ตอนที่แล้วSTY-ตอนที่ 30 การโจมตีด้วยกระบี่!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSTY-ตอนที่ 32 ค่ำคืนแห่งการสนทนา!

STY-ตอนที่ 31 กระบี่ศักดิ์สิทธิ์นับพัน!


กระบี่ของเย่เฉินได้พลันปรากฏออกมา

พวกมันทีละเล่มได้รายล้อมอยู่รอบตัวของ เย่เฉิน

กระบี่ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ เย่เฉิน ได้รับมันมาจากการลงชื่อเข้าใช้ และ เขาสามารถใช้กระบี่ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ในการสร้างข่ายอาคมขนาดเล็กได้!

ทันทีที่ข่ายอาคมถูกสร้างขึ้น เจตจำนงค์กระบี่นับพันก็ได้ถูกปลดปล่อยออกมา และ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับข่ายอาคมกระบี่อันนี้แม้แต่ผู้บ่มเพาะพลังขั้นปลายของอาณาจักรมหายานก็ยังไม่สามารถต้านทานมันได้

ในขณะที่ทุกคนกำลังต่อสู้กันอยู่

เย่เฉิน ที่ไม่ได้แสดงตัว เขาได้ควบคุมกระบี่บินทีละเล่มและขับเคลื่อนมันออกไป

ในช่วงเวลานี้ ซู่ชิวหยา ก็ถูกกดดันจนต้องล่าถอยออกไป…

แม้แต่ ศิษย์ภายในกลุ่มก็ถูกปิดล้อมและโจมตีเช่นเดียวกัน ไม่มีอะไรที่พวกเขาสามารถทำได้ในตอนนี้

แต่ ณ เวลานี้ บนท้องฟ้า

กระบี่นับพันเล่มก็ได้ปรากฏขึ้น

“นั่นมันอะไร?”ผู้บ่มเพาะพลังจากนิกายอินทรีหิมะได้ตะโกนขึ้นหลังจากเห็นกระบี่บินจำนวนมาก

ในขณะนั้นเอง กระบี่บินเหล่านี้ก็ได้พุ่งลงมาแทงทะลุต้นคอของเขาโดยตรง

แม้แต่ ผู้เฒ่าโม่หยิง ก็ยังเปลี่ยนจากเงาดำให้กลายเป็นร่างมนุษย์

เขาได้มองไปที่เจตจำนงค์กระบี่ที่ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า

กระบี่ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ ดูเหมือนว่ามันจะมีตาและพุ่งโจมตีใส่คนของนิกายอินทรีหิมะเท่านั้น

ในขณะนี้เอง ผู้เฒ่าโม่หยิง เข้าใจในทันทีว่าจะต้องมีผู้เชี่ยวชาญปรากฏตัวขึ้นเพื่อช่วยเหลือคนจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์

“ข้าไม่รู้ว่าท่านปรมาจารย์ที่หลบซ่อนตัวเป็นใคร แต่เหตุใดท่านถึงมุ่งเป้ามาที่นิกายอินทรีหิมะของข้า?”โม่หยิง ได้กล่าวถามเสียงดัง

อย่างไรก็ตามก็ไม่มีใครตอบ

กระบี่บินจำนวนมากยังคงลอยอยู่บนฟ้าอย่างต่อเนื่อง

ฟวั่บ!

เจตจำนงค์กระบี่เหล่านี้ได้สลับไปมาและตัดผ่านร่างของผู้บ่มเพาะพลังที่มาจากนิกายอินทรีหิมะ

นับตั้งแต่ที่เจตจำนงค์กระบี่เหล่านี้ปรากฏขึ้นมันก็เพิ่งผ่านไปได้ไม่นาน

ทว่าผู้บ่มเพาะพลังที่มาจากนิกายอินทรีหิมะล้วนถูกกระบี่ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้แทงทีละคนจนร่างกลายเป็นศพอย่างรวดเร็ว

“ผู้อาวุโส นิกายอินทรีหิมะของพวกเรา…”

โม่หยิง ต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง

แต่ เย่เฉิน ไม่ได้สนใจเขา เขาได้ควบคุมกระบี่ศักดิ์สิทธิ์แทงไปที่ โม่หยิงทันที

โม่หยิง ที่เห็นกระบี่ศักดิ์สิทธิ์พุ่งเข้ามา เขาได้เปลี่ยนร่างกลายเป็นเงาและพยายามที่จะหลบหนี

แต่กระบี่ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้มีพลังปราณที่แท้จริงที่น่าสะพรึงกลัวอย่างหาที่เปรียบมิได้

ในชั่วพริบตา พลังปราณที่แท้จริงก็พุ่งทะลุร่างเงาที่เขากลายร่างเป็นโดยตรง

หลังจากที่กระบี่เล่มนี้แทงลงไปมันก็ได้ทะลุเข้าใส่หน้าอกของเขาโดยที่เขาไม่รู้ตัว

จากนั้นเขาก็กระอักโลหิตออกมาและเสียชีวิตในทันที!

แม้ว่า โม่หยิง จะสามารถใช้รูปแบบเงาเพื่อหลบการโจมตีได้หลายครั้ง แต่ เจตจำนงค์กระบี่ของ เย่เฉิน ก็ไร้ขอบเขต ถึงอีกฝ่ายจะกลายเป็นเงา ก็ไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ ดังนั้นเขาจึงได้ถูกสังหารโดย เย่เฉิน โดยตรง

หลังจากนั้น เย่เฉิน ก็ใช้ความคิดบังคับ

กระบี่ศักดิ์สิทธิ์นับพันได้บินกลับไปที่ป่า และ เขาก็เก็บมันไว้ในพื้นที่เก็บกระบี่ของเขา

ในขณะนี้เอง ซู่ชิวหยา และ คนอื่น ๆ ได้มองหน้ากันอย่างไม่กล้าที่จะเชื่อในสายตา

วิธีการดั่งกล่าว เจตจำนงค์กระบี่ขนาดใหญ่…หรือว่าจะเป็น จ้าวฉีหยาง จากยอดเขาเทียนฉี?

อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็สั่นศีรษะในทันที

แม้ว่า จ้าวฉีหยาง จะอยู่ในขั้นต้นของอาณาจักรมหายาน พวกเขาก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่สามารถสร้างพลังงานที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้ เช่นนั้น ผู้อาวุโสคนใดกันที่เป็นคนช่วยพวกเขาเอาไว้?

ซู่ชิวหยา นั้นตระหนักได้ดีว่าผู้อาวุโสที่ยื่นมือเข้ามาต้องการช่วยเหลือพวกนาง ดังนั้น นางจึงได้โค้งคำนับและกล่าวออกมา “ขอบคุณท่านผู้อาวุโสที่ยื่นมือเข้าช่วย แม้ว่าข้าจะไม่มีอะไรที่พอจะตอบแทนน้ำใจของท่านได้ แต่อย่างน้อย ก็ขอให้พวกเราได้ขอบคุณท่านต่อหน้าด้วยเถิด”

อย่างไรก็ตาม ก็ไม่มีเสียงใดลอยออกมา

เย่เฉิน ไม่ได้คิดที่จะเปิดเผยตัวของเขา หลังจากช่วยพวกเขาเสร็จแล้ว เขาก็หลบซ่อนตัว

เพราะท้ายที่สุด ที่นี่คือ อาณาเขตของนิกายอินทรีหิมะ เขาได้มาที่นี่เพื่อต้องการคุ้มครองความปลอดภัยของ ศิษย์พี่หญิงใหญ่ของเขา พร้อมกับ คนอื่น ๆ เพื่อให้กลับไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์โดยสวัสดิภาพ

ซู่ชิวหยา ได้พาเหล่าศิษย์ที่ติดตามนางโค้งคำนับอีกครั้ง หลังจากกล่าวเรียกอีกครั้ง ก็ยังไม่มีเสียงตอบรับ

ในตอนนี้ ศิษย์น้องเยี่ย ก็ได้กล่าวพูดออกมา “ดูเหมือนว่าท่านผู้อาวุโสคนนี้จะไม่เต็มใจที่จะออกมาพบพวกเรา”

ซู่ชิวหยา ก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน หลังจากพาเหล่าศิษย์คำนับ 3 ครั้ง พวกนางก็จากไป

ในขณะนั้นเอง เซียนหยกอมตะ ที่นำ ศิษย์ 6 คนของนางมา รีบมุ่งหน้ามาที่นี่อย่างรวดเร็วและตามมาด้วยศิษย์อีกหลายคน

ซู่ชิวหยา รู้สึกตื่นเต้นมาก ที่ได้เห็น อาจารย์ของนางและศิษย์น้องของนาง

“ท่านอาจารย์!”

ซู่ชิวหยา ได้มาปรากฏตัวที่ด้านหน้า เซียนหยกอมตะ ในทันที

เซียนหยกอมตะ รู้สึกดีใจมากที่เห็นว่า ศิษย์ของนางนั้นปลอดภัย

“หยาเอ๋อร์ เหตุใดพวกโจรจากนิกายอินทรีหิมะเหล่านี้ถึงตกตายกันหมด?”เซียนหยกอมตะได้กล่าวถาม

ซู่ชิวหยา ได้บอก เซียนหยกอมตะ เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้

หลังจากที่ เซียนหยกอมตะ ได้ยิน นางก็กล่าวออกมา “ผู้อาวุโส?หรือว่าจะเป็นท่านปรมาจาร์ยุทธ์ที่หลบซ่อนตัวในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์?”

เซียนหยกอมตะไม่รู้ว่าท่านปรมาจารย์ยุทธ์ที่พวกนางเอ่ยถึงกันนี้แท้จริงแล้วก็คือ เย่เฉิน แต่ทว่า ก็มีเพียง 2 คน ที่รู้สถานะตัวตนของ เย่เฉิน ก็คือ ศิษย์พี่หญิงรอง และ ศิษย์พี่หญิงสาม

ศิษย์พี่หญิงรองและศิษย์พี่หญิงสามได้ให้สัญญากับ เย่เฉิน แล้วว่าจะไม่บอกใคร

ยิ่งไปกว่านั้น มีคนมากเกินไปที่นี่ ดังนั้นพวกเขาจึงเข้าใจความรุนแรงของเรื่องนี้

ทุกคนได้บอก ศิษย์พี่หญิงใหญ่ของเขาเกี่ยวกับ ปรมาจารย์ยุทธ์ที่หลบซ่อนตัวในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์

หลังจากได้ยินเรื่องนี้ ซู่ชิวหยา ก็ตกใจเป็นอย่างมาก

หลังจากตกใจเสร็จ นางก็กล่าวถามอีกครั้ง “อ่า จริงสิ แล้วศิษย์น้องเล็กไปไหน เหตุใดข้าถึงไม่เห็นเขาเลย?”

เซียนหยกอมตะได้ยิ้มและตอบกลับ “เขาควรจะรอเจ้าอยู่ที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์!”

จากนั้นทุกคนก็ใช้กระบี่บินของพวกเขาและจากไป

นิกายอินทรีหิมะ

ผู้ใต้บังคับบัญชาได้มาคุกเข่าอยู่ตรงหน้าประมุขนิกายอินทรีหิมะ

“เจ้าว่าอะไรนะ?อาวุโสโม่หยิง และ คนที่ถูกส่งไปกับเขาล้วนถูกกวาดล้างไปหมดแล้ว?”ประมุขนิกายอินทรีหิมะได้กล่าวถามด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม

“ขอรับ!”ผู้ใต้บังคับบัญชาคนนี้ได้ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

“สิ่งนี้เป็นไปได้อย่างไร?”ประมุขนิกายอินทรีหิมะได้กล่าวถามออกมา

“ท่านประมุข คนจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ไม่ควรไปได้ไกล พวกเราควรไล่ตามพวกเขาไปหรือไม่?”ผู้ใต้บังคับบัญชาคนนี้ได้กล่าวถาม

ประมุขนิกายอินทรีหิมะได้ตอบกลับอย่างเฉยเมย “ไม่ต้อง พวกมันควรจะออกจากอาณาเขตของพวกเราไปแล้ว ดังนั้น ปล่อยให้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ มีชีวิตอยู่ต่อไปอีกสัก 2-3 วัน เพราะไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ข้าจะทำให้พวกมันต้องชดใช้กับเรื่องนี้!”

เย่เฉิน ได้แอบตามทุกคนกลับไปที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์

โดยพวก ซู่ชิวหยา ก็กลับไปที่ยอดเขาหยกอมตะอย่างรวดเร็ว

แต่ทว่า เย่เฉิน ได้ล้ำหน้านางไป 1 ก้าว

ในเวลานี้ ซู่ชิวหยา ที่เห็นศิษย์น้องเล็กของนาง มันทำให้นางมีความสุขมาก โดย นางได้สวมกอดศิษย์น้องเล็กของนางไว้ในอ้อมแขนทันที

ตั้งแต่ยังเด็ก เย่เฉิน ได้เติบโตขึ้นมาพร้อมกับศิษย์พี่หญิงใหญ่ของเขา ดังนั้น ความสัมพันธ์ระหว่าง เย่เฉิน กับศิษย์พี่หญิงใหญ่ซู่ชิวหยา คงไม่จำเป็นจะต้องพูดถึง

“ศิษย์พี่ ในที่สุดท่านก็กลับมา!”เย่เฉิน เองก็โอบกอดศิษย์พี่หญิงใหญ่ของเขา

“ศิษย์น้องเล็ก ข้าได้ยินมาว่าเจ้าสามารถฝึกฝนได้แล้ว นี่เป็นเรื่องจริงหรือไม่?”ซู่ชิวหยา มองไปที่ เย่เฉิน และ กล่าวถาม

ซึ่ง เย่เฉิน ได้พยักหน้า

“โอ้ ยอดเยี่ยมมากจริง ๆ ไหนลองบอกศิษย์พี่คนนี้มาหน่อยว่าตอนนี้เจ้ามีฐานการบ่มเพาะพลังอยู่ในระดับใดแล้ว?”ซู่ชิวหยา ได้ปล่อย เย่เฉิน และ กล่าวถาม

แต่ เย่เฉิน ไม่ได้พูดอะไร

เขาได้ปล่อยพลังปราณที่แท้จริงออกมาเล็กน้อยโดยจำกัดฐานการบ่มเพาะพลังของพวกเขาไว้ที่ขั้นปลายของอาณาจักรกำเนิดวิญญาณ

ในเวลานี้ ซู่ชิวหยา รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก นางที่มองไปที่ เย่เฉิน ได้กล่าวพูดออกมา “ศิษย์น้องเล็ก นี่เจ้าอยู่ในขั้นปลายของอาณาจักรกำเนิดวิญญาณแล้ว?”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด