(ฟรีตามปกติ) บทที่ 679 เสน่ห์แรงขนาดนี้?
เขาแทบจะหมดลมหายใจ!
หรงซื่อถึงจะปล่อยมือ น้ำเสียงเขาเย็นชาจนดูเหมือนไม่มีอารมณ์ใดๆ ทิ้งไว้เพียงประโยคหนึ่ง "ไปให้พ้น"
ผู้ชายข้างหลังหวงเหมาค่อนข้างไม่พอใจ แต่กลับไม่กล้าทำอะไรหรงซื่อ ทำได้เพียงมองดูหวงเหมาและพูดเสียงเบาว่า"ลูก…… ลูกพี่ พวกเราไปกันเถอะ?"
หวงเหมากุมมุมปากที่บอบช้ำของตัวเอง แล้วยิ้มให้หรงซื่ออีกครั้งแล้วพาลูกน้องสองคนวิ่งหนีไป
หรงซื่อยืนอยู่ในที่เดิมให้แน่ใจว่าพวกเขาไปแล้วถึงจะเดินจากไป เมื่อถึงข้างนอกมีแสงวาบกระทบบนตาเขา เขาเงยหน้ามองขึ้นเห็นโฆษณาสุดหรูที่แสดงโดยชูเชิ่งจิ่งผ่านบนหน้าจอ LED ขนาดใหญ่ของอาคารพาณิชย์ที่อยู่ไม่ไกลนัก
เห็นเขา หรงซื่อก็คิดถึงนึกถึงซูจิ่ว
เธอเหมือนพ่อของเธอมาก องคาพยพทั้งห้าบนใบหน้าถูกสร้างมาอย่างพิถีพิถัน และเมื่อยิ้มก็ยิ่งเหมือนมาก ไม่มีทางที่จะพบเจอกับเขาได้เลย เหมือนตอนนี้ที่จินตนาการอยู่ก็ดีแล้ว
หลังโฆษณาจบหรงซื่อถอนสายตามองดูเวลา ได้เวลาทำงานพาร์ทไทม์อีกแล้ว เขาหันกลับและเดินไปทางร้านบาร์เหล้า
…
เย็นวันถัดมา ซูจิ่วมาที่โรงเรียนแห่งนั้นอีกครั้ง เธอตัดสินใจที่จะรอเป็นครั้งสุดท้ายถ้าไม่เห็นเงาของร่างที่เหมือนกับวายร้ายน้อย เธอมั่นใจได้ว่าเงาของร่างที่เธอเห็นในวันนั้นเป็นเพียงภาพลวงตาที่เธอคิดไปเอง จากนี้ไปจะไม่รอแล้วและจะไปทางฝั่งทิศใต้เพื่อหาเขา
แต่คราวนี้เธอได้รับประสบการณ์จากเมื่อวาน เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองเผชิญหน้ากับพวกอันธพาล ซูจิ่วได้นั่งรออยู่ในรถมองผ่านหน้าต่างไปที่ประตูของโรงเรียน
ขณะนี้มีนักเรียนจํานวนมากออกมา นอกจากนี้รอบๆ ก็เต็มไปด้วยรถที่มาจอดรับนักเรียน
ไม่รู้ทําไมยังมีผู้หญิงหลายคนสวมชุดนักเรียนโรงเรียนนั้นอีกด้วย รูปร่างหน้าตาสะสวย ใบหน้าก็ลงด้วยเครื่องสำอางบางๆ ซึ่งสามารถดูออกว่าเป็นการแต่งตัวอย่างประณีต พวกเธอถือของขวัญไว้ในมือราวกับว่ากําลังจะไปส่ง
ไปส่งของขวัญพร้อมๆ กันด้วย?
ซูจิ่วถามคนขับที่นั่งอยู่ตรงหน้าด้วยความสงสัย "ลุงคะ วันนี้เป็นวันเทศกาลเหรอคะ?"
คนขับได้หันไปมองที่เธอ ส่ายหน้าพูดว่า "ไม่นะ ทำไมคุณหนูถึงถามอย่างนั้นล่ะ?"
"แล้วทําไมพวกเธอทุกคนถึงพากันถือของขวัญกันล่ะ?"
คนขับชำเลืองมอง "เดาว่าจะต้องเอาไปให้ผู้ชายล่ะสิ?"
นักเรียนสมัยนี้นี่จริงๆ เลย อายุยังน้อยก็มีความลงความรักกันแล้ว นึกถึงสมัยของพวกเขา แค่จับมือกันก็เป็นเรื่องใหญ่แล้ว แถมยังถูกทั้งโรงเรียนวิพากษ์วิจารณ์อีกด้วย
ซูจิ่วเลิกยกคิ้วขึ้น ก็ดูเหมือนว่าจะเอาไปให้ผู้ชายจริงๆ เพียงแต่ว่าพวกเธอมีเหมือนกันหมด คงจะไม่เอาไปให้ผู้ชายคนเดียวกันหรอกนะ?
นึกถึงเรื่องนี้ ซูจิ่วคิดรู้สึกว่ามันก็ตลกอยู่บ้าง ผู้ชายคนไหนถึงได้เสน่ห์แรงขนาดนี้จนมีผู้หญิงหลายคนเข้าหา อยากจะสารภาพรักกับเขา?
เธอค่อนข้างมีความอยากรู้อยากเห็น
นักเรียนบางคนออกมาก็เห็นผู้หญิงกลุ่มนั้น "ไม่มีหรอก ยังมีผู้หญิงจากโรงเรียนอื่นมาอีกด้วย โรงเรียนพวกเราที่มีนักเรียนย้ายมาใหม่คนนั้น ดังใหญ่แล้วเหรอ?"
"นั่นแหละ ใครให้เขาหล่อดูดีขนาดนี้ล่ะ? หลายคนรู้เรื่องนี้แล้ว มีคนตั้งใจมาดูเขาที่ห้องเรียนทุกวัน"
"ไม่ใช่ หรงซื่อเขาเกิดมาหล่อมากแต่เป็นผู้ชายที่ซึมๆ สันโดษแบบนั้น ไม่กลัวเหรอ? เห็นเขา ฉันก็รู้สึกกลัวแล้ว"
"ฉันก็กลัวอยู่เหมือนกัน ฉันรู้สึกว่าในใจเขาอาจจะมืดมน ไม่ค่อยพูดจา ไม่ยิ้มแย้ม เย็นชาเหมือนหุ่นยนต์ที่ไร้อารมณ์ คนประเภทนี้ไม่น่าจะเป็นพวกอาชญกรหรอก พวกโรคจิตประเภทนั้น"
บทที่ 680 ติ่งไอดอล
"ใครจะไปรู้ล่ะ? แต่ต้องบอกว่าหล่อจริงๆ แค่ฉันเห็นเขาก็รู้สึกทึ่งแล้ว"
"หล่อก็หล่อ…… แต่บุคลิกเขายังมีข้อเสียอย่างเห็นได้ชัด บ้านก็จน สังเกตรองเท้าเขาไหม? ซักจนขาวหมดแล้ว นอกจากนี้เขายังได้รับทุนการศึกษาด้วย"
“เชอะ ตอนนี้หญิงสาวมองกันแค่หน้าตา ไม่มองด้านอื่นเหรอ? เห็นอยู่ว่าหรงซื่อไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป พวกเธอคงไม่ได้ฝันกลางวันกันอยู่ คิดว่าตัวเองเป็นนางฟ้าที่จะสามารถช่วยเด็กหนุ่มที่ยากจนอะไรแบบนั้นได้เหรอ?”
…
วันนี้มัธยมปลายชั้นปีที่หกห้อง 1 เมื่อหรงซื่อเดินถึงหน้าประตูโรงเรียน ห่างจากเวลาเลิกเรียนไปสิบห้านาทีแล้ว ไม่แออัดเท่ากับตอนที่เพิ่งจะเลิกเรียน เขามองไปตรงจุดที่ซูจิ่วเคยยืนอยู่โดยไม่รู้ตัว
ไม่มีใคร
เขามองรถที่จอดอยู่หน้าโรงเรียนอีกครั้งและไม่พบรถเบนท์ลีย์ที่ซูจิ่วเคยนั่งมา
ถ้าเช่นนั้นวันนี้เธอไม่มาเหรอ?
หัวใจหรงซื่อห่อเหี่ยว แต่ก็โชคดีอยู่บ้างเธอไม่ได้มาก็ดี ตอนนี้เธอดูเหมือนไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเขาแล้ว
คิดว่าเธอไม่มาหรงซื่อโล่งใจแล้วเดินตรงไปที่หน้าประตูโรงเรียน
ผู้หญิงสองสามคนมองเห็นชุดนักเรียนที่แต่งตัวเรียบร้อย บนไหล่สะพายกระเป๋าเรียน ตัวสูงโปร่งอีกทั้งยังใส่แมสก์สีดำ สักพักก็ได้เห็นกับสิ่งที่คิดไว้คือไอดอลที่พวกเธอติ่ง ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดออกมาว่า "เขามาแล้ว เขามาแล้ว!"
"ไม่ผิดเลย นั่นคือเขา! ทำไมเขาใส่แมสก์มองไม่เห็นหน้าเขา เสียความหล่อหมดเลย หน้าตาหล่อแต่ไม่ยอมให้เห็น มันจะเกินไปแล้วนะ!"
"นั่นไม่ใช่ตัวทำลายสิ่งของให้เสียหายเหรอ? แต่ยังไงก็เหอะไม่สนว่าจะเป็นยังไง แค่ได้เห็นตอนนี้ก็ดีใจแล้ว! ” หญิงสาวหน้ากลมที่มีผมสั้นขี้เล่นหน้าแดงอย่างเห็นได้ชัดว่าเธอตื่นเต้นเป็นอย่างมาก และหลังจากพูดจบเธอก็หยิบของขวัญวิ่งไปหาหรงซื่อ
หยุดอยู่ตรงหน้าเขา หญิงสาวมองเขาด้วยความเขินอาย เมื่อมองเข้าไปในดวงตาเขาที่ล้ำลึกเหมือนดังเช่นยามราตรีเธอรู้สึกเหมือนกับตัวเองโดนไฟดูดอยู่ครู่หนึ่ง
โอ้แม่เจ้า สายตานี้มันฆ่าฉันได้เลย!
จู่ๆหรงซื่อก็ถูกคนมาบังทาง หรงซื่ออดไม่ได้ที่จะต้องหยุด
สาวผมสั้นหน้าแดงขึ้นเพราะค่อนข้างตื่นเต้น เธอพูดจาไม่เป็นตัวเองแล้ว "รุ่นนน รุ่นพี่สวัสดีค่ะ! หนูเป็นนักเรียนชั้นม.5 ดี… ดีใจมากเลยที่ได้เจอกับพี่ และนี่เป็นของขวัญที่จะให้พี่ค่ะ!"
"ไม่ต้อง" หรงซื่อปฏิเสธอย่างเย็นชา แล้วเดินตรงผ่านเธอไปข้างหน้า
สาวผมสั้นเหมือนกับว่าได้รับบาดเจ็บที่ใจอย่างกะทันหัน ก่อนที่จะได้เจอเขาเธอไม่เชื่อเลยว่าคนอื่นบอกว่าเขาเป็นคนที่เย็นชา จึงสาบานมาที่นี่คิดว่าเขาจะชอบผู้หญิงแบบเธอ
แต่ใครจะรู้ เขาไม่แลเธอเลยสักนิด ไม่สนใจนธอเลย
ผู้ชายแบบนี้ที่มีโลกส่วนตัวสูง มันจะเกินไปไหม?
เท่มาก!
สาวผมสั้นยิ่งประทับใจหันหน้ากลับไปหาเขารวบรวมความกล้าพูดไปว่า "รุ่นพี่ ของขวัญชิ้นนี่หนูเลือกอยู่นานเลยนะ ช่วยรับไปสักหน่อยได้ไหม?
"ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้อง" เสียงของหรงซื่อเย็นชาดูเหมือนจะมีความไม่พอใจ
"……" สาวผมสั้นจ้องมองจากหลังเขา กัดริมฝีปากดวงตาแดงก่ำด้วยอาการเจ็บใจ
ผู้หญิงคนอื่นๆ ที่คิดจะให้ของขวัญเห็นเธอถูกปฏิเสธ ก็รู้สึกไม่สบายใจคาดว่าหรงซื่อก็จะไม่รับของขวัญจากพวกเธอ แต่ตอนนี้ก็มาแล้วพวกเธอก็ต้องนำของขวัญไปให้เขา!
"รุ่นพี่ ฉันเป็นนักเรียนของโรงเรียนมัธยมหมายเลขเจ็ด ฉันชื่อ……"
"รุ่นพี่ ฉันก็เป็นนักเรียนในโรงเรียนมัธยมหมายเลขเจ็ดเหมือนกัน!"
หรงซื่อไม่สนใจที่จะฟัง ในโลกของเขาไม่ใช่คนที่ตัวเองต้องมาสนใจ เขาจึงไม่แคร์
ในขณะที่เขาเธอกําลังจะก้าวออกไป ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังมาจากข้างหลังเขา "พี่ชายหรงซื่อ!"
เสียงนั้นไพเราะ หรงซื่ออึ้งไปสักพักและทันใดนั้นก็นึกถึงเสี่ยวจิ่ว เธอก็เรียกเขาว่าพี่ชายแบบนี้ด้วย
เขาอดไม่ได้ที่จะหยุด อยากจะหันกลับไปดูว่าใช่เธอหรือไม่แต่ดูเหมือนว่าตัวเขาถูกหยุดแข็งทื่อไม่มีทางที่จะหันหลังกลับได้
"พี่ชายหรงซื่อ! ทําไมถึงทำแบบนี้ พวกเราตั้งใจมารอเธอและตั้งใจที่จะซื้อของขวัญมาให้! พวกเรา…… พวกเราไม่ได้มีเจตนาอื่นใดเลย สำหรับพวกเราแล้วเธอเหมือนกับไอดอลของพวกเรา! ใช่ คือไอดอล!"
ผู้หญิงที่กําลังพูดอยู่ เธอไม่พอใจที่หรงซื่อเมินเฉยต่อพวกเธอทุกคนแล้วเดินหนีไปจึงอดไม่ได้ที่เอ่ยปากพูดไป
ไม่ใช่เสียงเสี่ยวจิ่ว หัวใจหรงซื่อก็หยุดนิ่งไปทันที ยังไงก็ตามใจเขารู้สึกหดหู่อยู่บ้างและความรู้สึกที่ขัดแย้งกันนี้ทำให้เห็นว่าเขาอดกลั้นอยู่ในใจอย่างมาก
เขาหลับตาลงจับกระเป๋าบนไหล่อย่างแน่นเและเดินต่อ แต่ทะว่าเดินไปได้สักพักก็มีเสียงอีกเสียงหนึ่งดังขึ้นจากข้างหลังเขา
"หรงซื่อ! เธอหยุด!"
หรงซื่อ "......"
เขาลืมตากว้าง และได้เห็นภาพที่ช็อค
ถ้าเสียงเมื่อครู่ที่พูดนั้น "พี่ชาย" ทําให้เขานึกถึงเสี่ยวจิ่วแล้วตอนนี้เสียงที่คุ้นเคยนี้ทําให้เขาแน่ใจว่ามันคือเสียงเธอ!
ตอนนี้เธอได้ยืนอยู่ข้างหลังเขา
เธอเรียกชื่อเขาเหมือนกำลังโกรธ
ซูจิ่วโกรธจริงๆ โกรธมาก เมื่อกี้เธอนั่งอยู่ในรถแค่เห็นเขาเดินออกมาก็รู้ว่าเป็นวายร้ายน้อย แม้ว่าเขาจะปิดบังหน้าตายังไงแต่เธอก็ยังจําเขาได้!
คิดไม่ถึงว่าเขาจะกลับมาจริงๆ แต่ก็ไม่รู้ทำไมถึงมาอยู่ที่โรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้แล้วยังใส่ชุดนักเรียนดูก็รู้ว่ามาเรียน
เกิดอะไรขึ้น? เขาไม่ได้อยู่มหาวิทยาลัยแล้วเหรอ?!
หรือว่าเขาโดนไล่ออก แล้วกลับมาสอบเข้าเรียนใหม่อีกครั้ง?
นอกจากนี้เขากลับมาเมื่อไหร่ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาไม่เคยรับโทรศัพท์เธอเลยและไม่ติดต่อเธอเหรอ?
ซูจิ่วคิดยังไงก็ไม่เข้าใจ หัวสมองยุ่งเหยิง มีหลายคำถามที่อยากจะถามเขา
ภายใต้การสายตารอบข้างของนักเรียนที่จ้องมอง ในฤดูใบไม้ร่วง หญิงสาวในชุดนักเรียนทหารเรือสีน้ำขาวเดินตรงเข้าไปหาเด็กหนุ่มด้วยความโกรธ ภาพนั้นสวยงามและสะดุดตาเหมือนกับภาพไอดอลในละคร
แต่ทว่าซูจิ่วไม่ได้ทันเข้าใกล้เขา หรงซื่อก็ได้สติกลับมาเป็นปกติ และเดินตรงไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เขาเดินเร็วมากราวกับว่าเขากําลังหลีกหนีจากบางสิ่งอยู่
ซูจิ่วคิดไม่ถึงว่าเขาจะเดินหนี ดวงตาเบิกกว้างอย่างประหลาดใจและเธอก็ไล่ตามเขาทันทีตะโกนด้วยความโกรธเคืองว่า "หรงซื่อ ฉันบอกให้นายหยุด นายไม่ได้ยินหรือไง!"
เธอไล่ไปตามทางระยะหนึ่ง เมื่อตามไปจนถึงมุมถนนเธอก็พบว่าวายร้ายน้อยหายไปแล้ว!
ซูจิ่วชะลอฝีเท้าลงหันหน้ามองไปรอบๆ พยายามหาเงาเขา แต่ดูเหมือนว่าเขาจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่เจอเขาเลย
น่าชิงชัง…… ทำไมวายร้ายน้อยถึงเป็นแบบนี้ ไม่พูดอะไรกับเธอสักอย่างแล้วก็กลับไป ถึงตอนนี้แล้วยังจะมาซ่อน มันหมายความว่ายังไง?
เขารู้ไหม ถ้าเขาเป็นแบบนี้เธอจะห่วงเขามาก?
ซูจิ่วพึ่งสัญชาตญาณตัวเองมุ่งหน้าวิ่งไปอีกทาง ในขณะที่วิ่งก็หยิบโทรศัพท์ออกมากดเบอร์ของหรงซื่อ
สิ่งไม่คาดคิดที่ไม่ได้สนใจอะไรเท้าก็เกิดไปสะดุดกับอะไรบางอย่าง เธอล้มลงกับพื้นหัวเข่ากระแทกเข้าอย่างจังและมีอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรง!