เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 250
ตอนที่ 250
ชายผู้นั้นเก็บกระบี่ของมันและแนบตัวลงไปเลื้อยอยู่แทบพื้นดินราวกับเป็นอสรพิษตนหนึ่ง ก่อนจะฟาดฝ่ามือเข้าใส่หลินซวนอย่างรวดเร็ว
ร่างของหลินซวนถอยไปด้านหลัง แต่ไม่อาจหลบรอดร่างของอีกฝ่ายที่บิดพลิ้วคล้ายงูก่อนจะล้อมรอบตัวเขาเอาไว้ และส่งเสียงขู่ฟ่อออกมา
นี่ทำให้หลินซวนประหลาดใจไม่น้อย การเคลื่อนไหวเช่นนี้มิได้มีพลังโจมตีใด ทว่ามันกลับรัดร่างของเขาให้อยู่นิ่งได้ น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
ชายผู้นั้นให้คลายรู้สึกเหมือนเป็นปลาที่อยู่ในกระแสน้ำ ลื่นไหลและยากจะคว้าจับได้
หมัดของหลินซวนปะทะร่างของฝ่ายตรงข้ามแต่ความรู้สึกที่เขาสัมผัสได้คล้ายกับต่อยลงบนปุยนุ่น แรงปะทะทั้งหลายสลายหายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้น แต่แน่นอนว่านั่นมิใช่พละกำลังทั้งหมดที่หลินซวนมี ไม่เช่นนั้นมันคงถูกหมัดของเขากระแทกจนกระเด็นออกไป
ทว่า ชายผู้นั้นเริ่มแสดงออกถึงความเป็นสตรีมากขึ้นในทุกขณะ ในสายตาของเขา หลินซวนพบเห็นร่องรอยของอารมณ์บางอย่างที่ทำให้เขาต้องขนลุกทั่วร่าง
นี่มันตัวประหลาดแบบใดกัน?
“ถอยไป!” ร่างของหลินซวนสั่นไหว และปราณวิญญาณจำนวนมหาศาลก็ถูกปลดปล่อยออกมา
ชายผู้นั้นถูกแรงกระแทกจนกระเด็นออกไปทันที ทว่าหลินซวนยังคงหลงเหลือความกระอักกระอ่วนบางประการอยู่
จากนั้นหลินซวนก็หยิบแหวนมิติของชายผู้นั้นขึ้นมา ไม่ว่าชายคนนั้นจะเป็นใคร เขาก็ยังไม่ลืมจะฉกชิงสมบัติของมันมา
“เอ๋? ทักษะร่างมังกรทะยาน?”
หลินซวนพบเห็นแผ่นหยกในแหวนมิติของศัตรูและอดมิได้จะหยิบมันขึ้นมาดู นี่เป็นทักษะเคลื่อนไหวที่ชายคนนั้นใช้ออกมาก่อนหน้านี้
กระบวนท่าที่ถูกบรรจุไว้ในแผ่นหยกนั้นทำให้หลินซวนสนใจมากขึ้นทุกที
กลายเป็นว่าทักษะเคลื่อนไหวนี้ถูกคิดค้นขึ้นโดยอาวุโสคนหนึ่งในตระกูลของชายผู้นั้นในระหว่างที่เขากำลังเมามายและเห็นปลาหลียู่*กำลังจับคู่กัน ทำให้เขาอดมิได้ที่จะสัมผัสได้ถึงบางสิ่งและสิ่งนั้นก็กลายเป็นทักษะนี้ในเวลาต่อมา
การคว้าจับร่างของผู้ที่ใช้ทักษะนี้ก็เช่นเดียวกับการจับปลาที่ว่ายอย่างอิสระในแม่น้ำ ทว่า มันยังคงมีผลข้างเคียงคือทำให้ผู้บ่มเพาะกลับกลายเป็นสตรีไปหาเรียนรู้ทักษะเช่นนี้
เมื่อเห็นเช่นนั้น หลินซวนไม่ลังเลที่จะรีบขว้างแผ่นหยกไปให้พ้นจากสายตา นี่มันมิใช่ของที่เหมาะสมกับเด็กๆ แม้แต่น้อย
หลังจากนั้นครู่ใหญ่ หลินซวนอดจะรู้สึกเศร้าขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ เขารังแก...สั่งสอนผู้อื่นได้เพียงสี่คนเท่านั้น เหตุใดเขาจึงไม่เจอใครอีกแล้วในป่านี้?
หรือว่าพวกมันที่เหลือจะถูกขู่จนหวาดกลัวไปหมด? แต่ว่าเขาเองก็พยายามทำตัวให้อ่อนแอเท่าที่จะทำได้แล้ว
“ทารกน้อย สิ่งเหล่านี้ยกให้เจ้า”
ในอ้อมแขนของเสี่ยวหวงเต็มไปด้วยผลไม้วิญญาณ เขากำลังเคี้ยวพวกมันพลางเดินเข้ามาหาหลินซวนอย่างมีความสุข พร้อมยื่นกิ่งไม้แห้งๆ ที่ห้อยแหวนมิติจำนวนหนึ่งมาให้
หลินซวนรับแหวนมิติเหล่านั้นด้วยท่าทีตกตะลึงและค้นพบว่าในแหวนมิติเหล่านี้เต็มไปด้วยสมบัติวิญญาณมากมาย แต่ไม่มีผลไม้วิญญาณแม้แต่ลูกเดียว ชัดเจนว่าพวกมันถูกเสี่ยวหวงกินไปจนหมดแล้ว
นี่ทำให้หลินซวนมองเสี่ยวหวงอย่างแปลกประหลาด เมื่อเสี่ยวหวงเห็นสายตาที่หลินซวนมองมายังผลไม้วิญญาณในอ้อมแขนของเขา เด็กน้อยก็รีบเอามือขึ้นมาปิดบังผลไม้เหล่านั้น
“เจ้าจะทำอันใดน่ะ? ข้าก็ยกพวกเศษโลหะเหล่านั้นให้แล้ว เจ้าจะมาขโมยผลไม้จากข้าไปไม่ได้นะ” เสี่ยวหวงเอ่ยด้วยน้ำเสียงน่ารักของเขา ราวกับว่าการที่ผลไม้วิญญาณจะถูกแย่งไปเป็นความเจ็บปวดที่สุดที่จะเกิดขึ้น ท่าทีเช่นนั้นดูน่ารังแกไม่น้อย
หลินซวนอดจนใจไม่ได้ มีเพียงเสี่ยวหวงเท่านั้นที่กล้าพูดว่าสมบัติเหล่านี้ไร้ประโยชน์ เขาจึงต้องกล่าวกับเด็กน้อยเบื้องหน้าเล็กน้อย
“ข้าไม่คิดแย่งผลไม้วิญญาณของเจ้าหรอก นี่เจ้าปล้นพวกคนที่เหลือทั้งหมดเลยเช่นนั้นหรือ?”
หวงหาวพยักหน้ารับ หลินซวนเองก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดเช่นไร หากว่าเซียนต้นหลิวได้รับรู้ว่าเขาสั่งสอนเรื่องเช่นนี้แก่เสี่ยวหวง ต้นหลิวผู้นั้นจะโกรธเขาหรือไม่?
‘ใครสน? ข้าจะไปปล้นชิงสิ่งของจากผู้บ่มเพาะอื่นๆ ต่ออยู่ดี’
หลังจากหลินซวนและเสี่ยวหวงจากไป เสียงร้องไห้คร่ำครวญก็ดังขึ้น
“พวกมันมิใช่มนุษย์ กระทั่งชั้นในของข้ายังถูกขโมยไป!”
รุ่นเยาว์ที่ถูกหลินซวนตีจนสลบด้วยกำปั้นตื่นขึ้นมาอย่างมึนงงและค้นพบว่ามันนอนราบอยู่บนพื้นดินอย่างเปลือยเปล่า มีผู้บ่มเพาะมากมายที่กำลังชี้นิ้วมาที่มันจนมันแทบจะเป็นลมอีกครา
เหตุใดมันจึงกลายเป็นยาจกเช่นนี้? ไม่เพียงจะถูกผู้อื่นขโมยเสื้อผ้า กระทั่งชั้นในยังไม่เหลือเอาไว้ เมื่อเห็นว่ารอบด้านเต็มไปด้วยผู้คนมากเข้า มันก็สลบลงไปอีกครั้ง
อันที่จริงแล้ว นี่มิใช่ความผิดของหลินซวนเสียทีเดียว เขาต้องการเพียงจะปล้นมันเล็กน้อย แต่ท้ายที่สุด เขาก็พบว่าชุดคลุมของรุ่นเยาว์ผู้นี้เองก็นับได้ว่าเป็นสมบัติชิ้นหนึ่งที่มีระดับหมุนวนทะเลปราณ เช่นนั้นแล้วมีหรือที่หลินซวนจะปล่อยให้มันหลุดมือไปได้
หลินซวนค้นพบว่ารุ่นเยาว์ผู้นี้เป็นศิษย์น้อยที่ร่ำรวยไม่เลว สมบัติทุกชิ้นที่มันสวมใส่เป็นสมบัติในระดับหมุนวนทะเลปราณทั้งสิ้น หลินซวนจึงตัดสินใจจะเอาพวกมันทั้งหมดมาพร้อมกัน
ในไม่กี่วันต่อมา เสียงคร่ำครวญอย่างน่าเวทนาก็ดังไปทั่วทุกที่ของแดนลึกลับ
รุ่นเยาว์มากมายที่เดินทางอยู่ในแดนลึกลับพบเจอกับความเจ็บปวดที่เบื้องหลังของตนก่อนจะหมดสติไป เมื่อพวกเขาตื่นขึ้นมาอีกครา สมบัติทั้งหลายที่ถูกสวมใส่อยู่บนร่างต่างโดนปล้นชิงไปจนหมดสิ้น
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ที่ปล้นสมบัติไปยังทิ้งข้อความเอาไว้
“พวกเราจะมาดูแลเจ้าบ่อยๆ !”
เมื่อรุ่นเยาว์ทั้งหลายได้เห็นเช่นนั้น พวกมันแทบจะตกตายลงด้วยปราณวิญญาณในร่างที่ปะทุจากความบ้าคลั่ง
หากโจรใจโฉดเหล่านั้นกลับมาอีกไม่กี่ครั้ง พวกเขาต้องอดตายอย่างแน่นอน
“เจ้าได้ยินข่าวลือหรือไม่? เซียนน้อยแห่งตระกูลหยินหยางถูกปล้น และเขาเหลือเพียงชั้นในติดตัวเท่านั้น”
“เซียนน้อยแห่งตระกูลหยินหยางมีระดับการบ่มเพาะที่ขั้นสูงสุดของแดนสร้างรากฐาน ใครกันจะสามารถปล้นเขาได้?”
“เหล่าเซียนน้อยหนุ่มสาวของกองกำลังขนาดยักษ์ล้วนแล้วแต่มีระดับการบ่มเพาะเท่านี้ แต่เซียนน้อยแห่งตระกูลหยินหยางกลับไม่อาจพบเห็นตัวคนที่ปล้องเขาได้ ดูเหมือนว่าจะต้องเป็นอัจฉริยะในแดนหมุนวนทะเลปราณกระทำเรื่องนี้!”
เฮือก! การบรรลุแดนหมุนวนทะเลปราณในวัยก่อนห้าสิบปี นี่ย่อมเป็นอัจฉริยะสัตว์ประหลาดในหมู่สัตว์ประหลาดอย่างแน่นอน
หากพวกเขารู้ว่าผู้บ่มเพาะแดนหมุนวนทะเลปราณนั้นเป็นเพียงเด็กน้อยวัยสามถึงสี่หนาว พวกเขาจะไม่หวาดกลัวจนตายหรือ?
ฝนแดนลึกลับ พวกเขาอาจไม่รู้ชื่อของหลินซวน แต่เมื่อกล่าวถึงเด็กน้อยสองคน ไม่ว่าใครก็ย่อมต้องรู้จัก
เบื้องหน้า ภูเขาลูกนั้นใหญ่โตราวกับเป็นร่างของมังกรที่กำลังนอนหลับอยู่ มันดูดุร้ายอย่างไม่น่าเชื่อ
หลินซวนและเสี่ยวหวงกำลังเดินทางไปยังภูเขาลูกนั้น แต่อยู่ๆ พวกเขาก็หยุดฝีเท้าลง ปราณวิญญาณที่ปรากฏอยู่ในอากาศไม่เสถียรยิ่ง ถัดไปจากนี้ต้องมีการต่อสู้ขนาดใหญ่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ในส่วนลึกของภูเขานั้น รุ่นเยาว์แสนหล่อเหลาสามคนกำลังยืนอยู่ตรงข้ามกัน ไม่มีผู้ใดขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย
“นั่นใคร?” รุ่นเยาว์สุดหล่อในชุดคลุมสีม่วงแฝงไปด้วยกลิ่นอายยิ่งใหญ่เอ่ยขึ้น เมื่อคนที่เหลือได้ยินประโยคนั้น พวกเขาก็ต้องการจะรับรู้ว่าเป็นใคร
พลังสายหนึ่งปะทะเข้ากับก้อนหินใหญ่ที่ไกลออกไปและมันก็เกิดการระเบิดขึ้นทันที ปรากฏเป็นร่างของหลินซวนและหวงหาวที่อยู่ด้านหลังหินก้อนนั้น
“เด็กสองคน?”
พวกเขาทั้งสามเผยสีหน้าแปลกประหลาดใจ พวกเขาต่างปะทะกันมาเป็นเวลาหลายวันแล้ว และข่าวของผู้บ่มเพาะที่ถูกปล้นชิงสมบัตินั้นพวกเขาทั้งสามยังมิได้รับรู้
“บังอาจมาสอดแนมพวกเราหรือ? ไสหัวไป!”
รุ่นเยาว์ผู้หนึ่งที่ปรากฏขนนกสีขาวบนร่างของมันเอ่ยด้วยโทสะ มันหมุนวนปราณวิญญาณของตนจนกลายเป็นพายุและขว้างพายุนั้นใส่เด็กน้อยทั้งสอง จิตสังหารปะทุขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในความคิดของมัน เศษขยะเช่นนั้นจะตกตายลงก็เป็นเรื่องธรรมดายิ่ง
หลินซวนสะบัดมือด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ และคลื่นปราณวิญญาณก็กวาดผ่านเศษหินบนผืนดิน คลื่นปราณนั้นปะทะเข้ากับพายุปราณก่อนทำให้พายุปราณลูกนั้นจางหายไป
เห็นเหตุการณ์ที่หลินซวนทำลายการโจมตีนั้นโดยง่าย สีหน้าของคนทั้งหลายเปลี่ยนแปรไปเล็กน้อย
หลินซวนดูแล้วอายุน้อยกว่าพวกมันทั้งสามราวห้าถึงหกปี แต่กลับมีพละกำลังในการต่อสู้ทัดเทียมกัน นั่นมิได้หมายความว่าพวกมันอ่อนด้อยกว่าเด็กน้อยผู้หนึ่งเช่นนั้นหรือ?
พวกมันต่างนับว่าเป็นผู้นำของเหล่ารุ่นเยาว์ในกองกำลังของตนเอง ได้รับฉายามากมายมาตั้งแต่ยังเล็กนัก พวกมันย่อมมิอาจยอมรับได้ว่ามีเด็กน้อยคนใดที่แข็งแกร่งกว่าตนเอง... นี่ทำให้ในดวงตาของพวกมันปรากฏจิตสังหารขึ้น
*ปลาคาร์ป ปลาคาร์ปมีตำนานว่าถ้ามันมีอายุเกินร้อยปีจะว่ายน้ำทวนน้ำตกและกลายเป็นมังกร