ตอนที่ 073 1,500 ล้านหมดในพริบตา
ไม่ถึง 5 นาที โบรกเกอร์ในห้องก็วางมือลง และมองกลับมาที่หวางหมันหยู
พวกเขาได้ซื้อหุ้นตามที่บอกเรียบร้อยแล้ว
"คุณซูคะ เราได้ซื้อตามที่คุณบอก 50 ล้านแล้วค่ะ"
หวางหมันหยูพูดด้วยร้อยยิ้ม
"โอเคครับ"
ซูแคนพยักหน้า
"ต่อไปจะซื้อตัวไหนอีกไหมคะ?"
หวางหมันหยูถามด้วยน้ำเสียงสงสัย
"ต่อไป 5 ตัวแรกซื้อตัวละ 60 ล้าน ส่วนที่เหลือซื้อตัวละ 50 ล้าน"
ซูแคนหยิบกระดาษและยื่นให้กับหวางหมันหยู
หวางหมันหยูหยิบขึ้นมาดู
"ได้ค่ะ"
เธอพยักหน้าด้วยความมั่นใจ และออกคำสั่งแก่คนของเธอทันที
เสียงแป้นพิมพ์ภายในดังก็ขึ้นมาอีกครั้ง
จางหม่านมองไปที่ซูแคนด้วยสายตาที่เป็นประกาย
อัศจรรย์มาก…
ในเวลาแค่ไม่กี่นาที เจ้านายได้ใช้เงินไปแล้วกว่า 300 ล้าน…
300 ล้านนะไม่ใช่ 3000
นี่เป็นการใช้เงินที่เร็ว และเยอะที่สุดเท่าที่จางหม่านเคยเห็น
หวางหมันหยูก็จัดการคนของเธอได้อย่างดี
เธอใช้เวลาไม่นาน หุ้นในพอร์ตของซูแคนก็เต็มไปด้วยหุ้นญี่ปุ่นที่ซูแคนเขียนออกมา
เงินจาก 2,000 ล้าน ตอนนี้ถูกใช้ไปแล้วกว่า 60%
"คุณซูคะ มีตัวไหนที่ต้องการซื้ออีกไหมคะ?"
หวางหมันหยูก็ยังคงถามซูแคนด้วยคำถามเดิม
"มีครับ"
ซูแคนพยักหน้าก่อนจะพูดว่า
"หุ้นตัวต่อจากนี้ไปเป็นการซื้อระยะสั้น ถ้ามีการเพิ่มขึ้นถึง 5% ให้ขายทันทีนะครับ"
"ได้ค่ะคุณซู"
หวางหมันหยูพูดความดีใจ
การขายซื้อด้วยเวลาอันสั้นนั้น มีประสิทธิภาพมากในการทำเงินในเวลาอันน้อยนิด หุ้นบางตัวหลังจากที่ซื้อแล้วมีการพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว แค่ขายต่อก็จะทำเงินให้ได้มหาศาลแล้ว
เช่นเดียวกันถ้าหุ้นตัวนั้นตก เงินก็จะหายไปอย่างรวดเร็ว
"หุ้นตัวที่จะซื้อระยะสั้น ซื้อแค่ตัวละ 20 ล้านเท่านั้น"
ซูแคนพูด
การเล่นระยะสั้นไม่ควรใส่เงินเยอะเกินไปในครั้งเดียว ไม่อย่างงั้นการขึ้นแค่ 5% มันจะยากเกินไป
หุ้นพวกนี้ถ้ามีเม็ดเงินไหลเข้าจำนวนมาก คนที่ถือหุ้นอยู่จะรีบขายทันที และอัตราแลกเปลี่ยนของหุ้นจะชะงักไปทันที
นั่นแหละคือสาเหตุที่อาจจะขาดทุนได้ในการเล่นหุ้นระยะสั้น
ซูแคนจดหุ้นลงในกระดาษก่อนจะยื่นให้กับหวางหมันหยู
หวางหมันหยูรีบดำเนินการจัดการซื้อหุ้นในกระดาษทันที
ไม่นานหวางหมันหยูจะถามด้วยน้ำเสียงสงสัย
"คุณซูคะ มีหุ้นบางตัวสูงเกิน 5% แล้ว เราควรรอก่อนไหมคะ?"
"ขายเลยครับ"
ซูแคนส่ายหัวและพูดอย่างหนักแน่น
หวางหมันหยูแปลกใจ เธอมองไปที่หน้าจอ และเห็นว่าหุ้นกำลังพุ่งขึ้นสูงมาก
แถมยังไม่มีแนวโน้มที่จะลงเลยแม้แต่น้อย
"เฮ้อ!!"
หวางหมันหยูถอนหายใจ เธอรู้สึกไม่ดีเลยที่จะขายหุ้นที่กำลังขึ้นได้อย่างนี้
เป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างมาก
แต่เธอก็ไม่มีตัวเลือกมาก
ไม่นานหวางหมันหยูก็จัดการบอกคนของเธอให้ขายหุ้นตัวที่ได้กำไรแล้ว 5%
หุ้นหลายตัวถูกขายในขณะที่กำลังพุ่งขึ้นประมาณ 5 % ด้วยเหตุนี้หุ้นพวกนี้ได้ทำเงินให้ซูแคนแล้วหลายล้าน
ซูแคนพอใจมากที่เห็นกำไรที่ได้
แต่เงินที่ได้ก็ยังเป็นจำนวนไม่เยอะ ถ้าเทียบกับเงินลงทุน 2,000 ล้าน มันยากกว่าจัดการด้วยเงิน 15 ล้านราวฟ้ากับเหว
แถมตอนนั้นซูแคนจำหุ้นที่กำลังจะพุ่งขึ้นได้ เขาเลยสามารถทำเงินได้อย่างมหาศาล
ซูแคนยังจดหุ้นละยื่นให้กับหวางหมันหยูเพื่อซื้อหุ้น และขายระยะสั้นอยู่เรื่อยๆ
ทางด้านหวางหมันหยูเธอก็ใช้ภาษาอังกฤษที่เชี่ยวชาญสั่งการโบรกเกอร์อย่างรวดเร็ว คนพวกนี้บางคนมีหน้าเหมือนเป็นลูกครึ่งบ้าง บางคนก็ดูเหมือนเป็นต่างชาติ
แต่ส่วนใหญ่แล้วพวกเขาทุกคนจะใช้ภาษาอังกฤษได้หมด
เวลาผ่านไปสักพักใหญ่
"คุณซูคะ ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดแล้วค่ะ"
หวางหมันหยูเตือนซูแคน
"โอเคครับ ผู้จัดการหวางครับ หุ้นญี่ปุ่นถ้าได้กำไร 5% แล้วให้รีบขายทันทีเลยนะครับ ผมจะย้ายมาหุ้นในฮ่องกงแล้ว"
ซูแคนพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
จากนั้นซูแคนก็มองดูที่หุ้นฮองกง 2-3 ตัวก่อนจะจดลงในกระดาษ และยื่นให้หวางหมันหยู
หวางหมันหยูรับกระดาษเธออึ้งสักพักก่อนจะสั่งคนของเธอ
หุ้นฮ่องกงซูแคนซื้อเป็นจำนวนไม่เยอะ บางตัวก็จะขายอย่างรวดเร็ว บางตัวต้องรอถึงครึ่งเดือนถึงจะขายได้
บางทีถ้าเอาเงินลงที่หุ้นฮ่องกงมากเกินไป มันอาจจะทำให้ตลาดหุ้นฮ่องกงชะงัก
แล้วหุ้นตัวที่ซูแคนซื้อก็อาจขาดทุนได้
ถ้าอย่างงั้น ก็ต้องลงเพิ่มจากที่อื่นอีก
ซูแคนคิดเสร็จ เขาก็เขียนหุ้นเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ แล้วยื่นให้กับหวางหมันหยู
หวางหมันหยูก็รีบจัดการซื้อให้กับซูแคน
จางหม่านมองมาที่ซูแคนแล้วอ้าปากเล็กน้อย
"นี่มัน…"
เธอมองดูหน้าจอแสดงพอร์ตหุ้นของซูแคน
จากเงิน 2,000 ล้าน ไม่กี่ชั่วโมงตอนนี้เหลืออยู่ 500 ล้านแล้ว
พระเจ้า…ซื้อหุ้นด้วยเงิน 1,500 ล้าน
จางหม่านจองไปที่หน้าจอก็พบหุ้นเกือบทุกตัวเป็นสีเขียวที่กำลังขึ้น
แต่ไม่มีตัวไหนเลยที่กำไรเกิน 5%