ตอนที่ 9 ดีทาวเวอร์ ชั้น 1 (2) [อ่านฟรี]
คัง ซุนฮวาตัวสั่นเหมือนกีบใบไม้ที่โดนลมพัดผ่าน
‘มะ-มันมาที่ตู้เอทีเอ็ม’
มันมาหยิบหอกที่ปักทะลุอยู่ที่ตู้เอทีเอ็ม แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเกิดเธอสติแตกในเวลานี้?
‘จะต้องถูกแทงทันทีแน่ๆ’
เธออาจจะตายได้ในทันทีที่เธอสติแตก
‘โอปป้ามีแผนอะไรถึงมั่นใจว่าจะจัดการกับมอนสเตอร์แบบนี้ได้?’
เธอกลัวมาก จนเธออยากจะหันหลังหนีไปจากตรงนั้นทันที แต่เธอก็ต้องอดทนเอาไว้
‘ฉันต้องช่วยโอปป้าให้ถึงที่สุด’
มิฉะนั้น เธออาจถูก คิม ฮยอกจิน ทอดทิ้งซึ่งเธอไม่ต้องการให้เป็นอย่างนั้น
[ แม่จะกลับมาหาแน่นอนในอีก 100 วันและแม่จะทำตามคำสัญญาแน่นอน ลูกรอได้ใช่ไหม? ลูกสาวสุดที่รักของแม่ ]
แม่ของเธอทิ้งเธอไปด้วยคำพูดเหล่านั้น หลังจากผ่านไป 100 วัน 200 วัน จนกระทั่งผ่านไป 300 วัน แม่ของเธอก็ไม่กลับมาเลยสักครั้ง เมื่อซุนฮวาอายุได้สิบขวบ เธอก็รับรู้ได้ว่าเธอนั้นถูกแม่ของเธอทอดทิ้งไปแล้ว เธอถูกแม่ทอดทิ้งและเติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ความรู้สึกนั้น… เธอเกลียดและกลัวมันมากยิ่งกว่าสิ่งใดและแน่นอนว่ายิ่งกว่าก็อบลินโซล์เยอร์เสียอีก
เธอทบทวนทุกๆ อย่างที่ คิม ฮยอกจิน พูดพร้อมกำหมัดแน่น
‘ฉันทำได้!’
ซุนฮวากระโดดออกมาจากข้างหลังตู้เอทีเอ็ม
‘เหมือนกับที่โอปป้าบอกเลย’
อย่างที่ คิม ฮยอกจิน พูดไว้ว่ามอนสเตอร์ในบริเวณใกล้เคียงจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่
“ ยั่วยุ! ”
[ ใช้งานสกิลยั่วยุ ]
ซุนฮวาใช้สกิล ‘ยั่วยุ’ ของเธอและเครื่องหมาย ‘!!!’ ก็ปรากฏขึ้นบนหัวของ ซิตี้ ฟ็อกซ์ และก๊อบลินทุกตัวที่ได้รับการชุบชีวิตขึ้นมาด้วยคสามสามารถของมินิบอส มันเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าเธอได้ดึงความสนใจของพวกมันมาที่เธอแล้วอย่างแน่นอน
‘ฉันต้องทำให้ดีที่สุด’
ห่างออกไประยะหนึ่ง เธอสังเกตเห็นก็อบลินสูงประมาณ 180 เซนติเมตร ซึ่งมันสูงกว่าและมีขนาดตัวที่ใหญ่กว่าก็อบลินทั่วไปมาก
‘เพราะโอปป้าต้องเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ตัวนั้น’
มอนสเตอร์พุ่งเข้ามา แต่เธอก็ไม่มีท่าทีที่จะกลัวมันเลย เธอรู้สึกได้จากประสบการณ์ที่ผ่านว่าแม้ว่าพวกมันจะกัด จะโจมตี หรือตีเธอ มันจะไม่มีทางสร้างความเสียหายให้กับเธอได้
ใช้กำลังอันน้อยนิดของเธอโจมตีไปที่ก็อบลินและ ซิตี้ ฟ็อกซ์
‘น่าจะพอได้แล้ว ฉันต้องหยุดไว้เท่านี้ก่อน’
พลังชีวิตของมอนสเตอร์ลดลงเหลือประมาณ 10% จากนั้นซุนฮวาก็รอใช้สกิล ‘ยั่วยุ’ เป็นระยะเพื่อรักษา ‘!!!’ ให้คงอยู่บนหัวของพวกมัน ซุนฮวาถูกล้อมรอบไปด้วยมอนสเตอร์ เมื่อเธอมองไปที่ คิม ฮยอกจิน ก็พบว่าเขากำลังหอบอย่างหนักและดูเหนื่อยล้าจนอาจจะล้มลงได้ทุกเมื่อ
‘ได้โปรด…!’
ซุนฮวา กุมมือของเธอทั้งสองข้างเข้าด้วยกันและอธิษฐาน เธอภาวนาให้เขาเอาชนะมันให้ได้
(ตัดมาที่ คิม ฮยอกจิน)
คิม ฮยอกจิน หายใจไม่ทันและคิดว่า ‘ความรู้สึกกดดันขนาดนี้มันบ้าเกินไปแล้ว’
มันตัวใหญ่กว่าผู้ชายวัยกลางคนทั่วๆไปเสียอีก อาจจะเป็นการพูดเกินจริงไปสักหน่อย แม้แต่กล้ามเนื้อของมันก็ดูอบ่างกับฮัลค์ มันคงไม่มีอะไรที่จะเอามาเปรียบเทียบกับมอนสเตอร์ที่กำลังรอยู่บนชั้น 2 ได้ มันได้รับบัฟสเตตัสมินิบอสและมันยังเป็นมอนสเตอร์ที่มีค่าสเตตัสพื้นฐานเหมือนกับเพลย์เยอร์เลเวล 13 เขาจึงนึกไม่ออกเลยว่าบอสเลเวลสูงจะน่ากลัวขนาดไหน
‘สิ่งที่ฉันต้องระวังให้ดีคือการโจมตีด้วยหอก’
มันไม่ใช่มอนสเตอร์เลเวลสูง มันแตกต่างไปจากเลเวล 13 ปกตินิดหน่อยเพราะมีบัฟสเตตัสของมินิบอสเท่านั้น ยังไงมันก็มีรูปแบบการโจมตีที่คาดเดาได้ง่าย การโจมตีแบบแทงและการฟาดมันจากบนลงล่างเป็นเส้นตรง นั่นเป็นการโจมตีเพียงสองท่าเท่านั้น
‘ก็อบลินโซล์เยอร์’ มันพุ่งเข้ามาใกล้ฮยอกจินอย่างรวดเร็ว
‘มันมาแล้ว!’
ฮยอกจินจับดาบเหล็กขึ้นสนิมเอาไว้อย่างแน่น
‘มันจะแทงหรือฟาดลงมา?’ เขาตั้งสมาธิให้มั่นมากที่สุด ‘ฟาดลงมาสินะ’
เขามองเห็นมัน เขาเห็นว่าก็อบลินโซล์เยอร์กำลังตั้งท่าเตรียมที่จะฟาดหอกลงมาเป้นเส้นตรง เขาจึงพุ่งตัวหลบออกไปทางด้านข้างเล็กน้อย จากนั้นเขาก็วิ่งเข้าหาก็อบลินโซล์เยอร์และเหวี่ยงดาบเหล็กขึ้นสนิมสวนกลับไป
เขาฟันเข้าไปที่ด้านข้างของก็อบลินโซล์เยอร์ แต่เนื่องจากพลังโจมตีของเขาต่ำเกินไป เขาจึงไม่สามารถสร้างความเสียหายได้มากนัก ซึ่งมันทำให้ก็อบลินโซล์เยอร์โกรธมากขึ้นกว่าเดิมเท่านั้น
คิ๊คิ๊คิ๊คิ๊ก!
เป็นเสียงที่ดังกว่าก็อบลินทั่วไป มินิบอสเหวี่ยงหอกของมันไปที่ฮยอกจินด้วยความเร็วที่เร็วมากในสายตาของฮยอกจิน มันเร็วแต่ก็ไม่ถึงกับป้องกันไม่ได้
คิม ฮยอกจิน เหวี่ยงดาบเหล็กขึ้นสนิทของเขาตอบโต้เพื่อปัดป้องการโจมตีของก็อบลินโซล์เยอร์
เซเนียที่กำลังล่องหนจดจ่ออยู่กับภาพที่อยู่ตรงหน้าเธอ จากเหตุการณ์นี้เธอจะสามารถทำให้พวกผู้พิทักษ์สนใจช่องของเธอมากขึ้น
[ ผู้พิทักษ์นิรนามกำลังเข้าร่วมช่อง #19207 เป็นจำนวนมาก ]
เซเนียเกือบหลุดยิ้มออกมา พวกเขาไม่ได้เปิดเผย ‘ชื่อที่แท้จริง’ ของพวกเขา แต่ผู้พิทักษ์ต่างก็กำลังเข้ามาในช่องของเธอเหมือนกันทั้งหมด จากช่องที่แสนจะน่าเบื่อและไม่เป็นที่นิยมของเธอตอนนี้กลายเป็นช่องที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตามเธอไม่เคยยิ้มเลยสักครั้งตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก เธอได้รับการปลูกฝั่งมาว่า “การแสดงอารมณ์ ” นั้นเป็นการกระทำที่หยาบคาย เมื่อถึงคราวที่เธอได้กลายเป็นผู้ดูแลระดับกลางเธอก้าวเข้ามาทำงานนี้โดยตั้งใจที่จะไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ทั้งสิ้น
ผู้พิทักษ์นิรนามหลายคนตั้งคำถามกับเธอ
[ เธอแน่ใจเหรอว่าเขาเลเวล 8 จริงๆ? ]
[ เพลย์เยอร์เลเวล 8 กำลังต่อสู้กับมินิบอสของดันเจี้ยนฝึกสอนจริงงั้นเหรอ? ]
เซเนียพยักหน้าตอบกลับไปเพราะมันเป็นความจริง เขาหลีกเลี่ยง ‘การโจมตีที่รุนแรงที่สุด’ ที่จะทำให้เพลย์เยอร์เลเวล 8 ตายได้ในทันทีได้โดยการใช้ตู้เอทีเอ็มเป็นที่กำบังอย่างชาญฉลาดและตอนนี้เขากำลังต่อสู้กับก็อบลินโซล์เยอร์ มันเป็นภาพที่ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ แต่มันคือเรื่องจริง เธอไม่เคยเห็นเพลย์เยอร์แบบเขาในมิติใดมาก่อนเลยสักครั้งเดียว อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในบทฝึกสอนแบบนี้
เธอกำลังสงสัยว่าเขาต้องมีสเตตัสแบบไหนถึงสามารถเคลื่อนไหวแบบนั้นได้ ผู้พิทักษ์นิรนามหรือที่รู้จักในนาม ‘แรบเบิ้ล’ กำลังส่งเสียงโห่ร้องด้วยความไม่เชื่อ
[ นั่นไม่ใช่การเคลื่อนไหวของเพลย์เยอร์เลเวล 8 แล้วจริงไหม? ]
[ เพลย์เยอร์เลเวล 8 จะสามารถเคลื่อนไหวแบบนั้นได้อย่างไร? ]
[ ไม่ใช่ว่าขากำลังโกหกเรื่องเลเวลของเขาเหรอ? ]
แรบเบิ้ลดูสับสนกับสิ่งที่พวกเขาเห็นและผู้พิทักษ์ที่เปิดเผย ‘ชื่อที่แท้จริง’ ของพวกเขากำลังจับตาดูการต่อสู้นี้อย่างใจจดใจจ่อ สายตาของพวกเขาทุกคู่ต่างจับจ้องไปที่การต่อสู้ที่เหลือเชื่อของเพลย์เยอร์เลเวล 8 แม้แต่เซเนียเองก็เหมือนกัน ณ จุดๆนี้ แม้แต่เซเนียก็ยังสงสัยไม่ต่างไปจากพวกผู้พิทักษ์เลย
เพลย์เยอร์อีกคนที่ดูไร้ตัวตนคนหนึ่งดึงดูดสายตาของเธอ ชื่อของเธอคือ คัง ซุนฮวา ผู้ที่ได้รับการอเวคขึ้นมาในฐานะแทงค์ เธอยืนนิ่งๆและถูกล้อมด้วยมอนสเตอร์มากมาย
ทันใดนั้น คิม ฮยอกจิน ก็ตะโกนออกมา เขาดูเหนื่อยล้าจนแทบจะล้มลงได้ทุกเมื่อ
“ตอนนี้แหละ! ฆ่าพวกมันเลย!”
เซเนียรู้ทันทีว่า คิม ฮยอกจิน กำลังพยายามทำอะไร ซุนฮวาฆ่า ซิตี้ ฟ็อกซ์ ทันที
[ ได้รับค่าประสบการณ์ ]
[ ได้รับ 7 คอยน์ ]
ในฐานะที่เป็นคนในปาร์ตี้เดียวกันกับ คัง ซุนฮวา เลเวลของ คิม ฮยอกจิน ก็เพิ่มขึ้น
[ เลเวลอัพ ]
[ เลเวลปัจจุบัน: 9 ]
เมื่อเลเวลอัพ อาการเหนื่อยล้าต่างๆ ของเขาก็จะฟื้นฟูกลับมาเต็มร้อยอีกครั้ง ฮยอกจินรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที ทั้งที่เมื่อกี้เขายังแทบจะหายใจไม่ทันและรู้สึกว่าเขานั้นสามารถทรุดตัวล้มลงไปจากความเหนื่อยล้าได้ตลอดเวลา แต่ตอนนี้เขารู้สึกสบายดีและสดชื่นมาก เขาตั้งใจรอเวลาและวางแผนสำหรับค่าประสบการณ์ของเขาในครั้งนี้เป็นอย่างดี เพื่อที่เขาจะได้เลเวลอัพเมื่อเขาต้องการ
“ยั่วยุพวกมอนสเตอร์เอาไว้และเว้นระยะห่างระหว่างเราออกไปอีกหน่อย มอนสเตอร์จะฟื้นคืนชีพอีกต่อไปเรื่อยๆ ดังนั้นเธอต้องฆ่าพวกมันให้มากที่สุดอย่าหยุด จนกว่าผมจะให้สัญญาณหยุด ”
หลังจากพูดจบ เขาก็กลับไปตั้งใจสู้กับก็อบลินโซล์เยอร์อีกครั้ง ตอนนี้เขาเลเวล 9 เขาแข็งแกร่งขึ้นและเขาก็คุ้นเคยกับก็อบลินโซล์เยอร์มากขึ้นด้วยเช่นกัน การต่อสู้ของเขาดำเนินต่อไปนานสามสิบนาที เขาต้อสู้กับก็อบลินโซล์เยอร์ไม่หยุดพัก เขาหลบการโจมตีที่อาจทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสและโจมตีสวนกลับเป็นครั้งคราว ครั้งแล้วครั้งเล่า เขาเล็งไปที่หลังคอที่เป็นจุดอ่อนทั่วไปของก็อบลินทุกตัว
[ ความทนทานของดาบเหล็กขึ้นสนิมลดลง ]
ในขณะเดียวกันซุนฮวาได้ฆ่ามอนสเตอร์อย่างต่อเนื่อง
[ คุณได้สังหารก็อบลิน ]
[ คุณได้สังหาร ซิตี้ ฟ็อกซ์ ]
[ คุณได้สังหารก็อบลิน ]
[ คุณได้สังหาร ซิตี้ ฟ็อกซ์ ]
พวกเขาทั้งคู่อยู่ในปาร์ตี้เดียวกัน ดังนั้นค่าประสบการณ์ของเขาจึงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน เขาคอยควบคุมสตามิน่าของเขาอย่างดีและตรวจสอบแถบค่าประสบการณ์ของเขาอยู่ตลอดเวลา
‘อีกไม่นาน... ฉันก็จะเลเวลอัพแล้ว’
คิ๊คิ๊ก! คิ๊คิ๊คิ๊ก!
ด้วยความโกรธแค้นของก็อบลินโซล์เยอร์ มันจึงฟาดหอกลงเป็นเส้นตรงอีกครั้ง
‘ฉันจะปล่อยให้แกโจมตีโดนฉันสักครั้งแล้วกัน’
เขาตัดสินใจที่จะยอมเสียสละไหล่ซ้ายของเขา เขาจะใช้ไหล่ของเขาเป็นตัวล่อเพื่อให้เขาเล็งโจมตีไปที่หลังคอของมินิบอสได้อย่างเต็มแรง ทั้งหมดนี้ก็เพื่อสร้างโอกาสในการสร้างความเสียหายให้รุนแรงมากยิ่งขึ้น
‘อั๊ค!'
หอกฟาดลงมาที่ไหล่ของเขา ความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้าใส่เขานั้นรุนแรงเหลือเกิน แต่เขาก็ยังคงกัดฟันทนเอาไว้
‘ตอนนี้แหละ’
เขาจับเวลาและเฝ้ามองมันเป็นเสี้ยววินาที สำหรับช่วงเวลานั้นเขานั้นลืมไปเลยว่าเขานั้นเป็นคนที่ถูกตัดสินว่า [ไม่มีพรสวรรค์] เขารู้สึกราวกับว่าทุกอย่างชัดเจนขึ้นในสายตาของเขา และร่างของเขาในตอนนี้ก็จดจ่ออยู่กับสถานการณ์นี้เพียงอย่างเดียว
ด้วยจังหวะเวลาที่แม่นยำ เขาพุ่งเข้าหาก็อบลินโซล์เยอร์ทันทีที่ซุนฮวาฆ่า ซิตี้ ฟ็อกซ์
[ เลเวลอัพ ]
[ เลเวลปัจจุบัน: 10 ]
ความเจ็บปวดหายไปและร่างกายของเขาก็กลับมาเป็นปกติ เขาวางแผนนี้ไว้สำหรับช่วงเวลานี้โดยเฉพาะ ความกระฉับกระเฉงไหลเวียนไปทั่วร่างกายขณะที่เขาฟันดาบเหล็กขึ้นสนิมไปที่หลังคอของก็อบลินโซล์เยอร์ทันที
‘ฉันเห็นมัน!’
เขาเห็นจุดอ่อนที่หลังคอเป็นจุดสีดำ จุดนั้นดูใหญ่ในสายตาของเขามาก
“อ่า! ”
เขาฟันดาบเหล็กขึ้นสนิมเข้าไปที่หลังคอของมันสุดแรง
‘มันจบแล้วหรือยัง?’
ขณะนี้:
[ ดาบเหล็กขึ้นสนิมถูกทำลาย ]
มันถึงขีดจำกัดของความทนทานแล้ว เมื่อดาบถูกทำลาย ร่างของก็อบลินโซล์เยอร์ก็เริ่มล้มไปข้างหน้า
‘มันจบแล้ว’
ในที่สุดเขาก็สามารถฆ่า มินิบอส ก็อบลินโซล์เยอร์ ได้สำเร็จ
[ คุณได้สังหารมอนสเตอร์มินิบอส ‘ก็อบลินโซล์เยอร์’ ]
[ ขอแสดงความยินดีด้วย ]
[ คุณเป็นคนแรกที่ได้ล่า ‘มอนสเตอร์มินิบอส’ ]
การแจ้งเตือนนับไม่ถ้วนหลั่งไหลเข้ามา
[ ได้รับค่าประสบการณ์ ]
[ เลเวลสูงสุดของสนามฝึกสอนคือ 10 ]
[ จำนวนคนขั้นต่ำที่จำเป็นสำหรับการจู่โจมมอนสเตอร์มินิบอสในดันเจี้ยนฝึกสอนถูกตั้งไว้ที่ 5 คน ]
[ ระบบรับรู้ถึงการต้อสู้ของคุณเป็นแบบเพลย์เยอร์เดี่ยว ]
[ ขีดจำกัดเลเวลของสนามฝึกสอนถูกเพิ่มขึ้น ]
[ เลเวลสามารถเพิ่มขึ้นได้ ]
[ เลเวลปัจจุบัน: 10 ]
[ เงื่อนไขคุณสมบัติชิ้นส่วนที่ซ่อนอยู่สำเร็จแล้ว ]
เขาอึ้งจนพูดไม่ออกทันทีที่ได้ยินแจ้งเตือนสุดท้าย
‘ฉันสามารถเลเวลอัพได้อีกใช่ไหม?’
สนามฝึกสอนถูกจำกัดไว้ที่เลเวล 10 แต่การจำกัดเลเวลนั้นถูกยกเลิกไปแล้วและเขาได้บรรลุ ‘เงื่อนไขคุณสมบัติชิ้นส่วนที่ซ่อนอยู่’ เขาไม่รู้ว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด ในเวลาต่อมาเซเนียรีบคว้าร่างของก็อบลินโซล์เยอร์และแสงสีเหลืองทองส่องประกายออกมาจากร่างของก็อบลินโซล์เยอร์ก่อนที่ร่างของมันจะสลายหายไป จากนั้นเธอก็เดินตรงเข้ามาหาเขาและยื่นอะไรบางอย่างให้เขา
“นี่คือรางวัลสำหรับการล่ามินิบอสได้สำเร็จ ”
[ คุณได้รับ ‘ดาบเหล็ก’ เป็นรางวัล ]
เขาได้รับ ‘ดาบเหล็ก’ เป็นรางวัลเพื่อเอามาใช้แทน ‘ดาบเหล็กขึ้นสนิม’ ที่พังไปและมันมีพลังโจมตีมากเป็นสองเท่าของดาบเหล็กขึ้นสนิม
มีเสียงหนึ่งดังขึ้นภายในหัวของเขา
[ ผู้ดูแลระบบระดับกลางเซเนียได้ร้องขอการแชทส่วนตัว คุณจะยอมรับไหม? ยอมรับ/ไม่ยอมรับ ]
คิม ฮยอกจิน ก็ค่อนข้างแปลกใจเช่นกันเมื่อเห็นเธอขอแชทส่วนตัวอย่างโจ่งแจ้งขนาดนี้ ผู้พิทักษ์นั้นจะไม่สามารถได้ยินการสนทนานี้ แม้แต่ซุนฮวาเองก็ไม่ได้ยินด้วยเช่นกัน นี่เป็นการสนทนาระหว่างเพลย์เยอร์และผู้ดูแลระดับกลาง มีเพียงเขาสองคนเท่านั้นที่ได้ยินกันและกัน
‘ยอมรับ’
เซเนียถามคำถามเขาด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์เช่นเคย
[ คุณล่ามินิบอสด้วยการกะเวลาเลเวลอัพอย่างแม่นยำใช่หรือไม่? รวมไปถึงการคำนวณสตามิน่าของคุณด้วยใช่ไหม? ]
[ ผมบอกคุณแล้วไงว่าผมจะแสดงให้คุณได้เห็นเอง ผมจะแสดงให้คุณเห็นว่าผมสามารถฆ่ามินิบอสได้ ]
[ นี่มันไม่ใช่การกระทำที่คนเลเวลอย่างคุณจะทำได้เลย คุณมีชื่อที่แท้จริงไหม? ]
ชื่อที่แท้จริงงั้นเหรอ? มันคืออะไรในโลกนี้? เขาไม่มีอะไรแบบนั้นอย่างแน่นอน ทั้งหมดที่เขารู้ก็คือกลยุทธ์ต่างๆ จากอนาคต แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้พยายามแก้ไขความเข้าใจผิดของเธอเลย แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าชื่อที่แท้จริงคืออะไรก็ตาม เขาก็ไม่จำเป็นต้องปรับความเข้าใจของเธอมากนัก
[ อย่าลืมว่าเธอตกลงจะทำข้อตกลงกับผมล่ะ ]
[ … ]
มันเป็นพรสวรรค์ใช่หรือไม่? หรือว่ามันเป็นโชค? หรือมันเป็นอะไรอย่างอื่น? เขาคิดว่าเขาได้ยินเสียงของเซเนีย แต่แล้วการแชทส่วนตัวก็จบลง
[ ‘ผู้สังเกตการณ์นิรนาม’ รู้สึกทึ่งกับความสามารถในการตั้งสมาธิที่น่าตกใจของคุณ ]
‘ขีดจำกัดเลเวล 10 ถูกยกเลิกแล้ว แคนั้นยังไม่พอฉันยังได้รับไอเท็มใหม่และได้รับความสนใจจากพวกผู้พิทักษ์มากขึ้นอีกด้วย’
… เขา [ไม่มีพรสวรรค์] จริงๆ เหรอ? เขาตระหนักได้ในขณะที่ต่อสู้กับก็อบลินโซล์เยอร์ แต่มันดูไม่มีทางเลยที่เขาจะเป็นคนไร้ความสามารถ ในทางกลับกันพรสวรรค์ของเขามีมากมายกว่าที่เขาคิดเสียอีก เขาไม่รู้เลยว่าขีดจำกัดของเขาคืออะไร แต่สำหรับในตอนนี้จากสิ่งที่เขารู้ เขามีความสามารถในระดับที่ไม่เคยมีใครมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ของอดีตที่เขาได้ย้อนกลับมา มันค่อนข้างน่าอายที่จะพูดมันแต่สุดท้ายเขาก็อดสงสัยไม่ได้ว่าความสามารถระดับนี้ใกล้เคียงกับคำว่า ‘อัจฉริยะ’ หรือไม่?
อย่างไรก็ตาม แจ้งเตือนยังไม่ได้หมดเพียงแค่นั้น
[ ‘หญิงสาวผู้เที่ยงธรรม’ เริ่มจับตาดูคุณด้วยความสนใจ ]
อะไร?
เขาสะดุ้งทันทีที่ได้ยินอย่างนั้น