Ep.224 - พลังของโพชั่นมนตรา

2/3

Ep.224 - พลังของโพชั่นมนตรา

มอนสเตอร์จะแข็งแกร่งหรืออ่อนแอ

ไม่ควรตัดสิดจากรูปลักษณ์ภายนอก

ความจริงที่ว่าโนมส์นักกลั่นโพชั่นมนตราเป็นชนชั้นเจ้าถิ่นขั้นซิลเวอร์เลเวล 7 ก็เพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นว่ามอนสเตอร์ตัวนี้มีพลังมหาศาล และแน่นอนว่ามันไม่ใช่ตัวตนที่ใครๆจะจัดการได้เพียงลำพัง

ส่วนเหตุผลที่ฮังอวี่สามารถจัดการเจ้าถิ่นขั้นบรอนซ์อย่างภูติปีศาจการ์กอยล์หินได้

แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะฝีมือของเขาเพียงอย่างเดียว

หากในตอนนั้นไม่มีอัศวินอันเดธเลเวล 8 คอยรับการโจมตี และฮังอวี่ไม่ได้รับการเติมเลือดจากเจียงหนาน เขาไม่มีทางสู้มันได้

ฉะนั้น หากคิดกำจัดเจ้าหมอนี่

สิ่งที่ต้องทำคือร่วมแรงร่วมใจกันเท่านั้น!

บอสที่เกิดในที่หลบภัยของโนมส์จะมีอัตราการเกิดที่ตายตัว โดยทั่วไปแล้ว โอกาสที่เกิด ‘โนมส์นักกลั่นศาสตร์เหนี่ยวนำมนตรา’ จะสูงกว่า และโอกาสที่เกิด ‘โนมส์นักกลั่นโพชั่นมนตรา’ จะน้อยกว่า

ฝ่ายแรกค่อนข้างง่าย

แต่ฝ่ายหลังยากกว่ามาก

ไม่คาดคิดเลยว่าจะได้พบกับตัวตนที่ยุ่งยากแบบนี้

ฮังอวี่ลดเสียงลง พูดกับทุกคนว่า “โนมส์นักกลั่นโพชั่นมนตราน่ะพิเศษมาก มันสามารถใช้โพชั่นมนตราแปลงร่างเป็นมอนสเตอร์ 3 ชนิด ซึ่งสถานะ พลังรบ และรูปแบบการต่อสู้ของแต่ละตัวจะไม่เหมือนกันเลย”

ฉูเทียนหัวเอ่ยถาม “แล้วสถานะที่ว่า มีสถานะอะไรบ้าง”

“นั่นแหละจุดที่ยากที่สุด” ฮังอวี่ขมวดคิวและพูดว่า “โนมส์นักกลั่นโพชั่นมนตราสามารถกลั่นโพชั่นมนตราได้หลายประเภท ซึ่งสามประเภทที่มันกลั่นตอนสู้จะเป็นแบบสุ่ม ดังนั้นยากที่จะทำนายล่วงหน้า พวกเราจะปรับรูปแบบการต่อสู้ได้ก็ในตอนที่เห็นร่างใหม่ของศัตรูแล้วเท่านั้น”

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฮังอวี่มักมีข้อมูลในหัวอยู่เสมอ

เขาจะลงมือภายใต้สถานการณ์ที่ข้อมูลแน่นอน

กระนั้น มอนสเตอร์ตัวนี้กลับเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ทำให้เขาไม่สามารถคิดกลยุทธ์รับมือได้ อย่างไรก็ตาม มอนสเตอร์ตัวนี้ต้องถูกฆ่า มิฉะนั้นการสำรวจสถานที่นี้ก็จะไร้ความหมาย

ไม่ต้องเสียเวลาอีกต่อไป

เริ่มการต่อสู้กันเลย

พลังรบของทีมๆนี้ไว้ใจได้!

“เหล่าจ้าว รบกวนคุณไปทดสอบโพชั่นมนตราขวดแรกของมัน”

“ฉินมู่ อย่ารีบใช้สกิลใบ้ รอคำสั่งจากฉัน”

โล่เสริมแกร่ง！

รัศมีกบฏ!

เกราะเหล็กศักดิ์สิทธิ์！

เอฟเฟกต์สกิลสามแบบเปิดใช้งานพร้อมกัน

จ้าวหมิงเตรียมตัวเข้าสู้ในสภาพพร้อมรบที่สุด

โนมส์นักกลั่นโพชั่นมนตรารู้สึกว่ามีคนเดินเข้ามา มันหันขวับทันที สีหน้าบิดเบี้ยวของมัน ผมบางๆ ใบหน้าเหี่ยวย่น และดวงตาแดงก่ำดูคลุ้มคลั่งเป็นอย่างยิ่ง มันรีบฉีดหลอดโพชั่นเข้าที่คอตัวเองทันที

ไม่กี่วินาทีต่อมา

พลันเกิดการเปลี่ยนแปลงอันน่าตื่นตกใจขึ้น

โนมส์นักกลั่นโพชั่นมนตราที่เดิมสูงเพียง 140 ซม. สภาพร่างกายที่เดิมหลังค่อมและอ่อนแอ ในขณะนี้คล้ายพองตัวขึ้น ร่างกายขยับขยายใหญ่โตอย่างบ้าคลั่ง กลายเป็นยักษ์สูง 350 ซม.

“โอเกอร์!”

ฮังอวี่สามารถระบุมอนสเตอร์ที่โนมส์นักกลั่นแปลงร่างได้ทันที

เจ้าหมอนี่ไม่เพียงสูง 350 ซม. แต่ยังมีผิวหนังหยาบสีเขียวทั่วตัว ใบหน้าน่าเกลียดดุร้าย เขียวหนาสองเขี้ยวงอกออกมาจากปากเหมือนหมูป่า และถือกระบองเขี้ยวหมาป่าเอาไว้ในมือ

ฮังอวี่สั่งการอย่างรวดเร็ว

“โอเกอร์เป็นมอนสเตอร์ที่มีพลังโจมตีสูง”

“แต่การมันเคลื่อนไหวค่อนข้างช้า”

“เจียงหนานคอยเติมเลือดให้เหล่าจ้าว”

“เหล่าฉูอย่าโจมตีจากด้านหน้า ไม่อย่างนั้นคุณอาจถูกมันฟาดตายในวินาทีเดียว พยายามอ้อมไปโจมตีด้านหลัง เฉินหยูกับเสี่ยวเฉียงรักษาระยะห่าง 15 เมตร คอยโจมตีด้วยเวทมนตร์ และคอยระวังการโจมตีสกิลสกิลคลื่นปฐพี”

“บุกได้!”

กระบองเขี้ยวหมาป่าของโอเกอร์เหวี่ยงโค้งเป็นแนวนอน มันเต็มไปด้วยพละกำลัง เมื่อปะทะกับโล่ยักษ์ผู้พิทักษ์ เกิดการระเบิดรุนแรง เกราะเหล็กศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวหมิงแตกสลายทันที

พละกำลังมหาศาลผลักดันเหล่าจ้าวถอยครูดไปหลายเมตร

โอเกอร์ทุบพื้นด้วยกระบองในมือ พื้นดินแตกเป็นเสี่ยงๆ คลื่นพลังงานโหมกระหน่ำออกไปทุกทิศทาง กระแทกลงบนโล่อีกครั้ง

-15!

จ้าวหมิงได้รับดาเมจจำนวนมาก

โอเกอร์ย่างสามขุม ยกกระบองเขี้ยวหมาป่าอีกครั้ง อาวุธของมันสว่างวาบอย่างรวดเร็ว พลังงานอันเหลือล้นที่กลั่นออกมาทำให้อากาศโดยรอบบิดเบี้ยว บ่งบอกชัดว่ารุนแรงกว่าการโจมตีสองครั้งก่อนหน้านี้

ตะบันเพลิงคลั่ง!

สกิลโจมตีอันทรงพลังกำลังถูกปลดปล่อย

“ตอนนี้แหละฉินมู่!”

“วาจาต้องห้าม!”

ฉินมู่เตรียมพร้อมอยู่นานแล้ว

โอเกอร์ถูกใบ้ผนึกการใช้งานสกิล

เจ้าหมอนี่แข็งแกร่งเกินไป สถานะต้านทานความผิดปกติก็สูงมาก

เอฟเฟกต์ใบ้ของฉินมู่สามารถคงอยู่ได้ไม่ถึง 1 วินาที

อย่างไรก็ตาม นั่นมากพอแล้วที่จะหยุดสกิลโจมตีอันทรงพลังของมัน

เจียงหนานใช้โอกาสนี้เปิดใช้งานสกิลรักษา

พลังชีวิตที่หายไปของจ้าวหมิงถูกดึงกลับมาทันที

ความสามารถในการรักษาของเจียงหนานนั้นทรงพลังที่สุดในสามค่าย!

ความมั่นใจของเหล่าจ้าวเพิ่มขึ้นอย่างมาก เขาเปิดสกิลโล่กระแทกสวนทันที พุ่งเข้าใส่โอเกอร์ ขวางหน้ามันอีกครั้ง ไม่ปล่อยให้มีโอกาสเข้าไปโจมตีคนอื่นๆ ขณะเดียวกันปลดปล่อย ‘พลรบคำราม’ เพื่อหวังให้มันติดสถานะมึนงง

ทว่าเอฟเฟกต์ที่แสดงออกมาแทบไม่มีผล

โอเกอร์ตกอยู่ในภวังค์เพียงเสี้ยววินาที

มันก็ได้สติกลับมา

กระบองเขี้ยวหมาป่าฟาดด้วยการโจมตีปกติ เดิมตั้งใจจะตีหัวของจ้าวหมิง แต่ก็ถูกโล่ยักษ์ขวางไว้ ทว่าก็ยังสร้างดาเมจประมาณ 10 หน่วยให้แก่เขา

พลังโจมตีของเจ้าหมอนี่ร้ายกาจเกินไป!

ขนาดโจมตีธรรมดายังรุนแรง!

โชคดีที่ระยะเวลาคูลดาวน์ของเจียงหนานสั้นมาก

สกิลรักษาร่ายลงบนตัวจ้าวหมิง เติมเต็มเลือดที่เสียไป

จากนั้น ประกายสายฟ้าและเปลวเพลิงถูกปลดปล่อยอกมา ระเบิดลงกลางหัวโอเกอร์ บังคับให้มันถอยหลังไปครึ่งก้าว ต่อมา หอกก้างปลาพุ่งตามไปติดๆ ปักเข้าตาอย่างแม่นยำ

ต่อให้เป็นโอเกอร์ที่ดุร้ายและทรงพลัง

ณ ขณะนี้ยังคงได้รับผลกระทบอย่างมาก

ฮังอวี่ ฉูเทียนหัว หวังเอ๋อ ทั้งสามกรูเข้าไปพร้อมกัน

ในบรรดาพวกเขา ฮังอวี่บุกเข้าโจมตีโอเกอร์จากเบื้องหน้า ขณะที่ฉูเทียนหัวและหวังเอ๋อในสภาพแปลงร่างอ้อมตัวมันไปโจมตีพร้อมกันจากเบื้องหลัง

ฮังอวี่เป็นคนที่เร็วที่สุด เขาย่ำเท้าอย่างแรง สยายปีกหินคู่หนึ่ง พุ่งเป็นเส้นแสงสายฟ้าสีเทา โฉบเลียบกับพื้นดิน ก่อฝุ่นก้อนใหญ่ พุ่งกระหน่ำด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง

ปะทะเดือด!

โจมตีกลางอากาศ!

บุกจู่โจมในจังหวะที่ศัตรูยังไม่ทันตอบสนอง!

ฮังอวี่แทงเข้าที่ตาอีกข้างของโอเกอร์

ด้วยวิธีนี้ จะช่วยให้โอเกอร์ตาบอดเป็นช่วงเวลาสั้นๆ

เมื่อบรรลุเป้าหมายแล้ว ฮังอวี่กระพือปีกหินของเขา ลอยสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อหลบเลี่ยงการตอบโต้กลับ

กระบองเขี้ยวหมาป่าหวดไม่โดนตัวเขา

ทว่าลมกรรโชกที่เกิดขึ้นจากมันกวาดเข้าเต็มหน้าฮังอวี่

สร้างดาเมจ 8 หน่วยในทันที และส่งเขาปลิวขึ้นไปในอากาศ

จ้าวหมิงรีบกระโดดขึ้นใช้โล่จู่โจมฟาดเข้าที่ใบหน้าของโอเกอร์ จากนั้นฉูเทียนหัวก็เริ่มเปิดการโจมตีด้วยรวมปราณสะบั้นเพื่อสร้างความเสียหาย และปล่อยคอมโบตามไปติดๆ

เฉือนพริบตา ,  เฉือนสามครั้งต่อเนื่อง , เฉือนลมกรด！

เมื่อสามสกิลถูกใช้หมดสิ้น

เขาถีบตัวถอยหลังทันที

หวังเอ๋อในสภาพหมาป่าทมิฬกระโจนเข้าขย้ำคอโอเกอร์

เจ้าหมาที่มีฟันแหลมคมสามารถเคี้ยวเหล็กได้เหมือนมั่นฝรั่งทอดกรอบ กลับไม่สามารถฝังเขี้ยวลงบนผิวหนังของโอเกอร์ได้

ต้องรับมือกับศัตรูจากเบื้องหน้าและเบื้องหลัง

รับมือจากการโจมตีทั้งใกล้และไกล

โอเกอร์เริ่มตื่นตระหนก

มันถูกจ้าวหมิงคอยสกัดครั้งแล้วครั้งเล่าจากข้างหน้า

ระหว่างนั้น ฉูเทียนหัวและหวังเอ๋อคอยตอดจากข้างหลัง ส่งผลให้เป็นการยากหากคิดล็อคเป้าศัตรู

แม้โอเกอร์จะมีสกิลโจมตีระยะไกล

แต่ทุกครั้งที่มันกำลังร่ายสกิลเตรียมเปิดใช้งานก็จะถูกขัดจังหวะโดยสกิลใบ้ของฉินมู่ ไม่ก็ศรจู่โจมของฮังอวี่

“มันกำลังจะตาย!”

โอเกอร์ตนนี้พลังรบไม่ค่อยแข็งแกร่งนัก

น่าจะเทียบได้กับระดับเจ้าถิ่นธรรมดา

เมื่อเทียบกับภูติปีศาจการ์กอยล์หินแล้วยังห่างชั้นกันมาก หากทั้งหมดนี้คือความสามารถของโนมส์นักกลั่นโพชั่นมนตรา มันไม่สมควรมีระดับเจ้าถิ่นขั้นซิลเวอร์ด้วยประการทั้งปวง

แต่ใครจะรู้

ว่าในช่วงเวลานั้นเอง

ทั้งตนทั้งร่างของโอเกอร์พลันสว่างวาบ

ร่างของมันหดเล็กลงอย่างรวดเร็ว กลับมาเป็นโนมส์ผอมแห้งดังเดิม

“ระวังให้ดี!”

“มันกำลังจะใช้โพชั่นมนตราขวดที่สอง!”

ฮังอวี่เตือนทุกคน ขณะเดียวกัน มือของเขาไม่ได้อยู่นิ่ง ภายใต้สถานะคลุ้มคลั่งกระหายเลือด เขาเปิดใช้งานสกิลโจมตีต่อเนื่องทันที

ในสายตาคนอื่นๆ เห็นแค่เพียงข้อมือขยับไหว

หอกก้างปลา 4 -5 เล่มปักลงบนร่างโนมส์

สร้างดาเมจประมาณ 30 หน่วยสนในพริบตา

คนอื่นๆพบว่าเมื่อโนมส์นักกลั่นโพชั่นมนตราอยู่ในสถานะโนมส์ คุณสมบัติรอบด้านของมันลดลง การป้องกันเองก็ไม่สูงนัก

นี่คือโอกาสโจมตีที่ดี!

อย่างไรก็ตาม ไม่รอให้คนอื่นลงมือ

โพชั่นมนตราหลอดที่สองถูกฉีดเข้าไป ร่างกายของโนมส์พองขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ไม่สูงหรือกำยำเหมือนร่างก่อน ขยายใหญ่ขึ้นแค่ 200 ซม.

ดวงตาของมันกลายเป็นสีเขียวแวววาว ทั้งร่างปกคลุมไปด้วยขนสีเงินหนา เล็บงอกขึ้นอย่างรวดเร็ว ราวกับมีดอันแหลมคม

แม้จะยังไม่แปลงร่างเต็มตัว

แต่ฮังอวี่ก็สามารถระบุตัวตนของอีกฝ่ายได้ทันที

“แย่แล้ว!”

“นั่นมันมนุษย์หมาป่าลมกรด!”

“เหล่าจ้าวถอยออกมาปกป้องคนอื่นๆ เหล่าฉูกับหวังเอ๋อรีบหลบไป!”