STY-ตอนที่ 35 ท้าทายยอดเขาหยกอมตะ!
กลุ่มคนได้มาเยือนที่หน้าประตูยอดเขาอวี๋เซียว
ผู้นำกลุ่มก็คือชายชราและชายวัยกลางคน 2 คน พวกเขามีคิ้วรูปกระบี่และมีกลิ่นอายพลังที่มั่นคง นอกจากนี้พวกเขาทั้งหมดยังมีฐานพลังอยู่ในขั้นปลายของอาณาจักรแห่งการตระหนักรู้ที่ว่างเปล่า
นอกจากนี้ยังมีผู้อาวุโสหญิงที่ดูมีอายุประมาณ 30-40 ปี โดยลักษณะของนางเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่งดงามเป็นอย่างมาก
จากนั้น ก็มี ศิษย์มากมายเดินตามหลังพวกเขา โดยพวกเขาได้ห้อยกระบี่ยาว 3 ฟุตไว้ข้างหลัง และ เดินมาที่ด้านหน้าประตูของยอดเขาอวี๋เซียวอย่างสง่างาม
พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นอัจฉริยะระดับแนวหน้าของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ธุลีสีชาด ดังนั้นพวกเขาจึงได้มีลักษณะเย่อหยิ่งโดยธรรมชาติ!
เย่เฉิน ที่เห็นพวกเขาเดินมา เขาได้หลบไปที่ด้านข้างและซ่อนตัวในฝูงชน
ในขณะนี้ ประมุขนิกายอวี๋เซียว และ จ้าวฉีหยาง ก็เดินมาที่ด้านหน้าประตูภูเขาและต้อนรับคนจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ธุลีสีชาด
ความแข็งแกร่งของ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ธุลีสีชาด นั้นใกล้เคียงกับ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ ดังนั้น ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ จึงไม่อาจละเลยพวกเขาได้ อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็จะไม่ยอมให้ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ธุลีสีชาด มาอวดเบ่งในถิ่นของพวกเขาเช่นเดียวกัน ดังนั้น ทั้งสองคนที่เป็นผู้ที่ทรงพลังที่สุดในดินแดนศักดิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ จึงได้ออกมารับพวกเขาที่ด้านหน้าประตูเป็นการส่วนตัว
“พี่อวี๋เซียว ไม่ได้พบกันนานเลย!”ในขณะนี้ ชายวัยกลางคนได้เดินขึ้นไปและป้องมือไปทางประมุขนิกายอวี๋เซียว
ประมุขนิกายอวี๋เซียวได้ตอบกลับคำทักทายและกล่าวทันที “ทุกคนเชิญ!”
เย่เฉิน ไม่ได้สนใจสถานการณ์แบบนี้ ดังนั้นเขาจึงได้จากไปอย่างเงียบ ๆ
โดย เย่เฉิน ได้กลับไปที่ ยอดเขาหยกอมตะ
ในเวลานี้ ศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขาได้มาถึงที่ด้านหน้าถ้ำของ เย่เฉิน
เมื่อเห็นว่า ศิษย์พี่เหยาเหยาลากกระเป๋าเดินทางมาด้วย เย่เฉิน ก็รู้สึกแปลกใจ
ศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขาต้องการจะทำอะไร?
“ศิษย์พี่เหยาเหยา ท่านคิดจะทำอะไร…?”เย่เฉิน ได้กล่าวถาม
ในเวลานี้ ศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขาได้พ่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชา “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าจะมานอนเป็นเพื่อนเจ้าชั่วระยะเวลาหนึ่ง!”
“ท่านว่าอะไรนะ?”เย่เฉิน มองไปที่ ศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขาด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจ
“หึ่ม ข้าก็ไม่ได้รังเกียจเจ้าหรอกนะ ดังนั้นข้าจะมาอยู่ที่นี่เป็นเพื่อน เป็นอะไร หรือว่าเจ้าไม่เต็มใจ?”ศิษย์พี่เหยาเหยา มองไปที่ เย่เฉิน และ กล่าวถามอย่างเย็นชา
เย่เฉิน ไม่ได้คาดหวังเลยว่า ศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขาจะยังคงหวาดระแวงหลังจากผ่านไปนานหลายวัน ดูเหมือนว่าการหลอกผีศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขาจะเป็นเรื่องที่ผิดพลาดอย่างมาก
“ข้าไม่เต็มใจ!”เย่เฉิน ได้ตอบกลับโดยตรง
“เจ้า!”เหยาเหยา รู้สึกโกรธเล็กน้อย
“เอ่อ…นั่นก็เพราะข้ายังต้องการที่จะฝึกฝน ว่าแต่ ศิษย์พี่หญิงเจ็ดท่านเป็นอะไรไป?”เย่เฉิน มองไปที่ ศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขาและกล่าวถาม
จ้าวซือเหยา ที่ได้ยินคำตอบของ เย่เฉิน นางได้ยืนนิ่งท่ามกลางสายลมและรู้สึกสับสนเล็กน้อย
“เจ้าไม่เต็มใจจริง ๆ งั้นเหรอ?”ในเวลานี้ ศิษย์พี่หญิงเจ็ดได้กล่าวพูดออกมาอย่างแผ่วเบาด้วยสีหน้าที่น้ำตาคลอเบ้า “เย่เฉิน ได้โปรด!”
เมื่อมองไปที่ การแสดงออกของ ศิษย์พี่หญิงเจ็ด หัวใจของ เย่เฉิน ก็อ่อนยวบลง
“ก็ได้ ท่านจะอยู่ที่นี่ก็ได้!”เย่เฉิน ได้กล่าวพูดอย่างช่วยไม่ได้
“ต้องอย่างนั้นสิ!”ศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขาได้เปลี่ยนจากความเศร้าเป็นมีความสุขในทันที และ ใบหน้าของนางก็แสดงออกถึงความสุข
โดยศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขาได้พักอยู่ที่บ้านพักของ เย่เฉิน
แม้ว่ามันจะไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับ เย่เฉิน มากนัก แต่การมีองค์หญิงน้อยคนนี้มาอยู่ด้วย มันก็ทำให้เขารู้สึกไม่สะดวกที่จะฝึกฝนเล็กน้อย
อีกอย่างจะต้องรู้ว่าอาณาจักรพลังของเขายังไม่ได้รับการเปิดเผย เพราะที่ เย่เฉิน แสดงออกมา ก็เป็นแค่ฐานพลังปลอมที่อยู่ในขั้นปลายของอาณาจักรกำเนิดวิญญาณ
ถ้าศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขาอยู่ที่นี่ มันเป็นไปได้มากที่นางจะค้นพบความลับของเขา
แม้ว่า เย่เฉิน จะเชื่อมั่นในตัวศิษย์พี่หญิง 7 ของเขา แต่การที่นางรู้ไปมันก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา
ดังนั้น เย่เฉิน จึงได้เตรียมเตียงสำหรับศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขา
ศิษย์พี่หญิงเจ็ดมีอายุเพียงแค่ 15 ปี ซึ่ง เย่เฉิน ไม่ได้สนใจคนที่อายุน้อยกว่า
ถ้าเป็น ศิษย์พี่หญิงใหญ่หรือศิษย์พี่หญิงสาม เย่เฉิน ก็จะนอนกับพวกนางโดยไม่ลังเล
ในตอนกลางคืน เมื่อ เย่เฉินผล็อยหลับไป เขาก็รู้สึกว่าผ้าห่มของเขากำลังเคลื่อนตัว
จากนั้นร่างที่นุ่มนิ่มก็ได้แทรกตัวเข้าไปในผ้าห่มของ เย่เฉิน ทั้งนี้มันไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก ศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขา จ้าวซือเหยา
“ศิษย์พี่หญิงเจ็ด นี่ท่าน…?”
“ไม่ต้องพูดอะไร ข้าไม่ได้มาที่นี่เพราะกลัวหรอกนะ แต่ข้ามาที่นี่เพราะกลัวว่าเจ้าจะกลัวจนนอนไม่หลับต่างหาก”ศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขาได้กล่าวพูดออกมาในทันที
เย่เฉิน ได้ยิ้มออกมา ศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขา ช่างน่ารักในเวลาแบบนี้
แน่นอนว่า เย่เฉิน ไม่ได้ปฏิเสธมัน เพราะมันเป็นความผิดของเขา ถ้าเขาไม่ได้แกล้งหลอกผีให้ศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขากลัว ศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขาก็คงจะไม่เป็นแบบนี้
อีกทั้งศิษย์พี่เหยาเหยายังเด็กและค่อนข้างน่ารัก
หลังจากนั้น ศิษย์พี่เหยาเหยา ก็ได้ค้างคืนกับ เย่เฉิน ในทุกวัน
ในขณะเดียวกัน ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ธุลีสีชาด ก็ได้มาอาศัยอยู่ที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์เป็นเวลากว่า 2-3 วันแล้ว
ในช่วงเวลานี้ เย่เฉิน ได้จดจ่ออยู่กับการบ่มเพาะพลังและไม่ได้สนใจดินแดนศักดิ์สิทธิ์ธุลีสีชาด
อย่างไรก็ตาม เขาก็ได้ยินข่าวมาบ้าง
เย่เฉิน ได้ยินว่า ศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ธุลีสีชาด ได้ท้าทาย ยอดเขาอวี๋เซียว,ยอดเขาเทียนฉี และ ยอดเขาเฉินติง แล้ว
อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์จากการประลองก็ไม่ได้เป็นผลดีต่อดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์สักเท่าไหร่
เขาได้ยินมาว่า อัจฉริยะที่หาตัวจับได้ยากอย่าง หลัวเฟิง ที่ปรากฏตัวขึ้นในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ธุลีสีชาด ได้เอาชนะ ศิษย์หลักของยอดเขาอวี๋เซียว-อันหยาง ศิษย์หลักของยอดเขาเฉินติง-ฉินเยว่ และ ศิษย์หลักของยอดเขาเทียนฉี-เซียวอวี๋ห่าว
เย่เฉิน แม้จะไม่รู้ว่าทั้ง 3 คนที่พ่ายแพ้นั้นแข็งแกร่งเพียงใด แต่พวกเขาก็ยังถูกมองว่าเป็นอัจฉริยะในกลุ่มของพวกเขา อย่างไรก็ตามพวกเขาทั้งหมดได้พ่ายแพ้ให้กับ หลัวเฟิง คนนั้น
นี่มันก็เพียงพอที่จะพิสูจน์แล้วว่า ศิษย์ที่ชื่อ หลัวเฟิง ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้เกี่ยวข้องอะไรกับ เย่เฉิน?
ตราบใดที่อีกฝ่ายไม่ได้กำหนดเป้าหมายและท้าทายขีดจำกัดล่างของเขา เย่เฉิน ก็จะไม่เคลื่อนไหว
ผ่านไปอีกวัน
เย่เฉิน ได้ยินว่า เหล่าศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ธุลีสีชาดกำลังเตรียมตัวที่จะเดินทางมาที่ยอดเขาหยกอมตะเพื่อท้าทายพวกเขา
และการต่อสู้แรกของพวกเขาก็คือ ซู่ชิวหยา ศิษย์พี่หญิงใหญ่ของ เย่เฉิน
เย่เฉิน ไม่ได้สนใจการประลองของยอดเขาอื่น
แต่เกี่ยวกับการประลองของศิษย์พี่หญิงใหญ่ของเขา เขาก็ต้องไปดูด้วย
ดังนั้น เย่เฉิน จึงได้พาศิษย์พี่เหยาเหยา ไปยังสถานที่จัดการประลองขึ้น
ในขณะนี้ เขาเห็นศิษย์พี่หญิงใหญ่ของเขากำลังประจันหน้ากับหญิงสาวอีกคนบนเวที
โดยขณะนี้ก็มีผู้ชมจำนวนมากที่นั่งรายล้อมอยู่โดยรอบ ดูเหมือนว่าศิษย์ทุกคนจะให้ความสนใจกับการต่อสู้ในครั้งนี้
“นี่พวกเจ้าได้ยินมาหรือไม่? ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนั้นจะเป็นศิษย์รุ่นเยาว์อันดับ 1 ของ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ธุลีสีชาด และ นางก็มีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก!”
“แต่ไม่ว่านางจะแข็งแกร่งขนาดไหน นางจะเทียบเคียง ศิษย์พี่ชิวหยาได้งั้นเหรอ?ความสำเร็จของศิษย์พี่ชิวหยาในด้านรูปแบบก่อตัวนั้นก็ได้ไปไกลเกินกว่าเหล่าผู้อาวุโสแล้ว!”
“ใช่แล้ว อีกอย่าง ศิษย์พี่ชิวหยา ยังมีฐานพลังอยู่ในขั้นกลางของอาณาจักรแห่งการตระหนักรู้ที่ว่างเปล่า นางสามารถเทียบเคียงได้กับผู้อาวุโสเหล่านั้น!”
เย่เฉิน ได้มองไปที่ ศิษย์หญิง ที่ยืนอยู่ตรงหน้าของ ซู่ชิวหยา
เขาสัมผัสได้ว่า ศิษย์หญิงคนนี้ มีฐานการบ่มเพาะพลังอยู่ในขั้นกลางของอาณาจักรแห่งการตระหนักรู้ที่ว่างเปล่า อย่างไรก็ตาม เย่เฉิน ที่มองไปที่นางเขารู้สึกว่ามีบางอย่างที่เขาไม่สามารถอธิบายได้ โดย ศิษย์หญิงคนนี้ค่อนข้างแปลกมาก
“ข้าได้ยินมาว่าในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ ศิษย์พี่ใหญ่ ของยอดเขาหยกอมตะ มีความสามารถในการจัดวางรูปแบบก่อตัวที่ไม่ธรรมดา และ สามารถเทียบเคียงได้กับอาณาจักรมหายาน วันนี้ข้าสงสัยว่าเจ้าจะช่วยมอบคำแนะนำให้แก่ข้าจะได้หรือไม่?”หญิงสาวคนนี้ได้มองไปที่ ซู่ชิวหยา และ กล่าวถาม
ซู่ชิวหยา ไม่ได้พูดอะไร โดยนางได้ตอบกลับอย่างใจเย็น “เช่นกัน!”
ในเวลานี้ การต่อสู้ของทั้งสองคนกำลังจะเริ่มต้นขึ้น โดยทั้งสองได้จัดวางรูปแบบก่อตัวและเริ่มต้นการประลอง
เย่เฉิน ที่รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขารีบเปิดใช้ ดวงตาแห่งความจริง ของเขาในทันที
ในขณะนั้นเอง เขาก็ตระหนักได้ถึงบางอย่าง หญิงสาวที่กำลังต่อสู้กับศิษย์พี่หญิงใหญ่ของเขา ได้มาถึงขั้นปลายของอาณาจักรมหายานแล้ว
นอกจากนี้ นางยังมีอายุกระดูกมากกว่า 121 ปีแล้ว!