STY-ตอนที่ 31 กระบี่ศักดิ์สิทธิ์นับพัน!
กระบี่ของเย่เฉินได้พลันปรากฏออกมา
พวกมันทีละเล่มได้รายล้อมอยู่รอบตัวของ เย่เฉิน
กระบี่ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ เย่เฉิน ได้รับมันมาจากการลงชื่อเข้าใช้ และ เขาสามารถใช้กระบี่ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ในการสร้างข่ายอาคมขนาดเล็กได้!
ทันทีที่ข่ายอาคมถูกสร้างขึ้น เจตจำนงค์กระบี่นับพันก็ได้ถูกปลดปล่อยออกมา และ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับข่ายอาคมกระบี่อันนี้แม้แต่ผู้บ่มเพาะพลังขั้นปลายของอาณาจักรมหายานก็ยังไม่สามารถต้านทานมันได้
ในขณะที่ทุกคนกำลังต่อสู้กันอยู่
เย่เฉิน ที่ไม่ได้แสดงตัว เขาได้ควบคุมกระบี่บินทีละเล่มและขับเคลื่อนมันออกไป
ในช่วงเวลานี้ ซู่ชิวหยา ก็ถูกกดดันจนต้องล่าถอยออกไป…
แม้แต่ ศิษย์ภายในกลุ่มก็ถูกปิดล้อมและโจมตีเช่นเดียวกัน ไม่มีอะไรที่พวกเขาสามารถทำได้ในตอนนี้
แต่ ณ เวลานี้ บนท้องฟ้า
กระบี่นับพันเล่มก็ได้ปรากฏขึ้น
“นั่นมันอะไร?”ผู้บ่มเพาะพลังจากนิกายอินทรีหิมะได้ตะโกนขึ้นหลังจากเห็นกระบี่บินจำนวนมาก
ในขณะนั้นเอง กระบี่บินเหล่านี้ก็ได้พุ่งลงมาแทงทะลุต้นคอของเขาโดยตรง
แม้แต่ ผู้เฒ่าโม่หยิง ก็ยังเปลี่ยนจากเงาดำให้กลายเป็นร่างมนุษย์
เขาได้มองไปที่เจตจำนงค์กระบี่ที่ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า
กระบี่ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ ดูเหมือนว่ามันจะมีตาและพุ่งโจมตีใส่คนของนิกายอินทรีหิมะเท่านั้น
ในขณะนี้เอง ผู้เฒ่าโม่หยิง เข้าใจในทันทีว่าจะต้องมีผู้เชี่ยวชาญปรากฏตัวขึ้นเพื่อช่วยเหลือคนจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์
“ข้าไม่รู้ว่าท่านปรมาจารย์ที่หลบซ่อนตัวเป็นใคร แต่เหตุใดท่านถึงมุ่งเป้ามาที่นิกายอินทรีหิมะของข้า?”โม่หยิง ได้กล่าวถามเสียงดัง
อย่างไรก็ตามก็ไม่มีใครตอบ
กระบี่บินจำนวนมากยังคงลอยอยู่บนฟ้าอย่างต่อเนื่อง
ฟวั่บ!
เจตจำนงค์กระบี่เหล่านี้ได้สลับไปมาและตัดผ่านร่างของผู้บ่มเพาะพลังที่มาจากนิกายอินทรีหิมะ
นับตั้งแต่ที่เจตจำนงค์กระบี่เหล่านี้ปรากฏขึ้นมันก็เพิ่งผ่านไปได้ไม่นาน
ทว่าผู้บ่มเพาะพลังที่มาจากนิกายอินทรีหิมะล้วนถูกกระบี่ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้แทงทีละคนจนร่างกลายเป็นศพอย่างรวดเร็ว
“ผู้อาวุโส นิกายอินทรีหิมะของพวกเรา…”
โม่หยิง ต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง
แต่ เย่เฉิน ไม่ได้สนใจเขา เขาได้ควบคุมกระบี่ศักดิ์สิทธิ์แทงไปที่ โม่หยิงทันที
โม่หยิง ที่เห็นกระบี่ศักดิ์สิทธิ์พุ่งเข้ามา เขาได้เปลี่ยนร่างกลายเป็นเงาและพยายามที่จะหลบหนี
แต่กระบี่ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้มีพลังปราณที่แท้จริงที่น่าสะพรึงกลัวอย่างหาที่เปรียบมิได้
ในชั่วพริบตา พลังปราณที่แท้จริงก็พุ่งทะลุร่างเงาที่เขากลายร่างเป็นโดยตรง
หลังจากที่กระบี่เล่มนี้แทงลงไปมันก็ได้ทะลุเข้าใส่หน้าอกของเขาโดยที่เขาไม่รู้ตัว
จากนั้นเขาก็กระอักโลหิตออกมาและเสียชีวิตในทันที!
แม้ว่า โม่หยิง จะสามารถใช้รูปแบบเงาเพื่อหลบการโจมตีได้หลายครั้ง แต่ เจตจำนงค์กระบี่ของ เย่เฉิน ก็ไร้ขอบเขต ถึงอีกฝ่ายจะกลายเป็นเงา ก็ไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ ดังนั้นเขาจึงได้ถูกสังหารโดย เย่เฉิน โดยตรง
หลังจากนั้น เย่เฉิน ก็ใช้ความคิดบังคับ
กระบี่ศักดิ์สิทธิ์นับพันได้บินกลับไปที่ป่า และ เขาก็เก็บมันไว้ในพื้นที่เก็บกระบี่ของเขา
ในขณะนี้เอง ซู่ชิวหยา และ คนอื่น ๆ ได้มองหน้ากันอย่างไม่กล้าที่จะเชื่อในสายตา
วิธีการดั่งกล่าว เจตจำนงค์กระบี่ขนาดใหญ่…หรือว่าจะเป็น จ้าวฉีหยาง จากยอดเขาเทียนฉี?
อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็สั่นศีรษะในทันที
แม้ว่า จ้าวฉีหยาง จะอยู่ในขั้นต้นของอาณาจักรมหายาน พวกเขาก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่สามารถสร้างพลังงานที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้ เช่นนั้น ผู้อาวุโสคนใดกันที่เป็นคนช่วยพวกเขาเอาไว้?
ซู่ชิวหยา นั้นตระหนักได้ดีว่าผู้อาวุโสที่ยื่นมือเข้ามาต้องการช่วยเหลือพวกนาง ดังนั้น นางจึงได้โค้งคำนับและกล่าวออกมา “ขอบคุณท่านผู้อาวุโสที่ยื่นมือเข้าช่วย แม้ว่าข้าจะไม่มีอะไรที่พอจะตอบแทนน้ำใจของท่านได้ แต่อย่างน้อย ก็ขอให้พวกเราได้ขอบคุณท่านต่อหน้าด้วยเถิด”
อย่างไรก็ตาม ก็ไม่มีเสียงใดลอยออกมา
เย่เฉิน ไม่ได้คิดที่จะเปิดเผยตัวของเขา หลังจากช่วยพวกเขาเสร็จแล้ว เขาก็หลบซ่อนตัว
เพราะท้ายที่สุด ที่นี่คือ อาณาเขตของนิกายอินทรีหิมะ เขาได้มาที่นี่เพื่อต้องการคุ้มครองความปลอดภัยของ ศิษย์พี่หญิงใหญ่ของเขา พร้อมกับ คนอื่น ๆ เพื่อให้กลับไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์โดยสวัสดิภาพ
ซู่ชิวหยา ได้พาเหล่าศิษย์ที่ติดตามนางโค้งคำนับอีกครั้ง หลังจากกล่าวเรียกอีกครั้ง ก็ยังไม่มีเสียงตอบรับ
ในตอนนี้ ศิษย์น้องเยี่ย ก็ได้กล่าวพูดออกมา “ดูเหมือนว่าท่านผู้อาวุโสคนนี้จะไม่เต็มใจที่จะออกมาพบพวกเรา”
ซู่ชิวหยา ก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน หลังจากพาเหล่าศิษย์คำนับ 3 ครั้ง พวกนางก็จากไป
ในขณะนั้นเอง เซียนหยกอมตะ ที่นำ ศิษย์ 6 คนของนางมา รีบมุ่งหน้ามาที่นี่อย่างรวดเร็วและตามมาด้วยศิษย์อีกหลายคน
ซู่ชิวหยา รู้สึกตื่นเต้นมาก ที่ได้เห็น อาจารย์ของนางและศิษย์น้องของนาง
“ท่านอาจารย์!”
ซู่ชิวหยา ได้มาปรากฏตัวที่ด้านหน้า เซียนหยกอมตะ ในทันที
เซียนหยกอมตะ รู้สึกดีใจมากที่เห็นว่า ศิษย์ของนางนั้นปลอดภัย
“หยาเอ๋อร์ เหตุใดพวกโจรจากนิกายอินทรีหิมะเหล่านี้ถึงตกตายกันหมด?”เซียนหยกอมตะได้กล่าวถาม
ซู่ชิวหยา ได้บอก เซียนหยกอมตะ เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
หลังจากที่ เซียนหยกอมตะ ได้ยิน นางก็กล่าวออกมา “ผู้อาวุโส?หรือว่าจะเป็นท่านปรมาจาร์ยุทธ์ที่หลบซ่อนตัวในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์?”
เซียนหยกอมตะไม่รู้ว่าท่านปรมาจารย์ยุทธ์ที่พวกนางเอ่ยถึงกันนี้แท้จริงแล้วก็คือ เย่เฉิน แต่ทว่า ก็มีเพียง 2 คน ที่รู้สถานะตัวตนของ เย่เฉิน ก็คือ ศิษย์พี่หญิงรอง และ ศิษย์พี่หญิงสาม
ศิษย์พี่หญิงรองและศิษย์พี่หญิงสามได้ให้สัญญากับ เย่เฉิน แล้วว่าจะไม่บอกใคร
ยิ่งไปกว่านั้น มีคนมากเกินไปที่นี่ ดังนั้นพวกเขาจึงเข้าใจความรุนแรงของเรื่องนี้
ทุกคนได้บอก ศิษย์พี่หญิงใหญ่ของเขาเกี่ยวกับ ปรมาจารย์ยุทธ์ที่หลบซ่อนตัวในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์
หลังจากได้ยินเรื่องนี้ ซู่ชิวหยา ก็ตกใจเป็นอย่างมาก
หลังจากตกใจเสร็จ นางก็กล่าวถามอีกครั้ง “อ่า จริงสิ แล้วศิษย์น้องเล็กไปไหน เหตุใดข้าถึงไม่เห็นเขาเลย?”
เซียนหยกอมตะได้ยิ้มและตอบกลับ “เขาควรจะรอเจ้าอยู่ที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์!”
จากนั้นทุกคนก็ใช้กระบี่บินของพวกเขาและจากไป
…
นิกายอินทรีหิมะ
ผู้ใต้บังคับบัญชาได้มาคุกเข่าอยู่ตรงหน้าประมุขนิกายอินทรีหิมะ
“เจ้าว่าอะไรนะ?อาวุโสโม่หยิง และ คนที่ถูกส่งไปกับเขาล้วนถูกกวาดล้างไปหมดแล้ว?”ประมุขนิกายอินทรีหิมะได้กล่าวถามด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม
“ขอรับ!”ผู้ใต้บังคับบัญชาคนนี้ได้ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
“สิ่งนี้เป็นไปได้อย่างไร?”ประมุขนิกายอินทรีหิมะได้กล่าวถามออกมา
“ท่านประมุข คนจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ไม่ควรไปได้ไกล พวกเราควรไล่ตามพวกเขาไปหรือไม่?”ผู้ใต้บังคับบัญชาคนนี้ได้กล่าวถาม
ประมุขนิกายอินทรีหิมะได้ตอบกลับอย่างเฉยเมย “ไม่ต้อง พวกมันควรจะออกจากอาณาเขตของพวกเราไปแล้ว ดังนั้น ปล่อยให้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ มีชีวิตอยู่ต่อไปอีกสัก 2-3 วัน เพราะไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ข้าจะทำให้พวกมันต้องชดใช้กับเรื่องนี้!”
…
เย่เฉิน ได้แอบตามทุกคนกลับไปที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์
โดยพวก ซู่ชิวหยา ก็กลับไปที่ยอดเขาหยกอมตะอย่างรวดเร็ว
แต่ทว่า เย่เฉิน ได้ล้ำหน้านางไป 1 ก้าว
ในเวลานี้ ซู่ชิวหยา ที่เห็นศิษย์น้องเล็กของนาง มันทำให้นางมีความสุขมาก โดย นางได้สวมกอดศิษย์น้องเล็กของนางไว้ในอ้อมแขนทันที
ตั้งแต่ยังเด็ก เย่เฉิน ได้เติบโตขึ้นมาพร้อมกับศิษย์พี่หญิงใหญ่ของเขา ดังนั้น ความสัมพันธ์ระหว่าง เย่เฉิน กับศิษย์พี่หญิงใหญ่ซู่ชิวหยา คงไม่จำเป็นจะต้องพูดถึง
“ศิษย์พี่ ในที่สุดท่านก็กลับมา!”เย่เฉิน เองก็โอบกอดศิษย์พี่หญิงใหญ่ของเขา
“ศิษย์น้องเล็ก ข้าได้ยินมาว่าเจ้าสามารถฝึกฝนได้แล้ว นี่เป็นเรื่องจริงหรือไม่?”ซู่ชิวหยา มองไปที่ เย่เฉิน และ กล่าวถาม
ซึ่ง เย่เฉิน ได้พยักหน้า
“โอ้ ยอดเยี่ยมมากจริง ๆ ไหนลองบอกศิษย์พี่คนนี้มาหน่อยว่าตอนนี้เจ้ามีฐานการบ่มเพาะพลังอยู่ในระดับใดแล้ว?”ซู่ชิวหยา ได้ปล่อย เย่เฉิน และ กล่าวถาม
แต่ เย่เฉิน ไม่ได้พูดอะไร
เขาได้ปล่อยพลังปราณที่แท้จริงออกมาเล็กน้อยโดยจำกัดฐานการบ่มเพาะพลังของพวกเขาไว้ที่ขั้นปลายของอาณาจักรกำเนิดวิญญาณ
ในเวลานี้ ซู่ชิวหยา รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก นางที่มองไปที่ เย่เฉิน ได้กล่าวพูดออกมา “ศิษย์น้องเล็ก นี่เจ้าอยู่ในขั้นปลายของอาณาจักรกำเนิดวิญญาณแล้ว?”