ตอนที่ 059 โทรมาแล้ว
จางหม่านเดินไปหยุดที่มุมบ้านอย่างช้าๆ
เธอมองไปห้องถัดไปจากเธอซึ่งมีหญิงวัยกลางคนผมหงอกกำลังวุ่นวายอยู่ในครัว
หญิงวัยกลางคนกำลังทำอาหารอยู่ ข้างๆของเธอมีปลาทะเลตัวเล็กชนิดที่ราคาถูกที่สุดในตลาด เป็นปลาที่พวกชาวประมงคัดออกก่อนเป็นอับดับแรก
ตัวปลาชนิดนี้ก้างก็เยอะ แถมเนื้อก็มีนิดเดียว
ถัดออกมาเป็นตะกร้าผักใบเขียว โดยผักมีสีเหลืองและดำบางจุด เป็นผักประเภทที่คนก็คัดทิ้งเหมือนกัน
"เฮ้อ"
จางหม่านมองไปที่หญิงวัยกลางคน ดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยน้ำตา เธอต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้หญิงคนนี้ แต่ผ่านไปหลายปีเธอก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้
เธอทำงานเก็บเงินจนได้ไปเรียนมหาวิทยาลัยอิมพีเรียล เธอคิดว่าเธอจะสามารถเป็นทนายความและยกระดับครอบครัวของเธอได้ แต่ความจริงแล้ว…
สำนักงานกฏหมายพวกนั้นไม่ต้องการคนที่จบจากวิทยาเขตเหนือเลยสักคน
พวกคนในนั้นต้องการตัวจางหม่านไปทำงานก็จริง
แต่คนเหล่านั้นต้องการเพียงร่ายกายที่สวยงามของเธอเท่านั้น ไม่ได้ต้องการความสามารถของเธอเลย
มหาวิทยาลัยอิมพีเรียล วิทยาเขตเหนือ สำหรับในเซียงเจียงแล้ว สามารถเป็นได้เพียงสาวโรงงานธรรมดาเท่านั้น
จางหม่านเหนื่อยมาทั้งชีวิตแล้ว
เธอทำงานเก็บเงินทีละเล็กละน้อย จนส่งตัวเองเรียนปริญญาตรีได้ แต่ปริญญาตรีใบนั้นกลับไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้เลย
ไม่มีใครยอมรับเธอเลยสักคน
"แต่ผู้ชายคนนั้น…"
จางหม่านสูดหายใจเข้าลึกๆ
เธอรู้สึกถึงความน่ากลัวในสายตาของชายคนนั้น เขามองเธอแค่แว่บเดียวก็รู้สึกปูมหลังของเธอได้ทั้งหมด
ต่อหน้าชายคนนั้น เธอไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลย
นี่เป็นครั้งแรกที่จางหม่านได้เจอกับประสบกาณณ์ที่น่ากลัวเช่นนี้
"เฮ้อ"
จางหม่านถอนหายใจออกมา
จางหม่านหยิบนามบัตรออกมาแล้วมองดูชื่อบนนั้น
"โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าเจิ้งเหมา?"
คนด้านหลังของชายคนนั้นดูเหมือนจะเป็นเจ้าโรงงานแห่งนี้นะ
แต่ทำไมกัน..เจ้าของโรงงานกลับให้ความเคารพแก่ผู้ชายอีกคนมากกว่า
"แสดงว่านี่เป็นนามบัตรปลอมงั้นเหรอ?"
จางหม่านสงสัยในใจ
เธอเอาหยิบเงิน 1,000 ออกมาจากกระเป๋า
นี่มันไม่ใช่ของปลอม มันคือเงินจริงๆ
1,000 ดอลล่าห์ฮ่องกง
ใครกันจะยอมเอาเงิน 1,000 เพื่อที่จะเอาไว้แกล้งคนอื่น
"บางที นี่อาจเป็นโอกาสอย่างที่ชายคนนั้นพูดก็ได้"
จางหม่านกำเงินในมือไว้แน่น แววตาที่โหยหาก็ปรากฏขึ้นบนดวงตาของเธอ
จางหม่านทำงานมาหลายปี เธอไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นเท่านี้มาก่อนในชีวิต
นี่เป็นการตัดสินใจที่ยากที่สุดสำหรับเธอ
"ไม่ว่าจะหัวหรือก้อย อย่างน้อยมันก็ไม่แย่กว่าตอนนี้แล้วล่ะ"
จากนั้นจางหม่านก็ก้าวไปในห้องที่หญิงวัยกลางคนกำลังทำอาหารอยู่
"แม่!!"
หญิงวัยกลางคนหันกลับมามอง รอยย่นบนใบของหญิงวัยกลางคนบ่งบอกได้ถึงอายุที่มากของเธอ
"กลับมาแล้วเหรอ!! รอแปปนะ แม่กำลังกับข้าวอยู่"
แม่ของจางหม่านพูดด้วยรอยยิ้ม
จางหม่านเดินไปจับแขนของแม่แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม
"แม่!! วันนี้เราไปกินข้าวนอกบ้านกันดีกว่า"
…
เวลาผ่านไปสองวัน
นี่คือเวลาที่ซูแคนได้มอบให้กับจางหม่าน ถ้าจางหม่านไม่ได้โทรหาสูเจิ้งเหมาในวันนี้
แสดงว่าเธอไม่รับโอกาสที่ซูแคนมอบให้
สำหรับซูแคนแล้ว เขาไม่ได้รู้สึกสงสารในตัวจางหม่านเลยแม้แต่น้อย
ซูแคนหยิบมีดและส้อม เขาเริ่มรับประทานอาหารเช้าในโรงแรมอย่างเอร็ดอร่อย
เขากำลังกินข้าวผัดกับไข่ลวกที่ทำโดยเซฟมากฝีมือ
"อร่อยมาก!!"
หลังทานอาหารเสร็จ ซูแคนก็กลับไปยังห้องของเขา
ในช่วงสองวันที่ผ่านมา ซูแคนใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเดินเล่นรอบแม่น้ำเซียงเจียง
มีจุดชมวิวสวยๆหลายที่ ถนนก็ยังไม่เต็มไปด้วยรถมากนัก แตกต่างกับชีวิตในชาติก่อนของเธออย่างสิ้นเชิง
ซูแคนเปิดประตู และเข้าไปยังในห้อง
"กริ๊งๆๆ!!"
สิบนาทีหลังจากซูแคนเข้ามาในห้อง โทรศัพท์ในห้องของเขาก็ดังขึ้น
ซูแคนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เขาก็รู้ได้เลยว่าเป็นเสียงของสูเจิ้งเหมา
"ซูแคน"
"ผู้หญิงคนนั้นโทรมาหาผมแล้ว ตอนนี้เธออยู่ที่ล็อบบี้ของโรงแรม คุณต้องการเจอกับเธอไหมครับ"
"อื้ม!!"
ซูแคนยิ้มเล็กน้อย
หลังจากวางสาย ซูแคนก็หรี่ตาลงเล็กน้อย
จางหม่านโชคดีมากที่เธอได้คว้าโอกาสทองนี้ไว้
ถ้าจางหม่านไม่มาซูแคนก็พร้อมจะหาคนอื่นมาทำงานกับเขาอยู่ดี
แต่เขาต้องการคนที่ฉลาด และเชื่อฟังที่เขาพูดแค่นั้น
เงื่อนไขในการทำงานกับซูแคนมีเพียงเท่านี้