(ฟรีตามปกติ) บทที่ 699 ละเมิดกฎของโรงเรียน?
คนที่เดินเข้ามานั้นเป็นผู้อํานวยการโรงเรียนจริงๆ นักเรียนหลายคนต่างกลัวเขาจากความเข้มงวดและความไร้เมตตาของเขา
ดวงตาที่แหลมคมกวาดไปทางหรงซื่อ เขาขมวดคิ้วแล้วพูดว่า "ใครทํางานที่บาร์?"
เมื่อเขาเห็นเขา คุณหนูถังเธอยกยิ้มริมฝีปากสีแดงขึ้นและพูดว่า "คุณเป็นผู้อํานวยการงั้นเหรอ? คุณมาทันเวลาพอดีเลย โอ้ ฉันไม่รู้ว่าโรงเรียนของคุณมีวินัยนักเรียนยังไง ในฐานะผู้เยาว์การไปทํางานในบาร์นี่ไม่ใช่ว่าเป็นการละเมิดกฎของโรงเรียนงั้นเหรอ?"
ผู้อํานวยการหันไปถามกับหรงซื่ออีกครั้ง “เธอพูดเรื่องจริงงั้นเหรอ? นายไปทำงานที่บาร์จริงๆ เหรอ??”
ก่อนที่หรงซื่อจะได้พูด คุณหนูถังก็เงยหน้าขึ้นและกล่าวเสริมว่า "ถ้าฉันโกหก ฉันเต็มใจที่จะรับผิดชอบทั้งหมด!"
“…” ใบหน้าของผู้อำนวยการมืดลง “แล้วเธอได้ทำงานที่บาร์จริงๆ งั้นเหรอ?”
เขาตําหนิทันทีว่า "หรงซื่อ! ในฐานะนักเรียนที่ถูกไล่ออกจากโรงเรียน เป็นเพราะเกรดการเรียนที่ดีของนายทำให้ฉันให้โอกาสนายเรียนที่นี่และยังมีทุนการศึกษาให้ แต่นายทําอะไร? ไปทำงานที่บาร์เหรอ? สถานที่แบบนั้นผู้เยาว์อย่างนายควรไปงั้นเหรอ?"
"ฉันคิดว่านายเป็นนักเรียนที่ดีที่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของโรงเรียน ฉันไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ ฉันคิดผิดเกี่ยวกับนายจริงๆ!"
แค่คุณหนูถังเปิดเผยว่าหรงซื่อทํางานในบาร์ซูจิ่วก็โกรธมากแล้ว และตอนนี้ผู้อํานวยการโรงเรียนยังเปิดเผยว่าเขาเคยถูกไล่ออกอีก ทำให้เธอยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก
เธอแทบรอไม่ไหวที่จะตบเขา!
"อะไรนะ? หรงซื่อโดนไล่ออกงั้นเหรอ?"
"โอ้พระเจ้า ทําไม? เขาทำผิดอะไรถึงถูกไล่ออก"
“ฉันพูดไปแล้ว ท่าทางบุคลิกที่เฉยเมยต่อทุกสิ่งของเขาน่าจะเป็นปัญหาทางจิต หรือบางทีเขาอาจจะเป็นโรคจิตก็ได้...”
นักเรียนทุกคนตกใจและการทกเถียงก็ทวีความรุนแรงขึ้น พวกเขาทั้งหมดเริ่มคาดเดาเกี่ยวกับสิ่งที่หรงซื่อเคยทํามาก่อนจนทำให้ถูกไล่ออก
ผู้อํานวยการจ้องมองหรงซื่ออย่างโกรธเคืองและสั่งว่า "นายตามฉันไปที่สํานักงาน! พฤติกรรมแบบนี้ของนายเป็นเรื่องที่ผิด และต้องได้รับการสั่งสอน!"
เช่นเดียวกับนักเรียนหลายๆคน พวกเขาไม่คิดว่าด้วยรูปลักษณ์ของหรงซื่อการไปทํางานในบาร์ไม่ใช่แค่การเป็นพนักงานเสิร์ฟเท่านั้น ไม่แน่เขาอาจจะไปไหนต่อไหนกับแขกผู้หญิงต่อก็ได้
การที่แขกผู้หญิงเหล่านั้นมาตามหาเขา เรื่องนี้จะต้องแพร่กระจายออกไป หลายคนรู้ดีว่ามันทำลายชื่อเสียงของโรงเรียนอย่างแน่นอน!
ผู้อํานวยการบอกว่าเขาทนไม่ได้ และหรงซื่อต้องได้รับการสั่งสอน
ซูจิ่วหยุดอยู่ตรงหน้าหรงซื่อ เธอพูดอย่างไม่พอใจว่า "คุณบอกให้ไปแล้วจำเป็นต้องไปเหรอ? ถ้าฉันบอกว่าไม่ให้ไป แล้วใครจะทำไม?"
เธอโกรธมาก ตอนนี้เธอได้สัมผัสกับสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตาจริงๆ เธอไม่รู้ว่าเป็นเพราะนิยายต้นฉบับเขียนชีวิตวายร้ายน้อยไว้แย่เกินไปหรือไม่ แม้ว่าเธอจะช่วยเขา แต่เขาก็ยังคงต้องผ่านเรื่องเลวร้ายมากมายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
บอกตามตรงเขาสามารถทนได้จนถึงตอนนี้ โดยไม่เป็นโรคจิตหรือกลายเป็นคนไม่ดีก็ดีมากแล้ว!
“เธอเป็นใคร? ผู้หญิงตัวเหม็นนี่เป็นใคร? เธอเป็นอะไร? เธอไม่ได้มาจากโรงเรียนของฉันนี่ การสั่งสอนนักเรียนของฉันเกี่ยวอะไรกับเธอ” ผู้อำนวยการพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน และในวินาทีถัดมาเขาก็ถูกกระชากคอเสื้ออย่างแรง
เขาตกตะลึงไปครูหนึ่ง ไม่ทันได้รู้ตัวว่าหรงซื่อยืนมายืนอยู่ตรงหน้าเขาตั้งแต่เมื่อไหร่
ชายหนุ่มจับคอเสื้อเขาแน่น ด้วยความสูงของเขาที่ได้เปรียบ เขามองลงมาอย่างดูถูกและสายตาที่เย็นชา
เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ลึกล้ำว่า "คุณเป็นใครถึงกล้าพูดว่าเธอ?"
ผู้อํานวยการ "!!"
นี่มันเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?
ทําไมถึงรู้สึกว่าหรงซื่อกำลังโกรธอย่างรุนแรง? มันราวกับว่าเขาจะถูกรัดคอจนตายในวินาทีถัดไป!
ซูจิ่วตกตะลึงเล็กน้อย ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะพูดอย่างไรเกี่ยวกับวายร้ายน้อยเขาก็ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ แต่ทว่าทันทีที่ผู้อำนวยการพูดถึงเธอเขาก็โจมตีอีกฝ่ายทันที!
เห็นได้ชัดว่าผู้อำนวยการไม่คิดว่าหรงซื่อจะทำแบบนี้ เขาพูดอย่างโกรธเคืองว่า "ดี! หรงซื่อ! นายรู้ไหมว่าตัวเองกำลังทำอะไร ปล่อย!"
หรงซื่อปล่อยคอเสื้อเขาอย่างเย็นชา ผู้อํานวยการเซเล็กน้อยและเกือบล้มลง
ตัวเองในฐานะผู้อํานวยการโรงเรียนถือเป็นความอัปยศขั้นสุดที่ถูกนักเรียนของตนคว้าคอเสื้อ สมควรที่จะถูกจับโยนออกไป!
เขายิ่งโมโหมากขึ้นและชี้ไปที่หรงซื่อแล้วพูดซ้ำว่า "นายตามฉันไปที่สำนักงานเดี๋ยวนี้! และโทรหาผู้ปกครองของนายมาด้วย ฉันต้องคุยกับพวกเขาเรื่องของนาย ไม่เช่นนั้นนายจะยิ่งทำผิดไปมากกว่านี้!"
หรงซื่อไม่มีการตอบสนองใดๆ แค่มองเขาอย่างเย็นชา
ด้วยท่าทางที่ไม่แยแสของเขาทำให้ผู้อำนวยการรู้สึกโกรธมาก "นายกล้าจ้องฉันงั้นเหรอ? ฉันพูดอะไรผิดงั้นเหรอ? รีบโทรหาพ่อแม่นายเดี๋ยวนี้!"
“พี่ชาย ไปกันเถอะ ไม่ต้องไปสนใจ” ซูจิ่วคว้ามือของหรงซื่อและพาเขากลับไปที่รถเข้าไปในรถด้วยกัน และปิดประตูรถกระแทกหน้าเหล่าสายตาที่น่ารําคาญเหล่านั้น
ผู้อํานวยการไม่คาดคิดว่าตัวเองจะถูกเพิกเฉยแบบนี้ เขาพูดถึงสองครั้งว่าให้หรงซื่อไปที่สํานักงานและเรียกพ่อแม่ของเขามาคุย แต่เขากลับจากไปแล้ว?
ดีมาก เขาคงอยากจะโดนไล่ออกอีกครั้ง
ถ้าเกรดดี แต่คนไม่ดีก็ไร้ประโยชน์!
ในเวลานี้มีรถธุรกิจหรูหราเรียบง่ายจอดอยู่บนถนน เชิ่งเทียนสื่อในชุดสูทสีดำหรูหรานั่งอยู่เบาะด้านหลังของรถ และมองดูภาพเหตุการณ์ที่ประตูโรงเรียนอย่างครุ่นคิด
ต้องบอกว่าเด็กคนนั้นและซ่งหว่านชิวกำลังมีปัญหาจริงๆ หลังจากก่อเรื่องใหญ่ขนาดนี้ คาดว่าเขาคงจะไม่สามารถอยู่ในโรงเรียนนั้นได้
เขาต้องการช่วยเหลือเขาจริงๆ แต่ไม่ต้องคิดอะไรมากก็รู้ว่าเด็กดื้อคนนั้นจะต้องปฏิเสธแน่นอน เขาไม่ต้องการพึ่งพาผู้อื่น
เชิ่งเทียนสื่อทำอะไรไม่ถูก
แต่ตอนนี้มีเสี่ยวจิ่วอยู่เคียงข้างเขา ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เสี่ยวจิ่วดีกับเขามากมาตลอด ตรงข้ามกับเชิ่งจื๋อเหยียนเด็กโง่นั้นไม่เคยได้รับการปฏิบัติเช่นนี้จากเธอเลย
ดูเหมือนว่า หลานชายโง่เง่าของเขาและเสี่ยวจิ่วอาจจะไม่มีวาสนาต่อกัน ถ้าเขารู้ว่าน้องสาวเสี่ยวจิ่วที่เขาห่วงนักหนาขณะอยู่ที่ต่างประเทศตลอดมีพี่ชายคนอื่นจะเสียใจแค่ไหนกันนะ?
…
เดิมทีคุณหนูถังคิดที่จะทำให้หรงซื่อยอมจำนนด้วยวิธีนี้ และขอร้องเธออย่าทําให้เป็นเรื่องใหญ่และปล่อยเขาไป แต่ดูเหมือนว่าเขาไม่สนใจเลย เพียงแค่เดินตามเด็กผู้หญิงตัวเหม็นนั้นออกไป
นอกจากนี้ เด็กผู้หญิงตัวเหม็นคนนั้นยังบอกว่าจะเล่นงานเธอ ต้องบอกว่ามันทำให้คนรู้สึกกังวลจริงๆ และไม่รู้เธอจะทำอะไร
มองดูเบนท์ลีย์ขับรถออกจากประตูโรงเรียนไป ทันใดนั้นคุณหนูถังก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อยเพราะคิดว่าตัวเองหุนหันพลันแล่นเกินไป แต่คำพูดนั้นได้พูดไปแล้วและไม่สามารถเอากลับคืนมาได้
เธอหวังว่าสาวน้อยจะไม่ทําอะไรสุดโต่ง!
หานซือเหย่นั่งอยู่ในรถ มองไปที่รถเบนท์ลีย์ตรงหน้าเขาโดยไม่ขยับ ความสับสนในหัวใจของเขาไม่สามารถสงบลงได้
เขาไม่คิดว่าเสี่ยวจิ่วจะมาที่นี่เพื่อมาหาผู้ชายคนอื่น
ไม่น่าแปลกใจที่เธอมักจะปฏิเสธเขาอยู่เสมอ กลับกลายเป็นว่าแท้จริงแล้วเธอมีผู้ชายที่ชอบอยู่แล้ว และเธอยังให้คนคนนั้นขึ้นรถและนั่งกับเธอ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองคนไม่ธรรมดา
ทันใดนั้นแววตาที่ปกติเย็นชาและเย่อหยิ่งของหานซือเหย่ก็หายไป กลายเป็นแววตาที่เต็มไปด้วยความอิจฉาและขมขื่น
ทําไมสิ่งที่เขาต้องการมาโดยตลอดคนอื่นถึงได้รับมันอย่างง่ายดาย?
บทที่ 700 มาเถอะ ยิ้มซะ!
เขาแอบรู้สึกอิจฉาหรงซื่อเล็กน้อย แต่ยังไงก็ตามเขาจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
เขาชอบเสี่ยวจิ่วมาตั้งแต่เด็กจะพูดว่ายอมแพ้ง่ายๆ ได้ยังไง? ตราบใดที่เธอยังไม่ได้แต่งงานกับผู้ชายคนอื่น เขาก็ยังคงมีโอกาส!
## ฝากทุกคนช่วยโปรโมทเสี่ยวจิ่วไปตามเส้นสายด้วยนะ ขอความช่วยเหลือคนรักเสี่ยวจิ่วทุกคน
เดี๋ยวนะ ไอ้เด็กผู้ชายตัวเหม็นนั่นชื่ออะไร หรงซื่อเหรอ?
เขาได้ยินมาว่าเด็กคนนั้นไปเรียนโรงเรียนทางตอนใต้ไกลโพ้นนู้นไม่ใช่เหรอ? แล้วมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?
หานซือเหย่ขมวดคิ้วเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ
ถ้าเป็นหรงซื่อจริงมันคงไม่ใช่เรื่องง่าย เสี่ยวจิ่วชอบอยู่กับเด็กคนนั้นตั้งแต่ยังเด็ก และยังคงเป็นเหมือนเดิมแม้จะโตแล้ว ไอ้เวรนั้นเอาซุป**ให้เธอกินเหรอ น่าขยะแขยงจริงๆ
…
บนรถหรงซื่อมีท่าทางเย็นชาและกรามเขาขบกันแน่น เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ทำให้เขาได้รับผลกระทบอย่างมาก
ประสบการณ์การทํางานในบาร์ไม่ดีอย่างที่คิด เขาไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้อีกแล้วใครจะคิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะมาที่โรงเรียนเพื่อตามหาเขา และพูดต่อหน้าผู้คนมากมายเกี่ยวกับการที่เขาทำงานในบาร์ ที่สําคัญกว่านั้นผู้อํานวยการยังได้เปิดเผยเรื่องที่เขาถูกไล่ออกจากโรงเรียนเก่าต่อสาธารณะชนอีก
นั่นคือสิ่งที่เขาไม่อยากพูดถึงอีก แต่มันกลับถูกเปิดโปงแบบนี้…
แม้ว่าเขาจะไม่ได้แสดงออกอะไรมาก แต่ซูจิ่วก็รู้ว่าตอนนี้หัวใจเขาคงจะอึดอัดมาก จึงรีบปลอบ "พี่ชาย อย่าโกรธเลย คนพวกนั้นไม่คุ้มที่จะโกรธ"
น้ำเสียงที่นุ่มนวลและแววตาที่ห่วงใจของเธอทำให้เขาสบายใจขึ้น หรงซื่อพยักหน้า “อืม ฉันจะไม่โกรธนาน”
เขาหมายถึงจะโกรธเพียงชั่วครู่งั้นเหรอ?
น่ารักจัง
ซูจิ่วทันใดนั้นก็หัวเราะขึ้นมา แทนที่จะพูดถึงหัวข้อนี้ต่อเธอถามเขาว่า "นายต้องการย้ายโรงเรียนไหม? ย้ายมาเรียนที่โรงเรียนฉันเป็นไง เพื่อที่เราจะได้ไปโรงเรียนด้วยกันทุกวันในอนาคต"
ย้ายโรงเรียน?
หรงซื่อสะดุ้ง เขาหลับตาลงแล้วพูดว่า "ค่าเทอมแพง"
ยิ่งไปกว่านั้น โรงเรียนของเขาอยู่ห่างจากเธอเพียงถนนเดียว จึงไม่น่าแปลกใจที่เรื่องราวของเขาจะไปถึงโรงเรียนของเธอ และเขายังเกี่ยวข้องกับเธออีก
ถ้ามีใครพูดถึงเขา ก็ต้องมีคนพูดถึงเธอด้วยแน่นอน
ซูจิ่วพูดอย่างไม่แยแสว่า "ฉันไม่ได้ให้บัตรเครดิตกับนายเหรอ? เงินข้างในนั้นฉันให้นายมันเพียงพอต่อค่าเทอมแน่นอน ใช้มันซ่ะ! แต่ว่านายอย่าลืมคืนเงินฉันด้วยในอนาคต"
หรงซื่อมองเธออย่างลึกซึ้ง เขาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า "ฉันขอโทษ"
"ขอโทษเรื่องอะไร" ซูจิ่วสงสัย
"ที่ต้องมาเหนื่อยเพราะฉัน"
“อะไรนะ นายไม่ได้รบกวนฉันเลยอย่ารู้สึกแย่กับมัน ตรงกันข้ามฉันที่สามารถช่วยนายพูดและระบายความโกรธแทนนาย ฉันรู้สึกมีความสุขมาก” ซูจิ่วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ในฐานะแม่ๆ แฟนคลับ การปกป้องลูและการต่อสู้เพื่อลูกเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจอย่างแน่นอน!
"พี่ชาย ลองมาที่โรงเรียนฉันไหม? อย่าไปสนใจสิ่งที่คนอื่นพูดเลย ในเมื่อเราไม่ได้เป็นแบบที่คนพวกนั้นพูดจริงไหม?"
คนขับรถที่อยู่ข้างหน้าอดไม่ได้ที่จะพูดแทรก "ใช่ ปากอยู่ที่คนอื่น สิ่งที่พวกเขาพูดแน่นอนว่าห้ามไม่ได้ ตราบใดที่คนใกล้ตัวนายเชื่อในตัวนาย คนอื่นก็ไม่ต้องไปสนใจเสียงพวกนั้นก็คิดว่าเป็นเสียงผายลม"
“ถูกต้อง พี่ชายอย่าโกรธเลย มาเถอะ ยิ้มซะ!” ซูจิ่วเอื้อมมือออกไปจับคางของหรงซื่อขึ้นมาในขณะที่เธอพูด เหมือนกับผู้ชายเลวที่กำลังลวนลามผู้หญิง
ในสายตาที่ความคาดหวังของเธอ หรงซื่อยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยแม้ว่ามันจะเล็กน้อย แต่แค่นี้ซูจิ่วก็พอใจแล้ว
…
รถแล่นไปจนสุดซอย ก่อนหรงซื่อลงจากรถซูจิ่วพูดด้วยรอยยิ้มว่า "พี่ชาย ตั้งแต่วินาทีที่นายลงจากรถไป นายต้องลืมเรื่องที่ไม่มีความสุขทั้งหมดไป กลับไปพักผ่อนและนอนหลับฝันดี!"