เล่มที่ 1: ถิ่นทุรกันดาร – บทที่ 5: จอมเวทย์ [อ่านฟรี]
อเล็กซ์มองชายหนุ่มด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน
การจะเปลี่ยนแปลงโลกที่เต็มไปด้วยคนคนเป็นผู้ที่มีพลังอำนาจพอ ๆ กับพระเจ้าที่กำลังอยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ไม่ใช่เหรอ?
ยังไงล่ะ?
เขาเป็นเพียงแค่มนุษย์คนหนึ่ง
“อย่าเพิ่งรีบร้อน” ชายหนุ่มพูดพร้อมแสยะยิ้มขณะอ่านความคิดอเล็กซ์อีกครั้ง “ตอนนี้เจ้าไม่ต่างอะไรจากลูกที่เพิ่งได้ยินว่าเขาต้องสานต่อบริษัทของพ่อในอนาคตเลย ช่างเหมือนกันเสียจริง”
“จริง ๆ แล้วเจ้าก็ไม่ต้องทำอะไรมาหรอก”
“เจ้าแค่ต้องแข็งแกร่งขึ้น”
“แค่นั้น”
อเล็กซ์ขมวดคิ้ว “แค่นั้นเหรอ? แต่นายพูดว่าฉันต้องเปลี่ยนแปลงโลกนะ”
“ถูกต้อง” ชายหนุ่มว่าขณะเอนหลัง “การที่เจ้าได้กลายเป็นผู้มีพลัง นั่นแหละคือสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงโลก”
“นายช่วยหยุดพูดเป็นปริศนาแล้วบอกฉันมาตรง ๆ สักทีได้ไหมว่าต้องการให้ฉันทำอะไรกันแน่?” อเล็กซ์ถาม
ชายหนุ่มหัวเราะในใจ “ก็ได้”
“ข้าบอกเจ้าไปแล้วนิดหนึ่งเกี่ยวกับโลกหลักของข้า” ชายหนุ่มว่า “ย้ำอีกครั้ง โลกของข้าจะช่วยให้ใครบางคนเข้าถึงขีดพลังสูงสุดโดยการเพิ่มพลังทั้งร่างกายและจิตใจ”
“การไปถึงขีดพลังสูงสุดได้มีด้วยกันหลายวิธี เจ้าสามารถใช้พลังงานธรรมชาติในอากาศเพิ่มพลังจิตใจได้ สิ่งนี้จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับจิตวิญญาณของเจ้า และยิ่งจิตวิญญาณแข็งแกร่งเท่าไร ความสามารถทางจิตใจก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น เจ้าสามารถใช้จิตใจล้มช้างทั้งตัวได้ หรือแม้กระทั่งเคลื่อนย้ายพลังงานของโลกเพื่อนำไปสร้างเป็นพลังทำลายล้างอันทรงพลังก็ย่อมได้”
“การเสริมความแข็งแกร่งของร่างกาย สร้างขึ้นได้โดยดูดซับพลังงานในอากาศและผสานมันเข้ากับร่างกายของเจ้า เจ้าจะเร็วขึ้น ทรงพลังมากขึ้น จนผู้ที่ฝึกฝนจิตใจไม่สามารถตอบสนองการโจมตีของเจ้าได้”
“เจ้าสามารถหลอมรวมมันเข้ากับแนวคิดของสวรรค์และอัญเชิญมันออกมา”
“เจ้าสามารถจดจ่อกับอาวุธซึ่งช่วยให้เจ้าใจความเป็นจริงเพียงแค่ขยับมัน”
“อีกทั้งยังสามารถเข้าใจแนวความคิดว่าโลกทำงานยังไง และจัดการกับพลังงานในลักษณะที่เลียนแบบแนวคิดเหล่านี้ เจ้าจะสามารถควบคุมไฟ แรงโน้มถ่วง เวลา พื้นที่ น้ำ เหล็ก ชีวิต และอื่น ๆ”
“เจ้าสามารถดูดซับพลังงานได้อย่างหมดจดโดยไร้ซึ่งข้อจำกัด เปลี่ยนให้เจ้ากลายเป็นระเบิดเคลื่อนที่ที่สามารถปลดลป่อยพลังที่สั่งสมมาเป็นเวลานานหลายปีในการโจมตีเพียงครั้งเดียวได้”
อเล็กซ์ฟังอย่างตั้งใจ
ทั้งหมดฟังดูน่าอัศจรรย์เกินไป
จริง ๆ แล้วมันฟังดูเหมือนเกมที่แบ่งเป็นคลาสต่าง ๆ มากกว่า โดยทุกคลาสสามารถมีพลังทักเทียมกันในช่วงท้ายเกมด้วยวิธีของแต่ละผู้เล่น
ชายหนุ่มหัวเราะ “ใช่ เจ้าจะมองว่ามันเหมือนเกมก็ได้ อย่างไรก็ตาม จำไว้ นี่คือความจริง ไม่ใช่เกม”
อเล็กซ์พยักหน้า
“จะให้พูดสั้น ๆ ก็คือ มีหนทางไปสู่พลังจำนวนนับไม่ถ้วน” ชายหนุ่มว่า
จากนั้นเขาก็หยุด
อเล็กซ์มองชายหนุ่มขณะขมวดคิ้ว
หลังจากนั้นเขาก็ย่นจมูกในความขยะแขยง
“ยังไงก็แล้วแต่” ชายหนุ่มพูดขณะมองอเล็กซ์อีกครั้ง แต่สายตาครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน “ข้าได้ทำให้เส้นทางสู่อำนาจที่ต่างกันเหล่านี้เกิดผลสำเร็จ เมื่อเวลาผ่านไป มนุษยชาติเริ่มค้นพบเส้นทางที่แตกต่างเหล่านี้อย่างช้า ๆ และพลังสูงสุดของมนุษยชาติก็เริ่มทวีคูณขึ้นเรื่อย ๆ”
“ทุกอย่างเป็นไปตามที่หวัง และข้าก็มีเวลาเหลือเฟือที่จะเฝ้าดูเส้นทางสู่พลังที่แตกต่างเหล่านี้ต่อสู้กันเอง”
จากนั้นชายหนุ่มก็กัดฟันแน่น
“และตอนนั้นเองที่เจ้านั่นปรากฏตัวขึ้นมา” ชายหนุ่มพูดด้วยความขยะแขยง
“ใคร?” อเล็กซ์ถาม
ชิ้ง! ตึ้ง!
แสงสว่างจ้าวาบขึ้นมาครู่หนึ่งตรงหน้าอเล็กซ์ และเขาก็ได้ยินเสียงเหมือนมีบางอย่างกระแทกพื้น
อเล็กซ์มองและสูดหายใจลึก
มันคือซากศพที่ล่อนจ้อนของชายหนุ่มคนหนึ่ง!
“ชายผู้นี้” ชายหนุ่มย้ำด้วยความเกลียดชัง “ถูกขนานนามว่าจักรพรรดิจอมเวทย์!”
‘จักรพรรดิจอมเวทย์?’ อเล็กซ์คิดขณะมองศพที่ล่อนจ้อน
“หนึ่งในเส้นทางสู่พลังที่ข้าสร้างขึ้นคือเส้นทางแห่งเวทมนตร์” ชายหนุ่มอธิบาย “นี่คือตัวอย่างแรกที่แสดงให้เจ้าเมื่อข้าอธิบายถึงเส้นทางสู่พลังในโลกของข้า”
อเล็กซ์รู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเมื่อต้องพูดกับชายหนุ่มขณะมีศพนอนอยู่ข้าง ๆ พวกเขา “นายหมายถึงคนที่ใช้พลังงานเพื่อเพิ่มพลังจิตใจและจิตวิญญาณคนนั้นน่ะเหรอ?” อเล็กซ์ถามขณะมองดูศพอย่างไม่สบายใจ
“ใช่” ชายหนุ่มอย่างเป็นกลาง “จอมเวทย์แสวงหาพลังสูงสุดเหนือผู้ใดเหมือนกับคนอื่น ๆ แต่พวกเขาก็ไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าคนอื่น ๆ เลยจริง ๆ”
“จนกระทั่งจักรพรรดิจอมเวทย์ปรากฏตัว” ชายหนุ่มถ่มน้ำลายในความขยะแขยงพลางเหลือบมองศพ “เขากลายเป็นบุคคลที่มีพลังมากสุดในโลก แต่แทนที่จะเพิ่มพลังของตัวเองให้มากขึ้น เขากลับมุ่งไปที่การสร้างเส้นทางสู่เวทมนตร์สูงสุด”
“เขาฆ่าผู้ที่มีพลังมากสุดของเส้นทางสู่พลังเส้นทางอื่น” ชายหนุ่มว่าด้วยความโกรธ “ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่เขาฆ่าผู้ที่มีพลังสูงสุด ก็ได้สั่งให้จอมเวทย์คนอื่น ๆ ฆ่าทุกคนที่มีมาตรฐานพลังเพียงพอโดยไม่เคยผ่านการฝึกเวทมนตร์!”
“ภายในเวลาเพียงไม่กี่ปี ไอ้สารเลวนี่ก็ได้ทำลายความก้าวหน้านับพันปีลง!” ชายหนุ่มตะโกนขณะจ้องไปที่ศพด้วยดวงตาที่มืดบอดด้วยโทสะ
ชายหนุ่มยืนขึ้นขณะเดินไปรอบ ๆ ด้วยความโกรธ
อเล็กซ์เก็บตัวเงียบ ไม่พูดไม่จาอะไร
ถึงตอนนี้ อเล็กซ์ได้ตระหนักว่าพระเจ้าองค์นี้ของขึ้นง่ายสุด ๆ
“เจ้ารู้หรือไม่ว่านับตั้งแต่นั้นมาโลกมันโครตน่าเบื่อเพียงใด?!” ชายหนุ่มตะโกนขณะจ้องอเล็กซ์
อเล็กซ์รีบส่ายหน้าทันที
“เหลือเพียงจอมเวทย์ และเส้นทางแห่งเวทมนตร์ที่เป็นที่รู้จักในเส้นทางสู่พลังที่แท้จริง” ชายหนุ่มพูดด้วยความหงุดหงิด “หากผู้ใดใคร่หาพลัง พวกเขาก็จะเข้าสู่การเป็นจอมเวทย์ เส้นทางที่มีการต่อต้านน้อยที่สุด”
“ทำไมจะต้องลองทำสิ่งใหม่ ๆ ในเมื่อเจ้ารู้วิธีที่จะนำไปสู่สิ่งที่เจ้าต้องการอยู่?” ชายหนุ่มขมวดคิ้วด้วยความโมโหและรำคาญ “ทำไมจะต้องไปยุ่งวุ่นวายกับมัน หา?”
“เคยมีผู้ที่พยายามสร้างเส้นทางสู่พลังอื่นขึ้นมา ในที่สุดก็ต้องยอมแพ้หลังจากตระหนักได้ว่าความก้าวหน้ามันไม่รวดเร็วพอและเข้าร่วมการเป็นจอมเวทย์ ช่างปะไรความก้าวหน้าที่มันไม่เร็วสิ! ในเมื่อเจ้ากำลังจุดประกายเส้นทางใหม่เอี่ยมด้วยตัวเจ้าเอง!”
“และที่แย่ที่สุดก็คือจอมเวย์ไม่ได้ทำกับเส้นทางสู่พลังอื่น ๆ เพียงแค่การกดขี่เท่านั้น!” ชายหนุ่มตะโกน “พวกเขาไม่จำเป็นต้องทำด้วยซ้ำ! ทุกต่างก็เลือกเส้นทางนี้! ก็ใช่สิ! เจ้ามีทั้งคาถา เคล็ดวิชา และงานฝีมือที่ได้รับการขัดเกลามานานนับหลายพันปี แต่คนอื่น ๆ กลับไม่เหลืออะไรเลยเพราะการกวาดล้างในอดีตของพวกเขา พวกนั้นกำลังวิ่งตรงมาหาเจ้าอย่างกับฝูงสัตว์!”
“ทั้งโลกของข้าเต็มไปด้วยจอมเวทย์ และการต่อสู้ระหว่างจอมเวทย์ก็คือสิ่งที่น่าเบื่อที่สุดที่เคยมี” ชายหนุ่มตะโกน “เจ้าเคยเห็นคนโยนสิ่งของใส่กันไปมาจากระยะไกลเป็นเวลาร่วมชั่วโมงไหมล่ะ? น่าเบื่อเป็นบ้า!”
ชายหนุ่มเร่งทั้งคำพูดและจังหวะหายใจ
“ข้าเบื่อที่จะต้องทนดูโลกบ้า ๆ นี่แล้ว ทั้ง ๆ ที่มันควรจะมอบความสนุกให้กับข้าสิ!”
“ทั้งหมดนี่คือความผิดของเขา!”
ปั้ง! ตู้ม!
ชายหนุ่มเดะศพออกไปไกล ศพลอยออกไปด้วยความเร็วอันน่าทึ่งจนไปถึงกำแพงจนระเบิดออกทันที
อเล็กซ์สูดหายใจลึก
ชายหนุ่มดูเหมือนจะรู้สึกดีขึ้นหลังเตะศพ และรอยยิ้มแสยะอันชั่ร้ายก็ปรากฏบนใบหน้าเขา
“เจ้าควรได้เห็นตอนที่เขาเข้ามาในปราสาทข้าด้วยท่าทีราวกับตัวเองเป็นเจ้าของที่นี่” ชายหนุ่มว่า “ตอนนั้น ข้าค่อนข้างที่จะชอบเขานะ เพราะเขาสามารถมีพลังอันมหาศาลได้ ทำให้ข้าคิดว่าเส้นทางสู่พลังอื่น ๆ จะฟื้นตัวไปตามกาลเวลา”
“แต่เจ้าโง่นั่นกลับทำเหมือนกับเขาคือเจ้าของปราสาทนี่และบอกว่าควรให้พื้นที่กับเขา”
ชิ้ง!
ศพล่อนจ้อนปรากฏตรงหน้าชายหนุ่มอีกครั้ง แต่ศพอยู่ในสภาพสมบูรณ์
ปั้ง!
เขาเตะมันอีกครั้ง และระเบิดอีกครั้งที่กำแพง
“ข้าเตะเขาไปทั่วห้องจนกระทั่งตายในที่สุด เหมือนที่ทำอยู่ตอนนี้เลย” ชายหนุ่มพูดด้วยรอยยิ้มอันชั่วร้ายอย่างแท้จริง “ใช้เวลาตั้งหลายชั่วโมงกว่าเขาจะยอมจำนนอาการบาดเจ็บที่ข้าทำให้มันเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ”
อเล็กซ์นิ่งเงียบ
ชายคนนี้อันตรายมาก!
ชายหนุ่มสูดหายใจลึกและมองอเล็กซ์อีกครั้ง
“แต่ยังไงซะ นี่คือที่ที่เจ้าจะต้องเข้าไปเล่น” เขาว่า “ผู้ที่มีความกล้าและแรงผลักดันให้กลายเป็นผู้ทรงพลังอย่างแท้จริง”
“ข้าจะส่งเข้าไปยังโลกของข้า ด้วยร่างกายที่ไม่อาจฝึกฝนเวทมนตร์ได้ แต่เจ้ายังเป็นผู้ที่ปรารถนาอยากจะมีพลังเพิ่มขึ้น คือผู้ที่แสวงหาพลัง เมื่อเวทมนตร์ไม่เหมาะกับเจ้า เจ้าก็จะหาหนทางอื่นแทน”
“และนั่นคืองานทั้งหมดของเจ้า” ชายหนุ่มพูดด้วยรอยยิ้มแสยะขณะนั่งลงที่บัลลังก์อีกครั้ง
“จงเป็นตัวของตัวเองในโลกของข้า อยากทำอะไรก็ทำ มันไม่สำคัญหรอก เพราะท้ายที่สุด ไม่ว่ายังไงก็ตามเจ้าจะแสวงหาพลัง และเจ้าจะต้องทำมันด้วยบางสิ่งที่ไม่ใช่เวทมนตร์”
“นั่นคือสิ่งที่เจ้าต้องทำ”
อเล็กซ์คิดตามคำพูดของชายหนุ่มพลางขมวดคิ้ว
กลายเป็นผู้ที่มีพลังเหมือนพระเจ้าองค์นี้ตรงหน้าเขานี่เหรอ?
ก็ฟังดูไม่เลวนี่
โลกที่ผู้คนต่อสู้กันแบบเอาเป็นเอาตาย?
ก็ฟังดูไม่เลวนี่
ได้รู้สึกว่าตัวเองมีพลังมากขึ้นและสามารถผลักดันตัวเองให้ถึงขีดจำกัดอีกครั้งด้วยร่างกายใหม่?
ก็ฟังดูไม่เลวเหมือนกัน
ถึงอย่างนั้น อเล็กซ์ก็ยังถอนหายใจ
‘ฉันก็อยากจะทำอยู่หรอก แต่บางครั้งมันก็รู้สึกแปลก ๆ เพราะความรู้สึกที่เหมือนกับว่าจริง ๆ ฉันไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว’
“ถุย!” ชายหนุ่มถ่มน้ำลายพร้อมหัวเราะออกมาสั้น ๆ “ไม่มีทางเลือก? นั่นปัญหาเจ้ารึ?”
“ก็ได้ งั้นข้าจะให้ทางเลือกกับเจ้า”
“กลับไปยังโลกของเจ้าและเข้าสู่ชีวิตหลังความตายหรือไปยังโลกของข้า เลือกทางให้ตัวเจ้าเองได้เลย”
อเล็กซ์คิดถึงโลกเก่าและครอบครัวที่เขาทิ้งไว้เบื้องหลัง เขาคิดถึงพ่อแม่ อย่างไรก็ตาม เขาเสียชีวิตไปแล้ว ไม่มีทางที่พระเจ้าองค์นี้จะชุบชีวิตให้เขาใหม่ได้ เขาต้องสูญเสียทั้งคู่ไปตลอดกาล
อเล็กซ์ถอนหายใจ
พระเจ้ามอบทางเลือกให้กับเขา แต่ก็ไม่เชิงเป็นทางเลือกจริง ๆ เนื่องจากการตัดสินใจของอเล็กซ์เกิดขึ้นแล้วก่อนที่จะมีทางเลือกเสียอีก
“ได้ข้อสรุปความคิดไร้สาระพวกนั้นหรือยัง?” ชายหนุ่มถามด้วยรอยยิ้มแสยะ
อเล็กซ์มองศพล่อนจ้อนครู่หนึ่ง
จากนั้นก็หันไปมองชายหนุ่มและพยักหน้า
ชีวิตใหม่ของเขากำลังจะเริ่มต้นขึ้น
“เดี๋ยวก่อน!” ชายหนุ่มตะโกน “ไม่ต้องรีบร้อนไป ก่อนจะเข้าไปยังโลกของข้า ข้าจะมอบความช่วยเหลือให้เจ้าเสียก่อน”
อเล็กซ์เลิกคิ้วขึ้น “ความช่วยเหลือ?”
“ใช่” ชายหนุ่มพูดด้วยรอยยิ้มที่พอใจขณะเอนหลัง
“ข้ามีของขวัญสามชิ้นให้เจ้า ที่จะช่วยให้การเดินสู่พลังนั้นง่ายขึ้น”