้องหน้าด้วยความคาดคะเนมากมายในความคิด
ฝ่ามือของเขาแผ่ปราณวิญญาณออกมาบางเบาก่อนจะวางทาบลงไปบนพื้นดิน และมันก็แตกระแหงเป็นชิ้นส่วนที่คล้ายกับปากของอสูรอันดุร้ายทันที นี่ทำให้ผู้คนโดยรอบไม่หาญกล้าพอจะเข้ามาใกล้ พริบตาถัดมา เสียงคำรามอันเกรี้ยวกราดคล้ายมังกรก็ดังขึ้น
“นี่มันเสียงของมังกร!” หลินซวนตกตะลึงและตื่นเต้นไปพร้อมๆ กัน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเทือกเขาแห่งนี้ที่มีกลิ่นอายแปลกประหลาดแผ่ออกมานั้นเป็นเพราะมีมังกรอาศัยอยู่ในแถบนี้
“ไปกันเถอะ”
หลังจากพูดจบ หลินซวนก็โดดลงไปในรอยแยกรูปปากของอสูรที่ปรากฏขึ้นก่อนหน้านี้ทันที
ไม่กี่ลมหายใจถัดมา พวกเขาทั้งสองก็เหยียบลงในส่วนลึกของหลุมนั้น ข้างใต้นี้ไม่มีแสงใด เป็นเพียงความมืดมิดอนธการ เสียงของเหลวบางอย่างหยดลงพื้นมีให้ได้ยินอยู่เป็นระยะๆ สายลมเหน็บหนาวพัดผ่านร่างกาย ทำให้คนสามารถสั่นสะท้านด้วยความหนาวเหน็บได้
หลินซวนและหวงหาวมองไปเบื้องหน้าในความมืดนั้นก่อนจะก้าวเดิน ดวงตาของหลินซวนกำลังพิจารณากำแพงสีดำสนิทอย่างสงบ ในอีกด้านหนึ่ง เสี่ยวหวงกลับจับชายเสื้อของหลินซวนเอาไว้แน่นและแทบจะเอาศีรษะของตนมุดเข้าไปในเสื้อคลุมของหลินซวนเสียแล้ว
ทันใดนั้นเอง ร่องรอยของแสงสว่างก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าพวกเขา ปราณวิญญาณเข้มข้นจนกลายเป็นของเหลวไหลหยดย้อยลงมาจากกำแพงรอบด้าน ตามมาด้วยแท่นบูชาที่สลักมาจากหินวิญญาณผุดขึ้น มันเปล่งประกายระยิบระยับจับตา
“นี่มันเป็นหินวิญญาณระดับชั้นยอด!” สิ่งนี้ทำให้หลินซวนตกใจไม่น้อย หากให้กล่าวถึงหินวิญญาณแล้ว ยกตัวอย่างสกุลหลินขึ้นมาก็จะทราบว่าโดยปกติศิษย์ระดับสามัญของตระกูลหลินจะได้รับหินวิญญาณระดับกลางในทุกเดือนเพื่อใช้มันฝึกฝนพลังปราณ ส่วนหินวิญญาณระดับล่างก็ใช้แทนเงินตราในการแลกเปลี่ยนสินค้า มีเพียงผู้คนระดับบรรพบุรุษของตระกูลเท่านั้นที่จะสามารถใช้หินวิญญาณระดับสูงในการบ่มเพาะ จนกว่าพวกเขาจะฝึกฝนจนใกล้เลื่อนแดนปราณเท่านั้นจึงจะยอมใช้หินวิญญาณชั้นยอดจำนวนน้อยนิดเพื่อการบรรลุแดนปราณ
นี่สามารถบ่งบอกได้ว่าหินวิญญาณชั้นยอดนั้นหายากเพียงใด อย่างไรก็ตาม เบื้องหน้าของหลินซวน มีหินวิญญาณชั้นยอดนับหมื่นก้อนที่ถูกนำมาใช้ทำเป็นแท่นบูชาแท่นนั้น นี่มันน่าตื่นตะลึงเกินไปแล้ว
หากว่าเหล่าตาแก่ทั้งหลายได้พบเห็นสิ่งนี้ พวกเขาย่อมต้องสบถออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ผู้ที่เป็นคนสร้างแท่นบูชานี้ร่ำรวยยิ่งนัก
หลินซวนเพ่งสายตาด้วยต้องการรู้ว่าบนแท่นบูชานั้นมีสิ่งใดอยู่ แต่เขากลับถูกพลังแปลกประหลาดบางอย่างขัดขวางเอาไว้ นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ทำให้เขาตกใจเช่นกัน ตั้งแต่เขาเกิดมา นี่เป็นครั้งแรกที่มีบางอย่างสามารถบดบังสายตาของเขาโดยสมบูรณ์ได้
นี่ยิ่งทำให้หลินซวนมั่นใจว่าสมบัติที่อยู่บนแท่นบูชานั้นย่อมมิใช่สิ่งสามัญ
“สิ่งนี้สามารถกินได้หรือไม่?” เสี่ยวหวงหยิบหินวิญญาณชั้นยอดออกมาก่อนยัดใส่ปาก ทันใดนั้นสีหน้าของก็แปรเปลี่ยนไปและคายหินวิญญาณออกมาทันที
“มันแข็งอย่างกับหิน เจ้านี่เป็นเพียงขยะชัดๆ” เสี่ยวหวงขว้างหินวิญญาณชั้นยอดออกไปพลางเอ่ยอย่างโกรธเคือง
หลินซวนเพียงยิ้มออกมาและเดินไปยังแท่นบูชาอย่างเชื่องช้า ปราณวิญญาณบริสุทธิ์กำลังหลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของเขา และสัญญาณของการเลื่อนขั้นก็ปรากฏขึ้น
ต้องรู้ก่อนว่าหลินซวนนั้นมิใช่คนธรรมดาสามัญ ปริมาณของปราณวิญญาณที่เขาจำเป็นต้องใช้ในการเลื่อนขั้นนั้นมากกว่าคนปกติหลายเท่าตัว แต่หินวิญญาณชั้นยอดพวกนี้ดูเหมือนว่าจะมีความบริสุทธิ์มากกว่าหินวิญญาณของโลกภายนอกเช่นกัน
หลินซวนจึงเริ่มเก็บหินวิญญาณพวกนี้เข้าไปยังแหวนมิติของตนทีละเล็กทีละน้อย ในขณะที่จำนวนของหินวิญญาณลดลง แสงสว่างก็เริ่มทอประกายเข้มข้นขึ้น คล้ายว่ามีสมบัติบางประการกำลังจะถือกำเนิด
หลังจากที่หลินซวนเก็บหินวิญญาณก้อนสุดท้ายเข้าแหวนมิติเรียบร้อย ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้น
มังกรทองห้าเล็บที่เกิดจากการควบแน่นของปราณทองคำล้ำค่าหมุนวนอยู่กลางอากาศพลางคำรามใส่หลินซวน กลับกลายเป็นว่าเสียงคำรามของมังกรที่เขาได้ยินอยู่เบื้องบนนั้นเกิดมาจากร่างเงาของมังกรตนนี้
“เจ้านี่หยิ่งผยองเสียจริง”
หลินซวนสะบัดนิ้วของเขาชี้ไปยังมังกรทองห้าเล็บตนนั้นและทำให้มันกลับกลายเป็นร่างต้นกำเนิดในทันที มันเปลี่ยนตนเองเป็นก้อนปราณทองคำล้ำค่า ก่อนจะแปรผันไปเป็นสมุนไพรซึ่งไม่สมบูรณ์ต้นหนึ่ง
เคยมีตำนานเล่าขานว่าสถานที่ซึ่งเผ่าพันธุ์มังกรจุติลงมายังโลกใบนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายของเหล่ามังกรอันเข้มข้นเป็นเวลาเนิ่นนาน เมื่อจ้าวมังกรกำเนิดขึ้น พวกมันก็ถึงขั้นเปลี่ยนโลหิตมังกรในกายตนเองทั้งหมดเพื่อทำให้ตนเองแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปกว่าเก่า กลิ่นอายและโลหิตของมังกรที่หลอมรวมกันทำให้สถานที่เหตุนั้นก่อเกิดเป็นสมุนไพรวิญญาณในตำนานที่มีนามว่า สมุนไพรมังกรอมตะแท้จริง
สมุนไพรต้นนี้สามารถทำให้อาวุโสที่ตกตายลงกลับมาเกิดใหม่ได้อีกครา ไม่เพียงเท่านั้น มันยังเป็นแหล่งของพลังชีวิตอันมหาศาล สามารถทำให้ผู้คนที่ได้รับมันเหยียบย่างเข้าใกล้สภาวะเต๋าอันศักดิ์สิทธิ์เข้าไปอีกก้าว นับว่าเป็นสมบัติที่ล้ำค่าและหาได้ยากเย็นยิ่งนัก
ดูเหมือนว่า ใบไม้ที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าของหลินซวนจะเป็นส่วนหนึ่งของสมุนไพรมังกรอมตะแท้จริงที่ร่วงหล่นออกมา แต่มันก็ยังคงแฝงไว้ด้วยพลังวิญญาณที่แข็งกล้า แม้ว่าสรรพคุณทางยาของมันจะไม่ยิ่งใหญ่เท่ากับการได้รับมันทั้งต้น แต่ก็มูลค่ามากล้นจนสามารถก่อให้เกิดพายุโลหิตขึ้นได้
หลินซวนก้าวไปด้านหน้าพร้อมกับวังวนดูดกลืนที่ปรากฏขึ้น มันดูดเอาสมุนไพรที่ไม่สมบูรณ์ต้นนั้นเข้าไปด้านใน รอยยิ้มถูกจุดขึ้นยังมุมปากของเขา และท่าทางของเขาช่างตื่นเต้นยิ่งนัก
ในเงื้อมมือของผู้อื่นแล้ว มันย่อมเป็นเพียงสมุนไพรที่ไม่สมบูรณ์ดี ทว่า ในยามที่นี่ที่พลังกลืนดาราของเขาก่อร่างเป็นโลกใบเล็กด้านใน หากว่าเขาในมันในการเพาะปลูกและบำรุงด้วยสมุนไพรโอสถล้ำค่าชนิดอื่นๆ เขาสามารถจะทำให้มันเติบโตขึ้นกลายเป็นสมุนไพรมังกรอมตะแท้จริงที่สมบูรณ์ขึ้นได้อีกครั้ง
ครานี้ เขาได้รับสิ่งล้ำค่ามาไว้กับตัว หลินซวนที่กำลังจะพาเสี่ยวหวงจากไปแล้ว อยู่ๆ เขากลับชะงักงัน
“เอ๋?” เขามองไปที่ซึ่งเคยเป็นแท่นบูชาแต่เดิม หินวิญญาณนับหมื่นและสมุนไพรที่ไม่สมบูรณ์ต้นนั้นถูกเก็บเกี่ยวเพราะเขา พูดตามตรง ปราณวิญญาณที่เคยหนาแน่นสมควรจะค่อยๆ สลายหายไป
ทว่า ในตอนนี้ ไม่เพียงปราณวิญญาณเหล่านั้นจะไม่จางหาย มันกลับรวมตัวกันกลายเป็นมังกรปราณ หากหลินซวนเข้าไปด้านในปราณเหล่านั้น เขาคาดว่ามันจะกลายเป็นถ้ำแห่งการฝึกตนของยอดฝีมือก็เป็นได้
“เหตุใดเจ้ายังไม่เดินมาอีก?” เสี่ยวหวงที่มิใช่คนละเอียดรอบคอบเช่นหลินซวน เขากะพริบตาพลางมองอีกฝ่ายอย่างสงสัย
“ที่แห่งนี้มิได้สามัญเช่นที่มองเห็น!”
หลินซวนเดินไปยังพื้นที่ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของแท่นบูชาและค่อยๆ ย่อตัวลง เขาใช้มือน้อยๆ ของตนเคาะไปตามพื้นอย่างระมัดระวัง
โฮก!
เสียงคำรามของมังกรที่แลดูคุ้นเคยดังขึ้นอีกครั้ง
คลื่นเสียงก่อตัวขึ้นและกระจายไปทั่วทุกทิศทาง ภายใต้คลื่นเสียงเหล่านี้ หากเป็นผู้บ่มเพาะในแดนปราณสร้างรากฐานแล้ว อวัยวะภายในของพวกเขาคงถูกทำลายสิ้น
ฮึม!
หลินซวนแค่นเสียงออกมาและกระทืบเท้าลงบนพื้นทันที พลังอันแข็งแกร่งสองสายปะทะก่อนที่จะทำให้คลื่นเสียงนั้นหายไป
ผืนดินแตกออกอีกครา ศิลานับไม่ถ้วนแตกกระจายและกระเด็นออกมากระแทกใส่ผนังหินทั้งสองข้าง
กลุ่มแสงสีทองอีกก้อนหนึ่งปรากฏขึ้นและมันมีขนาดราวสิบจั้ง มันลอยเข้าใส่หลินซวนอย่างเงียบงัน
มันเป็นวัตถุบางอย่างที่ปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีทองอร่าม แต่ละชิ้นของมันราวกับว่าผ่านกาลเวลาอันโหดร้ายมาจนไม่อาจนับได้
“หางของมังกร!” หลินซวนร้องออกมาอย่างตื่นตระหนก ในทวีปผืนฟ้าแห่งนี้ไม่มีร่องรอยของสัตว์ปรากฏขึ้นมาเป็นเวลาเนิ่นนานแล้ว ทว่าบัดนี้ หางมังกรกลับปรากฏขึ้น หรือว่าในแดนลึกลับจะมีมังกรอาศัยอยู่?
ครืน! ครืน!
หางมังกรเริ่มสะเทือนอย่างรุนแรง
ลำแสงพุ่งขึ้นสู่ท้องนภา บนหางมังกรสีทองชิ้นนั้น เกล็ดของมันราวกับเป็นเกราะที่ปลดปล่อยกลิ่นอายโบราณกาล เงาของมังกรทองห้าเล็บที่ตัวยาวกว่าแสนฉื่อบังเกิดขึ้นเบื้องหน้าของหลินซวนและมองมายังเขาด้วยดวงตาที่เจิดจ้าคล้ายกับตะเกียง
“บัดซบ ผู้นำของเผ่าพันธุ์มังกร มังกรทองห้าเล็บ!” หลินซวนเอ่ยปากด้วยความตื่นตะลึง ไม่น่าแปลกใจเลยว่าเหตุเขาจึงรู้สึกคุ้นเคยกับเสียงคำรามนี้นัก เขาคิดไปเองว่าเสียงคำรามของมังกรแท้จริงแล้วมีต้นกำเนิดมาจากสมุนไพรที่ไม่สมบูรณ์ต้นนั้น แต่บัดนี้ ดูเหมือนว่าเสียงคำรามนั้นจะเกิดจากหางของมังกรเสียได้
“มนุษย์? เหตุใดจึงมีมนุษย์อยู่บนทวีปมังกรสวรรค์ได้?” ร่างเงาของมังกรทองตนนั้นเปล่งเสียงสับสน มันดูไม่คุ้นเคยกับโลกใบนี้เอาเสียเลย