STY-ตอนที่ 51 ลงนามสัญญา นาย-ทาส!
ขณะที่ เย่เฉิน พูด เขาก็นำเจดีย์ขนาดเล็กอันวิจิตรออกมา
นี่คือ สมบัติวิเศษที่เย่เฉิน เคยลงชื่อเข้าใช้และได้รับมันมา ‘เจดีย์นรกเก้าภัยพิบัติ’!
เจดีย์นรกเก้าภัยพิบัติ ถูกจำลองมาจากโครงสร้างของนรก มันคล้ายกับ ขุมนรก 18 ขุม ที่มีทั้งหมด 9 ชั้น
เย่เฉิน ที่นำ เจดีย์นรกเก้าภัยพิบัติ ออกมา เขาได้มองไปที่ ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง และกล่าวออกมา “นี่คือ เจดีย์นรกเก้าภัยพิบัติ มันคือสถานที่ที่เรียกว่านรก โดยจะต้องเผชิญหน้ากับความทุกข์ยากทั้งหมด 9 ประเภท แม้ว่าเจ้าจะทำลายผนึกของยอดเขาอวี๋เซียวได้ แต่นี่คือสมบัติระดับศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นมาดูกันว่าเจ้าจะสามารถทำลายมันได้หรือไม่”
“แต่ก่อนที่จะเริ่ม ข้าจะให้โอกาสเจ้า หากเจ้าลงนามสัญญาณ นาย-ทาส กับข้า และ สัญญาว่าจะเชื่อฟังข้าตลอดไป ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า มิฉะนั้น ข้าจะจับเจ้ายัดลงไปในเจดีย์นรกเก้าภัยพิบัติและทำให้เจ้าต้องเผชิญหน้ากับความทนทุกข์มรมานจากขุมนรกในทุกวัน!”
เมื่อได้ยินคำพูดที่ไร้ความปราณีของ เย่เฉิน ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง ก็มองไปที่ เย่เฉิน ด้วยรอยยิ้มที่ เย็นชาและกล่าวออกมา “ฮ่าฮ่าฮ่า…สมบัติระดับศักดิ์สิทธิ์?เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่องั้นหรือไม่หรือว่าเจ้าคิดว่าสมบัติระดับศักดิ์สิทธิ์เป็นเห็บหมัดที่หาได้ง่ายขนาดนั้น?”
เย่เฉิน ได้สั่นศีรษะและไม่ได้พูดอะไร
เขาได้จับ ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง ยัดลงไปใน เจดีย์นรกเก้าภัยพิบัติ
หลังจากทำทุกอย่างเสร็จ เขาก็กลับไปที่ยอดเขาหยกอมตะ
ภายในเจดีย์นรกเก้าภัยพิบัติ
ความทุกข์ยากแรกก็คือความทุกข์จากเปลวไฟ
หลังจากเข้าสู่พื้นที่ชั้นแรก
ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง ก็ถูกขังอยู่ในความทุกข์ทรมานด้วยเปลวไฟโดยมันกำลังถูกเผาอย่างต่อเนื่อง
ชั้นที่สองคือความทุกข์ยากของสายฟ้าฟาด หลังจากที่เข้าสู่ชั้นที่สอง มันก็ต้องโดนฟ้าผ่าในทุกวัน
ยิ่งไปกว่านั้น หน้าที่ของเจดีย์นรกเก้าภัยพิบัติคือการทรมานไม่ใช่การฆ่า
ดังนั้นมันจึงได้ปรับความเข้มข้นของความทุกข์ยากตามผู้ใช้ที่เข้ามาภายในเจดีย์ แน่นอนว่า สำหรับคนที่ทรงพลัง ความเข้มข้นก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น สำหรับคนที่อ่อนแอ ความทุกข์ยากก็จะอ่อนลงเช่นเดียวกัน
ดังนั้น เจดีย์นรกเก้าภัยพิบัติ จึงไม่ได้ฆ่าคนที่อยู่ข้างใน อย่างไรก็ตาม ใครก็ตามที่เข้าไปจะรู้สึกเจ็บปวดราวกับตกขุมนรก
เย่เฉิน ตั้งใจว่าจะปล่อยให้ ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง เผชิญหน้ากับความทุกข์ยากสัก 2 วัน โดยที่เขาไม่สนใจ
ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง มีบุคลิกที่เย่อหยิ่ง ดังนั้น หากคิดจะปราบปรามนาง ก็คงจะต้องใช้ไม้แข็งเล็กน้อย
ในเวลานี้ ศิษย์พี่หญิงหกลู่อวี๋ถิง ได้มาที่ถ้ำของ เย่เฉิน
ศิษย์พี่หญิงหกของเขาได้ตื่นขึ้นและหายดีแล้ว
หลังจากที่นางตื่นขึ้น นางก็จำบางอย่างได้ ดังนั้นนางจึงรู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก
นางอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างนางกับศิษย์น้องเล็กที่กำแพงหินในวันนั้น?
นอกจากนี้ ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง ยังทรงพลังเป็นอย่างมาก ทั้งนางและศิษย์น้องเล็กของนางต่างก็อยู่ในอาณาจักรก่อตั้งจิตวิญญาณ ดังนั้น พวกนางจะหนีไปได้อย่างไร?
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่นางไม่ได้สติ นางสัมผัสได้ว่ากลิ่นอายพลังของ ศิษย์น้องเล็กค่อนข้างทรงพลังเป็นอย่างมาก
นี่เป็นไปได้หรือไม่ว่า ศิษย์น้องเล็ก ของนางเป็นปรมาจารย์ยุทธ์ที่อยู่ยงคงกระพันของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์?
หัวใจของนางเต็มไปด้วยความสงสัย ดังนั้น นางจึงได้มองหา ศิษย์น้องเล็กของนางเพื่อคลายข้อสงสัยนี้
“เฉินน้อย เจ้าอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”ลู่อวี๋ถิง ได้เคาะประตู
เอี๊ยด—
ทันใดนั้น เสียงประตูห้องของ เย่เฉิน ก็เปิดออก เย่เฉิน เห็น ศิษย์พี่หญิงหกของเขากำลังยืนรอเขาที่ด้านหน้าประตู
“ศิษย์พี่ ท่านเข้ามาก่อน!”
ทันทีที่ ลู่อวี๋ถิง เดินเข้ามา นางก็หันหน้าไปทาง เย่เฉิน และ กล่าวถามโดยตรง “เฉินน้อย ข้าขอถามเจ้าหน่อย เจ้าคือปรมาจารย์ยุทธ์ที่รักสันโดษของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ของพวกเราใช่หรือไม่?”
ทันทีที่นางพูดจบ เย่เฉิน ก็ค่อนข้างตกใจ
“ศิษย์พี่หญิงหก เหตุใดท่านถึงคิดเช่นนั้น?”เย่เฉิน ได้กล่าวถาม
ลู่อวี๋ถิง ได้ตอบกลับอย่างเฉยเมย “ในวันนั้น แม้ว่าข้าจะไม่ได้สติ แต่ข้าก็สัมผัสได้ถึงรัศมีที่ทรงพลังที่อยู่เคียงข้างข้า และ ข้าก็รู้ว่าในตอนนั้น มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่อยู่เคียงข้างข้า”
“นอกจากนี้ ข้าได้ยินมาว่าท่านปรมาจารย์ได้จับปีศาจจิ้งจอกเก้าหางได้สำเร็จ และ ตอนที่ ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางถูกจับ เจ้าก็ไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วย!”
“ที่สำคัญยิ่งกว่าคือ ตัวเจ้ามีกลิ่นอายของปีศาจจิ้งจอกตัวนั้นอยู่! ดังนั้นข้าเลยเดาว่าเจ้าน่าจะเป็นปรมาจารย์ยุทธ์ที่อยู่ยงคงกระพันของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ของพวกเรา!”
เมื่อได้ยินการคาดเดาของ ลู่อวี๋ถิง เย่เฉิน ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมรับ
หลายคนที่รู้เรื่องนี้ก็มี ศิษย์พี่หญิงรอง ศิษย์พี่หญิงสาม ศิษย์พี่หญิงห้า และ ตอนนี้ก็มีศิษย์พี่หญิงหก
เย่เฉิน รู้ดีว่าการปกปิดไม่ใช่เรื่องดี แต่เขาก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะปิดบัง นอกจากนี้เขาได้เคลื่อนไหวมากมายในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มันก็คงจะแปลกถ้าเขาไม่ถูกค้นพบ โชคดีที่มีเพียงศิษย์พี่หญิงของเขาเท่านั้นที่รู้ตัวตนของเขา
ยิ่งไปกว่านั้น เย่เฉิน ยังเชื่อในตัว ศิษย์พี่หญิงของเขา
“ถูกต้อง เป็นข้าเอง!”
ในเวลานี้ แม้ว่า ลู่อวี๋ถิง ที่กล่าวคาดเดา ก็ยังเผยท่าทีที่ตกใจออกมา
แม้ว่านางจะเตรียมความพร้อมมาแล้ว แต่นางก็ไม่สามารถหลบซ่อนความตกใจเอาไว้ได้
เพราะเรื่องนี้มันค่อนข้างใหญ่เกินไป
เมื่อ 5 ปีก่อน เย่เฉิน เพิ่งจะเริ่มฝึกฝนตอนที่เขามีอายุเพียงแค่ 13 ปี
จากนั้นภายใน 5 ปี เย่เฉิน ก็ได้กลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ และ มีพลังอยู่ในอาณาจักรเทวะ
นี่…มันค่อนข้างไร้สาระ แต่มันกลับเป็นเรื่องจริง!
ศิษย์น้องเล็กของนางมีพรสวรรค์ที่ท้าทายสวรรค์เกินไป
“นี่…จริงงั้นเหรอ?”ลู่อวี๋ถิง ได้กล่าวถามเพื่อยืนยันอีกครั้ง
ในเวลานี้ เย่เฉิน ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “ศิษย์พี่ ไม่ใช่ว่าท่านก็มั่นใจในเรื่องนี้ก่อนที่จะมาถามข้าหรอกเหรอ?”
“ศิษย์น้องเล็ก…เจ้า…ทำไมพรสวรรค์ของเจ้าถึงท้าทายสวรรค์แบบนี้?”ลู่อวี๋ถิง ได้มองไปที่ เย่เฉิน ด้วยท่าทางที่ตกตะลึง
“เช่นนั้นคนที่ช่วยข้าในตอนนั้นก็คือเจ้า!”ลู่อวี๋ถิง ได้กล่าวพูดขณะที่ใบหน้าของนางเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย
เย่เฉิน ได้พยักหน้า
“มี…ยังมีอีกคำถาม”
“วันนั้น…ตอนที่เราถูกมนตร์สะกดของปีศาจจิ้งจอกตัวนั้น ข้า…ข้าได้ทำอะไรที่ไม่เหมาะสมลงไปหรือไม่?”ลู่อวี๋ถิง มองไปที่ เย่เฉิน ด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ และ รู้สึกเขินอายมาก
“ท่านหมายถึงเรื่องระหว่างเรา…?”
ไม่มีทาง?
หรือว่านางลืมเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้?
ดังนั้น เย่เฉิน จึงรีบตอบกลับ “ไม่เลย ศิษย์พี่ท่านไม่ต้องกังวลหรอก ท่านและข้าต่างก็เป็นผู้บริสุทธิ์!”
เย่เฉิน ไม่รู้ว่า ศิษย์พี่หญิงหกของเขาหมายความว่ายังไงที่ว่าอะไรไม่เหมาะสม ทว่า เขาที่เป็นห่วงความไร้เดียงสาของ ศิษย์พี่หญิงหก จึงได้ตอบกลับไป
แน่นอนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนั้น ถ้านางไม่ลืม ก็ถือเป็นเรื่องดี แต่ถ้านางลืม เย่เฉิน ก็ไม่คิดที่จะกล่าวพูดอะไรออกไป
“เข้าใจแล้ว เช่นนั้น ศิษย์น้องเล็ก ไว้เจอกันใหม่!”
ศิษย์พี่หญิงหกได้หันหลังและจากไป ใบหน้าเล็ก ๆ ของนางได้กลายเป็นแดงก่ำ และ หัวใจของนางก็เต้นแรงไม่หยุด
อันที่จริง นางมีความทรงจำบางอย่างเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้น แต่เพราะนางอายเกินไป เลยไม่อยากจะพูดถึงมัน
แล้ววันเวลาก็ผ่านไปหลายวัน
ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางได้รับการฝึกฝนในเจดีย์นรกเก้าภัยพิบัติเป็นเวลา 5-6 วันติดต่อกัน
ในเวลานี้ เย่เฉิน ได้ปล่อย ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางออกมา
ในเวลานี้ ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง ที่ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหน้าของ เย่เฉิน ได้ร้องครวญครางออกมาในทันที “นายท่าน ได้โปรด…อย่าขังข้าไว้ในเจดีย์นั่นอีก ข้ายอมทำทุกอย่างตามที่ท่านบอกแล้ว!”
เมื่อเห็น ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง ร้องครวญครางออกมา เย่เฉิน ก็ยิ้มด้วยความพึงพอใจ
ดูเหมือนว่า เจดีย์นรกเก้าภัยพิบัติ จะทรงพลังมากจริง ๆ มันสามารถปราบปรามได้แม้กระทั่งผู้เชี่ยวชาญในอาณาจักรทันฑ์สวรรค์
“เอาล่ะ มาลงนามสัญญา นาย-ทาส กับข้าซะ!”เย่เฉินได้กล่าวพูดอย่างเฉยเมย
“เจ้าค่ะ นายท่าน!”
เย่เฉิน และ ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง ได้ลงนามสัญญา นาย-ทาส กัน หลังจากที่ลงนามสัญญาเสร็จ ทาสจะไม่สามารถทำร้ายเจ้านายของตัวเองได้และหากไม่เชื่อฟังคำสั่งของผู้เป็นนาย ร่างกายและจิตวิญญาณก็จะถูกทำลาย กระทั่ง วิญญาณ ก็จะไม่สามารถกลับชาติมาเกิดได้อีก
แม้ว่า วิธีการของ เย่เฉิน จะค่อนข้างน่ารังเกียจ แต่เขาก็ไม่สามารถปล่อย ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง ไว้ตามลำพังได้
ถ้าเขาปล่อยนางไป นางจะโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ของเขาอีกครั้ง และ การขังนางไว้ในเจดีย์นรกเก้าภัยพิบัติก็เป็นการเสียเปล่าเกินไป ดังนั้น หากได้ทาสรับใช้ที่มีพลังในอาณาจักรทันฑ์สวรรค์มาก็ถือเป็นเรื่องที่ดี
หลังจากลงนามสัญญา เย่เฉิน ก็มองไปที่ ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางและกล่าวถาม “เจ้าชื่ออะไร?”
“ไป๋ลั่วหลี่!”ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางได้ตอบกลับ
“ช่างเถอะ จากนี้ข้าจะเรียกเจ้าว่าเสี่ยวไป๋!”เย่เฉิน ได้กล่าวออกมา “นอกจากนี้ร่างจิ้งจอกเก้าหางของเจ้าก็ค่อนข้างสะดุดตาเกินไป เจ้ามีพลังอยู่ในอาณาจักรทันฑ์สวรรค์ อย่าบอกนะว่าเจ้าแปลงร่างไม่ได้!”
ไป๋ลั่วหลี ได้กลายร่างเป็นหญิงสาวในชุดยาวสีขาวทันทีและปรากฏตัวต่อหน้าของ เย่เฉิน นางดูมีอายุประมาณ 20 ปี และ มีความงามที่ล่มประเทศ อีกทั้งรูปร่างหน้าตาและอารมณ์ของนางยังไม่ได้ด้อยไปกว่าเหล่าศิษย์พี่ของเขาเลย
เย่เฉิน ได้มองไปที่ เสี่ยวไป๋ อย่างเฉยเมย และ พูดต่อ “เอาล่ะ ข้าจะไม่กำจัดเสรีภาพของเจ้า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้ามีอิสระที่จะไปที่ไหนก็ได้ที่อยากจะไป แต่เมื่อข้าต้องการเจ้า เจ้าจะต้องรีบกลับมาในทันที!”
“ท่านว่าอะไรนะ?”
ไป๋ลั่วหลี่ รู้สึกตกใจ นางไม่ได้คาดหวังเลยว่า เย่เฉิน ที่ดูเหมือนกับปีศาจ จะเป็นคนที่ใจกว้างขนาดนี้…