ตอนที่แล้วอาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 93 ฮัน เยจิน (Han Yejin)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปอาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 95 ยั่วยุคนที่ไม่ควรยั่วยุ

อาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 94 มหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย


ตอนที่ 94 มหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย

ฮาร์ดี้เดินเข้าไปในร้านขายของเก่าในถนนการค้า

เจ้าของร้านที่เป็นชายวัยกลางคนในวัยสี่สิบพยักหน้าอย่างสุภาพเมื่อเห็นฮาร์ดี้เดินเข้ามา

ฮาร์ดี้เดินดูของในร้านค้าด้วยตัวเอง

มีเฟอร์นิเจอร์ เครื่องเงินและโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมต่างๆ ที่เป็นสไตร์ยุโรป แล้วฮาร์ดี้ก็เห็นเครื่องลายครามสองสามชิ้นในมุมมุมหนึ่ง

มีจานใหญ่สองใบ ชามเล็กสามใบและแจกันสองใบ บนจานใหญ่มีรูปดาวหกแฉกและอีกรูปเป็นรูปคนโบราณขี่ม้ายูนิคอร์นอยู่

ฮาร์ดี้ไม่รู้ว่าชายโบราณคนนี้เป็นใคร

แต่ชามขนาดเล็กสามใบมีความสวยงามมาก มันประกอบไปด้วยรูปดอกไม้ นก ปลา และแมลงที่ลอยอยู่ในจาน

"คุณลูกค้าชอบเครื่องลายครามที่มาจากทางตะวันออกหรือครับ?" เจ้าของร้านเดินมาและถามฮาร์ดี้ เพราะเขาเห็นฮาร์ดี้ยืนอยู่หน้าเครื่องลายครามเหล่านี้เป็นเวลานานแล้ว

"เครื่องลายครามพวกนี้ราคาเท่าไหร่?" ฮาร์ดี้ถาม

"จานสองใบนี้ใบละ 120 ดอลลาร์ ส่วนชามเล็กใบละ 80 ดอลลาร์ และแจกันคู่นี้ 300 ดอลลาร์ครับ" เจ้าของร้านกล่าว

"ราคาแพงไปหน่อย..."

ราคาของเครื่องลายครามที่ฮาร์ดี้เจอมาในนิวยอร์กนั้นล้วนราคาแพงมาก

"คุณลูกค้าลองสังเกตดูสิว่าลวดลายเหล่านี้สวยงามขนาดไหน มันเป็นลายที่หายาก ว่ากันว่ามันมาจากพระราชวังโอเรียนทอลฮัวโกมันถูกใช้โดยจักรพรรดิของพวกเขาในอดีต และผมได้ถามใครบางคนเกี่ยวกับเรื่องนี้เพื่อยืนยันแล้วว่ามันมีประวัติมากกว่าสองร้อยปี"

เมื่อเห็นความตั้งใจของฮาร์ดี้แล้ว เจ้าของร้านก็แนะนำประวัติคร่าวๆ ให้ฟัง

ประวัติมากกว่า 200 ปี

ฮาร์ดี้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้

มันอาจจะเป็นช่วงเวลาของจักรพรรดิเฉียนหลง

เขาหยิบเครื่องลายครามขึ้นมาดูฐานของมัน ซึ่งมันก็เป็นของจักรพรรดิเฉียนหลงจริงๆ และมันก็ได้เจ้านายคนใหม่เป็นเจ้าของแล้ว

มาจากราชวัง?

บางทีมันอาจถูกนำมาโดยกลุ่มแปดพันธมิตร จากพระราชวังฤดูร้อนเก่าหรือเมืองต้องห้ามที่ไหนสักที่

"ผมจะจ่ายที่ราคาจานใบละ 80 ดอลลาร์ ชามใบเล็กใบละ 50 ดอลลาร์ และแจกันคู่นั้น 200 ดอลลาร์ ถ้าคุณตกลงผมจะซื้อทั้งหมด" ฮาร์ดี้ต่อรองราคา

เจ้าของร้านส่ายหัวทันที

"ไม่มีทาง ราคาที่คุณให้มามันต่ำเกินไป"

ชายทั้งสองจึงเริ่มต่อรองและพูดคุยกันเป็นเวลามากกว่าสิบนาที และราคาสุดท้ายก็เป็นราคาที่ทั้งสองยอมรับได้

ราคารวมทั้งหมดคือ 660 ดอลลาร์ ทั้งสองฝ่ายจับมือกันเพื่อบรรลุข้อตกลง

เจ้าของร้านเดินไปด้านหลังเพื่อหยิบกระเป๋าและแพ็กของ จากนั้นหญิงสาวสองคนก็เดินเข้ามาในร้านขายของเก่า

คนหนึ่งเป็นหญิงสาวผิวขาวผมสีน้ำตาลและอีกคนเป็นสาวเอเชียสูงประมาณ 165 เซ็นติเมตรที่มีใบหน้างดงาม

ไม่ว่าจะเป็นชีวิตก่อนหน้านี้หรือชีวิตนี้

ในบรรดาสาวๆ ทั้งหมดที่ฮาร์ดี้ได้เห็น เขาบอกได้เลยว่าหน้าตาของสาวเอเชียที่อยู่ตรงหน้าของเขานั้นสวยงามมากๆ

ผิวมีความชุ่มชื่นเและงดงาม

ฮาร์ดี้อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองเธอหลายครั้ง

เมื่อหญิงสาวเห็นฮาร์ดี้ เธอก็คิดว่าเขาเป็นเจ้าของร้าน

เธอเลยพยักหน้าเล็กน้อยเพื่อทักทาย ฮาร์ดี้ยิ้มและพยักหน้ากลับไป

เด็กสาวมองไปที่สิ่งของในร้านขายของเก่า ในที่สุดเธอก็ถูกดึงดูดด้วยเครื่องลายครามจีนบนโต๊ะและเดินไปดูอย่างเร็ว

หลังจากนั้นสักพักหญิงสาวก็หันไปมองฮาร์ดี้และพูดว่า "เจ้าของร้านเครื่องลายครามเหล่านี้มีราคาเท่าไหร่?"

ฮาร์ดี้คิดในใจว่าดูเหมือนว่าหญิงสาวจะเข้าใจตัวเขาผิด

แต่มันก็น่าสนใจเหมือนกัน

เขาก้าวไปข้างหน้าและยืนอยู่ข้างๆ หญิงสาว พร้อมกับชี้ไปที่เครื่องลายครามและพูดว่า "จานสองใบนี้ใบละ 120 ดอลลาร์ ชามเล็กสามใบใบละ 80 ดอลลาร์ และแจกันคู่นี้ 300 ดอลลาร์"

เด็กสาวพยักหน้า

เธอมองไปที่ชิ้นส่วนของเครื่องลายครามอีกครั้ง

เธอชอบมันมาก

แต่เธอไม่ได้พกเงินมาเยอะพอสำหรับซื้อของพวกนี้ เธอสามารถซื้อมันได้แค่ชิ้นเดียวเท่านั้น

ส่วนที่เหลือเธอคงต้องปล่อยมันไป แต่เธอก็ไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้กับมัน

ถึงแม้จะทำได้แค่มองก็ตาม

ฮาร์ดี้ยืนห่างจากหญิงสาวหนึ่งเมตร แต่กลิ่นหอมบริสุทธิ์ก็ลอยมาจากหญิงสาว

กลิ่นมันหอมดี...

คอของเธอเรียวยาวสวยงามมาก เมื่อเธอกำลังก้มศีรษะเล็กน้อย

ในที่สุดเธอก็ละสายตาจากเครื่องลายครามแล้วชี้ไปที่ชามเล็กๆ ใบหนึ่งและพูดว่า "เจ้าของร้าน ชิ้นนี้จะถูกกว่านี้ได้ไหม? ฉันยินดีจะจ่ายที่ 60 ดอลลาร์"

หญิงสาวเงยหน้ามองฮาร์ดี้

ฮาร์ดี้ละสายตาออกไปจากคอของหญิงสาวทันที

เขาคิดว่ามันไม่สุภาพเอามากๆ

"คุณชอบชามเล็กๆ นี้ใช่ไหม? แล้วคุณรู้แหล่งกำเนิดมันหรือเปล่า?" ฮาร์ดี้ถาม

หญิงสาวคิดอยู่พักหนึ่งและพูดว่า "ชิ้นนี้น่าจะเป็นเครื่องลายครามจากพระราชวังจีน เพราะลวดลายดอกพีโอนี่เคลือบสีเหลืองลายมังกรเหล่านี้ และฐานของมันก็น่าจะเพียงพอที่อธิบายที่มาของมันได้"

"รูปแบบลายมังกรคืออะไร?" ฮาร์ดี้มองไปที่ชามเล็กๆ ด้วยความประหลาดใจ

เด็กสาวยื่นนิ้วเรียวของเธอออกไปชี้ให้เห็นรูปแบบบนชามขนาดเล็ก และฮาร์ดี้ก็โน้มตัวไปดู

ทำให้ทั้งสองอยู่ใกล้กันมาก

จากนั้นเจ้าของร้านวัยกลางคนก็กลับมา พร้อมถือกล่องสองกล่องไว้ในมือ และเขาก็สังเกตเห็นหญิงสาว เขาจึงพูดกับฮาร์ดี้ว่า "ผมเจอกล่องแล้ว เดียวผมแพ็กให้สักครู่นะครับ"

แล้วเขาก็เข้าไปหยิบเครื่องลายครามเหล่านั้นมา

ฮันเยจินชะงักจากนั้นก็หันไปมองฮาร์ดี้ "คุณไม่ใช่เจ้าของร้านเหรอ?"

ฮาร์ดี้ยิ้ม

"ผมก็มาซื้อของเก่าเหมือนกัน"

เด็กสาวมองดูเจ้าของร้านที่กำลังแพ็กเครื่องลายครามลงกล่อง เธอกะพริบตาและถามฮาร์ดี้ว่า "คุณซื้อเครื่องลายครามเหล่านี้ทั้งหมดแล้วเหรอ?"

เมื่อเจ้าของร้านได้ยิน เขาก็ยิ้มและตอบว่า "ใช่สุภาพบุรุษคนนี้ซื้อเครื่องลายครามเหล่านี้ทั้งหมดแล้ว และคุณผู้หญิงจะซื้ออะไรดี?”

หญิงสาวชะงักไปชั่วครู่

"ฉันก็อยากซื้อเครื่องลายครามพวกนี้เหมือนกัน"

เจ้าของร้านรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เพราะไม่ค่อยมีใครถามเกี่ยวกับเครื่องลายครามเหล่านี้มากนัก

มันเลยดูแปลกที่ทั้งสองมาที่นี่เพื่อเครื่องลายครามเหล่านี้

เมื่อรู้ว่ามีคนซื้อเครื่องลายครามเหล่านี้แล้ว ฮันเยจินก็ไม่ลังเลที่จะไปที่เคาน์เตอร์เพื่อดูรายการอื่นๆ

แล้วเธอก็เจอกับใบโฮสต้าที่สวยงามในตู้กระจกของเคาน์เตอร์

"เจ้าของร้านคุณขายใบโฮสต้านี้ยังไง?" เด็กสาวถาม

เจ้าของร้านหยุดมือสักครู่ และมองไปที่มัน "ชิ้นนั้น 35 ดอลลาร์ครับ"

ใบโฮสต้าใบนี้ทำมาจากจากหยกขาวเฮเตียน มันคล้ายกับกิ๊บติดผมที่เรียบง่ายแต่สง่างาม ดูคล้ายกับรูปหัวกระโหลก ที่ทั้งใบเป็นสีขาวและดูอ่อนโยน

เด็กสาวจ้องมองมันอยู่นาน

"30 เหรียญได้หรือเปล่า?" หญิงสาวกล่าว

เจ้าของร้านมองไปที่ผู้หญิงคนนั้น

"ตกลง ผมจะขายให้คุณ"

เธอรีบจ่ายเงินทันที

เจ้าของร้านเอากล่องเครื่องประดับออกมาและยื่นให้เด็กผู้หญิง เธอบอกขอบคุณเจ้าของร้าน

และเอาใบโฮสต้าที่เก็บไว้ในกล่อง ใส่ไว้ในกระเป๋าของเธอและขอให้คู่หูของเธออิริน่าออกจากร้านขายของเก่านี้

ฮาร์ดี้มองไปที่หลังของหญิงสาวที่เดินออกไปหน้าร้านขายของเก่า

......

แม้ว่าเธอจะไม่ได้ซื้อเครื่องลายครามที่เธอชอบ แต่ฮันเยจินก็มีความสุขมากที่ได้ซื้อกิ๊บติดผมอันนี้

เธอถือว่าครั้งนี้เป็นการเดินทางที่คุ้มค่าแล้ว

"เยจินใบไม้นี้เธอซื้อมาทำอะไรเหรอ?" อิริน่าถาม

"มันไม่ใช่ใบไม้แต่เป็นกิ๊บติดผมน่ะ" ฮันเยจินอธิบาย

"มันใช่กิ๊บติดผมเหรอ?"

"มันเป็นกิ๊บติดผมแบบโบราณชิ้นหนึ่ง"

"โอ้..."

อิริน่าทำท่าเหมือนเข้าใจ

ทั้งสองกำลังเดินพูดคุยกัน ทันใดนั้นชายสองสามคนก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าพวกเธอ และพวกมันก็ปิดกั้นทางของพวกเธอไว้ หญิงสาวทั้งสองก็ต้องแปลกใจเพราะในบรรดาผู้ชายหกหรือเจ็ดคนนั้นพวกเธอเห็นโจรที่เพิ่งจะพยายามขโมยกระเป๋าของพวกเธอเมื่อไม่นานมานี้

หญิงสาวทั้งสองรู้ทันทีว่าคนเหล่านี้ต้องมาเพื่อแก้แค้นพวกเธอแน่ๆ

ท่ามกลางกลุ่มชายที่ล้อมพวกเธอไว้ มีคนหนึ่งมองไปที่หญิงสาวทั้งสองและหันไปพูดกับโจรที่มาขโมยกระเป๋าว่า "ไอโมมันน่าละอายจริงๆ ที่นายถูกเด็กสาวทั้งสองทุบตี"

หลังจากพูดจบเขาก็หันไปมองฮันเยจินและอิริน่าด้วยรอยยิ้ม "แต่เด็กผู้หญิงสองคนนี้ก็สวยจริงๆ"

อิริน่ากำลังหวาดกลัว

เธอเอื้อมมือไปจับแขนของฮันเยจิน

ทว่าในความเป็นจริง ตอนนี้ฮันเยจินก็รู้สึกกลัวเช่นกัน แม้ว่าเธอจะรู้วิธีจัดการกับคนหนึ่งหรือสองคน แต่เธอไม่สามารถจัดการกับคนจำนวนมากแบบนี้ได้ แถมพวกเขายังเป็นผู้ชายร่างใหญ่กันหมดอีก

เธอไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้น

"วิ่ง!"

ฮันเยจินตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว เธอคว้าแขนของอิริน่าและเริ่มวิ่งหนี

ทว่า

พวกเธอวิ่งไปได้ไม่ไกล แล้วก็ต้องยอมแพ้เพราะถูกล้อมโดยพวกอันธพาลเหล่านี้

ใครบางคนกำลังจะเอื้อมมือมาจับตัวหญิงสาว อิริน่ากรีดร้องออกมาและทุบตีพวกมันด้วยกระเป๋าถือของเธอ

แต่เธอก็ถูกจับตัวไปหลังจากตีไปเพียงสองครั้ง

ฮันเยจินเตะไปที่ชายคนหนึ่งที่กำลังเข้ามาจับตัวเธอ ซึ่งพวกมันก็ค่อยๆ เข้ามารุมจับเธอ

เธอจึงเตะออกไปอีกครั้งทันที และครั้งนี้เธอเตะสุดแรงไปที่เป้ากางเกงของอันธพาลคนหนึ่ง

"โอ้วววววว"

ชายคนนั้นม้วนตัวลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวดทันที

"แค่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ พวกนายก็รับมือไม่ได้เหรอวะ! เข้าไปพร้อมกันสิ!" หัวหน้าอันธพาลตะโกนอย่างใจร้อน

ชายหลายคนรีบวิ่งเข้าไปรุมเธอ

ฮันเยจินตกใจเธอจึงทุบไปที่อันธพาลคนหนึ่งด้วยกระเป๋าถือของเธอ และหันไปรอบๆ เพื่อจัดการอีกสองคน

เธอบล็อกหมัดของอีกคนได้ แต่เธอกับโดนคว้าแขนไว้ด้วยชายอีกคน

เด็กสาวคิดว่ามันไม่ได้การแล้ว

แต่ทันใดนั้นก็มีผู้ชายคนหนึ่งปรากฎตัวข้างๆ เด็กผู้หญิงคนนั้น

ปัง!

พร้อมกับกำปั้นกระแทกลงบนใบหน้าของชายที่กำลังกุมแขนของหญิงสาวอยู่ทันที

"ว้าว"

ชายคนนี้ลอยออกไปและตกลงบนพื้นที่ห่างไปสามสี่เมตร

ตูมตูมตูม!

ฮาร์ดี้ต่อยหมัดออกไปอีกสองสามหมัด เพื่อที่จะสู้กับพวกอันธพาลเหล่านี้

แล้วในที่สุดเขาก็มายืนอยู่ตรงหน้าของหญิงสาวทั้งสอง

ฮันเยจินมองไปที่ชายที่ปรากฏตรงหน้าเธอด้วยความประหลาดใจและพูดว่า "คุณ!"

"นี่มันสุภาพบุรุษจากร้านขายของเก่าเมื่อกี้ใช่ไหม?" อิริน่าตกใจ

พวกอันธพาลที่ลงไปนอนกับพื้นก็ลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว พวกมันรู้ดีว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายอีกแล้วถ้าจะไปยั่วยุชายตรงหน้า

"ถอย!"

หัวหน้าของอันธพาลตะโกนออกมา ทำให้พวกลูกน้องวิ่งเข้าซอยหายไปอย่างรวดเร็ว

ฮาร์ดี้ไม่ได้ตามไป

แม้ว่าอันธพาลพวกนี้จะไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาแต่เขาก็รู้ดีเกี่ยวกับพวกอันธพาลเหล่านี้ และเขาที่เป็นหัวหน้ามาเฟียไม่จำเป็นต้องลงมือด้วยตัวเอง

มันมีหลายทางที่จะจัดการกับพวกเขา

"อ่า...กระเป๋าของฉัน!"

อิริน่าอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมาในขณะที่พวกอันธพาลวิ่งหนีไป

แต่เธอก็ไม่กล้าไล่ตามไป

เธอทำได้แค่กระทืบเท้าอยู่กับที่

ฮาร์ดี้มองดูการกระทำของเธอ ซึ่งมันค่อนข้างตลกและน่ารัก

"เงินของฉันเดือนนี้ทั้งหมดอยู่ในกระเป๋าใบนั้น และยังมีเครื่องสำอางที่ฉันเพิ่งซื้อมาใหม่อีก!" อิริน่าอดรู้สึกเศร้าไม่ได้

ฮันเยจินก็รู้สึกเหมือนกับเธอเช่นกัน

"กิ๊บติดผมที่ฉันเพิ่งซื้อมาก็ถูกพวกมันฉกไปเหมือนกัน"

"ไอ้พวกนี้มันหัวขโมยสารเลว!" ในที่สุดอิริน่าก็อดร้องไห้ออกมาไม่ได้ เงินของเธอโดนขโมยไปและก็ไม่รู้ว่าเธอจะอยู่รอดได้ยังไงในเดือนนี้

ฮันเยจินมองไปที่ฮาร์ดี้ที่อยู่ข้างๆ "ขอบคุณนะคะ ที่ช่วยเราไว้เมื่อกี้"

"ผมทอม ฮาร์ดี้" ฮาร์ดี้บอกชื่อตัวเอง

"อ่า! ขอบคุณค่ะคุณฮาร์ดี้" ฮันเยจินกล่าวอีกครั้ง

"ได้เจอคุณเป็นครั้งที่สองแล้ว แต่ผมก็ยังไม่ทราบเลยว่าคุณชื่ออะไร?" ฮาร์ดี้ถาม

"ฉันชื่อฮันเยจินและรูมเมทของฉันชื่ออิริน่า" ฮันเยจินกล่าว

"แล้วพวกคุณเป็นอะไรหรือเปล่า?"

ฮาร์ดี้มองลงไปที่หญิงสาว หลังจากที่เขาได้เห็นเธอสู้กับอันธพาลเมื่อกี้แล้ว

ในความเป็นจริงเขาประหลาดใจอย่างมาก เพราะเขายืนมองเธอจากระยะไกลและก็ได้เห็นเธอใช้วิชากังฟูของจีนต่อสู้กับอันธพาลเหล่านั้น

"พวกเราปลอดภัยดี" ฮันเยจินตอบ

ในขณะที่อิริน่ากำลังร้องไห้เธอก็พูดว่า "แต่ตอนนี้ฉันไม่มีเงินแล้ว และเราจะกลับไปที่โรงเรียนได้ยังไง? เราจะได้กลับไปที่เซาเทิร์นหรือเปล่า?"

ฮันเยจินก็รู้สึกแย่เช่นกัน

ฮาร์ดี้มองไปที่เด็กผู้หญิงสองคนและพูดว่า "รถของฉันอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้ พวกเธอจะให้ฉันไปส่งไหม?"

"นี่จะสร้างปัญหาให้คุณหรือเปล่าค่ะ?" ฮันเยจินลังเล

อิริน่าลากเพื่อนของเธอและกระซิบเบาๆ "อย่าปฏิเสธสิ หรือเธอจะไม่อยากกลับไปที่นั้นเหรอ?"

ในความเป็นจริงเสียงของเธอไม่ได้เบาลงเลย และฮาร์ดี้ก็ได้ยินเต็มสองหู

ฮาร์ดี้รู้ว่าอิริน่าจงใจให้เขาได้ยิน และเขาก็คิดว่าเธอช่างเป็นผู้หญิงที่น่าสนใจจริงๆ

"ไปด้วยกันเถอะ มหาวิทยาลัยเซาเทิร์นใช่ไหม? เดียวผมจะไปส่งพวกคุณเอง"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด