ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 2: ตันเถียนของข้า... คือดาวโลก

บทที่ 1: คุณชายสิบสอง เย่เซิง


ณ หวางฝู่ (วังเจ้านาย) ตระกูลเย่  แม้ว่าจะเป็นเวลากลางคืนแต่แสงไฟยังคงสว่างไสว  คนรับใช้ในบ้านหลายคนมารวมตัวกันที่ลานบ้านอันมีสภาพทรุดโทรม

“เจ้าคิดว่าคุณชายสิบสองจะฟื้นหรือไม่?”

“ข้าไม่รู้หรอก  คุณชายสิบสามทุบตีท่านแรงเกินไปแล้ว  ถึงท่านจะไม่ชอบขี้หน้าคุณชายสิบสองถึงเพียงใดก็ตาม  แต่ก็ไม่ควรหนักมือถือขนาดนี้”

“ฮึ!  คุณชายสิบสองก็ช่างไร้ความสามารถนัก  แค่หมัดเดียวของคุณชายสิบสามก็ยังมิอาจรับไหว  แล้วจะให้โทษใครได้อีกเล่าหือ?”

“แม้ว่าคุณชายสิบสองจะมีชื่อเสียงไม่ดีในหวางฝู่แห่งนี้  แต่ท่านก็ยังเป็นถึงบุตรชายของนายท่านเย่ซึ่งมีสถานะสูงส่งกว่าเจ้านัก  เจ้ายังจะกล้านิทาว่าร้ายท่านเช่นนี้อีกหรือ?  ถ้าเกิดพ่อบ้านจับได้ขึ้นมาระวังแม้แต่ชีวิตเจ้าก็ยังมิอาจรักษาไว้ได้”

“ฮึ!  คุณชายสิบสามท่านเป็นถึงอันดับหนึ่งในการบำเพ็ญเพียร  แต่คุณชายสิบสองเป็นอันดับหนึ่งในหมู่ขยะ  ช่างไร้สาระจริง ๆ”

“แต่คุณชายสิบสองจะตายไม่ได้เด็ดขาด  เพราะหากท่านตายจริง ๆ ล่ะก็  นอกจากคุณชายสิบสามจะเสียชื่อเสียงเนื่องจากเป็นฆาตกรสังหารพี่น้องแล้ว  ต่อให้หลังจากนี้ไม่ถูกลงโทษอย่างรุนแรงแต่ก็ไม่มีใครในต้าฉินยอมรับท่านได้อีกต่อไป  ความหวังที่จะเข้ารับราชการในด้านการเมืองเป็นอันจบสิ้น”

บรรดาคนใช้ในบ้านต่างพากันซุบซิบถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น  และแน่นอนว่าไม่มีใครในหมู่พวกมันอยากให้คุณชายสิบสองตาย  แต่ที่พวกมันคิดอย่างนั้นไม่ใช่เพราะว่าพวกมันเป็นห่วงสุขภาพของเขา  แต่เป็นเพราะพวกมันห่วงอนาคตของคุณชายสิบสามต่างหาก

ในลานกว้างที่ตกแต่งอย่างหรูหราโอ่อ่าที่อยู่ติดกัน  ชายหนุ่มที่ถูกเรียกว่าคุณชายสิบสามขมวดคิ้วมุ่นด้วยสีหน้าไม่พอใจ “ไอ้สารเลวนั่นมันช่างชาติชั่วยิ่ง  ข้าแค่ต่อยมันเบา ๆ เพียงหมัดเดียวก็หลับเป็นตายไปแล้ว  แบบนั้นมันจงใจแกล้งทำใช่หรือไม่?”

“เจ้าคนไร้สมอง!  เจ้าขยะสิบสองนั่นมันเป็นขยะมาทั้งชีวิตของมันแล้วแท้ ๆ และในบ้านนี้ก็มีไอ้พวกขยะมากมายเหลือจะนับไหว  มันก็แค่ขยะอีกชิ้นเท่านั้น  แล้วไฉนเจ้าถึงได้โง่เง่านัก  แค่ปล่อยมันไว้เฉย ๆ ก็พอแล้ว  ยังจะไปยุ่งกับมันให้มันได้อะไรขึ้นมากันเล่า?  ต่อให้มันจะน่ารังเกียจเพราะว่าแม่มันมีภูมิหลังไม่ดีสักเพียงใด  แต่ตัวมันก็ยังคงเป็นบุตรชายของนายท่านอยู่ดี  ถ้าเจ้าลงมือทุบตีมันตายล่ะก็ชื่อเสียงของเจ้าเล่า  มันจะพินาศสิ้นไม่มีเหลือ  ถึงตอนนั้นจะให้ทำอย่างไร” หญิงสาวหน้าสวยตำหนิมันด้วยความโกรธเคือง  ใบหน้าสวย ๆ ของนางปรากฏความกังวลอย่างเห็นได้ชัด

“ท่านแม่  ท่านต้องช่วยข้านะ  ข้าทราบดีว่าข้าทำผิด  ท่านต้องหาหมอเก่ง ๆ มารักษาไอ้ขยะสิบสองให้ข้านะท่านแม่  แล้วข้าสัญญาว่าจะไม่ไปยุ่งกับมันอีกต่อไปแล้ว” ไอ้คุณชายสิบสามที่ได้ยินแม่มันด่าก็เกิดตื่นตระหนกขึ้นมา  ตอนนี้มันพึ่งจะมีสตินึกถึงอนาคตของตัวเองออก

“จักรวรรดิต้าฉินสถาปนาขึ้นมาได้หกสิบปีแล้ว  ประเทศต้องใช้กฎหมายในการปกครอง  ครอบครัวต้องใช้ความกตัญญู  พ่อของเจ้านั้นชื่อเสียงเลื่องลือระบือไกลในนามเย่หวางเหย่ (ราชันปู่เย่) ผู้ยิ่งใหญ่  เป็นแม่ทัพของกองทัพที่มีพลังอำนาจและอิทธิพลมหาศาล  แต่ท่านก็มีศัตรูมากมายนับไม่ถ้วนด้วยเช่นกัน  หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปและเจ้าหน้าที่ที่ไม่ถูกกับพ่อเจ้ารับทราบล่ะก็  เจ้าจะต้องตกเป็นเป้าหมายของพวกมันเป็นแน่แท้  และเมื่อถึงตอนนั้นต่อให้ตระกูลจะพูดแก้ต่างให้เจ้าสักเพียงใดเจ้าก็ไม่อาจหลีกหนีความผิดพ้นได้อยู่ดี  สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือเราต้องทำให้แน่ใจว่าไอ้ตัวบัดซบมันยังไม่ตาย  ตราบใดที่มันยังมีลมหายใจอยู่ความผิดที่เจ้าต้องรับก็จะลดหย่อนผ่อนโทษลงไปด้วย  เพราะอย่างไรการทำร้ายพี่น้องกับการสังหารมันก็คนละเรื่องกันเลย” หญิงสาวคนสวยกล่าวด้วยแววตาที่แสนจะส่องประกายเย็นชา

“ข้าได้ให้คนไปหาดอกบัวหิมะเทียนซาน (ภูเขานภา/ท้องฟ้า/สวรรค์) มาให้แล้ว  สมุนไพรชนิดนี้สามารถช่วยชีวิตคนได้  ดังนั้นข้าค่อนข้างมั่นใจว่าไอ้ตัวสารเลวนั่นมันจะรอดชีวิต” หญิงสาวกล่าวพลางถอนหายใจและมองดูใบหน้ากังวลของลูกชายตนเอง

“อะไรนะ?  บัวหิมะเทียนซาน?  นั่นเป็นสิ่งที่ข้าต้องใช้เพื่อเลื่อนเป็นระดับเซียนเทียน (ก่อนฟ้า) ไม่ใช่หรือท่านแม่?” ไอ้คุณชายสิบสามไม่เต็มใจที่จะเอาของดีแบบนั้นให้พี่ชายมัน

“เจ้าตัวบัดซบ!  ถ้าเจ้าควบคุมอารมณ์ได้เจ้าคิดว่าแม่เจ้าจะต้องเอาดอกบัวหิมะแห่งภูเขาเทียนนั่นไปให้มันไหมเล่า?” นังหญิงสาวก็ไม่อยากให้ของไปเหมือนกันเลยสวดลูกชายตนไปอีกบทหนึ่ง

ไอ้คุณชายสิบสามได้แต่เม้มริมฝีปากและทำหน้างอ  มันเกลียดชังเจ้าสิบสองเข้ากระดูกดำชนิดไม่ยอมเผาผี “แล้วทำไมเจ้าถึงได้กระจอกนักเล่า?  แค่หมัดเดียวบาดเจ็บก็พอแล้ว  ยังจะมาตายให้ข้าต้องเดือดร้อนอีก”

...

ในหัวของเย่เซิงรู้สึกสับสนไปหมกและเขาก็ยังเจ็บปวดไปทั้งตัวด้วย  เขารู้สึกราวกับว่าเขาถูกเผาทั้งเป็นด้วยเปลวไฟที่ลุกท่วมโหมกระหน่ำ

จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงมากมายรอบ ๆ ตัว  แต่ก็ไม่ชัดเจนนัก  และมันทำให้เขารู้สึกค่อนข้างกังวลอยู่ภายในใจ

“เกิดอะไรขึ้น?”

“เราน่าจะอยู่ที่ทำงานนี่หว่า  ใช่มั้ย?  เออ  ตอนนี้เราควรจะทำงานอยู่สิ  แล้วนี่มันเกิดเรื่องบ้าไรกันวะ?”

“หรือว่าเราจะตายเพราะหัวใจหยุดเต้นกะทันหันในที่ทำงาน…?”

“เกิดอะไรขึ้นว้า?  แล้วนี่เราหยุ...  เชรี่ยเอ๊ยยยยย!!”

เย่เซิงเริ่มครุ่นคิดอย่างบ้าคลั่ง  เขาสับสนมากไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร  แต่จู่ ๆ ก็ได้มีมือคู่ใหญ่มาง้างปากของเขาออก  จากนั้นของเหลวที่เย็นจัดซึ่งเต็มไปด้วยพลังงานก็เหมือนจะถูกเทลงในมาปากของเขา  เย่เซิงสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่แผ่ซ่านจากปากไปยังลำคอต่อไปยังท้อง  และสุดท้ายพลังงานนั้นก็ได้แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายในเวลาอันสั้น  มันได้ทำให้ความเจ็บปวดทั่วทั้งร่างกายค่อย ๆ ทุเลาและหยุดลงโดยสมบูรณ์ในที่สุด

เขาลืมตาขึ้นมาด้วยความสับสนและเห็นชายชราผมหงอกที่มีริ้วรอยเหี่ยวย่นคนหนึ่ง

ชายชราถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อเห็นเย่เซิงฟื้นคืนสติและกล่าวว่า “ชีวิตของคุณชายสิบสองปลอดภัยแล้ว  ผลของดอกบัวหิมะแห่งเทียนซานช่างทรงพลังมากจริง ๆ”

ทันทีที่ทุกคนได้ยินว่าชีวิตของเย่เซิงพ้นขีดอันตราย  ทุกคนข้างนอกก็เริ่มส่งเสียงดีใจ

เย่เซิงที่ได้ยินเสียงดีใจของคนเหล่านั้นก็รู้สึกประทับใจขึ้นมา ‘ตูล่ะไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมาเกิดใหม่ต่างโลกกะเขาจริง ๆ แถมครอบครัวนี้รักใคร่กลมเกลียวกันขนาดนี้อีก  พอรู้ว่ามีคนดีใจที่ตัวเองรอดตายนี่มันช่างสุขใจดีแท้  แถมยังถึงขั้นใช้ดอกบัวหิมะเทียนซานมารักษาซะด้วย  ไม่รักจริงไม่ให้นะเนี่ย’

ทันใดนั้นก็ชายหนุ่มคนหนึ่งก็พุ่งพรวดเข้ามาในห้องและจ้องหน้าเย่เซิงด้วยท่าทางที่ดูเป็นอันตราย  แววตาของมันเต็มไปด้วยความเคียดแค้น  หมัดของมันกำแน่นจนเส้นเลือดปูด

และเมื่อคนที่เหมือนจะเป็นหมอเห็นมันก็รีบรั้งไว้ทันทีขณะ “คุณชายสิบสาม  ท่านอย่าเพิ่งรีบร้อน  ร่างกายของคุณชายสิบสองอ่อนแอมาก  แม้ว่าท่านจะกินดอกบัวหิมะเทียนซานไปแล้วแต่ชีวิตยังคงแขวนอยู่บนเส้นด้ายอยู่ดี  หากท่านต่อยเขาอีกครั้งข้าคงช่วยเหลืออะไรไม่ได้อีกแล้วนะ”

“บัวหิมะเทียนซานมีไว้ให้ข้าใช้เพื่อเลื่อนเป็นระดับเซียนเทียน  แต่สุดท้ายต้องเอามาให้มันแทน!” ไอ้คุณชายสิบสามกัดฟันกรอด ๆ อย่างโกรธจัด  มันแทบรอไม่ไหวอยากจับเย่เซิงถลกหนังทั้งเป็นเสียบัดเดี๋ยวนี้

เย่เซิงที่นอนอยู่บนเตียงกระพริบตาปริบ ๆ สองสามครั้ง ‘ไอ้คนนี้น่าจะเป็นน้องชายของเราในชาตินี้สินะ  แล้วไมพอเห็นเราปลอดภัยแล้วไม่เห็นมันจะดีใจเลยวะ?’

“เจ้าเศษขยะ  จงจำไว้ว่าอย่าได้มายั่วยุข้าอีก  ข้ายังมีวิธีอีกนับล้านที่จะทำให้เจ้าหายหัวไปจากโลกนี้” ไอ้เจ้าคุณชายสิบสามทิ้งคำพูดเหล่านั้นไว้แล้วออกจากห้องด้วยสีหน้าซีดเผือด

หมอเฒ่าส่ายหัวและกล่าวว่า “คุณชายสิบสอง  ร่างกายของท่านยังอ่อนแอมาก  นี่คือใบสั่งยาของเราผู้เฒ่า  อย่าลืมทานเชียวล่ะ”

เย่เซิงพยักหน้าและไม่พูดอะไร  เขายังคงสับสนอย่างหนักเพราะดูเหมือนว่าสถานการณ์มันค่อนข้างจะแปลก ๆ ยังไงชอบกล

หลังจากที่หมอเฒ่าจากไปแล้วก็มีหญิงสาวสวยนางหนึ่งก็เดินเข้ามา  ดวงตาที่ดูมีเสน่ห์เย้ายวนของนางจ้องมองเขาอย่างเฉยเมยไร้อารมณ์ใด ๆ และพูดว่า “เมื่อนายท่านกลับมาแล้วถามเจ้าว่าเกิดอะไรขึ้น  เจ้าคงรู้ใช่ไหมว่าต้องพูดอย่างไร”

เย่เซิงกระพริบตาปริบ ๆ ด้วยความสับสน

“ฮึ!  หวังว่าเจ้าจะรู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร  เย่ชิงอาจเป็นคนที่ทุบตีเจ้าก็จริง  แต่ข้าได้ใช้ดอกบัวหิมะเทียนซานช่วยชีวิตเจ้าไว้  ดังนั้นเราจึงไม่มีอะไรติดค้างกันอีก  แถมยังเป็นเจ้าที่ได้กำไรเสียด้วยซ้ำ  เพราะตลอดชีวิตนี้มั่นใจได้เลยว่าเจ้าคงไม่มีวันได้ลิ้มลองของดี ๆ อย่างดอกบัวหิมะเทียนซานแน่  จงจำไว้ว่าเมื่อนายท่านกลับมาแล้วถามเรื่องนี้เจ้าจงตอบไปว่าเจ้าต้องการฝึกวรยุทธ์  และเย่ชิงต้องการสอนเจ้าเพียงแต่กะกำลังไม่ถูกจึงพลั้งมือทำร้ายเจ้าโดยไม่ได้ตั้งใจ  หากเจ้ากล้ากล่าววาจาไร้สาระล่ะก็จงระวังตัวไว้เถอะ” นังหญิงสาวข่มขู่อย่างเย็นชาก่อนจะลุกขึ้นจากไป

เย่เซิงนอนอยู่บนเตียงโดยไม่มีแรงเลย  ท่าทีของเขายิ่งมายิ่งเคร่งเครียด “ดูท่าพวกมันจะอยากให้เราตายสินะ  แต่พวกมันปล่อยให้เราตายไปทั้ง ๆ อย่างนี้ไม่ได้  เพราะว่าที่เราบาดเจ็บไม่ใช่จากอุบัติเหตุ  แต่เพราะไอ้คุณชายสิบสามเย่ชิงมันจงใจลงมืออย่างหนัก”

จี๊ดดดดดดดดดดด!

ขณะที่เย่เซิงกำลังเรียบเรียงเรื่องราวอยู่นั้นเอง  จู่ ๆ ก็มีความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสบุกเข้ามาทำให้เขาต้องนอนขดตัวอย่างทรมาน

หลังจากผ่านไปไม่นานเย่เซิงก็ลืมตาขึ้นอีกครั้งและเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

เขาคือคุณชายสิบสองในหวางฝูตระกูลเย่แห่งราชวงศ์ต้าฉิน  เป็นคุณชายขยะที่ไม่มีใครอยากชายตาแล  ส่วนไอ้คนที่เกือบฆ่าเขาได้นั้นคือคุณชายสิบสามซึ่งนิสัยเสียและหยิ่งผยอง  ท่านพ่อของเขาคือราชันเย่ตอนนี้ไม่รู้ออกไปไหน  เป็นชายที่ในชีวิตนี้เขาแทบจะไม่เคยได้เห็นหน้า

นี่เป็นอาณาจักรของทางโลก  แต่ก็เป็นโลกที่มีความเป็นไปได้ไม่รู้จบ  มีทั้งวรยุทธ์  ภูตผีปีศาจ  สำนักนิกาย  ตระกูลขุนนาง ฯลฯ

พ่อของเขาเย่หวางเหย่เป็นจอมยุทธ์อันดับหนึ่งของต้าฉิน  และยังเป็นแม่ทัพผู้นำกองทัพของประเทศโดยกองทหารส่วนใหญ่ล้วนอยู่ใต้บังคับบัญชาของเขา  ดังนั้นจึงเรียกได้ว่าอยู่เหนือผู้คนทั่วหล้าแต่ภายใต้คนเพียงคนเดียวซึ่งก็คือองค์จักรพรรดิ

ทว่าเย่เซิงกลับเป็นเด็กที่ถูกมองว่าต่ำต้อยที่สุดในคระกูล  ทั้งหมดทั้งมวลก็เพราะแม่ของเขามีภูมิหลังที่ไม่ดี

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด