STY-ตอนที่ 50 การปราบปรามที่ทรงพลัง!
“เจ้าสัตว์ร้าย จงหยุดซะ!”
จู่ ๆ ก็มีเสียงคำรามดังลั่นตรงมาจากป่า โดย รัศมีพลังที่แข็งแกร่งได้สั่นสะเทือนไปทั่วพื้นที่โดยรอบ จนทำให้ แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ต้องสั่นสะเทือน
รัศมีพลังของเทคนิคการสะกดข่มของเทพได้ถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกับเสียงคำรามของ เย่เฉิน
สำหรับ เผ่าพันธุ์มนุษย์ ไม่มีใครรู้สึกได้
แต่ในตอนนี้ ฉางเหว่ย ที่ยืนอยู่ด้านข้าง เย่เฉิน มันสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่ทรงพลังจนทำให้มันหมอบลงกับพื้นในทันที
ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางที่กำลังจะลงมือ จู่ ๆ มันก็สัมผัสได้ถึงแรงกดดันอันมหาศาลและกลายเป็นตื่นตระหนก
แรงกดดันที่ทรงพลังนี้ดูเหมือนว่าจะพุ่งเป้ามาที่มันคนเดียว
“เป็นแรงกดดันที่ทรงพลังอะไรเช่นนี้!”
กึก—
ตึง
ร่างของ ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง ได้ร่วงลงมาจากบนท้องฟ้าทันที
“เป็นไปได้ยังไง”
“นี่คือ…การปราบปรามทางสายเลือดงั้นหรือไม่?”
ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง รู้สึกตื่นตระหนก นางไม่กล้าเชื่อเลยว่าจะมีใครบางคนในแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์สามารถใช้การปราบปรามทางสายเลือดกับนางได้
ในขณะนั้น ผู้คนจากแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ก็กลายเป็นประหลาดใจมากยิ่งขึ้น
“นี่คือ…”
“จะต้องเป็นท่านปรมาจารย์ยุทธ์อย่างแน่นอน! มีเพียงท่านปรมาจารย์ยุทธ์เท่านั้นที่ทำแบบนี้ได้!”
“ท่านปรมาจารย์จะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!”
เย่เฉิน ที่เปิดใช้เทคนิคการสะกดข่มของเทพเขาได้ปราบปรามปีศาจจิ้งจอกเก้าหางไว้ได้อย่างหนาแน่น
ในขณะนั้น ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง ก็ได้มองข้ามไป และ นางสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังของ เย่เฉิน
“กลิ่นอายพลังนี้คือ…?”
ในขณะนี้ ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง ก็จำได้ในทันทีว่าเป็นเด็กที่นางพบในคราแรกหลังจากที่ออกมาจากความสันโดษ ซึ่ง นางจำได้อย่างชัดเจนว่าเขาอยู่ในอาณาจักรเทวะเท่านั้น แต่เขามีแรงกดดันที่ทรงพลังขนาดนี้ได้ยังไง?
ยิ่งไปกว่านั้นอีกฝ่ายยังเป็น มนุษย์ , มนุษย์จะไปมีความสามารถในการใช้เทคนิคการสะกดข่มทางสายเลือดกับเผ่าพันธุ์อสูรได้อย่างไร?
“ฟู่ว—”
ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง ไม่ได้สนใจคนจากแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์อีกต่อไป โดย นางรีบมุ่งหน้าไปยังทิศทางของ เย่เฉิน โดยไม่สนใจสิ่งใด
เมื่อเห็น ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง พุ่งเข้ามา เย่เฉิน ก็กลายเป็นยินดี
ด้วยวิธีนี้ เขาก็เลยสามารถดึงดูดความสนใจของปีศาจจิ้งจอกเก้าหางและปกป้องศิษย์พี่หญิงพร้อมกับแม่ของเขาได้
ดังนั้น เขาจึงได้เปิดใช้เทคนิคการสะกดข่มของเทพอย่างเต็มที่ โดย กลิ่นอายที่ทรงพลังได้ถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของ เย่เฉิน อย่างต่อเนื่อง
เทคนิคการสะกดข่มของเทพได้ระดมพลังปราณสวรรค์และปฐพีอย่างต่อเนื่องทันที และ มันได้ก่อให้เกิดแรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวที่ตกกระทบลงบนร่างกายของปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง
“ปีศาจจิ้งจอก จงคุกเข่าลง!”
เย่เฉิน ได้ออกคำสั่ง
ทันใดนั้น แรงกดทับอันมหาศาลก็ตกลงบนร่างกายของ ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง
ตึง—
ร่างของ ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง ได้ถูก เย่เฉิน ปราบปรามอีกครั้ง และ กดลงไปบนพื้นอย่างไร้ความปราณี
“นี่มัน…จะท้าทายสวรรค์เกินไปแล้ว!”
“นี่คือพลังที่แท้จริงของท่านปรมาจารย์ยุทธ์ของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ของพวกเรางั้นหรือไม่?”
“ด้วยวิธีการดั่งกล่าว เป็นไปได้หรือไม่ว่า ท่านปรมาจารย์ได้กลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว?”
ทุกคนได้กลายเป็นตกใจอีกครั้ง
ในเวลานี้ ใบหน้าของ ประมุขนิกายอวี๋เซียว และ จ้าวฉีหยาง ก็ได้เผยให้เห็นถึงการแสดงออกที่ตกใจอย่างหาใดเปรียบมิได้
“ข้าจำได้ว่า ท่านปรมาจารย์ยุทธ์ อยู่ในอาณาจักรเทวะเพียงเท่านั้น แต่เขาสามารถปราบปรามปีศาจจิ้งจอกที่มีพลังในอาณาจักรทันฑ์สวรรค์ได้อย่างไร?...สิ่งนี้เป็นไปได้ยังไง?”ประมุขนิกายอวี๋เซียว ได้กล่าวออกมา
“วิธีการของท่านปรมาจารย์ยุทธ์แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!”จ้าวฉีหยาง ก็ได้กล่าวพูดจากด้านข้าง
ในเวลานี้ ประมุขนิกายอวี๋เซียว และ จ้าวฉีหยาง ได้มองไปที่ ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง ที่กำลังถูกระงับด้วยความตื่นเต้น ริมฝีปากของพวกเขาได้สั่นเครือขณะที่พวกเขากล่าวพูด “ท่านปรมาจารย์ยุทธ์ก็คือผู้กอบกู้แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ของพวกเรา!”
ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางที่ถูกกดทับอยู่บนพื้น ได้ร้องคร่ำครวญออกมาอย่างต่อเนื่อง
“เจ้าเป็นใครกัน?เหตุใดถึงใช้การสะกดข่มกับข้าได้?”ปีศาจจิ้งจอก ได้มองไปยังทิศทางของป่าและกล่าวถาม
นางสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่ามันเป็นกลิ่นอายพลังของ เย่เฉิน แต่ นางไม่เชื่อว่า เย่เฉิน เด็กที่นางพบก่อนหน้านี้จะสามารถสะกดข่มนางได้
เผชิญหน้ากับ จิ้งจอกเก้าหาง ที่มีพลังอาณาจักรทันฑ์สวรรค์ เย่เฉิน ไม่กล้าที่จะผ่อนคลายเลย
นี่เป็นเพราะว่า เย่เฉิน รู้ตัวว่าเขาอยู่เพียงขั้นต้นของอาณาจักรเทวะเพียงเท่านั้น ซึ่งมันค่อนข้างห่างไกลจากอาณาจักรทันฑ์สวรรค์ อยู่ช่วงอาณาจักรใหญ่ ดังนั้น ถ้าเกิดเขาต้องสู้แบบตัวต่อตัว เขาย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของปีศาจจิ้งจอกเก้าหางอย่างแน่นอน
เพราะงั้นสิ่งที่เขาทำได้ก็มีแต่การใช้เทคนิคการสะกดข่มของเทพในการปราบปรามนาง
ในขณะนี้ เย่เฉิน ได้ทำสัญลักษณ์มือและกล่าวออกมา “คุมขัง!”
พลังงานสวรรค์และปฐพี ได้ก่อตัวขึ้นและกลายเป็นโซ่สีทองแห่งพันธนาการ โดยมันได้ผูกมัดร่างของ ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง จนทำให้ร่างของมันได้กลายเป็นเล็กลง และ กลายเป็นจิ้งจอกขาวตัวเล็กในที่สุด
จากนั้น เย่เฉิน ก็หยิบแหวนมิติออกมา
“เรียกคืน!”
ทันใดนั้น เขาก็เก็บปีศาจจิ้งจอกเก้าหางไปไว้ในพื้นที่มิติของเขา
หลังจากทำทั้งหมดนี้แล้ว เย่เฉิน ก็ขอให้ ฉางเหว่ย ส่งศิษย์พี่หญิงหกของเขากลับไป
จากนั้นเขาก็ออกจากแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์
ไม่นาน เย่เฉิน ก็มาถึงยอดเขา
เขาได้เริ่มควบคุมลมหายใจของเขา
พร้อมกับดูดซับพลังโดยรอบให้เข้ามาในร่างกายอย่างช้า ๆ
เพราะท้ายที่สุด การปราบปรามสัตว์อสูรที่มีพลังในอาณาจักรทันฑ์สวรรค์ ก็ค่อนข้างกินพลังเป็นอย่างมาก ดังนั้น เย่เฉิน ในปัจจุบัน จึงได้สูญเสียพลังปราณส่วนใหญ่ไป
เย่เฉินค่อย ๆ ปรับสภาพของเขา และ ในเวลานี้ เขาก็หยิบแหวนมิติออกมาพร้อมกับปล่อยปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง
ในเวลานี้ ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง ได้ถูกยับยั้งเอาไว้โดยพลังศักดิ์สิทธิ์ของ เย่เฉิน และ มันได้ถูกกดทับลงกับพื้น
“ข้าน่าจะฆ่าเจ้าตั้งแต่แรกที่ข้าได้ออกมา!”ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางได้จ้องไปที่ เย่เฉิน และ กล่าวออกมา
เย่เฉิน ได้มองไปที่ ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง และ กล่าวพูดด้วยรอยยิ้ม “ก็จริงที่ตอนนั้นเจ้าอาจจะสามารถฆ่าข้าได้ แต่ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าทำไมเจ้าถึงไม่ลงมือฆ่าข้า?”
“การที่มี เด็กอายุ 13 ที่สามารถไปถึงอาณาจักรเทวะได้ มันทำให้ข้ารู้สึกสนใจ นั่นคือเหตุผลที่ข้าสนใจในตัวเจ้าและไว้ชีวิตเจ้า ทว่า ข้าเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเหตุใดเจ้าถึงสามารถปราบปรามข้าได้ทั้ง ๆ ที่มีพลังอยู่ในอาณาจักรเทวะเพียงเท่านั้น”ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง ได้กล่าวถาม
เย่เฉิน ได้มองไปที่ ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง และตอบกลับ “มันเป็นเทคนิคบ่มเพาะพลังของข้า!”
“เทคนิคบ่มเพาะพลัง?”ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง กล่าวถามด้วยความสงสัย
เย่เฉิน ไม่ได้ปิดบังอะไรและตอบกลับโดยตรง “เทคนิคบ่มเพาะพลังที่ข้าฝึกฝนมันสามารถทำให้ข้าปราบปรามเผ่าพันธุ์ใดก็ได้!”
ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง รู้สึกตกใจเมื่อได้ยินเรื่องนี้ หลังจากนั้นนางก็หัวเราะออกมาเสียงดัง “ฮ่าฮ่าฮ่า…”
“ข้าไม่เคยคิดเลยว่า ตัวตนที่ยิ่งใหญ่เช่นข้าจะตกไปอยู่ในเงื้อมมือของเด็กเช่นเจ้า เมื่อ 10,000 ปีก่อน ข้าเองก็ถูกผนึกไว้โดยบรรพบุรุษของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ 10,000 ปีต่อมา ข้าก็ไม่คิดเลยว่าตนเองจะต้องมาถูกอัจฉริยะรุ่นเยาว์ของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์จัดการอีกครั้ง?”
“เพราะอะไรกัน เหตุใดแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ของพวกเจ้าถึงพยายามต่อต้านข้าอยู่เรื่อย?”ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางได้กล่าวถามอย่างเย็นชา
เย่เฉิน มองไปที่ ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง ที่กล่าวถามอย่างเย็นชา โดยเขาไม่ได้ตอบอะไรสักคำ
“เอาล่ะ ข้ายอมรับความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ ไอ้หนู เจ้าอยากจะทำข้อตกลงกับข้าหรือไม่?”ในขณะนี้ ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง ได้มองไปที่ เย่เฉิน และ กล่าวถาม
“ข้อตกลง?ข้อตกลงอะไร?”เย่เฉิน มองไปที่ ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง และถามกลับ
“เป็นเพราะเจ้าได้ใช้เทคนิคบ่มเพาะพลังในการปราบปรามข้า ซึ่งข้าเชื่อว่าสิ่งนี้มันน่าจะกลืนกินพลังปราณแท้จริงของเจ้าอย่างต่อเนื่อง อีกอย่าง ตัวข้าในปัจจุบันมีพลังอยู่ในอาณาจักรทันฑ์สวรรค์ ในขณะที่เจ้าอยู่ในอาณาจักรเทวะเพียงเท่านั้น ดังนั้น ข้าเชื่อว่าพลังปราณแท้จริงของเจ้าน่าจะหมดลงในอีกไม่นานนี้อย่างแน่นอน”
“ดังนั้น ตราบใดที่เจ้าปล่อยข้า ข้าจะไม่ฆ่าเจ้าและไม่ฆ่าศิษย์ของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ เป็นอย่างไร?”ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง ได้มองไปที่ เย่เฉิน และ กล่าวถาม
เย่เฉิน มองไปที่ ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง และ ยิ้มออกมา “เมื่อก่อน ข้าได้ยินมาว่า พวกจิ้งจอกมักจะมีเล่ห์เหลี่ยมเป็นอย่างมาก และ ข้าก็ไม่คิดที่จะเชื่อใจใครโดยง่าย อีกอย่าง ถ้าเกิดข้าให้โอกาสเจ้าได้พักหายใจ เกรงว่าเจ้าจะฆ่าข้าได้ในทันที และ เมื่อถึงเวลานั้น ไม่ใช่ว่าแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ก็จะไม่ถูกทำลายไปด้วยเลยงั้นเหรอ?”
เมื่อ ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง เห็นว่า เย่เฉิน เล็งเห็นถึงแผนการของนางแล้ว นางก็หัวเราะออกมาอย่างเย็นชา “เด็กน้อย ข้ายอมรับว่าเจ้าฉลาดมาก และมันเป็นความผิดพลาดของข้าที่ข้าไม่ฆ่าเจ้าในตอนนั้น ทว่าเจ้าจะทำอะไรได้ คิดจะเสียเวลากับข้าต่อไปงั้นหรือไม่?”
ในขณะนี้ มุมปากของ เย่เฉิน ก็ได้ขดตัวเป็นรอยยิ้มในขณะที่เขากล่าวออกมา “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าจะไม่มีวิธีการอื่นที่ใช้จัดการกับเจ้าได้?”