ตอนที่30 ราชามาเฟียตื่นขึ้นมา – รู้สึกโกรธ (5)
ตอนนี้เหว่ยไม่มีคำพูดใดๆที่จะพูดกับเธอ เพราะเธอเดิมพันชีวิตด้วยการเล่นเกมกระดานเล็กๆที่ต้องอาศัยโชคเพื่อช่วยเหลือตัวเอง
“คุณ...”
เหว่ยอยากจะพูดอะไรกับเธอตั้งมากมาย แต่อันดับแรกเขาเป็นคนที่พูดไม่เก่ง
หลีหัวชื่นชมตัวเอง “คุณมาดูสิ ฉันมีความสามารถเยอะใช่มั้ยค่ะ?”
ฟูเหรินชูเยาะเย้ย “เอาสมองอันน้อยนิดของเธอ คิดให้มันเยอะๆหน่อยสิถ้าเธอแพ้ขึ้นมาแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้าง”
หลีหัวพูดว่า “คติของฉันคือการคิดทีละขั้นตอนเท่านั้น”
“ออ!ได้สิ ทำไมจะไม่ล่ะ ไม่อย่างนั้นสมองเล็กๆของเธอคงจะระเบิดไปแล้วใช่มั้ยล่ะ?”
“...”
การแทงของผู้ช่วยฟู่นั้นไม่เคยพลาดเป้าสักเท่าไร
“บอส ทำไมคุณไม่มาเล่นด้วยกันล่ะค่ะ มันสนุกมากนะ!”
ฟูเหรินชูกัดฟันของเขา “ซงหลีหัว! ธอทำราวกับว่าเจ้านายจะเล่นเกมเด็กๆกับเธออย่างนั้นแหละ”
เหว่ยพูดอย่างซื่อๆ “ผมไม่รู้ เขาเล่นกันยังไง”
ฟูเหรินชู “...”
หลีหัวตกตะลึง “บอส คุณเล่นเกมลูโดไม่เป็นหรือค่ะ”
“ไม่”
“เมื่อตอนเด็กๆคุณไม่เคยเล่นเกมนี้เหรอค่ะ”
เหว่ยมองเธอด้วยสายตาที่ว่างเปล่า เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเธอต้องตกใจด้วย
“ตอนเด็กๆเหรอ...”สายตาของเขาเหม่อมองออกไปไกลเล็กน้อย สิ่งเดียวที่เขาเล่นเมื่อตอนวัยเด็กนั่นคือปืนกับมีด เขาเริ่มฝึกหัดเป็นราชามาเฟียเมื่อตอนอายุได้สามขวบ ไม่ต้องถามว่าเขามีเพื่อนเล่นมั้ยหรือเล่นเกมเหมือนเด็กปกติทั่วๆไปหรือไม่
ทันใดนั้นหลีหัวก็คิดขึ้นได้ว่าเธออาจจะจี้จุดให้เขาเจ็บ เขาอาจจะมีปัญหาทางด้านอารมณ์ในการทำความเข้าใจและเชื่อมโยงไปถึงวัยเด็กของเขาอีกด้วย
“ยายงี่เง่า! หลีหัวเอ่ย! ทำไมเธอไม่รู้สึกตัวอะไรบ้างเลยเหรอ?” หลีหัวคว้าแขนของเขามาและจับเขาให้มานั่งข้างๆเธอ
“ไม่ต้องเป็นห่วงนะค่ะบอส จะสอนคุณเอง มันง่ายมากๆ”
การแสดงออกที่กระตือรือร้นและตื่นเต้นบนใบหน้าที่สวยงามของเธอนั้น ทำให้ใบหน้าของเขาอ่อนแสงลง
ฉาง ฟังและคนอื่นๆทำได้เพียงยืนเฝ้าดูคู่หูที่พลันหายไป ท่ามกลางดอกไม้ที่เบ่งบานในจินตนาการของเขา
หลีหัวพูดขึ้นว่า “มาเล่นใหม่กันเถอะ”
ฉาง ฟังรู้สึกหวาดกลัว “ฉันจะกล้าเล่นกับราชามาเฟียได้อย่างไร ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันทำไมถึงกล้าจับแขนของเขามาเล่นได้?”
เขากลืนน้ำลายและเหงื่ออก “นั่นโบ-”
เหว่ยจ้องเขม็งมาที่เขาอีกครั้ง ทำให้เขาสะอื้นในอก “เขาไม่ให้ฉันพูดอะไรบ้างเลยเหรอ!”
ส่วนเหว่ยนั้นอยากจะหยุดเขา ไม่อยากให้เขาเรียกเจ้านายต่อหน้าหลีหัว
หลีหัวอธิบายเกมให้เขาฟัง เหว่ยพยักหน้า “ตกลง”
ฟูเหรินชูอยากจะบีบคอเธอ เธอเข้าใจเจตนาฆ่าของเขาที่ยืนอยู่ด้านของเธอเป็นอย่างดี แต่เธอกลับเลือกที่จะไม่ใส่ใจ
ฉาง ฟังตัวสั่นอย่างหนัก “ห๊ะ!จะเล่นได้ยังไง”
เหว่ยขมวดคิ้วของเขา “ไม่อยากเล่นกับผมเหรอ”
ส่วนหัวหน้าแก๊งผู้น่าสงสารอย่างฉาง ฟัง เขาฟังดูแล้วเหมือนเป็นการท้าทายอย่างโจ่งแจ้ง “ไม่อยากเล่นกับราชามาเฟียเหรอ?”
“แล้วคุณล่ะกล้ามั้ย?”
“เออ! แน่นอนผมจะ...”
ทั้งสามเริ่มเล่นเกมลูโด โดยมีเพียงเหว่ยกับหลีหัวเท่านั้นที่เล่นกันอย่างสนุกสนานในเกมนี้ ส่วนฉาง ฟังนั้นเขาสวดอ้อนวอนอย่างหนักว่าเขาไม่ควรจะชนะในเกมนี้กับเหว่ยโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ
มากกว่าการเล่นเกมแล้วเหว่ยยังสังเกตเห็นหลีหัวเล่นอย่างสนุกสนานและกระฉับกระเฉง เธอมีอาการตื่นเต้นดวงตาของเธอเป็นประกายส่งแสงความอบอุ่นอย่างน่าประหลาดใจ
นี่เขารู้สึก...ดีราวกับว่าเขาสามารถใช้เวลานี้อยู่กับเธอได้ตลอดไป...
“โอ้! บอสควรคุณจะเอาอีกอันหนึ่งออกจากบ้าน สำหรับอีกหกอันนั้นมาแทนที่จะย้ายอันปัจจุบัน”
“อย่างนั้นเหรอ” เขาจดจ่ออยู่กับการเล่นเกมอย่างสนุกสนาน
“ไม่นะ! คุณควรจะย้ายอันนั้น”
“เดี๋ยวก่อนนะ ย้ายอันนี้ไปแล้วจะทำให้คุณถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น”
ไม่กี่นาทีต่อมา... “เย้! ฉันชนะอีกแล้ว” หลีหัวยกมือขึ้นด้วยความตื่นเต้น
เขารู้สึกว่าไม่มีผลกระทบอะไรมากมายกับการเสียเงินในครั้งนี้ แต่เขากลับพอใจมากที่ได้เห็นเธอมีความสุข
ฉาง ฟังคิดว่าเขาอาจจะสั่งให้เขาฆ่าเธอจากการเสียเงินในครั้งนี้ แต่เขาก็ต้องตกใจอีกครั้ง เพราะราชามาเฟียนั้นทั้งอยากรู้อยากเห็นและยังยิ้มให้เธออยู่เสมอๆอีกด้วย
“นี่เธอเป็นคู่หูของราชามาเฟียอย่างนั้นหรือ?”
ส่วนเหลียง มินนั้นเขานึกภาพไม่ออก เขานอนอย่างน่าสมเพชอยู่อีกด้านหนึ่ง
เหว่ยถามว่า “คุณได้เงินมาเท่าไร?”
เธอเบิกตากว้าง “เปล่านะ! ฉันไม่ได้เล่นเกมนี้กับคุณเพื่อเงิน นี่! เราเล่นกันสนุกๆนะค่ะ บอส...คุณสนุกกับเกมนี้ไหมค่ะ” เธอเฝ้ารอคอยอย่างใจจดใจจ่อ เธอสัญญาว่าจะช่วยให้เขาค้นพบอารมณ์ที่แท้จริงของเขา และนี่คือการเริ่มต้นในการทำสิ่งเล็กๆน้อยๆ เช่นเล่นเกมอย่างสนุกสนาน
เหว่ยจ้องมองเธอ “ผมอยากจะเล่นกับคุณอีก” เขาเอียงศีรษะ
เธอปรบมือหนึ่งครั้ง “ได้สิค่ะ เมื่อไรก็ได้”
สำเร็จ! สีหน้าของบอสดูมีความสุขมากขึ้น
ฟูเหรินชูจ้องเขม็ง “ซงหลีหัวววว...”
เธอสะดุ้ง
“อา...ฮ่า ฮ่า ...ฮ่า ฮ่า ฮ่า...”
ขณะนี้เขากำลังทำตัวข่มขู่และคุกคามเธอในระดับที่สูงขึ้นอีกขั้นหนึ่ง
เหว่ยพยักหน้า “เหรินชูพาเธอกลับไปที่รถ!” แล้วเขาก็หรี่ตาลงไปมอง เหลียง มิน และหันไปมองฉาง ฟัง
“ครับเจ้านาย”
หลีหัวพูดขึ้นว่า “โอ้! บอสอย่าลงโทษหัวหน้าแก๊งเลยนะค่ะได้โปรด!”
ฉาง ฟังตกตะลึง “อา?”ทำไมเธอถึงเข้าข้างเขาที่ลักพาตัวเธอมา”
แต่ในที่สุดแล้วเขาก็ไม่ใช่คนที่ไร้เหตุผลขนาดนั้น เขาสัญญาว่าจะปล่อยเขาไป ถ้าหากว่าเขาชนะ...และเขาก็จะทำตามสัญญานั้น
“ผมไม่ได้โกรธเขาเลย” เหว่ยเลิกคิ้วอย่างสนุกสนาน เธอมักจะทำตัวประหลาดๆ ซึ่งคนอื่นก็จะไม่กล้าพูดหลังจากผ่านเหตุการณ์ลักพาตัวที่น่ากลัวนี้ไปแล้ว...
ฉาง ฟังแทบจะเข้าไปกอดหลีหัวจากความเอื้ออาทรของเธอ แต่เขาก็ต้องหยุดความคิดนั้นไว้ เพราะเขาไม่ต้องการสร้างความโกรธแค้นกับราชามาเฟีย
“ฉันจะไม่มีวันลืมหนี้บุญคุณนี้” เขาสะอื้นอย่างมีความสุข
“ถ้าคุณพูดอย่างนั้น แต่ฉันก็มีเรื่องที่จะต้องจัดการด้วย”
ฟูเหรินชูผลักเธอเบาๆให้เดินไปข้างหน้า “ตอนนี้หยุดรบกวนเจ้านายได้แล้ว เดินไป...”
หลีหัวบ่น “แต่ฉ...ฉัน”
แต่ทันใดนั้น เหว่ยก็ได้พุ่งตัวเข้ามาหาและคว้าตัวของหลีหัวไว้ เขากอดเธอเอาไว้และกระโดดไปด้านข้าง เพื่อที่จะหลบกระสุนหนึ่งนัด มีกลุ่มชายฉกรรจ์บุกเข้ามาที่สำนักของฉาง ฟังและชี้ปืนไปที่เขา
“อย่าขยับไม่อย่างนั้นเราจะยิงทุกคนทันที! ส่งเหลียง มินมาให้เราเดี๋ยวนี้!”
เหลียง มินรู้สึกมีความสุข “โอ้! ในที่สุดพวกคุณก็มาช่วยผม ช่วยพาผมออกไปจากที่นี่ด้วยเถอะ” พวกเขาเป็นแก๊งที่เขาจ้างมาเพื่อจัดการกับคนของฉาง ฟัง และช่วยพาเขาออกไป
ลูกน้องของฉาง ฟังพกปืนติดตัวกันทุกคน แต่พวกเขาก็ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่จะยิงได้ หากพวกเขาขยับแม้แต่ก้าวเดียวกลุ่มนั้นก็จะเริ่มยิงอย่างนองเลือดทันที
ฉาง ฟังทำหน้าเย็นชาและฟูเหรินชูก็เช่นเดียวกัน เขายิ้มอย่างน่ากลัว “ถ้าพวกแกปรารถนาที่จะตาย ก็เล็งปืนมาที่เราสิ!”
“หุบปากซะ! ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าแก ส่งเหลียง มินมาเดี๋ยวนี้!”
“ใช่ๆ ฆ่าพวกมัน! ฆ่าพวกมันให้หมด!”