ตอนที่แล้วSTY-ตอนที่ 45 กระบี่บินจำนวนมาก!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSTY-ตอนที่ 47 สัตว์อสูรที่ถูกปิดผนึกใต้ยอดเขาอวี๋เซียว!

STY-ตอนที่ 46 พึ่งพาคนรอบข้าง!


ตอนนี้ เย่เฉิน ได้หันไปใช้ ยอดเขาอวี๋เซียว เพื่อลงชื่อเข้าใช้

ยอดเขาอวี๋เซียว เป็นยอดเขาหลักของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ แน่นอนว่ามันมีสถานที่ที่เต็มไปด้วยพลังงานเต๋ามากมาย ดังนั้น เย่เฉิน จึงมีความสุขในการลงชื่อเข้าใช้ในทุกวัน

หลังจากลงชื่อเข้าใช้ก็ฝึกฝน

ดังนั้นความแข็งแกร่งของ เย่เฉิน จึงได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

และในเวลานี้บนยอดเขาหยกอมตะ

ในห้องของศิษย์พี่หญิงสามของเย่เฉิน อันเหมี่ยวหาน

หญิงสาวสองคนกำลังคุยกันอยู่ในห้องส่วนตัว

“ศิษย์พี่ ข้าขอถามอะไรท่านหน่อยจะได้รึไม่?”ศิษย์พี่หญิงเจ็ดจ้าวซือเหยาได้กล่าวพูด

“หืม?มีอะไรงั้นหรือ?”ศิษย์พี่หญิงสามอันเหมี่ยวหานได้ตอบกลับ

จ้าวซือเหยาได้กล่าวพูดต่อ “ศิษย์พี่ ข้า…ข้าอยากจะรู้…”

อันเหมี่ยวหาน หัวเราะออกมาเมื่อได้ยินเรื่องนี้

จากนั้นนางก็กระซิบข้างหูของจ้าวซือเหยา “อันที่จริง มันก็เป็นเรื่องปกติที่จะเติบโตขึ้นในอนาคต อีกทั้งตอนนี้เจ้ายังเด็ก ทว่ามันก็มีบางอย่างที่สามารถช่วยในการกระตุ้นได้”

“ช่วยกระตุ้น?”จ้าวซือเหยา กล่าวถามด้วยความสงสัย

“ถูกต้อง เด็กผู้หญิงที่ถูกกระตุ้นมันจะสามารถพัฒนาได้ดีในภายหลัง!”อันเหมี่ยวหาน ได้กล่าวพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย

จากนั้นนางก็ก้มศีรษะลงและดูสับสน

“นี่ท่าน ใครจะไปยอม…”จ้าวซือเหยา ได้พึมพัมออกมา

ในเวลานี้ เย่เฉิน ยังคงลงชื่อเข้าใช้อยู่ที่บนยอดเขาอวี๋เซียว

เขาได้แกล้งทำตัวเป็นศิษย์และนั่งอยู่บนหินเพื่อฝึกฝน

พลังงานทางจิตวิญญาณจำนวนมากได้หลั่งไหลและถูกฉีดอัดเข้าไปในร่างกายของ เย่เฉิน

เทคนิคสร้างสวรรค์และเทคนิคการสะกดข่มของเทพได้หมุนเวียนซึ่งกันและกัน

พวกมันได้เติมเต็มซึ่งกันและกันอย่างต่อเนื่อง

เย่เฉิน ได้ฉีดอัดพลังปราณจิตวิญญาณเข้าไปในทะเลปราณแท้จริงของเขา จากนั้นเขาก็ถ่ายโอนพวกมันเข้าไปข้างในเพื่อหล่อเลี้ยงดอกบัวสีเขียวที่อยู่ภายในร่างกายของเขา

ในเวลานี้ เย่เฉิน ได้ค้นพบความผิดปกติบางอย่างเกี่ยวกับทะเลปราณของเขา

มันไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีทะเลปราณที่ผิดปกติแบบนี้ เฉพาะคนที่พิเศษหรืออัจฉริยะเท่านั้นที่จะมีทะเลปราณที่ดูไร้ขอบเขต

เย่เฉิน ไม่รู้ว่าเขาถูกมองว่าเป็นอัจฉริยะได้หรือไม่ เพราะด้วยการโกงของระบบ แม้แต่อัจฉริยะก็ไม่สามารถเทียบเขาได้

เย่เฉิน ได้หล่อเลี้ยงดอกบัวสีเขียวภายในร่างกายของเขาอย่างระวัง

เขารู้ว่าดอกบัวสีเขียวนี้คืออะไร

เย่เฉินเคยอ่านตำราเกี่ยวกับตำนานในชีวิตก่อนของเขา ดอกบัวสีเขียวนี้คือสิ่งปลูกสร้างจากสวรรค์

มันคือดอกบัวเขียวแห่งการสรรค์สร้าง เป็นขุมทรัพย์แห่งความโกลาหล โดย ในใจกลางดอกบัวมีเมล็ดบัวอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 เม็ด และ 1 ในนั้นได้ให้กำเนิดเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่อย่างผานกู่

ต่อมาเมื่อผานกู่เบิกสวรรค์ รัศมีแห่งความโกลาหลวุ่นวายอย่าง ดิน น้ำ ลม และ ไฟ ที่รุนแรงก็ได้ทำลายดอกบัวเขียวแห่งการสรรค์สร้าง

จากนั้นทุกสิ่งบนดอกบัวสีเขียวก็ได้กลายเป็นสมบัติแห่งความโกลาหลที่เป็นของล้ำค่าที่มีแหล่งที่มาจากต้นกำเนิดของทุกสรรพสิ่ง

เกี่ยวกับดอกบัวสีเขียว มันเป็นปรากฏการณ์หายากสำหรับผู้บ่มเพาะพลัง

และนี่คือเหตุผลที่ เย่เฉิน ระมัดระวังในการบำรุงเลี้ยงดอกบัวสีเขียวในร่างกายของเขา

หลังจากฝึกฝนเสร็จแล้ว เย่เฉิน ก็ได้ปกปิดกลิ่นอายพลังของเขาและกลับไป

เนื่องจากผลของการบำรุงด้วยโอสถและสมุนไพรต่าง ๆ ร่างกายของ เย่เฉิน ในตอนอายุ 13 ปี จึงไม่ได้ดูเด็กอีกต่อไป ยิ่งไปกว่านั้น ในโลกนี้ บุรุษจะกลายเป็นผู้ใหญ่ก็ต่อเมื่ออายุครบ 16 ปีเต็ม ดังนั้น เย่เฉิน จึงเกือบจะเข้าสู่วัยผู้ใหญ่แล้ว

ในปัจจุบัน เย่เฉิน ที่มีอายุ 13 ปี เขามีส่วนสูงประมาณ 1.6 เมตร อีกทั้งยังมีร่างกายที่กำยำและใบหน้าที่ไร้เดียงสาบริสุทธิ์เป็นอย่างมาก จากนี้ใคร ๆ ก็คงสามารถบอกได้ว่าเขาคงจะกลายเป็นบุรุษหนุ่มรูปงามเมื่อเขาโตขึ้น

อย่างไรก็ตาม ต่อหน้าคนนอก เย่เฉิน มักจะแสร้งทำเป็น ชายหนุ่มอายุ 17-18 ปี

เฉพาะต่อหน้า แม่ของเขาและศิษย์พี่หญิงทั้ง 7 เท่านั้น ที่ เย่เฉิน จะเปิดเผยลักษณะที่แท้จริงของเออกมา

เย่เฉิน ได้เดินมาที่บ้านของศิษย์พี่หญิงรองก่อน

ในเวลานี้ ศิษย์พี่หญิงรองกำลังฝึกฝนกระบี่ของนาง

ตั้งแต่วิกฤติการณ์ครั้งล่าสุด ศิษย์พี่หญิงรองก็หมกมุ่นอยู่กับการฝึกฝนของนางตลอดทั้งวันและทั้งคืน

ดวงตาของนางได้กลายเป็นเฉียบแหลมมากยิ่งขึ้น และ เจตจำนงค์กระบี่ก็เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าที่ทรงพลัง

เกี่ยวกับสิ่งนี้ เย่เฉิน ได้ชัดเจนในใจของเขา

ศิษย์พี่หญิงรองของเขาเป็นคนที่ถือตัวและเย่อหยิ่งเล็กน้อย

หลังจากที่นางรู้ว่า เย่เฉิน ได้พัฒนามาจนถึงอาณาจักรเทวะแล้ว นางไม่เพียงแต่มีความสุข แต่ยังปรากฏความผิดหวังเล็กน้อย

ดังนั้น นางจึงได้ฝึกฝนวิชากระบี่ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยหวังว่าจะสามารถไล่ตาม เย่เฉิน ให้ทัน

เพราะงั้นนี่เป็นเหตุผลหลักที่ เย่เฉิน มักจะปกปิดฐานการบ่มเพาะพลังที่แท้จริงของเขาเอาไว้

เพราะเขาไม่ต้องการทำร้ายศิษย์พี่หญิงของเขา

เย่เฉิน ได้มาถึงที่สระฝึกกระบี่ของศิษย์พี่หญิงรอง

เขาเห็นว่าศิษย์พี่หญิงรองกำลังฝึกฝนเทคนิค 13 กระบี่สวรรค์และปฐพี โดยการเคลื่อนไหวของนางในแต่ละครั้งก็เต็มไปด้วยความรุนแรง และ เจตจำนงค์กระบี่ที่กล้าหาญเป็นอย่างมาก

ถ้านางยังคงฝึกฝนเช่นนี้ต่อไป เย่เฉิน กังวลว่านางจะเป็นบ้าไปเสียก่อน

“ศิษย์พี่หญิงรอง!”เย่เฉิน ได้หยุด มู่หรงชิงเสวี่ย

“เฉินน้อย เป็นเจ้านี่เอง!”มู่หรงชิงเสวี่ย ได้หยุดการเคลื่อนไหว

“ศิษย์พี่หญิงรอง ท่านฝึกฝนมาเป็นเวลานานติดต่อกันแล้ว ท่านควรพักบ้าง!”เย่เฉิน ได้กล่าวแนะนำ

“ข้าไม่เหนื่อย”มู่หรงชิงเสวี่ย ได้ตอบกลับอย่างใจเย็น

“แต่…”เย่เฉิน อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็หยุดลง

“ข้าอยากจะฝึกอีกสักพัก!”มู่หรงชิงเสวี่ย ได้กล่าวออกมาและพร้อมที่จะฝึกฝนกระบี่ของนางอีกครั้ง

ในขณะนี้ เย่เฉิน ได้ยกมือขึ้น และ ปลดปล่อยพลังเพื่อสะบัดกระบี่ออกจากมือของศิษย์พี่หญิงรองของเขา

มู่หรงชิงเสวี่ย ที่เห็นการกระทำของ เย่เฉิน นางมองไปที่อีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจ

แต่ในเวลานี้ เย่เฉิน ก็ได้เดินไปกอดศิษย์พี่หญิงรองของเขา

ในขณะนี้ ใบหน้าที่เย็นชาของ มู่หรงชิงเสวี่ย ได้กลายเป็นตกใจมากยิ่งขึ้นไปอีก

นางไม่เคยถูกใครกอดเช่นนี้มาก่อนในชีวิต

“เฉินน้อย?”มู่หรงชิงเสวี่ย ไม่ได้ปฏิเสธ แต่ ได้เรียกชื่อ เย่เฉิน เพียงเท่านั้น

เย่เฉิน ได้กอดศิษย์พี่หญิงรองของเขาแน่นและไม่ได้ปล่อย จากนั้นเขาก็กล่าวออกมา “ศิษย์พี่ ข้ารู้ว่าท่านต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้น เพราะหลังจากที่ท่านแข็งแกร่งขึ้น ท่านก็จะสามารถปกป้องสิ่งที่ท่านต้องการจะปกป้องได้”

“อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ข้าเองก็โตแล้ว ข้าไม่ต้องการให้ท่านต้องแบกรับภาระคนเดียวอีกต่อไป ดังนั้น ท่านสามารถพึ่งพาข้าและคนรอบข้างได้”

มู่หรงชิงเสวี่ย รู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินสิ่งนี้

นางรู้สึกว่าทั้งหมดนี้เป็นเรื่องไร้สาระ เพราะนางไม่เคยถูกกอดแบบนี้มาก่อน ไม่เคยถูกพูดแบบนี้มาก่อน และ ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน

แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องขบขัน แต่การกอดของ เย่เฉิน ก็ทำให้นางรู้สึกอบอุ่นมาก

“จะให้ข้าพึ่งพาเจ้างั้นหรือไม่?”มู่หรงชิงเสวี่ย ได้กล่าวถามเบา ๆ

“ใช่แล้ว พึ่งพาข้า นอกจากข้าแล้ว ก็ยังมีศิษย์พี่หญิงใหญ่ ศิษย์พี่หญิงสาม ศิษย์พี่หญิงคนอื่น ๆ  และ ท่านแม่ของข้า เพราะพวกเราทั้งหมดนั้นคือครอบครัว”เย่เฉิน ได้กอดศิษย์พี่หญิงรองและกล่าวพูดต่อ “ถ้าท่านยังฝึกฝนอย่างไม่หยุดพักเช่นนี้อีกต่อไป ข้าเกรงว่าท่านจะเป็นบ้าไปในที่สุด”

ในเวลานี้ มู่หรงชิงเสวี่ย ได้พยักหน้าด้วยสีหน้าที่เย็นชา

“เข้าใจแล้ว เฉินน้อย ข้าจะพยายามคิดให้รอบคอบ”

มู่หรงชิงเสวี่ย มักจะไม่ค่อยชอบพูด ดังนั้น แม้แต่ เย่เฉิน ก็ไม่สามารถคาดเดาได้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่

โดย เย่เฉิน ได้กลับไปที่ถ้ำของเขา แต่พอมาถึงมันก็ช่วงสายแล้ว

นอกจากนี้ ศิษย์พี่หญิงเจ็ด จ้าวซือเหยา ยังคงอาศัยอยู่ในถ้ำของ เย่เฉิน ซึ่ง เย่เฉิน คิดว่าศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขาหลับไปแล้ว ดังนั้น เขาจึงได้ผล็อยหลับไป…

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด