(ฟรี)ร้านไวน์เทพเซียน ตอนที่ 109 ความก้าวหน้าของลู่ซูหลัน
ร้านไวน์เทพเซียน ตอนที่ 109 ความก้าวหน้าของลู่ซูหลัน (ฟรี)
“อาณาจักรเทพบรรพกาล…” ลู่ซูหลัน คานเย่ และเฮสเทียพึมพำอย่างสงสัย ขณะที่ธีอาเผยสีหน้าครุ่นคิด
“ท่านอาจารย์ ที่ว่านั่นคือสถานที่เช่นใดกัน?” ขานเย่ถามในขณะที่เขาแอบมองจิ่วเซิน เขาไม่เคยได้ยินสถานที่นี้มาก่อน แต่เนื่องจากนายของเขามาจากที่นั่น ที่นั่นจึงน่าเกรงขาม
เมื่อมองดูใบหน้าของพวกเขาจิ่วเซินจึงคว้าที่นั่งและเอนกายพิงเก้าอี้ แต่แทนที่จะตอบคำถาม เขาได้ถามคำถามกลับไป “ระดับการบ่มเพาะที่แข็งแกร่งที่ผู้คนสามารถบรรลุได้คืออะไร?”
ลู่ซูหลันขมวดคิ้วและตอบ “ท่านอาจารย์ มันคือขอบเขตที่ 10 ระดับเทพใช่หรือไม่”
จิ่วเซิน เหลือบมองนางและส่ายหัว “เจ้าพูดถูก แต่ก็ผิด ทุกคนคิดว่าขอบเขตที่ 10 ระดับเทพเป็นระดับการบ่มเพาะที่แข็งแกร่งที่สุดที่สามารถไปถึงได้”
นอกจากธีอาแล้ว อีกสามคนก็เผยท่าทางประหลาดใจ ใครจะไม่รู้กัน? ในประวัติศาสตร์ของนูอาร์มีผู้ที่อยู่ขอบเขตที่ 9 ระดับนักบุญเพียงไม่กี่คนในทุกชั่วอายุคนเท่านั้น สำหรับขอบเขตที่ 10 ระดับเทพ นั้นไม่ได้ปรากฏในทวีปลมปราณมังกรมาหลายหมื่นปีแล้ว
“ท่านอาจารย์ ท่านหมายถึง... ยังมีระดับที่สูงกว่านั้นอีกหรือ?” ลู่ซูหลันถามด้วยดวงตาเบิกกว้าง
จิ่วเซินส่ายหัวอีกครั้ง “ไม่ใช่แค่ระดับเดียว แต่มีอีกหลายระดับ… เพื่อให้บรรลุถึงความเป็นเทพ ยอดฝีมือระดับขอบเขตที่ 9 ระดับนักบุญขั้นสูงสุด ต้องเอาชนะทัณฑ์สายฟ้าของตนเอง และหากฝ่าฟันไปได้สำเร็จ ผู้นั้นก็จะสามารถทะลวงไปยังขอบเขตเทพก่อตั้ง นั่นคือจุดเริ่มต้นของเส้นทางสู่ความเป็นเทพ และคนในระดับนั้นถูกเรียกว่า ‘เซียน’ เนื่องจากอายุยืนยาวและพละกำลังที่ไร้ขีดจำกัด”
ลู่ซูหลันและคนอื่น ๆ รู้สึกได้ถึงความดูหมิ่นที่แฝงอยู่ในน้ำเสียงของจิ่วเซินขณะที่กำลังเล่าเรื่องให้ฟัง ราวกับว่าขอบเขตเทพก่อตั้งนั้นไม่ได้มีค่าอยู่ในสายตาของเขาด้วยซ้ำ
“เช่นนั้น คนในระดับนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน?” ขานเย่ตกตะลึงเมื่อได้ยินเรื่องเหล่านี้ แต่ดวงตาของเขาเปล่งประกายความปรารถนา
จิ่วเซินคิดอยู่ครู่หนึ่งและตอบด้วยน้ำเสียงที่สงบ “ยอดฝีมือระดับเทพสามารถทำลายจักรวรรดิซิลเวอร์วิงทั้งหมดได้ในการโจมตีเพียงครั้งเดียว”
ลู่ซูหลัน ขานเย่และเฮสเทียต่างสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดของจิ่วเซิน จักรวรรดิซิลเวอร์วิงครอบครองพื้นที่ขนาดใหญ่ในทวีปลมปราณมังกร ดังนั้นเมื่อจิ่วเซินบอกพวกเขาว่ายอดฝีมือขอบเขตเทพก่อตั้งนั้นแข็งแกร่งขนาดนั้น พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะสูดอากาศเข้าไป
“ท่านอาจารย์ ท่านอยู่ที่ระดับนี้ด้วยหรือไม่” ขานเย่ถามอย่างระมัดระวัง
การแสดงออกของจิ่วเซินเปลี่ยนไปอย่างแปลกประปลาด แต่เขารีบปิดบังไว้ “เอาล่ะ เรามาพูดถึงเรื่องนี้หากการบ่มเพาะของซูหลันอยู่ที่ในขอบเขตที่ 9 ระดับนักบุญขั้นสูงสุด”
ทุกคนรู้สึกผิดหวัง แต่พวกเขาไม่ได้เปิดเผยออกมาหลังจากเห็นท่าทางจริงจังของจิ่วเซิน
“ข้าได้มอบของขวัญแก่ขานเย่แล้ว คราวนี้สำหรับซูหลัน ตอนแรกข้าก็อยากจะให้อาวุธเทพแก่เจ้าด้วยเช่นกัน แต่ข้าไม่มีอาวุธที่เหมาะสมสำหรับเจ้า อย่างไรก็ตาม ข้ามีสิ่งหนึ่งที่จะทำให้การบ่มเพาะของเจ้าก้าวกระโดด สามารถบรรลุถึงขอบเขตที่ 9 ระดับนักบุญได้ไม่ถึงชั่วโมง” จิ่วเซินกล่าวขณะมองไปที่ลู่ซูหลัน
ลู่ซูหลันรู้สึกท้อแท้ แต่หลังจากได้ยินคำพูดของจิ่วเซินครึ่งหลัง การแสดงออกของนางก็สดใสขึ้นในทันที “ท่านอาจารย์...”
จิ่วเซินถอนหายใจและหยิบผลไม้แห่งการบ่มเพาะทั้งสองออกมาจากต่างหูมิติของเขา
ผลไม้แห่งการบ่มเพาะเปล่งแสงสีทองเจิดจ้าซึ่งทำให้ทุกคนแทบตาบอด พวกเขาปิดตาขณะที่มองดูสิ่งของที่อยู่ในมือของจิ่วเซินด้วยความยากลำบาก ‘มันคือผลไม้ชนิดใดกันถึงได้เปล่งแสงอันน่าสยดสยองเช่นนี้ออกมา!’
จิ่วเซินคว้ามือทั้งสองข้างของลู่ซูหลัน ทำให้นางหน้าแดงอย่างเขินอาย เขามอบผลไม้แห่งการบ่มเพาะทั้งสองให้กับนางด้วยใจที่หนักอึ้งเล็กน้อย สิ่งนี้ควรจะช่วยให้เขาไปถึงขอบเขตเทพก่อตั้งได้...
“ท่านอาจารย์ นี่คือ…” เสียงสั่นของลู่ซูหลันดังก้องอยู่ในหูของทุกคน
“นี่คือผลไม้แห่งการบ่มเพาะ กินมันแล้วเจ้าจะรู้ผลของมัน” จิ่วเซินตอบอย่างเฉยเมย เขาควรจะกินสิ่งนี้ แต่เนื่องจากเขาไม่มีอะไรจะให้ลู่ซูหลันที่ดีกว่านี้แล้ว เขาทำได้แค่มอบให้นางเท่านั้น
เขาได้พูดคุยกับระบบก่อนหน้านี้แล้ว และระบบได้บอกเขาว่าลู่ซูหลันจะบรรลุไปยังขอบเขตที่ 9 ระดับนักบุญหากนางกินผลไม้ทั้งสองนี้ มันเป็นการพัฒนาที่ใหญ่กว่ามากเมื่อเทียบกับขอบเขตของเขาเองเมื่อเขากินผลไม้ดังกล่าว แต่หลังจากจำได้ว่าเขามีกายาเทพไร้รอยต่อ เขาก็ทำได้เพียงถอนหายใจ
ลู่ซูหลันกลืนน้ำลายขณะที่นางมองดูผลไม้สีทองทั้งสองผลในมือของนาง ผลทั้งสองนั้นดูไร้น้ำหนักราวกับนางกำลังถือขนนก นางสูดดมกลิ่นหอมของมันและรู้สึกได้ทันทีว่าแก่นแท้ของนางเกิดความผันผวนอย่างมาก ‘นี่มันอะไรกัน ข้ายังไม่ได้กินผลไม้เลยด้วยซ้ำ เพียงแค่กลิ่นของมันอย่างเดียวก็สามารถเพิ่มแก่นแท้ของข้าได้แล้ว! ผลไม้นี้ช่างน่าอัศจรรย์อะไรเช่นนี้!’
เมื่อมองดูท่าทางเคร่งขรึมที่หายากได้ยากของจิ่วเซิน นางจึงกินผลไม้ทั้งสองทันทีด้วยการกัดไปหลายคำ “รสชาติไม่เลว... เดี๋ยวก่อน... แก่นแท้ของข้า... อะไรกัน!”
นางตกใจเมื่อรู้สึกถึงการเติบโตของแก่นแท้ของนางหลังจากที่กินผลไม้แห่งการบ่มเพาะทั้งสองไป ก่อนหน้านี้ แก่นแท้ในตันเถียนของนางนั้นเปรียบเสมือนกระแสน้ำเล็ก ๆ ที่ไหลอย่างเงียบเชียบ แต่เมื่อสังเกตเห็นความเร็วของแก่นแท้ของนางที่กำลังขยายออกไป มันราวกับเป็นมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ที่กำลังซัดเข้าหาฝั่งก็ว่าได้!
ขอบเขตที่ 8 ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นต้น...
ขอบเขตที่ 8 ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นกลาง...
ขอบเขตที่ 8 ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูง...
นางทะลุทะลวงอย่างต่อเนื่องและยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด! ขานเย่ เฮสเทียและแม้แต่ธีอาก็เหลือบมองด้วยใบหน้าที่ตกตะลึง
ขอบเขตที่ 8 ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุด...
คราวนี้ ความเร็วในทะลวงของนางช้าลง แต่มันก็ยังไม่หยุด
ลู่ซูหลันลืมตาขึ้นและแสงก็ได้แวบวับอยู่ภายในแววตาของนาง
ขอบเขตที่ 9 ระดับนักบุญขั้นต้น
ในที่สุดนางก็บุกทะลวงสู่ขอบเขตที่ 9 ระดับนักบุญ!
ลู่ซูหลันรู้สึกตื่นเต้นและนางก็อดไม่ได้ที่จะโอบกอดท่านอาจารย์ของตนไว้แนบแน่น และ... มันสายเกินไปแล้วที่นางจะรับรู้ถึงการกระทำที่หุนหันพลันแล่นของตน...
“อ๋า!” นางรีบถอยหลังราวกับกระต่ายน้อยที่ตื่นตกใจก็ว่าได้
---
ขอบเขตที่ 1 ระดับนักรบ (ชั้นต้น กลาง สูง-สูงสุด)
ขอบเขตที่ 2 ระดับนักรบขั้นสูง
ขอบเขตที่ 3 ระดับครูเซเดอร์
ขอบเขตที่ 4 ระดับอัศวินครูเซเดอร์
ขอบเขตที่ 5 ระดับวิญญาณ
ขอบเขตที่ 6 ระดับราชา
ขอบเขตที่ 7 ระดับจักรพรรดิ
ขอบเขตที่ 8 ระดับศักดิ์สิทธิ์
ขอบเขตที่ 9 ระดับนักบุญ
ขอบเขตที่ 10 ระดับเทพ(ก่อตั้ง)
ขอบเขตที่ 11 ระดับเทพต้นกำเนิด
ขอบเขตที่ 12 ระดับเทพแห่งความว่างเปล่า
ขอบเขตที่ 13 ระดับเทพเร้นลับ
ขอบเขตที่ 14 ระดับเทพที่แท้จริง
ขอบเขตที่ 15 ระดับเทพนภา <----- (ชาติก่อนของจิ่วเซิน)
ขอบเขตที่ 16 ระดับเทพสวรรค์ <----- (จักรพรรดิเหล่าโกว)