ตอนที่แล้วDual Cultivation บทที่ 899 ลั่วซืออี้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDual Cultivation บทที่ 901 ยาต้านเยือกแข็งสุดขั้ว

(ฟรี) Dual Cultivation บทที่ 900 ถ้ามันเป็นกับดักล่ะ


"ข้าจะพบเจ้าที่ถ้ำม่วงเยือกแข็ง ภายในสามเดือนเมื่อยามที่นิโลบลบาน..." ลั่วซืออี้ย้ำข้อความเบาๆ และความทรงจำก็เริ่มแวบเข้าไปในหัวนาง

หลังจากเงียบไปชั่วขณะ นางก็หันไปมองมู่เยว่ชานด้วยสีหน้าจริงจัง และพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม "บอกข้าทุกอย่างเกี่ยวกับเซี่ยวหยางคนนี้"

"แน่นอน…" มู่เยว่ชานพยักหน้าด้วยสีหน้างุนงงเล็กน้อย

นี่เป็นครั้งแรกที่นางเห็นลั่วซืออี้แสดงท่าทางจริงจัง

สองสามอึดใจต่อมา ลั่วซืออี้ก็นำคนทั้งสองเข้าไปในอาคารเพื่อพวกนางจะได้นั่งพัก

"บอกข้าทุกอย่างมาเดี๋ยวนี้" ลั่วซืออี้พูดซ้ำ

มู่เยว่ชานพยักหน้าและทบทวนถึงการพบปะระหว่างนางกับเซี่ยวหยางและทุกสิ่งที่พวกเขาพูด

แน่นอน นางไม่ได้บอกพวกนางเกี่ยวกับความลับของซูหยางที่นางรู้มาจากเขา เพราะนี่เป็นความลับของนางเอง ไม่ว่าอย่างไรนางก็ได้บอกเขาว่าเพื่อแลกกับข้อมูลที่นางมี เซี่ยวหยางจึงได้ให้ข้อมูลนางเกี่ยวกับซูหยาง

ลั่วซืออี้แสดงสีหน้าจริงจังตลอดเวลา ไม่กล้าพลาดแม้แต่คำเดียวที่ออกจากปากของมู่เยว่ชาน กระทั่งจ้องมองอีกฝ่ายโดยไม่กระพริบตาจนจบ

"ดังนั้นเจ้าจึงไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเซี่ยวหยางเลยแม้ว่าจะเป็นคนขายข้อมูลที่ดีที่สุดในสวรรค์ศักดิสิทธิ์ทั้งสี่งั้นรึ ชื่อเสียงของเจ้าน่าจะมีปัญหา" ลั่วซืออี้พูดกับนางด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยเล็กน้อย

"ห๊ะ นั่นไม่ได้เรียกขานโดยเปล่าประโยชน์" มู่เยว่ชานกล่าวอย่างรวดเร็ว และนางก็พูดต่อไปว่า "ข้าไม่มีเวลาดูแลเขาเพราะข้ามาที่นี่หลังจากการสนทนาของเรา ขอเวลาข้าหนึ่งเดือน แล้วข้าจะขุดทุกอย่างเกี่ยวกับเขาออกมา"

"ไม่จำเป็น" ลั่วซืออี้ลุกขึ้นแล้วพูด

"เจ้าหมายความว่าอย่างไร"

"เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับเขาเพราะข้ามีความคิดอยู่"

"จริงรึ เขาเป็นใคร" มู่เยว่ชานถาม

"ข้าก็อยากรู้เหมือนกัน เขาเป็นคนรู้จักของเจ้างั้นรึ พี่สาวซืออี้" หวังหยุนซวนถามนาง

ลั่วซืออี้แสดงรอยยิ้มลึกลับบนใบหน้าและพูดว่า "ข้าไม่ต้องการให้ความหวังแก่เจ้า ดังนั้นข้าจะไม่พูดอะไรในตอนนี้"

"บอกให้พี่น้องคนอื่นรู้ว่าข้าจะไปข้างนอกสักพัก"

"เจ้าจะไปไหน"

"ถ้ำม่วงเยือกแข็ง" นางตอบด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น

"อะไร เจ้าจะไปที่นั่นจริงๆ รึ ถ้ามันเป็นกับดักล่ะ นิโลบลจะไม่บานในสามเดือนนี้" มู่เยว่ชานพูดกับนาง

ลั่วซืออี้ส่ายหน้า "ไม่เกี่ยวอะไรกับนิโลบล เอาหละ ข้าจะไปที่แดนหิมะน้ำแข็งเดี๋ยวนี้ ถ้าข้าไปช้าข้าคงจะไม่ทันในเวลาแค่สามเดือน"

"ข้าควรไปกับเจ้าหรือไม่" มู่เยว่ชานพลันถาม

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของลั่วซืออี้ และนางก็พูดว่า "ขอบคุณที่เป็นห่วงข้า แต่เจ้าได้ทำมามากแล้วด้วยการส่งข้อความนี้ จากนี้ไปจะเป็นปัญหาของข้า"

##รอเพื่อนนักอ่านอยู่ที่ www.thai-novel.com หรือ mynovel.co นะคะ

"เจ้าจะไปนานเท่าไหร่ เดือนหน้าจะมีการประชุมกับจักรพรรดินีศักดิ์สิทธิ์" หวังหยุนซวนกล่าว

"ขออภัย แต่ข้าคงไม่ได้อยู่ที่นั่น โปรดขอโทษจักรพรรดินีศักดิ์สิทธิ์แทนข้าด้วย"

หวังหยุนซวนพยักหน้า "ได้"

"ข้าจะทิ้งนิกายไว้ในมือเจ้า" ลั่วซืออี้ก็พูดกับนางก่อนออกจากอาคารและเหินบินออกไปด้วยยานสมบัติบินของนาง

"เจ้ารู้มั้ยว่านี่มันเรื่องอะไรกัน" มู่เยว่ชานถามหวังหยุนซวนหลังจากนั้น

"ถึงข้าจะรู้ ข้าก็จะไม่บอกเจ้า" หวังหยุนซวนกล่าว

"อะไร ทำไม ข้าจำไม่ได้ว่าได้สร้างความไม่พอใจให้กับเจ้า" มู่เยว่ชานมองนางด้วยดวงตาเบิกกว้าง

"เจ้ารู้จักซูหยางมากเกินไป ถึงกับยิ่งกว่าข้าอีก" นางพูด

"โอ นี่เจ้าอิจฉาหรอกรึ" มู่เยว่ชานหัวเราะหึหึ

"แน่นอน" หวังหยุนซวนกล่าว ไม่ปฏิเสธ

"งั้นก็ได้ ข้าจะไปสืบสวนเอง" มู่เยว่ชานพูดก่อนจะเหินบินหนีไปด้วยเช่นเดียวกัน

ในขณะเดียวกัน หลังจากออกจากวังเทพธิดาเดียวดายแล้ว ลั่วซืออี้ก็มุ่งตรงไปที่ค่ายกลข้ามมิติที่ใกล้ที่สุด

"ข้าหวังว่าจะเป็นเจ้าจริงๆ..." นางพึมพำเสียงเบาขณะที่ยานสมบัติบินแล่นข้ามดินแดน

หลังจากไปถึงค่ายกลข้ามมิติที่มู่เยว่ชานมา ทหารยามก็ต้องตกใจเมื่อเห็นลั่วซืออี้ปรากฏขึ้น

"ธิดาเซียนลั่ว"

พวกเขาทั้งหมดพากันโค้งคำนับนาง

ลั่วซืออี้เหลือบมองพวกเขาและพูดว่า "พาข้าไปยังที่ใกล้ที่สุดกับแดนหิมะน้ำแข็งเท่าที่เจ้าสามารถทำได้"

"ขอรับ"

พวกเขาเริ่มเตรียมค่ายกลข้ามมิติทันทีโดยไม่ถามคำถามใดๆ

ในแดนศักดิ์สิทธิ์ ลั่วซืออี้ถือได้ว่าเป็นบุคคลที่มีอำนาจมากที่สุดเป็นอันดับสองรองจากบุคคลเพียงคนเดียว จักรพรรดินีศักดิ์สิทธิ์ที่ปกครองทั่วทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์

เมื่อค่ายกลข้ามมิติพร้อมแล้ว ลั่วซืออี้ก็เข้าไป

ในขณะเดียวกัน ภายในวังเยือกแข็ง ซูหยางก็สอดแท่งหยาบหนาเข้าไปในประตูหลังของเซี่ยวหรง ขณะที่พวกเขายังอยู่ในอ่างน้ำ

แม้ว่าร่างกายส่วนใหญ่ของเขาจะเปลี่ยนไป แต่ส่วนที่อยู่ด้านล่างของเขายังคงเป็นของแท้และไม่เปลี่ยนแปลง

เป็นเช่นนี้เหมือนกันสำหรับเซี่ยวหรง เมื่อร่องหลืบของนางก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

"อาา..." เซี่ยวหรงครางเบาๆ เมื่อรู้สึกว่าแท่งเนื้อของซูหยางสอดลึกเข้าไปช่องที่แน่น

เมื่อแก่นกายของเขาเข้าไปอยู่ในประตูหลังของนางแล้ว ซูหยางก็คว้าเอวบางและเริ่มขยับร่างกายของนางในขณะที่เขาขยับสะโพกไปด้วย

แม้จะมีการเคลื่อนไหวที่ดูเหมือนรุนแรง แต่มันก็เพียงสร้างคลื่นน้ำที่อ่อนโยนภายในอ่าง

ซูหยางและเซี่ยวหรงอยู่ในอ่างสองสามชั่วโมงก่อนจะออกจากอ่าง

อย่างไรก็ตาม พวกเขาตรงไปที่เตียงต่อหลังจากนั้น

หลังจากทั้งสัปดาห์ในการมอบความสุขให้กับเซี่ยวหรงแล้ว ซูหยางก็ใช้เวลาที่เหลืออีกสามสัปดาห์ถัดมาในการซึมซับพลังวิญญาณในโรงแรม เพิ่มระดับการฝึกยุทธ์ของเขาอีกสองระดับและก้าวไปถึงระดับที่สี่เขตราชันวิญญาณ

"เอาล่ะ เซี่ยวหรง เราไปรับเสื้อผ้าของเราและเริ่มเดินทางไปที่แดนหิมะน้ำแข็งกันเถอะ ข้าค่อนข้างมั่นใจว่าลั่วซืออี้กำลังอยู่ในระหว่างทางไปถ้ำม่วงเยือกแข็งหรือไม่ก็อยู่ที่นั่นแล้ว” ซูหยางพูดกับนาง

เซี่ยวหรงพยักหน้า และพวกเขาก็ลงไปชั้นล่างเพื่อคืนห้องของโรงแรมก่อนจะกลับไปที่คลังอาวุธผลึก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด