เล่มที่ 1: ถิ่นทุรกันดาร – บทที่ 8: เฝ้าดู [อ่านฟรี]
อเล็กซ์ยังคงอยู่บนยอดต้นสนพักหนึ่งขณะมองสภาพแวดล้อมในความตกใจ
‘ตัวโครตใหญ่!’ อเล็กซ์คิด ‘แล้วฉันจะเอาชีวิตรอดจากที่นี่ไปได้ยังไง? ถ้าบังเอิญเจอเข้าสักตัว คงไม่มีแม้แต่โอกาสจะได้สู้!’
‘แต่พระเจ้าก็ไม่ได้พูดถึงการฆ่าเลยนี่ เขาบอกแค่ฉันควรอยู่ที่นี่จนกว่าจะเอาชีวิตรอดโดยที่ไม่รู้สึกว่าอันตรายแล้ว’
‘นี่คือที่เขาหมายถึงประสบการณ์การต่อสู้ที่เพียงพอหรือเปล่า? การจะเอาชีวิตรอดในถิ่นทุรกันดารได้ก็ต้องมีทักษะพอตัว อย่างถ้าเกิดมีใครบางคนตามล่า ฉันก็ควรที่จะเอาชีวิตรอดได้’
‘นี่ไม่ใช่การต่อสู้แบบมีการวางแผนอย่างที่เคยชิน นี่มันการต่อสู้แบบเจ็บจริงตายจริง ซึ่งหมายความว่าการหลบหนีเป็นกลยุทธ์ที่ใช้ได้ ฉันคิดว่าการหนีถือเป็นทักษะที่มีค่า’
อเล็กซ์ถอนหายใจ
‘ต้องหาถ้ำเพื่อนอนสักคืนสินะ’ อเล็กซ์พูดกับตัวเอง ‘ภูเขาอยู่ห่างจากนี่ประมาณยี่สิบกิโลเมตร ถ้ามีเส้นทางตรงและปลอดภัย น่าจะไปถึงที่นั่นภายในครึ่งวันด้วยสภาพร่างกายตอนนี้ แต่จากที่เห็นแล้ว หาความปลอดภัยไม่เจอ คงต้องเลี้ยวหลบอยู่หลายครั้ง’
‘ใช่ มันไม่ได้ผลแน่ ฉันต้องใช้วิธีอื่น’
‘ขุดหลุมก็ไม่ใช่ทาง ฉันมีแค่มีดอยู่เล่มเดียว อีกอย่าง อากาศค่อนข้างเย็นทำให้เดินพื้นดินแข็งขึ้น นอกจากนั้นก็มีแต่รากไม้เต็มไปหมด’
อเล็กซ์ลูบหลังศีรษะ
‘งั้นก็เหลือแค่สองทางเลือก ถ้าไม่หาต้นไม้ใหญ่ที่มีรูกลางลำต้นให้นอนได้ก็ต้องนอนบนยอดไม้ ตั้งแคมป์ข้างนอกไว้เป็นตัวเลือกสุดท้าย’
อเล็กซ์ถอนหายใจ
‘ถ้าจะนอนบนต้นไม้จริง ๆ งั้นก็ไม่ต้องมองหาต้นอื่นแล้ว เอาจริงแถวนี้ก็มีแต่ต้นใหญ่ ๆ ทั้งนั้น ต้นไม้ก็นอนได้หมด แค่ต้องตัดส่วนที่เป็นหนามกับกิ่งส่วนเกินออก’
อเล็กซ์เงยหน้าขึ้น
‘น่าจะประมาณบ่ายโมง แสดงว่ายังพอมีเวลาให้ล่า ฉันควรเฝ้าดูบริเวณนี้ก่อนว่ามีสัตว์ป่าอะไรบ้าง การรู้จักศัตรูเป็นอย่างดีก็ถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง’
อเล็กซ์ไต่ลงมาจากต้นไม้แต่ยังไม่ถึงพื้น เขาอยู่บนกิ่งไม้หนาที่สูงจากพื้นราวห้าเมตร เขาเลาะหนามบนต้นออกเพื่อให้นั่งได้อย่างสบาย
แต่เดี๋ยวก่อน ไม่ใช่ว่าอเล็กซ์จะเฝ้าดูสัตว์ป่าหรือ?
ใช่ เขาทำอยู่ แต่มีเพียงแค่คนโง่เท่านั้นที่จะเดินเตร่ไปในป่าที่ไม่รู้จักพื้นที่ดี
ที่นี่ไม่ใช่โลก
บนโลกมีสัตว์อันตรายอยู่หลายชนิด แต่พวกมันไม่ได้มีอยู่ทุกที่ และถึงแม้ว่าจะอยู่ในพื้นที่ที่รู้ว่ามีสัตว์อันตราย ก็ไม่มีทางที่สัตว์เหล่านี้จะรวมกันอยู่ในที่เดียว สัตว์ที่มีอำนาจย่อมมีอาณาเขตของตัวเอง และกินมากกว่าสัตว์อื่น ๆ
อย่างไรก็ตาม ที่นี่ หลายสิ่งอาจต่างออกไป อเล็กซ์ไม่แน่ใจว่าหุบเขาแห่งนี้มีสัตว์ร้ายอยู่มากเพียงใด แต่น่าจะมีจำนวนไม่มาก
ดังนั้นอเล็กซ์จึงอยู่แค่บนต้นไม้ขณะมองลงมาข้างล่าง ขณะเดียวกันนั้นอเล็กซ์ก็พยายามเงียบให้ได้มากที่สุด
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป บั้นท้ายของอเล็กซ์เริ่มชาจากการนั่งเป็นเวลานาน อย่างไรก็ตาม การรอแบบนี้ได้ผลดี ตอนนี้อเล็กซ์โล่งใจมากที่เขาเลือกที่จะอยู่บนต้นไม้
ทำไมกัน?
ฝูงหมาป่า
มีหมาป่าสีเทาอ่อนสี่ตัวกำลังเดินอยู่รอบ ๆ ต้นไม้ที่อเล็กซ์อยู่
ชัดเจนว่าพวกมันได้กลิ่นเขา และไม่นานพวกมันก็พบอเล็กซ์เพราะกลิ่นของเขานำพวกมันมา
หมาป่าแหงนหน้ามองอเล็กซ์ที่กำลังมองส่งกลับมาด้วยความประหม่า
‘ขนาดปกติ แต่ก็ยังใหญ่อยู่ดี!’ อเล็กซ์คิด
หมาป่าสี่ตัวมีขนาดที่ใหญ่กว่าหมาป่าบนโลกมาก แต่หมาป่าบนโลกก็มีน้ำหนักกว่าเก้าสิบถึงหนึ่งร้อยกิโลกรัมแล้ว
หากเทียบกันกับสุนัขพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ดที่หนักเพียงสามสิบถึงสี่สิบกิโลกรัม
หมาป่าเริ่มวนรอบต้นไม้ บางตัวเริ่มตะกายขึ้นมาด้วยกรงเล็บ แต่ต้นไม้นั้นใหญ่เกินไป
น่าแปลกใจที่หมาป่าพวกนี้ไม่เห่า คำราม หรือหอน
มีแค่เสียงจากกรงเล็บที่ขูดกับต้นไม้ พวกมันไม่สร้างเสียงอื่นเลย
หัวใจของอเล็กซ์เต้นอย่างรวดเร็ว แต่เขาก็ยังคุมสติไว้ได้อยู่
เขารู้ว่าดีพวกมันไม่สามารถขึ้นมาถึงบนนี้ได้
‘สีเทาอ่อน เป็นสีที่น่าสนใจดีนะ’ อเล็กซ์คิด ‘หมาป่าส่วนใหญ่จะมีสีน้ำตาลหรือไม่ก็สีเทาเข้ม คิดว่าพวกที่มีสีอ่อนคงเพราะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เย็นเนื่องจากสีจะช่วยให้ง่ายต่อการไม่เป็นจุดสังเกตท่ามกลางหิมะ’
‘นี่คือสิ่งยืนยันว่าบริเวณนี้มีอากาศที่หนาวเย็น’
หลังจากนั้นไม่นาน หมาป่าก็หายไป ไม่มีเหตุผลให้ต้องอยู่ต่อ มันง่ายกว่าที่จะไปหาเหยื่อรายอื่น
อเล็กซ์เฝ้าดูหมาป่าที่จากไปด้วยความสนใจ ‘พวกมันเงียบจนน่าสงสัย ถ้านี่เป็นอาณาเขตของพวกมันจริงก็น่าจะต้องส่งเสียงบ้าง นั่นก็หมายความว่าอาจสัตว์ร้ายที่น่ากลัวกว่าซ่อนตัวอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล’
อเล็กซ์นึกถึงเม่นยักษ์สีเขียวและกิ้งก่าสีน้ำตาล
‘ถ้างั้นก็ชัดเจน’ เขาเสริมความคิด
อเล็กซ์ยังคงอยู่บนต้นไม้
ครึ่งชั่วโมงต่อมา อเล็กซ์พบสัตว์อีกชนิด และแน่นอนว่าเขารู้สึกไม่ชอบเลยที่ได้เห็นมัน
มันคือหมูตอน
อเล็กซ์อธิบายลักษณะปรากฏของหมูได้เพียงคำเดียวคือคำว่าอ้วน
มันสูงเกือบเท่าเขา ความกว้างก็ดูพอ ๆ กัน
‘เยี่ยม หมูตอน’ อเล็กซ์คิดเชิงประชดประชันด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ ‘หมูตอนหวงอาณาเขตและส่งเสียงร้องดังเมื่อพวกมันโกรธ’
หมูตอนได้กลิ่นบางอย่างเมื่อมันเดินมาถึงต้นไม้ที่อเล็กซ์อยู่ แต่แทนที่มันจะแหงนหน้ามองข้างบน มันกลับคุ้ยเขี่ยดิน
ที่น่าแปลกใจและตรงกันข้ามกับสิ่งที่คิดไว้ หมูตอนตัวนี้ไม่ส่งเสียงเลยแม้แต่นิดเดียวขณะขุดดิน
โชคดีที่เจ้าหมูไม่สังเกตเห็นอเล็กซ์และจากไปอย่างรวดเร็วหลังจากที่สำรวจบริเวณรอบ ๆ เล็กน้อย
สิบนาทีต่อมา สัตว์อีกชนิดก็ปรากฏ และมันเป็นสัตว์ที่อเล็กซ์ไม่เคยเห็นมาก่อน
มันคือกิ้งก่าสีเขียวขนาดใหญ่ สูงเกือบสิบเมตร มีขาที่ค่อนข้างยาว นอกจากนี้ยังมีกรงเล็บที่ยื่นยาวออกมาทางเท้า
‘ทำไมที่นี่ถึงมีสัตว์เยอะจัง?!’ อเล็กซ์คิด ‘มันปกติหรือเปล่าที่จะเจอสัตว์ใหญ่ในทุกสองสามชั่วโมง? แต่นี่ฉันเจอทุกสิบนาที!’
ดูเหมือนกิ้งก่าสีเขียวจะได้กลิ่นบางอย่างที่น่าสนใจ และอเล็กซ์ก็รู้สึกประหม่ามากขึ้น
เจ้าตัวนี้ดูเหมือนจะปีนต้นไม้ได้!
กิ้งก่าดมพื้นด้วยความสนใจ และหลังจากนั้นไม่นาน มันก็เดินไปที่ต้นไม้ต้นหนึ่งและปีนขึ้นไป
โชคดีที่นั่นไม่ใช่ต้นที่อเล็กซ์อยู่
เมื่ออเล็กซ์เห็น เขาก็ถอนหายใจแสดงความโล่งใจออกมาเบา ๆ
‘ดูเหมือนมันจะไม่ได้กลิ่น ไม่งั้นคงปีนมาต้นนี้แล้ว คงได้กลิ่นหมูตัวนั้นแน่’
อเล็กซ์มองด้วยความสนใจไปยังต้นไม้ที่กิ้งก่าปีน เสียงปีนต้นไม้ดังขึ้นหลังจากนั้นความเงียบก็เข้ามาแทนที่อีกครั้ง
‘ขามันดูไม่เหมาะกับการอาศัยบนต้นไม้เลยนะ’ อเล็กซ์คิด ‘แต่คงเดินบนพื้นดินได้ปกติ’
อเล็กซ์มีการแสดงออกทางสีหน้าที่ซับซ้อน
‘หรือมันปีนขึ้นมาเพื่อล่าสัตว์?’ อเล็กซ์คิด
บริเวณรอบยังคงเงียบสงบ แต่เขามองไม่สามรถกิ้งก่าผ่านใบไม้สีเขียวที่เข้ามาบังสายตาได้
‘ดีนะที่ไม่ได้เดินไปไหนมั่วซั่ว แม้ว่าจะหลีกเลี่ยงสัตว์เดินเท้าได้ทุกตัว ก็คงต้องปีนป่ายต้นไม้เหมือนกับกิ้งก่าตัวนั้น’ อเล็กซ์คิด
อเล็กซ์มองไปยังต้นไม้ที่เขานอนอยู่บนกิ่งไม้ เขาต้องการซ่อนตัวให้มิดชิดที่สุด
โดยปกติ อเล็กซ์อาจจะพยายามฆ่ามัน เขาควรจะแข็งแกร่งขึ้นและได้รับประสบการณ์การต่อสู้ที่มากขึ้น
นี่เป็นคู่ต่อสู้ที่สมบูรณ์แบบ ขนาดตัวไม่ได้ใหญ่เกินไปและมีตัวเดียว อย่างไรก็ตาม อเล็กซ์คิดที่จะเล่นงานมัน
ทำไม?
เพราะหลังจากที่ได้กลิ่นหมูตอน กิ้งก่าก็รออยู่ที่นี่บนต้นไม้แทนที่จะออกไปค้นหาที่อื่น!
หมูตอนตัวนั้นมีขนาดใหญ่มาก! มันน่าจะหนักถึงสามร้อยกิโลกรัม!
กิ้งก่าที่น้ำหนักเพียงห้าสิบกิโลกรัมจะฆ่าหมูตัวนั้นที่น้ำหนักเยอะกว่ามากลำพังได้อย่างไร?
อเล็กซ์ประเมินว่าความเสี่ยงนั่นสูงเกินไป
อเล็กซ์ยังคงรอต่อไป แต่การรอครั้งนี้แฝงด้วยความตึงเครียด และกิ้งก่าก็ยังคงอยู่ที่นั่น
ที่แย่ไปกว่านั้น ตลอดยี่สิบนาที อเล็กซ์ไม่ได้ยินเสียงอะไรมาจากต้นไม้ต้นนั้นเลย เกือบจะเหมือนกับว่ากิ้งก่าไปจากต้นไม้ต้นนั้นแล้ว
อีกยี่สิบนาทีต่อมา บางสิ่งเดินผ่านต้นไม้ที่อเล็กซ์อยู่ เขามองลงไป ภาพที่เห็นทำให้หัวใจเขาหล่นไปที่ตาตุ่ม
มันไม่ใช่หมูตอน
หมาป่าสี่ตัวกลับมา!