Ep.211 - ยอดฝีมือลึกลับจากสมาคมโลกวิญญญาณ
1/2
Ep.211 - ยอดฝีมือลึกลับจากสมาคมโลกวิญญญาณ
ประกายเย็นเยียบมาถึงก่อน
หอกแหลมทิ่มแทงราวภาพของมังกรทะยาน
มันพุ่งทะลวงด้วยพละกำลังและความว่องไวอันน่าเหลือเชื่อ ปลายหอกแทงทะลุลำคอของหนึ่งในนั้นโดยตรง ทำลายทั้งกระดูกคอและกระดูกสันหลังในพริบตา ก่อผลลัพธ์ร้ายแรงในการโจมตีเดียว
นักฆ่าที่เหลืออีกสองคนตกตะลึง
เมื่อตั้งสติได้หยิบอาวุธขึ้น ตอบโต้กลับไป
เคร้ง!
เคร้ง!
สองเสียงกระทบดังฟังชัด
ทันทีที่อาวุธของพวกเขาสัมผัสกับปลายหอก มือของทั้งสองด้านชา อาวุธกระเด็นออกไป
พละกำลังของชายภายใต้ฝุ่นควันช่างแก่กล้า ความว่องไวก็สูงลิ่ว ความเร็วในการเคลื่อนที่จัดว่าร้ายกาจ และทั้งนี้ทั้งนั้นอาวุธของเขาทรงพลังมาก มันวูบไหวราวภูติผี หลังจากสกัดกั้นการโจมตีได้ง่ายดาย เขาก็โจมตีอีกครั้ง ตวัดแทงหอกทะลุหน้าอกของนักฆ่า
เมื่อบรรลุเป้าหมาย หอกยาวกระตุกกลับมาทันที
รุกรับในฉับพลัน!
ช่างเป็นพละกำลังอันน่าทึ่ง!
นักฆ่าคนสุดท้ายไม่มีเวลาได้ตอบโต้หรือหลบหนี ถูกด้ามหอกฟาดตัวปลิว ไม่เพียงแต่เกราะบุบเป็นหลุมใหญ่ แต่กระดูกกว่า 4 - 5 ชิ้นยังหัก ปะทะกำแพงแตกเป็นเสี่ยงๆ นอนนิ่งลงกับพื้น ครึ่งค่อนวันก็ไม่สามารถลุกขึ้นได้
ในคราวเดียว!
ส่งนักฆ่าทั้งสามลงไปกองกับพื้น!
ทั้งการโจมตี ป้องกัน ความว่องไว พละกำลัง และความปราดเปรียว
ทั้งสองฝ่ายไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันเลย บวกกับการโจมตีอย่างไม่ให้ทันตั้งตัวของ ฮังอวี่
ผลลัพธ์นี้จึงเป็นเรื่องปกติ ไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆมากนัก ทำให้มีผู้ตาย 1 ราย บาดเจ็บหนักอีก 2 ราย
ฆ่าคน!
ครั้งนี้เป็นการฆ่าคนจริงๆ
ฮังอวี่เคยกวาดล้างกลุ่มโจรโลกวิญญาณมาก่อน
แต่นั่นมันอยู่ในโลกวิญญาณ ซึ่งเขาไม่เคยฆ่าใครในโลกจริงมาก่อนเลย
นี่เป็นครั้งแรก ... อย่างไรก็ตาม จิตใจกลับไม่หวั่นไหว
เพราะยังไงซะ เขามีประสบการณ์จากการล้างบางในความทรงจำของจอมปราชญ์ จิตใจจึงหนักแน่นกว่าคนธรรมดาทั่วไป ประจวบกับหลังจากการรุกรานของโลกวิญญาณและการฝึกฝนขัดเกลาตัวเองในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้ฮังอวี่กลายเป็นพลรบที่แน่วแน่ไม่หวั่นไหวไปแล้ว
แน่นอน เขาเคารพในชีวิต
ดังนั้นไม่คิดสังหารใครง่ายๆ
อย่างไรก็ตาม เขาไม่จำเป็นต้องอ่อนโยนกับศัตรูสองคนเบื้องหน้า
ฮังอวี่ไม่รู้ว่าพวกเขามีความคับข้องใจอะไรกับซูหยุนปิง
แต่เจ้าพวกนี้เหิมเกริมมาก พวกมันบังอาจคิดสังหารฮังอวี่ไปพร้อมๆกัน!
เป็นพวกแกเองที่บังอาจทำให้บิดาโกรธ ฉะนั้นจงอย่าโทษที่ฉันโหดเหี้ยม!
ฮังอวี่ปัดๆฝุ่นตามตัว เขาได้รับบาดเจ็บนิดหน่อย แต่ไม่ได้รุนแรงเกินไป คัมภีร์สกิลเลเวล 4 5 พวกนี้ทรงพลังมากจริงๆ แต่ด้วยฐานค่าคุณสมบัติที่สูงมาก และชุดเซ็ทผู้พิทักษ์ที่สวมใส่ การระดมโจมตีนี้จึงไม่มากพอที่จะก่อภัยคุกคาม
“อาจารย์ซูเป็นยังไงบ้าง?”
“ขอบคุณ ฉันไม่เป็นไร ครั้งนี้ฉันติดหนี้ชีวิตนาย”
ซูหยุนปิงเปลี่ยนมาสวมอุปกรณ์จากโลกวิญญาณของเธอแล้ว ขณะนี้ผมเพ้าของเธอยุ่งเหยิงเล็กน้อย ดูจากบาดแผลตามตัวชัดเจนว่าได้รับบาดเจ็บ สภาพดูน่าสงสาร เธอยกโพชั่นฟื้นพลังขึ้นดื่ม
หญิงสาวรู้สึกขอบคุณจากก้นบึ้งของหัวใจ
ซูหยุนปิงแม้จะอยู่ในเลเวล 5 แต่ไม่สามารถเทียบกับฮังอวี่ได้ เขาไม่เพียงหนังหนา แต่ยังมีอุปกรณ์ที่ดีและเลเวลสูง ภายใต้สถานการณ์ลอบโจมตีครั้งนี้ หากเธออยู่ลำพัง มีโอกาสเจ็ดในสิบส่วนที่จะอันตรายถึงชีวิต ... คราวนี้เป็นเพราะความแข็งแกร่งของฮังอวี่ จึงหลีกเลี่ยงภัยพิบัติมาได้
มนุษย์ปลานักล่าของเธอตายหนึ่ง บาดเจ็บหนึ่ง
อย่างแรกที่ทำ เธอโบกคทาในมือแล้วยิงลูกไฟออกไปยังบริเวณซากปรักหักพังที่นักฆ่าล้มนอนอยู่ ทว่าลูกไฟนี้ไม่เกิดการระเบิด แต่มันกลายเป็นตาข่ายขนาดใหญ่ คลุมเป้าหมายเอาไว้ให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
ตาข่ายเพลิงนี้มีเอฟเฟกต์แผดเผา
มันสามารถสร้างดาเมจต่อเนื่อง
นี่คือ สกิลมรดกของนักมายากล ‘เปลวเพลิงมายากล’
มันสามารถโจมตีได้เหมือนเปลวไฟปกติ หรือเปลี่ยนเป็นตาข่ายเพลิงไม่ก็เชือกไฟเพื่อพันธนาการ
นักมายากลมีสกิลมรดกสามอย่างได้แก่ : ร่างเงาหุ่นเชิด , โรงละครแห่งความเงียบ และเปลวเพลิงมายากล
ซูหยุนปิงมีมันทั้งหมด
เธอครอบครองมรดกที่สมบูรณ์อย่างน้อยหนึ่งอาชีพ!
“อ๊ากกกกก!”
เสียงกรีดร้องน่าสังเวชดังขึ้น
นักฆ่าที่กำลังจะตายอีกคนถูกมนุษย์ปลานักล่าขึ้นคร่อม มันอ้าปากเผยให้เห็นฟันแหลมๆ และเริ่มแทะกินเขา
ซูหยุนปิงใช้สกิลของเธอควบคุมคนๆหนึ่ง และฆ่าอีกคนให้ตายอย่างทรมานชนิดตาไม่กะพริบ ท่าทีของเธอดูสงบมาก ไม่มีลังเลหรือตื่นตระหนกแม้แต่น้อย ก่อนหันมาขอโทษฮังอวี่
“ฉันขอโทษจริงๆ ทั้งๆที่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับนาย แต่ก็พลอยทำให้ติดร่างแหไปด้วย”
ฮังอวี่แซว “คนพวกนี้ไม่ได้อ่อนแอ ไม่เหมือนแฟนคลับของอาจารย์ซูทั่วๆไป ทำไมพวกเขาถึงอยากฆ่าอาจารย์? หรือเพราะหลงเสน่ห์อาจารย์ชนิดถอนตัวไม่ขึ้น สุดท้ายเปลี่ยนจากรักกลายเป็นเกลียด?”
นี่มันใช่เรื่องไหม?
ยังมีเวลามาเล่นตลกอีก!
ซูหยุนปิงกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “พวกเขาสมควรเป็นสมาชิกของสมาคมโลกวิญญาณ”
สมาคมโลกวิญญาณ?
ไม่ใช่หรอกมั้ง
มันจะเป็นสมาคมโลกวิญญาณไปได้อย่างไร?
สมาคมโลกวิญญาณสร้างความประทับใจแก่ฮังอวี่เสมอมา
องค์กรนี้สนับสนุนว่าทุกคนมีคุณสมบัติที่จะสำรวจโลกวิญญาณ ดังนั้นทุกคนมีสิทธิ์ครอบครองทรัพย์สินทางโลกวิญญาณ อีกทั้งทางสมาคมยังเรียกร้องให้ช่วยเหลือซึ่งกันและกันในยุคการรุกรานจากโลกวิญญาณ และคอยให้ความช่วยเหลือคนทั่วไปผ่านสื่อต่างๆมากมาย
ซูหยุนปิงเองก็เป็นสมาชิกของสมาคมโลกวิญญาณเช่นกัน
แล้วไหงสมาชิกของโลกวิญญาณถึงมาลอบสังหารกันเองได้?
“คนที่พวกเขาคิดจัดการจริงๆไม่ใช่ฉัน แต่เป็นพ่อของฉัน ซูเจิ้งเฉิง!” ซูหยุนปิงมองไปทาง ฮังอวี่และกล่าวว่า “นี่ก็ผ่านมาหนึ่งเดือนแล้วตั้งแต่การมาเยือนของโลกวิญญาณ สภาพแวดล้อมของสังคมเปลี่ยนไปมาก และความยุติธรรมของสมาคมโลกวิญญาณไม่ได้แข็งดั่งเสาหิน”
ที่แท้ก็เป็นแบบนี้
ซูเจิ้งเฉิงคือรองประธานบริหารของสมาคมโลกวิญญาณ
เขาถือได้ว่าเป็นพี่ใหญ่ในเจียงเฉิง
สมาคมโลกวิญญาณเป็นองค์กรที่ค่อนข้างหละหลวม พวกเขาไม่ได้มีระเบียบวินัยเหมือนสกายเน็ต แต่เป็นองค์กรที่ก่อตั้งขึ้นโดยกองกำลังพลเรือนจำนวนมาก มีเสถียรภาพมากในช่วงแรก แต่ตอนนี้ดูท่าจะเกิดความขัดแย้งขึ้นภายในองค์กร
ส่วนสถานการณ์เป็นยังไง?
ใครเล่าจะรู้
แต่ที่แน่ๆ สิ่งที่ทำให้มนุษย์กล้าฆ่ากันเอง คงไม่มีอะไรมากไปกว่าเรื่องเงิน
ที่ซูหยุนปิงปล่อยให้รอดชีวิตคนหนึ่ง ไม่ใช่เพราะเธอเมตตา แต่ต้องการได้รับข้อมูลจากเขา
ขณะที่ฮังอวี่กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นเอง เขาพลันตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ เจ้าตัวสังเกตเห็นว่าศพของฆาตกรสองคนที่ถูกฆ่าขณะนี้กำลังเปื่อยเน่า และมีไอสีเทาที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าลอยออกมา โดยเฉพาะบนศพนักฆ่าที่ตายเป็นคนแรก มีไอสีเทาดำฟุ้งกระตายไปทั่วบริเวณ
“คำสาปศพพิษ?”
ฮังอวี่ไม่รอให้ซูหยุนปิงตั้งตัว เขาช้อนขาเธอ อุ้มหญิงสาวแล้วกระโดดหนีจากตรอกอย่างรวดเร็ว
ไอสีเทาดำแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว มนุษย์ปลานักล่าล้มลงทันที นักโทษที่เดิมถูกจับตัวในตาข่ายเพลิง ตอนนี้ส่งเสียงกรีดร้องรุนแรง ตามใบหน้าและร่างกายปรากฏฟองเลือดจำนวนมาก ฟองแล้วฟองเล่าบวมปูด สุดท้ายทั้งคนทั้งร่างสลายไปอย่างรวดเร็ว เป็นการตายที่น่าสังเวชเป็นอย่างยิ่ง ทั้งตรงศพยังปล่อยหมอกพิษออกมา
“ช่างเป็นคำสาปศพพิษที่ทรงพลัง”
“คนที่อยู่เบื้องหลังนักฆ่ากลุ่มนี้ไม่ง่ายแน่นอน”
คำสาปศพพิษคือคำสาปแบบหน่วงเวลา มันจะคงอยู่ในร่างกาย และจะทำงานหลังจากความตาย
เมื่อนักฆ่าถูกสังหาร เป้าหมายก็จะลดความระแวงลงและเข้ามาตรวจสอบ จากนั้นคำสาปศพพิษก็จะปะทุขึ้น ทำให้สามารถสังหารผู้ที่อยู่ใกล้ได้ในพริบตา
หากไม่ใช่เพราะความทรงจำของจอมปราชญ์ในหัวฮังอวี่
เกรงว่าถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้ตัว!
อีกทั้งคำสาปนี้ยังรุนแรงมาก บ่งบอกว่าผู้ที่ทิ้งคำสาปไว้คือยอดฝีมือชั้นนำ!
ไม่คิดเลยว่าจะมีตัวตนที่ทรงพลังเช่นนี้อยู่ในสมาคมโลกวิญญาณ!
“อาจารย์ซูติดหนี้ชีวิตผมอีกครั้งแล้ว”
สูญเสียเชลย ซูหยุนปิงรู้สึกหดหู่ใจมาก “นายต้องการให้ฉันชดใช้ยังไง ให้ตอบแทนด้วยร่างกายไหม?”
“อาจารย์คิดว่าผมเป็นคนประเภทฉวยโอกาสจากสถานการณ์อันตรายเอาเปรียบคนอื่นหรอ?” ฮังอวี่กล่าวอย่างจริงจัง “แต่ก็อย่างว่าล่ะ การปกป้องอาจารย์ซูนั้นไม่ง่ายเลย ถ้าอาจารย์กับเหล่าซูอยู่กับสมาคมโลกวิญญาณต่อไป เกิดถูกลอบฆ่าครั้งหน้าอาจไม่มีผมอยู่ช่วย ดังนั้นขอให้อาจารย์ลาออกจากสมาคมแล้วมาทำงานให้ผมดีกว่า”
ดวงตาของซูหยุนปิงหรี่ลงเล็กน้อย “เจ้าเด็กนี่ที่แท้ก็กำลังเล็งฉันอยู่จริงๆ!”
ฮังอวี่ก็แค่พูดไปอย่างงั้น
เพราะเธอคงไม่ยอมง่ายๆหรอก
“ผมขอย้ำอีกครั้ง อาจารย์กับเหล่าซูมีโอกาสสูงที่จะเจอกับการถูกลอบฆ่าอีก และผมไม่คิดว่าพวกคุณเอาชนะเขาได้ ต่อให้เป็นตัวผมเอง ถ้าไม่มีเหตุผลมากพอ ก็ไม่อยากกระโจนลงไปในโคลนตมนี้ ... มันอันตรายเกินไป”
ซูหยุนปิงจับคำพูดของฮังอวี่ได้หลายส่วน
หนึ่ง เขาสามารถสังเกตเห็นถึงความแข็งแกร่งของชายผู้อยู่เบื้องหลัง
สอง ฮังอวี่มั่นใจว่าซูหยุนปิงและซูเจิ้งเฉิงอาจไม่สามารถรับมือได้
สาม ไม่ใช่ว่าฮังอวี่ไม่อยากช่วยเหลือ แต่เขาจะไม่ลงมือหากปราศจากเหตุผล
“อาจารย์ซูลองเก็บเรื่องนี้ไปคิดดูอีกที” ฮังอวี่เตือน “วันนี้ผมจะแสร้งว่าไม่ได้มาที่นี่ ผมยังมีอีกหลายเรื่องต้องทำที่บ้าน ขอตัวก่อน อ้อ เรื่องไวน์ฝากเก็บไว้ให้ด้วย วันหลังจะแวะมาหาใหม่”
เหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อซูหยุนปิงไม่น้อย
ในเวลาเดียวกัน มันได้สร้างคำเตือนแก่ฮังอวี่
ฮังอวี่รู้สึกว่าเขาต้องแข็งแกร่งยิ่งกว่านี้ ไม่อาจพอใจกับข้อได้เปรียบในปัจจุบันของตน
พรุ่งนี้โลกวิญญาณจะเปิดขึ้นอีกครั้ง คงต้องเร่งฝ่าด่านเขาวงกตและบุกยึดหอคอย!