เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 248
ตอนที่ 248
ส่วนทักษะรูปแบบอื่นนั้นใช่ร่วมกับธาตุอีกสี่ชนิด ในรูปแบบสุดท้าย เป็นการผสานรูปแบบทั้งห้าก่อนหน้านั้นเพื่อระเบิดพลังสูงสุดของทักษะต้นกำเนิดเบญจธาตุ
หลังจากบ่มเพาะจนถึงจุดที่เหมาะสม เขาสามารถใช้ทักษะนี้ในการสร้างโลกขนาดเล็กของตนเองขึ้นมาได้ อย่างไรก็ตาม บัดนี้มันยังเป็นเพียงเรื่องในจินตนาการเท่านั้น
หลังจากหุบเขาทองคำสูญเสียต้นกำเนิดโลหะไป การเปลี่ยนแปลงครั้งมโหฬารก็บังเกิดขึ้น
ใช่ชั่วพริบตา ใต้หล้าสั่นสะท้าน พลังแห่งฟ้าดินพุ่งเข้ากดดันมนุษย์ทุกคนโดยรอบ
“ไม่นะ แดนลึกลับแห่งนี้กำลังจะถล่มลง รีบไปกันเถิด”
“เลิกสนใจผลไม้วิญญาณเสีย การรอดชีวิตนั้นสำคัญที่สุด”
รุ่นเยาว์ทั้งหลายที่เพิ่งเริ่มสำรวจสมบัติที่ถูกซุกซ่อนอยู่ในหุบเขาทองคำแห่งนี้ได้ไม่เท่าไหร่ต่างสาปแช่งออกมา เหตุใดหุบเขาทองคำจึงพังทลายลงในยามที่พวกเขาพบเจอสมบัติด้วย? นี่มันเป็นการลงทัณฑ์จากสวรรค์หรืออย่างไร?
หากคนเหล่านี้ได้รับรู้ว่าการที่หุบเขาทองคำถล่มลงนั้นเป็นหลินซวนแล้ว พวกเขาคงพ่นคำสบถใส่หลินซวนจนจมกองน้ำลายตายด้วยรู้ว่าความแข็งแกร่งของตนนั้นสู้เขามิได้
ทุกคนต่างรีบจากไปโดยพลัน และพื้นที่รอบด้านเริ่มเกิดการบิดเบี้ยวของห้วงมิติ
หลินซวนที่เพิ่งออกมานั้นแค่นเสียงเล็กน้อย เขามองรอบด้านด้วยความสับสน
“หรือนี่จะเป็นเพราะว่าบรรพชนและตาแก่ทั้งหลายในตระกูลคิดถึงข้าแล้ว?”
ในครั้งนี้ อัจฉริยะเกือบทั้งหมดที่ถูกส่งเข้ามาโดยราชวงศ์อมตะถูกสังหาร ทำให้หลินซวนมีความสุขนัก ไม่เพียงจะมีเป้าหมายหลักของเขาที่บรรลุผล แต่ยังมีแหวนมิติอีกกว่าสามสิบวงที่หลินซวนแย่งชิงมาจากพวกมันได้อีกด้วย
พวกมันนี่ช่างร่ำรวยนัก มีสมบัติแทบจะทุกรูปแบบถูกเก็บเอาไว้ในแหวนมิติเหล่านี้ ส่วนใหญ่เป็นทรัพยากรที่เก็บเกี่ยวได้จากแดนลึกลับ ก่อนที่พวกมันจะถูกส่งออกไปด้วยทักษะช่วยชีวิตก็ถูกขโมย...ถูกหยิบยืมมาเสียก่อนโดยหลินซวน
เขาสามารถจะจินตนาการใบหน้าของตาแก่ทั้งหลายในยามที่เขานำสมบัติเหล่านี้กลับไปยังตระกูลหลินได้
“เสี่ยวหวง ข้าจะชำระล้างต้นกำเนิดโลหะเสียก่อน ช่วยเฝ้ารอบนอกให้ข้าที” หลินซวนเอ่ยกับเสี่ยวหวง เขาถึงขั้นนำแหวนมิติวงหนึ่งที่ด้านในเต็มไปด้วยผลไม้วิญญาณเพื่อเป็นของตอบแทนและเป็นอาหารว่างให้แก่หวงหาว
ต้องรู้ก่อนว่ารุ่นเยาว์บางส่วนยังไม่สามารถนำผลไม้วิญญาณเช่นนี้ติดตัวออกไปได้เสียด้วยซ้ำ แต่หลินซวนกลับมอบแหวนมิติที่บรรจุผลไม้วิญญาณจำนวนมากให้เสี่ยวหวงเพื่อเป็นของว่างเท่านั้น นี่สามารถทำให้ผู้คนโกรธแค้นจนตายได้อย่างแน่นอน
หลินซวนค้นพบถ้ำแห่งหนึ่งเมื่อเข้าไปเขาก็นำหม้อที่ได้จากหอเทพอัคคีออกมา เขาโยนสมุนไพรโอสถจำนวนหนึ่งลงในนั้น และทุกต้นที่เขาโยนลงไปมีค่ามากพอจะทำให้ผู้บ่มเพาะแดนสร้างรากฐานเลื่อนขั้นไปสู่แดนหมุนวนทะเลปราณได้ ทว่าบัดนี้พวกมันเป็นเพียงสิ่งที่หลินซวนใช้ในการช่วยเหลือเขาชำระต้นกำเนิดโลหะเท่านั้น นี่สามารถบ่งบอกได้เลยว่าหลินซวนร่ำรวยเพียงใด
ในไม่ช้า ปราณวิญญาณในถ้ำก็เพิ่มความเข้มข้นจนถึงจุดที่กลั่นตัวกลายเป็นหมอก หลินซวนมีสีหน้าพึงพอใจยิ่งนัก จากนั้นเขาก็โยนต้นกำเนิดโลหะลงหม้อและกระโดดตามลงไป
อุณหภูมิในหม้อสูงเสียจนทำให้ร่างกายของเขากลายเป็นสีแดง และทำให้เขารู้สึกราวกับว่าตนเองกำลังถูกต้มอยู่ อย่างไรก็ตาม การชำระต้นกำเนิดโลหะนี้ย่อมมิอาจให้เกิดความผิดพลาดได้
หลินซวนใช้ความพยายามทั้งหมดค่อยๆ ชำระต้นกำเนิดโลหะอย่างเชื่องช้า แสงสีทองจากต้นกำเนิดโลหะจางหายไป และบัดนี้ หลงเหลือเพียงโลหะที่มีขนาดเท่าฝ่ามือเท่านั้น หลินซวนจึงไม่ลังเลที่จะกลืนมันลงไป
เขาเคยกินแท่นบูชาห้าสีราวกับว่ามันเป็นเช่นขนมมาแล้ว จะมีสิ่งใดอีกที่เขาไม่สามารถกินได้?
หากเสี่ยวหวงเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ เขาคงจะยกนิ้วโป้งให้หลินซวนเป็นแน่
เจ้าทารกน้อยนี่ช่างน่ามหัศจรรย์นัก
แม้ว่าหวงหาวจะรักในการกินเพียงใด เขาก็ชื่นชอบเพียงผลไม้วิญญาณเท่านั้น
ทว่าทารกเช่นหลินซวนกลับสามารถกินโลหะต้นชืดเช่นนั้นได้ไม่ต่างกับอาหาร เสี่ยวหวงย่อมไม่กล้าเทียบกับเขาอย่างแน่นอน
หลินซวนใช้พลังดูดกลืน กายเซียนแห่งเต๋า และเก้าอักขระลับออกมา
พลังดูดกลืนและกายเซียนแห่งเต๋านั้นผสานรวมกันทำให้เขาสามารถย่อยสลายต้นกำเนิดโลหะได้ ส่วนเก้าอักขระลับก็ถูกใช้เพื่อฟื้นฟูร่างกายที่ถูกเผาไหม้ของเขา
ในเวลาเดียวกัน ความแข็งแกร่งของร่างกายผู้บ่มเพาะล้วนส่งผลโดยตรงสำหรับการจะเลื่อนขั้นขึ้นไปสู่แดนปราณอาณาเขตม่วง
โดยที่ไม่มีใครรับรู้ พลังของต้นกำเนิดโลหะผสานรวมเข้ากับร่างกายของหลินซวน หากว่ามีใครทราบเรื่องราวเช่นนี้ พวกเขาย่อมจะพบเห็นว่ากระดูกของหลินซวนเปล่งประกายเฉกเช่นทองคำ
เขากัดฟันแน่นอย่างอดทน อุณหภูมิที่สูงลิ่วทำลายผิวหนังชั้นนอกของเขา เสื้อผ้าทั้งหมดล้วนถูกเผาไหม้ หากเหตุการณ์เช่นนี้ยังดำเนินต่อไป เขาย่อมไม่สามารถจะชำระต้นกำเนิดโลหะได้สำเร็จอย่างแน่นอนและจะทำให้ตนเองกลายเป็นเนื้อย่างไปเสียก่อน
‘มาวัดดวงกัน!’ หลินซวนตะโกนอยู่ในห้วงความคิด
พลังวิญญาณในห้วงสำนึกของเขาค่อยๆ กลายเป็นรูปลักษณ์ของเขาอย่างช้า ในไม่นาน หลินซวนย่อส่วนก็ปรากฏขึ้น เขาก้าวไปด้านหน้าและยืนอยู่ตรงหน้าท้องของร่างเนื้อตนเอง
“สยบจักรวาล!” ร่างวิญญาณของหลินซวนใช้ดัชนีกักสวรรค์ขังปฐพีออกมาใส่ร่างเนื้อของตนเอง ปราณวิญญาณด้านนอกถ้ำแห่งนั้นถูกดึงดูดเข้ามาทันที และเสียงดังสนั่นก็เกิดขึ้นในร่างเนื้อของเขา
นี่ทำให้ปรากฏรอยแตกขึ้นทั่วร่างเนื้อ ในหนึ่งลมหายใจ โลหิตก็อาบย้อมทั่วร่าง เขาบ้าบิ่นถึงขั้นจะชำระต้นกำเนิดโลหะในสภาพเช่นนี้ นับได้ว่าเป็นคนคลั่งอย่างแท้จริง
การใช้ทักษะเช่นดัชนีกักสวรรค์ขังปฐพีใส่ตนเองมินับว่าเป็นการรนหาที่ตายหรอกหรือ?
ร่างกายของมนุษย์มิอาจเทียบความแข็งแกร่งได้เท่านั้นกับเหล่าอสูร มันบอบบางมากนัก หากไม่ระมัดระวังให้ดีจะเป็นการทำลายกายเนื้อของตนเอง ในทั่วทั้งเก้าอาณาเขตนี้ มีผู้บ่มเพาะแดนหมุนวนทะเลปราณคนใดจะหาญกล้าได้เท่าหลินซวน?
หากเหตุการณ์เช่นนี้ยังดำเนินต่อไป ชีวิตของเขาจะเข้าสู่จุดอันตราย แต่ในตอนนั้นเอง เขากลับเปิดเผยรอยยิ้มออกมา
แม้ว่าเขาจะทำให้ร่างตัวเองเกิดบาดแผลทั่วตัว แต่บัดนี้เขาก็สามารถผสานเข้ากับต้นกำเนิดโลหะได้และบังคับให้มันหลอมรวมเข้ากับเส้นลมปราณของเขา ไม่เหมือนเช่นที่ผ่านมาที่มันเพียงซ่อนตัวอยู่ในกระดูกของเขาและมิได้ถูกชำระล้างอย่างสมบูรณ์
หลินซวนคำราม จากนั้นโอสถสมุนไพรต่างๆ ในหม้อก็เริ่มถูกดูดซึมเข้าในร่างของเขา พวกมันเปลี่ยนตัวเองกลายเป็นปราณวิญญาณก่อนจะเข้าสู่จุดตันเถียน ทำให้ร่างของเขาส่งเสียงดังลั่น
ครั้งนี้ ไม่เพียงเขาจะชำระล้างต้นกำเนิดโลหะ เขายังเลื่อนขั้นขึ้นไปอีกสองขั้นในคราวเดียว กลายเป็นผู้บ่มเพาะในชั้นที่สามของแดนหมุนวนทะเลปราณ!
ทันใดหลังจากนั้น อัสนีสวรรค์เก้าชั้นฟ้าก็ห่อหุ้มร่างเขาเอาไว้ ปลดปล่อยพลังชีวิตมหาศาลเพื่อรักษาบาดแผลบนร่างกาย
หลินซวนยืนขึ้นตามมาด้วยเสียงลั่นของกระดูก เขายืดเหยียดกล้ามเนื้อและกระดูกของตน ทั่วร่างบัดนี้เปล่งประกายสีทอง หลินซวนพอใจในผลลัพธ์ที่ได้ยิ่งนัก
ยิ่งกว่านั้น เขายังค้นพบว่าหลังจากการบ่มเพาะที่ทรมานร่างกายเช่นนี้ ความสูงของเขาก็เพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่าปัจจุบันเขาจะยังดูเหมือนเด็กน้อยคนหนึ่งก็ตามที
“ไหนลองพลังของทักษะมหาวัชระเสียหน่อย”
“ทักษะมหาวัชระ!”
เพียงเอ่ยปาก ประกายแสงสีทองเจิดจ้าก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า สามารถมองเห็นลำแสงนั้นได้ไกลนับพันลี้
อาศัยพลังดั้งเดิมในร่างกายเขาเป็นตัวนำ เขาดูดซับปราณวิญญาณโลหะจากใต้หล้าและใช้มันเป็นพลังให้ตนเอง แม้ว่าจะเป็นครั้งแรกที่เขาใช้ทักษะเช่นนี้ แต่กลิ่นอายของมันยังคงยิ่งใหญ่ก็ลุ่มลึก
เกราะสีทองปกคลุมร่างกายเขาอย่างต่อเนื่อง เขายืดแขนขวาออกมา ก่อนที่หอกสีทองเล่มหนึ่งจะพุ่งลงมาจากท้องนภาและถูกเขาคว้าจับเอาไว้ในมือ
เพียงสะบัดหอกเล่มนั้น ถ้ำที่เขาใช้ในการชำระโลหะต้นกำเนิดก็กลายเป็นเพียงเศษหิน เสี่ยวหวงที่กัดกินผลไม้วิญญาณอยู่ด้านนอกตกตะลึงและรีบกระโจนออกห่างทันที
ไกลออกมาจากถ้ำแห่งนั้นนับพันลี้ มีใครบางคนสัมผัสได้ถึงปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจากหลินซวนและหยุดสิ่งที่กำลังกระทำอยู่ทันที
“หรือว่าจะมีสมบัติปรากฏขึ้น?” ชายสวมหน้ากากผู้นั้นเอ่ยอย่างตื่นเต้น เขาเกรงว่าจะมีผู้ใดนำหน้าตนเองจึงได้รีบทะยานร่างออกไป
ในรัศมีพันลี้จากถ้ำแห่งนั้น เหล่าอัจฉริยะทั้งหมดถูกดึงดูดจากการเคลื่อนไหวของหลินซวนและกำลังมุ่งหน้าเข้ามา
ส่วนทางต้นเหตุของเรื่องนี้ หลินซวนยังคงมิได้รับรู้สิ่งใด
“ส่งสมบัติมาแล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า ไม่เช่นนั้นข้าจะทำลาย...” เสียงอันแสนเย่อหยิ่งดังเข้ามาในโสตประสาทของหลินซวน