STY-ตอนที่ 40 บุกโจมตีตอนกลางคืน!
ยอดเขาอวี๋เซียว
นอกประตูภูเขา
ศิษย์ 2-3 คน กำลังลาดตระเวนอยู่ที่ด้านนอกประตูภูเขา
ศิษย์คนนึงรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี จู่ ๆ เขาก็หันไปพูดกับ ศิษย์ที่กำลังลาดตระเวนอยู่ทางซ้ายและขวา “เหตุใดวันนี้ข้าถึงรู้สึกหนาวอย่างแปลก ๆ”
“เป็นไข้หรือเปล่า?”ศิษย์คนนี้ได้หาวออกมา และ แสดงถึงความง่วงที่เพิ่มขึ้น
ศิษย์ที่กำลังลาดตระเวนอยู่ทางด้านซ้ายได้สั่นศีรษะ “พวกเราจะเป็นไข้ไปได้ยังไง? รอข้าแปปนะ ขอไปปลดทุกข์แปป”
ขณะที่เขากล่าว เขาก็เดินเข้าไปที่พุ่มไม้ใกล้ ๆ
ซึ่ง ศิษย์ที่ยืนอยู่ทางขวา ก็ได้หาวอย่างต่อเนื่อง
เขายืนรอยู่ที่นั่นและค่อนข้างเบื่อเล็กน้อย
แต่ในเวลานี้ ดวงตาที่ปิดลงของเขาก็มีแสงระยิบระยับจาง ๆ จากนั้นหูของเขาก็ขยับ
ทันใดนั้น ก็มีเสียงกรอบแกรมดังขึ้น แม้ว่ามันจะเบามาก แต่เสียงเหล่านี้ ก็ดังขึ้นจากทั่วทุกทิศทางราวกับคลื่นยักษ์
“ศัตรู—โจมตี—”มันเกือบจะมาพร้อมกับเสียงคำรามแห่งความโศกเศร้าทั้งหมดซึ่งมันชัดเจนมากในคืนที่เงียบสงัด
และในเวลาต่อมา ความเย็นยะเยือกก็ได้แทรกซึมเข้าไปในแผ่นหลังของเขา และ มันได้เจาะทะลุหน้าอกของเขากระทั่งอวัยวะภายในของเขาโดยตรง
นักฆ่าคนนึงได้ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับพรรคพวกอีกจำนวนมาก
พวกเขาได้ถือกระบี่ขนาดใหญ่ไว้ในมือและลงมืออย่างต่อเนื่อง
ศิษย์สายตรวจเหล่านี้ได้ถูกฆ่าตายทั้งหมด
จากนั้น ศิษย์คนนึงที่มองไปที่ฝูงชนที่พลุ่งพล่านเขาก็ได้ส่งสัญญาณออกไปในทันที
“ศัตรูบุกโจมตี!”
“ศัตรูบุกโจมตี!”
หลังจากส่งสัญญาณออกไป เขาก็ถูกคนในชุดดำฆ่าตาย
…
ศิษย์พี่หญิงใหญ่ที่เมาเล็กน้อย หลังจากถูก เย่เฉิน สัมผัสตัว นางก็ครางออกมาในทันที
อย่างไรก็ตาม นางก็ไม่ได้พูดอะไร เพราะท้ายที่สุด พวกนางก็ทำเช่นนี้มาด้วยกันตั้งแต่ยังเด็ก และ อีกอย่าง เย่เฉิน ยังเป็นแค่เด็ก อายุ 13 ปี ดังนั้นนางจึงไม่ได้คิดอะไร
ในขณะนี้ ศิษย์พี่หญิงของ เย่เฉิน หลายคนก็ได้ยิ้มหวาน และ ได้มองไปที่การแสดงออกที่อบอุ่นของเขา
เย่เฉิน มีฐานพลังอยู่ในอาณาจักรเทวะ ถ้าเขาต้องการที่จะมีสติ เขาก็สามารถใช้พลังปราณที่แท้จริงขจัดความมึนเมาในร่างกายออกไปได้ กล่าวอีกนัยนึงคือ ถ้าเขาไม่ต้องการที่จะเมา เขาก็สามารถดื่มได้เป็นพันหรือเป็นหมื่นแก้ว
อย่างไรก็ตาม เย่เฉิน กลับรู้สึกสนุกกับความรู้สึกนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่คิดที่จะมีสติ
เย่เฉิน ได้พักอยู่ในบ้านที่งดงามกับศิษย์พี่หญิงที่แสนสวยของเขา นี่คือสิ่งที่เขาต้องการ
เช่นเดียวกับที่ เย่เฉิน กำลังสนุกกับศิษย์พี่หญิงทั้ง 7 ของเขา
ทันใดนั้น ก็มีเสียงแจ้งเตือนดังมาจากด้านนอกประตูภูเขา
ทุกคนดูตกใจมาก เพราะว่านั่นเป็นเสียงสัญญาณว่ามีศัตรูที่แข็งแกร่งบุกโจมตี
หรือว่า…จะมีใครบุกโจมตีดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ของพวกนางในตอนกลางคืนงั้นหรือไม่?
เย่เฉิน ที่กำลังเมาเขาก็ได้ยินเสียงเช่นเดียวกัน
สิ่งนี้ทำให้เขาโกรธเล็กน้อย
เขากำลังเล่นสนุกกับศิษย์พี่หญิงของเขาในตอนกลางคืน แต่ทว่ากลับมีคนกล้ามาโจมตีดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ในตอนนี้
ดังนั้น เย่เฉิน จึงได้หมุนเวียนพลังปราณและบังคับให้ตัวเองมีสติ
เขาได้ฟื้นคืนจิตวิญญาณของเขาในทันที
ในเวลานี้ ศิษย์พี่หญิงของ เย่เฉิน ก็ได้หมุนเวียนพลังปราณและบังคับให้ร่างกายของพวกนางได้มีสติ
คนขี้เมาทุกคนได้กลายเป็นมีสติกันในเวลานี้
เพียงแต่ ศิษย์พี่หญิงสี่ของเย่เฉิน กำลังหลับอยู่เหมือนเดิม
เย่เฉิน ได้ปลุกศิษย์พี่หญิงสี่ของเขา และ ในขณะนี่ ศิษย์พี่หญิงใหญ่ก็ได้พูดขึ้น “ดูเหมือนว่ายอดเขาอวี๋เซียวกำลังประสบปัญหา พวกเรารีบไปสนับสนุนพวกเขากันเถอะ”
ทุกคนได้พยักหน้า
พวกเขาได้บินไปยังทิศทางของยอดเขาอวี๋เซียว
เย่เฉิน ได้ปฏิบัติตามพวกนางโดยธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้เป็นการเปิดเผยตัวตน เย่เฉิน จึงได้แอบติดตามพวกนางไปอย่างลับ ๆ
…
ยอดเขาอวี๋เซียว
คนชุดดำจำนวนมากได้บุกเข้ามา
ในเวลานี้ คนชุดดำได้บุกขึ้นไปบนยอดเขาอวี๋เซียวทีละคนและพวกเขาก็ฆ่าใครก็ตามที่พวกเขาเห็น
ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากเป็นการโจมตีอย่างกระทันหันของศัตรู ศิษย์หลายคนของยอดเขาอวี๋เซียว จึงไม่มีเวลาได้ทันตอบโต้ ดังนั้นพวกเขาจึงถูกสังหารโดยคนชุดดำ
ปัจจุบัน ประมุขนิกายอวี๋เซียว ได้นำกลุ่มศิษย์ของเขาออกไปเผชิญหน้าทันที
จากนั้น กลุ่มคนชุดดำและศิษย์ของยอดเขาอวี๋เซียว ก็ได้ต่อสู้กันอย่างดุเดือด
การต่อสู้นี้ค่อนข้างดุเดือดอย่างผิดปกติ และ มันทำให้ ศิษย์ของยอดเขาอวี๋เซียวจำนวนมากเสียชีวิตด้วยมือของคนชุดดำเหล่านี้
ดังนั้นประมุขนิกายอวี๋เซียว จึงได้พุ่งออกไปด้วยความโกรธทันที
พลังที่แข็งแกร่งขนาดใหญ่ได้ปะทุขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะท้ายที่สุด ประมุขนิกายอวี๋เซียว ก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในขั้นกลางของอาณาจักรมหายาน ถ้าเขาไม่โจมตีก็คงจะดี แต่ถ้าเขาโจมตี มันก็จะเป็นพลังการทำลายที่รุนแรงอย่างแน่นอน
ในเวลานี้ กลิ่นอายที่ทรงพลังของประมุขนิกายอวี๋เซียวได้พุ่งทะยานออกมา
เขาได้ส่งกลุ่มคนชุดดำบินลอยไป
จากนั้นเขาก็โบกมือขนาดใหญ่ กระบี่ศักดิ์สิทธิ์ก็ได้บินออกมาทีละเล่มและฆ่ากลุ่มคนชุดดำเหล่านี้
แต่ในขณะนี้ ก็มีร่างที่ทรงพลังบินออกมาจากกลุ่มคนชุดดำ โดยเขาได้เหยียดฝ่ามือออกและโจมตีใส่ประมุขนิกายอวี๋เซียว
ประมุขนิกายอวี๋เซียว กลายเป็นตกตะลึง
ซึ่งเขาก็ได้แลกกระบวนท่ากับอีกฝ่าย!
ปั้ง
ทันใดนั้นคลื่นพลังที่แข็งแกร่งก็ได้ปะทุขึ้น
เศษหินและเศษดินจำนวนมากได้คละคลุ้งไปทั่วทุกที่
พลังที่พุ่งพล่านออกมา ส่งผลให้ทั้งสองถอยห่างออกไปหลาย 10 ก้าวก่อนที่จะหยุดลง
ในเวลานี้ ประมุขนิกายอวี๋เซียว รู้สึกตกตะลึงและมองไปที่ คนชุดดำคนนี้ อย่างน้อยอีกฝ่ายจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญในอาณาจักรมหายานอย่างแน่นอน
“พวกเจ้าเป็นใครกัน?”ประมุขนิกายอวี๋เซียว ได้จ้องมองไปที่คนชุดดำและกล่าวถาม
ในขณะนี้ คนชุดดำที่เป็นผู้นำ ได้ยิ้มออกมา และ ถอดผ้าคลุมหน้าของเขา
ทันใดนั้น ใบหน้าที่เด่นชัดก็ปรากฏขึ้นท่ามกลางสายตาของประมุขนิกายอวี๋เซียว
แน่นอนว่า ประมุขนิกายอวี๋เซียว จำใบหน้านี้ได้ เพราะมันไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก ประมุขนิกายอินทรีหิมะ ฮั่นหยิง
“ฮั่นหยิง ที่แท้ก็เป็นเจ้า!”ประมุขนิกายอวี๋เซียว ตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น
“ประมุขนิกายอวี๋เซียว ไม่ได้พบกันเสียนานเลย”ฮั่นหยิง ได้กล่าวพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
ประมุขนิกายอวี๋เซียว ได้กลายเป็นโกรธเคืองในทันที เขาไม่ได้คาดหวังเลยว่า นิกายอินทรีหิมะจะลอบโจมตีดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ในเวลานี้ อีกทั้งก่อนหน้านี้ นิกายอินทรีหิมะ ก็ได้ลอบโจมตีคนของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์เพื่อแย่งชิงสมบัติไปแล้ว และ มาตอนนี้ พวกเขาก็ได้เปิดฉากโจมตีดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ และ สังหารศิษย์จำนวนมากของเขาไปอีก
ดังนั้นเขาจะไม่โกรธมันได้อย่างไร?
“ตายซะ!” ประมุขนิกายอวี๋เซียว ไม่ได้พูดอะไรมากนัก เขารู้ว่าความขัดแย้งระหว่างดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์และนิกายอินทรีหิมะไม่สามารถระงับได้อีกต่อไป ดังนั้น วิธีเดียวที่จะกอบกู้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ได้ก็คือการต่อสู้จนตัวตาย
ถ้าพวกเขาชนะ พวกเขาก็จะได้รับชัยชนะ
แต่ถ้าพ่ายแพ้ ก็เป็นอันจบ
แต่ถึงอย่างไร นิกายอินทรีหิมะ ก็ได้เดินทางมาเป็นระยะทางหลายพันลี้ ดังนั้นพวกเขาจะต้องใช้พลังงานบางส่วนไปแล้วอย่างแน่นอน และ ที่นี่ก็ยังเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ของพวกเขา พวกเขาจึงถือได้ว่ามีข้อได้เปรียบเป็นอย่างมาก
ประมุขนิกายอวี๋เซียว ได้บินไปข้างหน้า และ ต่อสู้กับ ฮั่นหยิง
ฝ่ามือของพวกเขาได้ปะทุกันและรัศมีพลังที่แข็งแกร่งก็ได้ปะทุขึ้นอย่างดุเดือด
ครื่น—-
คลื่นพลังที่แข็งแกร่งได้ระเบิดรอบตัวของพวกเขา
พลังแห่งความโกลาหลได้กลอกกลิ้งไปทั่วในพื้นที่แห่งนี้
เหล่าศิษย์ที่กำลังต่อสู้กันพวกเขาก็ได้แสดงความสามารถที่มีทั้งหมดออกมา ในโลกแห่งการบ่มเพาะพลังนี้ ผู้แข็งแกร่งย่อมกลืนกินผู้อ่อนแอ ดังนั้น จึงมีเพียงผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงเท่านั้นที่จะรอดชีวิตไปได้
ฆ่า!
พวกเขาได้เรียกสมบัติวิเศษขึ้นมาในมือและทำการต่อสู้กับกลุ่มคนชุดดำจากนิกายอินทรีหิมะ
ศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ และ กลุ่มคนชุดดำของนิกายอินทรีหิมะ ได้ต่อสู้กันอย่างดุเดือด และ ต่างฝ่ายต่างก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ทั้งสองฝ่ายต่างก็ประสบความสูญเสียอย่างมาก
ในขณะนี้ ในห้องรับรองแขกของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์บนยอดเขาอวี๋เซียว
ประมุขน้อยของแดนศักดิ์สิทธิ์ธุลีสีชาด อย่าง หลัวเฟิง ก็ได้เดินออกมาพร้อมกับผู้อาวุโส 2-3 คน
โดยผู้อาวุโสได้กล่าวพูดเยาะเย้ย “ท่านปรมาจารย์อาวุโส ดูเหมือนว่า ฮั่นหยิง จะเคลื่อนไหวกันแล้ว”
หลัวเฟิง ได้ยิ้มออกมาและกล่าวพูดเบา ๆ “เช่นนั้นก็เริ่มลงมือกันเลย!”