Ep.216 - คิดจนผมร่วงหัวล้านก็ยังไม่ได้คำตอบ
1/3
Ep.216 - คิดจนผมร่วงหัวล้านก็ยังไม่ได้คำตอบ
ฮังอวี่เตือน “เหล่าจ้าวระวัง!”
ภูติปีศาจการ์กอยล์หินเลือกโจมตีเหล่าจ้าวซึ่งยืนอยู่ข้างหน้าและโดดเด่นที่สุด
มันกระโจนเข้าหาเขาตรงๆราวกับสายฟ้าฟาด ก่อสายลมตัวรุนแรง โจมตีอย่างรวดเร็ว
หลากหลายความคิดประทังเข้ามาในสมองของจ้าวหมิง
‘มันว่องไวมาก!’
‘ที่นี่นอกจากฮังอวี่แล้ว’
‘คนอื่นๆไม่มีทางตามความเร็วของมันทัน เรื่องตอบสนองแทบไม่ต้องพูดถึง’
หลังจากที่เหล่าจ้าวตระหนักว่าเขาแทบไม่มีโอกาสหลบเลี่ยงการโจมตี เจ้าตัวก็ล้มเลิกความตั้งใจที่จะหลบทันที เปิดใช้งานสกิลมรดก ‘โล่เสริมแกร่ง’ และ ‘รัศมีกบฏ’
โล่ยักษ์พลันปกคลุมไปด้วยอักษรรูน
แต่ละรูนแสดงถึงการป้องกันและความทนทาน
หลังจากเอฟเฟกต์เสริมแกร่งทำงาน โล่ยักษ์สองมือซึ่งมีคุณสมบัติสูงมากอยู่แล้ว ค่าคุณสมบัติของมันเพิ่มขึ้นอย่างมากจากฐานเดิม ทนทานยิ่งกว่าเดิม
ในเวลาเดียวกัน
รอบกายของเหล่าจ้าวถูกปกคลุมไปด้วยชั้นแสง
มันคือรัศมีกบฏที่สืบทอดมาจากจอมกบฏ
เมื่อเหล่าจ้าวตกอยู่ภายใต้ผลของรัศมีกบฏ ตราบใดที่มีการโจมตีกระทบกระทั่งร่างกายเขา ส่วนหนึ่งของมันจะสะท้อน และกระเด็นไปยังเป้าหมายที่อยู่ใกล้เคียง
สกิลพรสวรรค์เกราะศักดิ์สิทธิ์ไม่มีเวลาทันเปิดใช้งาน
ภูติปีศาจการ์กอยล์หินยกแขนขวาขึ้น กำปั้นหินของมันขยายใหญ่ เหล่าจ้าวสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่ส่งเข้ามา เขามีร่างกายสูงใหญ่และแข็งแกร่ง แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเจ้าหมอนี่ ไม่ต่างจากเด็กกำลังเผชิญหน้ากับผู้ใหญ่
วินาทีถัดมา
กำปั้นหินกระแทกเข้ากับโล่ยักษ์
แรงปะทะอันหนักหนารุนแรงก่อคลื่นลมกระจายไปทั่วบริเวณ วัชพืชที่อยู่รอบๆถูกทำลายเป็นชิ้นๆ
เสียงบรึ้มดั่งระฆังทองดังก้องอยู่ในหูของทุกคน
โล่ผู้พิทักษ์คุณภาพสีเขียวดั่งถูกค้อนปอนด์ทุบจนบุบ
จ้าวหมิงรู้สึกว่าพลังงานที่มองไม่เห็นกระหน่ำออกมาจากโล่ที่อยู่เบื้องหน้าเขา มันไหลผ่านโล่เข้ามา วิ่งตามสองแขน กระจายไปทั่วร่าง ชุดเกราะเกิดรอยปริร้าว ทั้งคนทั้งโล่ถูกผลักกระเด็นไป 5 - 6 เมตร
-28!
ในขณะเดียวกัน จ้าวหมิงเกิดอาการมึนงง
กำปั้นเดียวสูบเอาพลังชีวิตของเขาหดหายไปกว่าครึ่ง
แม้ว่าเหล่าจ้าวจะไม่มีเวลาเปิดเกราะศักดิ์สิทธิ์ แต่เมื่อเขาถือโล่ยักษ์สีเขียวเลเวล 6 ในมือ พลังป้องกันของเขานั้นสูงจนน่าตกใจ ทว่าแม้อยู่ในสถานะนี้ ก็ยังต้านทานการโจมตีไม่ได้ นี่เขาอ่อนแอขนาดนี้เชียวหรือ?
อย่างไรก็ตาม โชคดีที่ผู้ถูกโจมตีคือเหล่าจ้าว
หากแทนที่ด้วยคนอื่นในที่นี่
เชื่อหรือไม่กำปั้นนั้นอาจชกพวกเขาตายในหมัดเดียว!
ภูติปีศาจการ์กอยล์หินโจมตีโล่ยักษ์ โดนดาเมจบางส่วนสะท้อนกลับ แม้จะไม่มากนัก แต่ก็ช่วยขัดขวางคอมโบของมันให้หยุดชะงัก ไม่เช่นนั้นแล้ว ขณะที่เหล่าจ้าวตกอยู่ในอาการมึนงง เขาคงได้ถูกมันทุบตีอีกรอบ
บรึ้มมมม!
สกิลพรสวรรค์ของเสี่ยวเฉียงถูกขว้างออกไป
ร่างภูติปีศาจการ์กอยล์หินถูกห่อหุ้มไปด้วยเปลวเพลิง ทำดาเมจ 9 หน่วย
ในเวลาเดียวกัน เฉินหยูร่ายคาถาเทคนนิคกรงอัคคี ขังภูติปีศาจการ์กอยล์หิน สร้างดาเมจต่อเนื่อง -1, -1, -1...
แทบตีไม่เข้า!
พลังป้องกันเวทย์ของมันสูงเกินไป!
ภูติปีศาจการ์กอยล์หินหันเหความสนใจ เปลี่ยนเป้าหมายไปยังจางเสี่ยวเฉียงที่สร้างดาเมจให้แก่ตนเองมากที่สุด
เชี่ยเถอะ!
น่ากลัวโคตรๆ!
เพียงสายตาที่มองมาของภูติปีศาจการ์กอยล์หิน มันทำให้เสี่ยวเฉียงรู้สึกหวาดกลัวจนฉี่แทบราด
เจ้าหมอนี่ทั้งดุร้ายและน่าหวาดกลัว เกรงว่าแค่มันปลดปล่อยสกิลอะไรก็ได้ออกมาซักสกิลหนึ่ง ก็สามารถฆ่าเขาในวินาทีเดียว
เขารู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองได้ตายไปแล้ว
แต่ในตอนนั้นเอง ฉินมู่ผู้เงียบขรึมและไม่ค่อยพูดมากนักพลันเคลื่อนไหว เขาปลดปล่อยสองสกิลติดต่อกัน หนึ่งคือมนตร์วาจาต้องห้ามเพื่อผนึกสกิลศัตรู และอีกหนึ่งคือสร้างภาพหลอนเพื่อควบคุมหน่วงเหนี่ยวศัตรูชั่วคราว
มนตร์วาจาต้องห้ามก็เหมือนกับสกิลใบ้ในเกมต่อสู้
สร้างภาพหลอนสามารถทำให้การรับรู้ของศัตรูสับสนชั่วคราว
หากฝ่ายตรงข้ามเป็นเพียงมอนสเตอร์ชั้นยอดธรรมดา แน่นอนว่าสามารถแทรกแซงได้เป็นระยะเวลานาน แต่เป้าหมายคือระดับเจ้าถิ่น แม้ฉินมู่จะเป็นผู้ใช้วิญญาณที่ดีที่สุดในสามค่าย แต่ก็ไม่สามารถควบคุมหน่วงเหนี่ยวได้เป็นเวลานาน มากสุดอาจรบกวนมันได้แค่ 2 - 3 วินาที
แม้นั่นจะสั้น
แต่ก็เพียงพอแล้ว
เจียงหนานร่ายเทคนิครักษาสองครั้งเพื่อช่วยเหล่าจ้าวเติมเลือด
ฮังอวี่รีบวิ่งเข้าหาภูติปีศาจการ์กอยล์หินด้วยก้าววายุและล่องหน
ฉันควรจะไปด้วยไหม?
ฉูเทียนหัวเกิดอาการลังเล
แต่ถ้าเข้าไปอาจถูกโจมตีตายได้!
อาชีพนักรบอย่างฮังอวี่และจ้าวหมิงต่างอยู่ในแนวหน้าแล้ว เหลือเพียงเขาที่ยังคงขี้ขลาด
ยังไงก็ตาม สุดท้ายฉูเทียนหัวก็ตัดสินใจเลือกสู้ อย่างไรเสียเขาเป็นทหาร ไม่มีนิสัยละทิ้งสหาย แต่ใครจะรู้ เจ้าตัวยังไม่ทันก้าวเท้า ทันใดนั้นพลันได้ยินเสียงการ์กอยหินแผดร้องลั่น
“แย่แล้ว!”
“มันไม่ได้มาตัวเดียว!”
“ยังมีการ์กอยหินอีกสี่ตัว!”
ลำพังภูติปีศาจการ์กอยล์หินตัวเดียวก็รับมือยากแล้ว
เช่นนั้นพวกเขาจะแบ่งสมาธิไปจัดการกับการ์กอยหินอีกได้อย่างไร?
เจ็ดคนหนึ่งสุนัขยากจะเอาชนะ มีโอกาสสูงที่พวกเขาทั้งทีมจะถูกทำลาย!
แล้วจะทำยังไงดี?
การ์กอยหินทั้งสี่ตัวกำลังจะมาสมทบ!
เอฟเฟกต์วาจาต้องห้ามของฉินมู่กำลังจะหายไป
ต้องทำยังไง? จะสู้อย่างไร? คิดยังไงก็ไม่มีทางเอาชนะศึกนี้ได้เลย!
ฉูเทียนหัวเสนอทันทีว่า “ฉันคิดว่าพวกเราควรล่าถอย เมื่อสลัดพวกมันหลุดก็ใช้คัมภีร์เทเลพอรต์เพื่อออกจากเขาวงกต ยอมหนีดีกว่ายอมตาย ครั้งนี้พวกเราทำได้ดีมากแล้ว!”
ล่าถอย?
มันไม่ง่ายขนาดนั้นน่ะสิ!
ความว่องไวของพวกเราน้อยกว่า ภูติปีศาจการ์กอยล์หิน
พูดได้เลยว่าหากถอยก็ตาย แต่ไม่ถอยก็ตายเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ทุกคนไล่กวาดล้างการ์กอยหินอย่างเมามัน พวกเขาทั้งหมดเกิดความคิดว่ายิ่งฆ่าพวกมันเยอะเท่าไหร่ยิ่งดี แต่ไม่นึกเลย ว่านั่นจะเป็นการล่อเจ้านายของพวกมันออกมา และตอนนี้พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์กระอักกระอ่วน
ฮังอวี่รีบไปยังภูติปีศาจการ์กอยล์หิน
กลยุทธ์หลายอย่างวาบผ่านเข้ามาในหัวเขา
และสุดท้ายก็ตัดสินใจใช้แนวทางที่ปลอดภัยที่สุด
“มอนสเตอร์เจ้าถิ่นตัวนี้ให้ผมจัดการกับมันเอง ขอเจียงหนานตามมาช่วยอีกแรงก็พอ ส่วนคนอื่นๆรับมือกับพวกการ์กอยหินธรรมดา!”
ฉูเทียนหัวและจ้าวหมิงต่างตกใจเมื่อได้ยิน
ลำพังฮังอวี่กับเจียงหนานคิดท้าทายระดับเจ้าถิ่น?
ทุกคนได้เห็นพลังรบของภูติปีศาจการ์กอยล์หินกับตาตัวเองแล้ว ประสิทธิภาพในการต่อสู้ของมันพลิกคว่ำฟ้าดิน ฮังอวี่ไปเอาความมั่นใจมากจากไหนกันว่าจะรับมือมันได้ นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะ อ๊าาาา!
อย่างไรก็ตาม ไม่มีเวลาคิดทบทวนเรื่องนี้
“ถ้าแค่การ์กอยหินธรรมดาสี่ตัว ด้วยพลังรบของพวกเราในตอนนี้ น่าจะเพียงพอที่จะจัดการกับมันได้” จ้าวหมิงเป็นผ้นำในการตัดสินใจ “อย่างน้อยเกราะศักดิ์สิทธิ์ของฉันก็สามารถยันพวกมันสามตัวได้ชั่วคราว”
จ้าวหมิงคือซุปเปอร์แทงค์
ฉูเทียนหัวเป็นตัวทำดาเมจหลัก
เฉินหยูและเสี่ยวเฉียงเป็นนักเวทย์ที่มีพลังโจมตีรุนแรง
แม้จะสูญเสียผู้รักษาอย่างเจียงหนานและกองกำลังหลักอย่างฮังอวี่ไป แต่ฉินมู่ก็ยังมีความสามารถในการควบคุมหน่วงเหนี่ยวมอนสเตอร์ พลังรบของพวกเขายังพอรับมือกับการ์กอยหินสี่ตัวได้ อย่างน้อยก็ปลอดภัยกว่าตอนสู้กับภูติปีศาจการ์กอยล์หิน
จ้าวหมิง เฉินหยู ฉูเทียนหัว ทั้งสามเป็นผู้นำมาจนถึงตอนนี้ ในมือย่อมมีไพ่ตายมากกว่าหนึ่งหรือสองใบเช่นพวกคัมภีร์สกิลที่ทรงพลัง โพชั่นทรงพลัง หรือไอเท็มอื่นๆเก็บไว้
สิ่งเหล่านี้แน่นอนไม่ถูกนำออกมาใช้ง่ายๆ
ทว่าในช่วงวิกฤตเช่นนี้ พวกเขาไม่อาจตระหนี่ได้
ด้วยความสามารถของพวกเขา สมควรแบกรับภาระนี้ได้ ที่กังวลก็เป็นฝั่งฮังอวี่ที่ต้องรับแรงกดดันมากเกินไป
ภูติปีศาจการ์กอยล์หินเวลานี้ดูเหมือนจะหลุดพ้นจากพันธนาการแล้ว มันเปล่งเสียงแผดร้องแหลม วินาทีถัดมา ไฟฟ้าที่พันรอบกายก็ยิ่งพร่างพรายมากขึ้น จนแทบจะกลืนกินภูติปีศาจการ์กอยล์หิน
ปะทะเดือด!
โจมตีต่อเนื่อง!
ทำดาเมจ 30 หน่วย
ฝั่งตรงข้ามเป็นมอนสเตอร์ระดับเจ้าถิ่นที่มีพลังป้องกันสูงมาก แค่สร้างดาเมจได้ขนาดนี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว
พลังป้องกันทางกายภาพของภูติปีศาจการ์กอยล์หินดูท่าจะไม่ทนทานเท่าพลังป้องกันเวทย์ ไม่เช่นนั้น นักเวทย์ทรงพลังอย่างเฉินหยูและจางเสี่ยวเฉียงคงทำดาเมจได้มากกว่านี้ แต่อย่าคิดเชียวว่าอาศัยเพียงการโจมตีระยะก็สามารถโค่นภูติปีศาจการ์กอยล์หินได้
เพราะระหว่างโจมตี ฮังอวี่รู้สึกว่าทุกครั้งที่เขาแทงภูติปีศาจการ์กอยล์หิน มันเหมือนกับอีกฝ่ายได้ตอบโต้เขากลับมาด้วยกระแสไฟฟ้า ไม่เพียงสร้างดาเมจสวนกลับ แต่กระแสไฟฟ้ายังกระตุ้นให้เกิดเอฟเฟกต์อัมพาต ต้องขอบคุณความต้านทานของฮังอวี่ที่สูง เอฟเฟกต์นี้จึงยังไม่ส่งผลทันที
โจมตีไปหนึ่งระลอก
มันกลับทำให้พลังชีวิตของเขาหายไปหนึ่งในสาม
ร่างของภูติปีศาจการ์กอยล์หินถูกห่อหุ้มไปด้วยกระแสไฟฟ้า อันที่จริงนี่คือสกิล‘เกราะสายฟ้าต้องสาป’ ที่โคตรโกง แม้มีคำว่าเกราะ แต่มันไม่ได้มีไว้สำหรับป้องกัน ทว่ามีไว้เพื่อโจมตี
สกิลนี้ไม่ช่วยเพิ่มค่าคุณสมบัติใดๆ
แต่ทุกครั้งที่ภูติปีศาจการ์กอยล์หินถูกโจมตีทางกายภาพในระยะประชิด เกราะสายฟ้าต้องสาปจะทำงาน ปล่อยกระแสไฟฟ้าไหลย้อนกลับไปทำร้ายผู้โจมตี กระทั่งฮังอวี่ก็ยังไม่สามารถทานทนได้ ดังนั้น ฉูเทียนหัวที่มีสกิลโจมตีระยะประชิดทั้งหมดยิ่งแล้วใหญ่ ทำอะไรไปก็ไม่ต่างจากการพาตัวเองไปถูกไฟช็อต
ก็นั่นแหละหนอ มอนสเตอร์ระดับเจ้าถิ่นไม่ง่ายที่จะจัดการ
ภูติปีศาจการ์กอยล์หินครอบครองพลังป้องกันเวทย์ที่สูงมาก และสกิลก็โคตรโกง
ภูติปีศาจการ์กอยล์หินไม่ต้องทำอะไรก็สามารถโจมตีศัตรูในระยะประชิด
ขณะเดียวกันก็สามารถสะกดนักเวทย์ที่คอยโจมตีจากระยะไกล
ไม่มีทางสู้มันได้เลย
เจ้าหมอนี่หินเกินไป!
คิดจนผมร่วงหัวล้านก็ยังไม่เจอวิธีเอาชนะ!
ฮังอวี่ยกโพชั่นเพิ่มความว่องไวของปีศาจแมวขึ้นดื่ม
และคราวนี้ ภูติปีศาจการ์กอยล์หินได้หันเหความสนใจมาทางเขาแล้ว