บทที่ 14 ห้องสมุดใหม่
“ดูสิมีอสูรอูฐอยู่ตรงนั้นอีกเพียบเลย”
“OMG มีพวกมันอยู่เป็นฝูง ที่ริมแม่น้ำตรงนั้นด้วย”
“เจ้าสัตว์ร้ายฉันอยู่ตรงนี้”
“เฮ้ยเจ้าโง่เอ้ย ฉันเห็นมันก่อนนะ”
ขณะที่ผู้เล่นเริ่มโจมตีอูฐสงครามกันอย่างดุเดือด สัตว์ร้ายเริ่มทยอยค่อยๆล้มลงกับพื้นไปทีละตัว ในด้านของเหออี้หมิงแต้มชะตากรรมของเขามีการอัพเดตอยู่ตลอดเวลา +1 แล้วก็+1 และก็ยัง +1 อีกหลายๆครั้ง
ในไม่ช้าค่าชะตากรรมของเขาก็เพิ่มขึ้นจนถึง 150 คะแนน เขาตัดสินใจใช้ 100 คะแนนเพื่อพัฒนาขอบเขตพลังของเขาเอง
บูม!
พลังปราณแห่งสวรรค์ และพื้นปฐพี ก่อตัวขึ้นเหนือศรีษะของเหออี้หมิง พลังงานเหล่านั้นเริ่มหมุนเวียนคล้ายกระแสน้ำอย่างเอื่อยๆ และทยอยไหลเข้ามาที่ร่างกายของเขาจนมันหายไป
เขาสัมผัสได้ถึงพลังงานอันแข็งแกร่งภายในตัว เขารีบใช้กายานิรันดร์ของอาซัวอ์ทำการดูดซับพลังงานนี้ไว้ทั้งหมด
เนื่องจากถ้าใช้ร่างกายมนุษย์ธรรมดาทำการดูดซับพลังงานที่มีความเข้มข้นขนาดนี้ ร่างกายมนุษย์ที่เป็นผู้ฝึกตนธรรมดาจะแตกสลายอย่างแน่นอน
แต่เนื่องจากกายานิรันดร์ของอาซัวอ์เป็นเทคนิคฝึกฝนที่มีความสามารถพิเศษที่สามารถดูดซับพลังงานประเภทนี้ไว้ได้อย่างสมบูรณ์ ไม่มีการสูญเสียแม้แต่น้อย
และสุดท้ายพลังงานที่สะสมข้างในร่างกายของเหออี้หมิงก็ปะทุออกมา
และตอนนี้ขอบเขตพลังของเขาก็มาถึงขั้นที่ 5 ของชีพจรวิญญาณ
“ความเร็วในการพัฒนาขอบเขตฝึกฝึนครั้งนี้ ช่างน่ากลัวยิ่งนัก”
เหออี้หมิงลืมตาขึ้น พร้อมเห็นร่างกายที่พัฒนามาถึงจุดนี้ ทำให้เขารู้สึกดีอย่างมาก
ความรู้สึกของพลังที่กำลังไหลเวียนอยู่ภายในร่างกาย ทำให้เขาเพลิดเพลินอย่างที่สุด
เหออี้หมิงนั่งลงอย่างช้าๆ เขาแหงนมองฟ้า และทำเขารู้ว่าตอนนี้เวลาได้ล่วงเลยผ่านมาทั้งวันแล้ว
เหออี้หมิงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ไม่น่าแปลกใจเลย ที่เหล่าผู้ยิ่งใหญ่ในโลกแห่งนี้สามารถฝึกฝนอย่างโดดเดี่ยวเป็นเวลาหลายร้อยปีได้
เพราะระหว่างการฝึกฝนเวลาช่างผ่านไปไวเหลือเกิน
“ขอดูหน่อยว่าเหล่าผู้เล่นสามารถสังหารสัตว์อสูรไปได้กี่ตัวกันแล้ว”
387! ?
ในเวลาเพียงวันเดียว ผู้เล่นเหล่านี้สังหารสัตว์ร้ายไปเพิ่มอีก 387 ตัว
“นี่สิถึงจะเหมาะสมกับสมญานาม ภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งที่ 4 แต่ถ้าการสังหารด้วยอัตราเร็วเท่านี้อสูรอูฐคงจะสูญพันธุ์ในไม่กี่วันแน่ๆ” เหออี้หมิงพึมพำออกมาคนเดียว
ในขณะที่เหออี้หมิงกำลังครุ่นคิดอยู่ในใจแสงอาทิตย์ก็ค่อยๆ สาดแสงกระทบกับร่างกายของเขาทีละนิดๆ
“ฉันสามารถลงชื่อเข้าใช้ได้อีกวันแล้วสินะ” วันใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
และเหออี้หมิงลงชื่อเข้าใช้อย่างมีความสุข
“ติ๊ง ! ! โฮสต์ลงชื่อเข้าใช้สำเร็จ !”
“รางวัลล็อกอิน อาคารใหม่ ห้องสมุดสำหรับนิกาย เพิ่มเทคนิคฝึกฝนใหม่ๆ X2”
“หิมะเยือกเย็น : เทคนิคโบราณ จะทำการดูดซับพลังงานจากฟ้าและพื้นดิน มารวมตัวกันจะเกิดเป็นพลังงานที่ให้ความเย็นที่ต่ำกว่า 0 องศา
ระดับที่ 1”
“กระบวนท่าเสริมกายา : กระบวนท่าพื้นฐานจากยุคโบราณ จะทำการควบแน่นร่างกายอย่างรวดเร็วด้วยพลังของขอบเขตการฝึกฝน เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกายขึ้นอย่างสูง
ระดับที่ 1”
หลังจากเสียงการแจ้งเตือนของระบบได้จบลง เหออี้หมิงเร่งเร้าพลังและทำการวิ่งกลับไปที่จตุรัสของนิกายอย่างทันท่วงที
เมื่อเขาได้เห็นรางวัลลงชื่อเข้าใช้ เหออี้หมิงก็ได้ตกตะลึง
“นั่นมัน!!” เหออี้หมิงกำลังมองอาคารใหม่ที่ปรากฏขึ้นมา ด้วยแววตาที่เป็นประกาย
ห้องสมุดที่ก่อนหน้านี้ทรุดโทรมแล้วเต็มไปด้วยหยากไย่ และชั้นหนังสือที่ผุพังและว่างเปล่า ตอนนี้มันได้กลายเป็นหอคอยเก้าชั้นที่ดูใหม่และเหมือนมีประกายออกมาด้วยซ้ำ
ชั้นแรกของหอคอยกำลังเปิดออก
แผ่นหยกสองแผ่นวางอยู่บนชั้นหนังสือไม้ที่ดูดีเป็นอย่างมาก กำลังรอให้ผู้เล่นมาหยิบนำไปอ่าน
“โฮสต์สามารถตั้งค่าการอนุญาติเข้าใช้สำหรับห้องสมุดได้อย่างอิสระ และยังสามารถกำหนดการใช้คะแนนสมทบเพื่อซื้อสิทธิ์ในการอ่านแผ่นหยกต่างๆ”
เสียงเตือนของระบบมีการดังขึ้นพร้อมกับอธิบาย
“ไม่เลวเลยหนิ”
“ฉันจะมีรายได้เข้ามาอีกทางแล้วสินะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เหออี้หมิงหัวเราะออกมา
“พี่หมิง มันไม่ดีเลย”
“พี่หมิงทำอะไรสักอย่างหน่อยสิ”
“ใช่ ๆ”
ในทันทีที่เหออี้หมิงปรากฏตัว เหล่าสาวกก็ได้เข้ามาห้อมล้อมเขาไว้
“สาวกที่รักของข้า เกิดอะไรกันขึ้น? เหออี้หมิงพยายามกดความตื่นเต้นที่มีเอาไว้ และถามพวกเขาออกไปด้วยน้ำเสียงที่เรียบ
“อูฐสงครามพวกนั้น มันฉลาดขึ้น มันไม่ยอมตกหลุมพรางของพวกเรา”
“ใช่สัตว์พวกนั้นมันไม่ยอมตกลงไปในหลุมของพวกเราเลย”
“ฉันกระโดดหลบมันไปอีกฟากของหลุม แต่สัตว์ที่ไร้ยางอายตัวนั้นมันก็นิ่งเฉยและเดินหนีไป
ผู้เล่นต่างกัดฟันเพราะวิธีที่พวกเขาใช้เริ่มจะไม่ได้ผล
“???” เหออี้หมิงพูดไม่ออก
ใครกันแน่นะที่ไร้ยางอาย พวกคุณกำลังทำให้สัตว์เหล่านี้สูญพันธุ์ด้วยวิธีที่สุดแสนโง่เง่า แต่ต่อให้อูฐสงครามจะโง่สักแค่ไหน แต่ถ้ามันเห็นวิธีที่สังหารเพื่อนของมันมานับครั้งไม่ถ้วน มันก็ต้องเกิดการเรียนรู้บ้าง ไม่มากก็น้อย
แต่แน่นอนเค้าไม่สามารถพูดสิ่งเหล่านี้ออกไปได้
“สาวกของข้า พวกเจ้าไม่ต้องตกใจไป ได้โปรดมองไปตรงนั้น” เหออี้หมิงได้ชี้กลับไปที่จตุรัสนิกาย
“ให้ตายเถอะ!! หอคอยนั่นมาตั้งตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไรกัน”
“มีอัพเดตใหม่เหรอ?”
“หอคอยนี้ดีกว่า ห้องสมุดอันเก่ายังไง?”
ผู้เล่นตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ที่เข้ามา
นั่นคือห้องสมุดที่ถูกเพิ่มเข้ามา
“ห้องสมุดแห่งนี้ ข้าได้ทำการปรับปรุงไว้สำหรับพวกเจ้า”
“เหล่าสาวกทั้งหลาย…พวกเจ้าสามารถเข้าไปใช้ห้องสมุดแห่งนี้ได้ เพื่อเรียนรู้และฝึกฝนเทคนิคฝึกหัดต่างๆ”
“ภายในห้องสมุดเวลานี้ มีแผ่นหยกสำหรับฝึกฝนแค่สองชนิดเท่านั้น คือหิมะเยือกเย็นและกระบวนท่าเสริมกายา การใช้งานก็จะขึ้นอยู่กับความสามารถของพวกเจ้าเอง”
เหออี้หมิงพูดพร้องส่งการแจ้งเตือนผ่านระบบ
ติ๊ง
“ห้องสมุดใหม่พร้อมใช้งาน! เงื่อนไขการเข้าใช้งาน ผู้เล่นต้องจ่าย 100 คะแนนสมทบ เพื่อใช้งานห้องสมุดได้เป็นเวลา 6 ชั่วโมง และเรียนรู้เทคนิคต่างๆ ได้อย่างอิสระ”
“ชั้นที่ 2 จะทำการเปิดให้ใช้งานในเร็วๆนี้ โปรดรอการปรับปรุงครั้งต่อไป”
หลังประกาศผู้เล่นต่างพากันกรูเข้าไปที่ห้องสมุด
“เทคนิคใหม่มาแล้ว”
“เร็วเข้าสิ!! ฉันอยากฝึกมันแล้ว”
“อย่าดันกันเข้ามาได้ไหม!! เข้าแถวกันหน่อยสิโว้ย!!!” ผู้เล่นต่างพากันมุงที่หน้าทางเข้าห้องสมุด
เหออี้หมิงเองก็ยังคงสงสัยหน้าตาภายในของอาคารแห่งนี้ เขาจึงทำการเดินตามเข้าไปพร้อมๆกับผู้เล่น