STY-ตอนที่ 36 ศิษย์หญิงที่มีอายุมากกว่า 100 ปี!
อายุกระดูก 121 ปี มันก็เพียงพอที่จะพิสูจน์บางอย่างแล้ว
ดูเหมือนว่าศิษย์หญิงคนนี้จะไม่ใช่ศิษย์รุ่นเยาว์อีกต่อไป
เย่เฉิน ยังคงใช้ดวงตาแห่งความจริงของเขาและพบว่าศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ธุลีสีชาดมักจะมีกระดูกอายุที่มากกว่า
ซึ่ง เย่เฉิน เข้าใจในทันทีว่าพวกเขาไม่ใช่ศิษย์รุ่นเยาว์ พวกเขาน่าจะเป็นผู้อาวุโสของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ธุลีสีชาดที่ปลอมตัวเป็นศิษย์รุ่นเยาว์มาเข้าแข่งขัน
บนสังเวียน
ศิษย์หญิงของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ธุลีสีชาดและศิษย์พี่หญิงใหญ่ของเย่เฉิน ซู่ชิวหยา กำลังเผชิญหน้ากัน
ศิษย์หญิงคนนี้ยังคงโจมตีโดยการจัดวางรูปปบก่อตัวเพื่อปราบปรามศิษย์พี่หญิงใหญ่ซู่ชิวหยา
ดูเหมือนว่านางจะเป็นปรมาจารย์ด้านการจัดวางรูปแบบก่อตัวที่ทรงพลังเหมือนกัน…
ยิ่งไปกว่านั้น ไม่มีกฏใดที่บอกว่าบนเวทีสามารถเอาชนะได้เพียงแค่รูปแบบก่อตัวเท่านั้น เพราะแม้แต่ความแข็งแกร่งของตัวเองในปัจจุบันก็มีความสำคัญมาก
ซึ่งความแข็งแกร่งของศิษย์หญิงคนนั้นอยู่ในขั้นปลายของอาณาจักรแห่งการตระหนักรู้ที่ว่างเปล่า และ บนใบหน้าของนางก็เปิดเผยรอยยิ้มที่มั่นใจออกมา
โดยรูปแบบก่อตัวได้ปรากฏขึ้นทีละอัน
บนเวทีประลอง รูปแบบก่อตัวที่ทรงพลัง ได้ปิดล้อม ซู่ชิวหยา และ โจมตีนางอย่างต่อเนื่อง
ในเวลานี้ ซู่ชิวหยา กำลังตกที่นั่งลำบาก
“นี่เป็นไปได้ยังไง?ความสำเร็จของศิษย์พี่ชิวหยาในด้านรูปแบบก่อตัวนั้นสูงมากแม้แต่เหล่าผู้อาวุโสของยอดเขาก็ไม่สามารถจับคู่กับนางได้ แต่ทว่าในตอนนี้ ศิษย์พี่ชิวหยากลับกำลังพลาดท่าให้ศิษย์หญิงคนนั้นงั้นหรือไม่?”
“ศิษย์รุ่นเยาว์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ธุลีสีชาดแข็งแกร่งขนาดนี้เชียว?”
ซู่ชิวหยา ได้ถูกบังคับให้ล่าถอยอย่างต่อเนื่อง
ในขณะนี้ รอยยิ้มที่เย็นชาก็ได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของศิษย์หญิง “นี่คือความแข็งแกร่งของปรมาจารย์ด้านรูปแบบก่อตัวที่เป็นรุ่นเยาว์อันดับ 1 ของดินแดนศักดิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์งั้นหรือไม่?”
ขณะที่นางพูด นางก็โยนหินวิญญาณออกมา 2-3 ก้อนและปกคลุมสภาพแวดล้อมโดยรอบตัวของ ซู่ชิวหยา อย่างหนาแน่น
จากนั้น สายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนก็ได้ปรากฏขึ้นและกักขังซู่ชิวหยาไว้ข้างในทันที
“นี่คือข่ายอาคมกรงสายฟ้า พลังของมันแข็งแกร่งมากจนแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญในอาณาจักรมหายานก็ยังยากที่จะหลุดพ้น แต่เดิมข้าก็ตั้งความหวังไว้เล็กนอยกับตัวเจ้า แต่ข้าไม่ได้คาดหวังเลยว่า ปรมาจารย์รุ่นเยาว์ด้านรูปแบบก่อตัวอันดับ 1 ของ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ จะอ่อนแอมากขนาดนี้ มันช่างทำให้ข้าผิดหวังเสียจริง”
ซู่ชิวหยา ได้ถูกกักขังในอาณาเขตสายฟ้าขนาดใหญ่ โดยเสื้อผ้าสีแดงของนางได้ปลิวไสวไปตามลมในขณะที่นางขมวดคิ้วเล็กน้อย
“แม้แต่ยอดฝีมืออาณาจักรมหายานก็ยังยากที่จะหลุดพ้นจากอาณาเขตสายฟ้านี้ได้ การประลองในครั้งนี้มันจบแล้ว!”
ขณะที่ ศิษย์หญิงคนนี้พูด นางก็หยิบกระบี่ยาวออกมาและแทงไปทาง ซู่ชิวหยา
ปั้ง
เสียงดังขนาดใหญ่ได้ปรากฏขึ้น
ควันและฝุ่นได้ปกคลุมพื้นที่ทันที
ในขณะนี้ ใบหน้าของศิษย์หญิงได้เผยรอยยิ้มที่เย็นชาออกมา
เพราะนางรู้ว่าชัยชนะได้ตกเป็นของนางแล้ว
แต่หลังจากที่ฝุ่นที่คลุ้งกระจายหายไป
ก็ไม่มีใครปรากฏบนเวที ร่างของศิษย์พี่หญิงใหญ่ของเย่เฉิน ซู่ชิวหยา ได้หายตัวไปต่อหน้าของศิษย์หญิงคนนี้ทันที
“ได้ยังไง…”
“เป็นไปไม่ได้!”
ศิษย์หญิงคนนี้รู้สึกตกใจและไม่กล้าที่จะเชื่อสิ่งที่ปรากฏขึ้นต่อหน้าของนาง
“บางครั้งความมั่นใจเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี!”
ขณะที่นางพูดเสร็จ ซู่ชิวหยา ก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าและผนึกชุดฝ่ามือของนาง ทันใดนั้น ชุดกระบี่ก็ได้ปรากฏขึ้น และ พุ่งโจมตีใส่ร่างของ ศิษย์หญิง
ชุดกระบี่นี้ทรงพลังเป็นอย่างมาก แม้แต่ ศิษย์หญิงระดับอาวุโสที่มีกระดูกอายุ 121 ปี ก็ยังไม่สามารถต้านทานมันได้
กระบี่ยาวได้แทงทะลุร่างนางทีละเล่ม
“ข้ายอมรับความพ่ายแพ้!”ศิษย์หญิงได้กล่าวออกมาอย่างหมดหนทาง นางทำได้เพียงยอมรับความพ่ายแพ้เท่านั้น
ดวงตาของ ซู่ชิวหยา ได้กลายเป็นเย็นชา ในขณะที่นางถอดรูปแบบก่อตัวออก
ในเวลานี้ ทั่วทั้งเวทีประลองก็เต็มไปด้วยเสียงปรบมือที่ดังสนั่น ซู่ชิวหยา ศิษย์พี่หญิงใหญ่ของ เย่เฉิน ได้ล้างความอัปยศที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตาได้รับและกลายเป็นผู้ชนะในที่สุด
ในเวลานี้ ทั่วทั้งสนามก็เต็มไปด้วยเสียงปรบมือดังลั่น
ทุกคนดูตื่นเต้นมาก
สถานที่ทั้งหมดได้กลายเป็นเดือดพล่านในทันที
ปัจจุบัน จ้าวซือเหยา ได้กอด เย่เฉิน แน่นด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยความประหม่าบนใบหน้า
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อนางเห็นว่าศิษย์พี่หญิงใหญ่ของนางกำลังจะพ่ายแพ้ สิ่งนี้ทำให้นางโผกอดเย่เฉินแน่นขึ้นทันที
สำหรับ เย่เฉิน แม้ว่าเขาจะมองเห็นกระดูกอายุที่แท้จริงของศิษย์หญิงอาวุโสคนนั้น แต่เขาก็ไม่ได้กังวล เพราะเขารับรู้ความแข็งแกร่งของศิษย์พี่หญิงใหญ่ของเขาดี
เย่เฉิน รู้ดีว่านอกจากรูปแบบก่อตัวแล้ว ศิษย์พี่หญิงของเขายังมีร่างกายที่เต็มไปด้วยพลังปราณแท้จริงที่น่าสะพรึงกลัว
หลังจากการฝึกฝนมานาน 5 ปี ศิษย์พี่หญิงใหญ่ของเขาก็ได้สอนอะไรหลายสิ่งหลายอย่างให้แก่เขา
ดังนั้นตั้งแต่เริ่มต้น เย่เฉิน จึงเชื่อว่า ศิษย์พี่หญิงใหญ่ของเขาจะต้องได้รับชัยชนะในการแข่งขันนี้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ทัศนคติด้านลบของ เย่เฉิน ที่มีต่อ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ธุลีสีชาด ก็รุนแรงมากยิ่งขึ้น
อีกฝ่ายได้ให้เหล่าอาวุโสแกล้งเป็นศิษย์และเข้าร่วมการแข่งขัน ดูเหมือนว่า ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ธุลีสีชาด ต้องการชนะในการแข่งขันในครั้งนี้มาก
ขัยชนะของศิษย์พี่หญิงใหญ่ของ เย่เฉิน ดูเหมือนจะทำให้ขวัญกำลังใจของคนจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ธุลีสีชาดลดลง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อดินแดนศักดิ์สิทธิ์ธุลีสีชาดต้องส่งเหล่าผู้อาวุโสออกไป แต่ทว่าพวกเขาก็ยังไม่ใช่คู่มือของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ นี่ถือเป็นระเบิดลูกใหญ่ที่ระเบิดขึ้นในใจของพวกเขา
หลัวเฟิง ที่ยืนอยู่ด้านในฝูงชนเขามองดูสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยท่าทางที่สงบ
ผู้อาวุโสทั้ง 3 ได้ยืนอยู่ล้อมรอบตัวของ หลัวเฟิง ราวกับว่าพวกเขาทั้งหมด ได้ปฏิบัติตามคำสั่งของ หลัวเฟิง
ศิษย์หญิงที่พ่ายแพ้ศิษย์พี่หญิงใหญ่ของเย่เฉิน ได้เดินลงมาจากเวทีด้วยท่าทางที่ผิดหวังและคุกเข่าต่อหน้าของ หลัวเฟิง
“นายน้อย ข้าแพ้แล้ว!”ศิษย์หญิงได้คุกเข่าต่อหน้าหลัวเฟิงและกล่าวพูด
“ขยะ เจ้ารู้จุดจบของเจ้าดีใช่หรือไม่?”หลัวเฟิง ได้กล่าวพูดอย่างเย็นชา
“เจ้าค่ะ นายน้อย!”
ศิษย์หญิงไม่กล้าพูดอะไร นางได้ตัดสินใจที่จะถอดแขนออกข้างนึงในทันที!
ในขณะนี้ สายตาของ หลัวเฟิง ได้กลายเป็นสงบอย่างหาที่เปรียบมิได้ ราวกับว่าเขาไม่ได้กลัวมัน
“ข้าไม่คิดเลยว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์จะมีบุคคลที่มีความสามารถเช่นนี้ ดูเหมือนว่าการเดินทางในครั้งนี้จะไม่สูญเปล่าแล้ว”หลัวเฟิง ได้ยิ้มและกล่าวออกมาอย่างเย็นชา
…
ที่ด้านหลังของยอดเขาหยกอมตะ
สายตาของศิษย์หญิงคนนั้นได้กลายเป็นเย็นชาในขณะที่นางกัดฟันแน่น
“ดีมาก ซู่ชิวหยา ทั้งหมดเป็นเพราะเจ้าที่ทำให้ข้าต้องสูญเสียแขน!”
“คอยก่อนเถอะ อย่าให้ข้าได้มีโอกาส ข้าจะสอนบทเรียนที่สำคัญให้แก่เจ้าอย่างแน่นอน!”
ศิษย์หญิงคนนี้ได้กัดฟันแน่นและกล่าวพูด
“ไม่คิดเลยว่า ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ธุลีสีชาด จะตกต่ำถึงขนาดส่งผู้อาวุโสมาเข้าร่วมการประลองรุ่นเยาว์เช่นนี้”ทันใดนั้น ก็มีเสียงนึงดังขึ้น
ศิษย์หญิงที่ตกใจได้รีบตะโกนกล่าวถามออกมาทันที “เจ้าเป็นใคร?”
“เจ้าไม่จำเป็นจะต้องรู้หรอกว่าข้าเป็นใคร เพียงแต่ข้าอยากจะรู้ว่าเพื่อให้ได้ชัยชนะ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ธุลีสีชาด ของพวกเจ้ากลับไม่สนใจศักดิ์ศรีเลยงั้นหรือไม่?หรือว่าแท้จริงแล้วพวกเจ้ามีเจตนาแอบแฝงอื่น?”เสียงนี้ได้ดังขึ้นอีกครั้ง
แน่นอนว่าผู้ที่ส่งเสียงออกมาไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก เย่เฉิน
เย่เฉิน จะทนได้อย่างไรเมื่อเห็น ศิษย์พี่หญิงใหญ่ของเขาเกือบถูกรังแก
ดังนั้น เขาจึงพร้อมที่จะสอนบทเรียนให้กับ ศิษย์หญิงที่มีกระดูกอายุ 121 ปีคนนี้ นอกจากนี้ เขายังรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดา
เพราะศิษย์คนนี้ดูเหมือนจะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของ หลัวเฟิง แม้แต่เหล่าผู้อาวุโสของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ธุลีสีชาดก็เหมือนกัน ดังนั้นนี่มันก็เพียงพอที่จะพิสูจน์แล้วว่า หลัวเฟิง คนนี้ไม่ธรรมดา
“เจ้าเป็นใครกันแน่?”ศิษย์หญิงคนนี้ได้กล่าวถามอีกครั้ง
แต่ในขณะนั้นเอง หญิงสาวในชุดยาวสีเขียวก็ปรากฏตัวที่ด้านหน้าของศิษย์หญิงคนนี้
หญิงสาวในชุดยาวสีเขียวไม่ได้เปิดเผยออร่าใด ๆ แม้แต่น้อยยามที่นางปรากฏตัวต่อหน้าของศิษย์หญิง ทว่าทันใดนั้น นางก็พุ่งกำปั้นเข้าใส่ ศิษย์หญิงคนนี้ในทันที
ปั้ง!
ตึง
ร่างของ ศิษย์หญิงคนนี้ ได้ถูกส่งลอยออกไป