ตอนที่แล้วEp.209 - แสงวูบวาบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.211 - ยอดฝีมือลึกลับจากสมาคมโลกวิญญญาณ

Ep.210 - ลอบสังหาร


4/4

Ep.210 - ลอบสังหาร

คำถามของฮังอวี่

เอาจริงๆมันค่อนข้างล้ำเส้นไปหน่อย

นี่ไม่ต่างจากการถามว่าสัดส่วนหน้าอกและสะโพกของซูหยุนปิงใหญ่แค่ไหน

สกิลพรสวรรค์ของซูหยุนปิงละเอียดอ่อนมาก ดังนั้นปกติเธอจึงไม่เปิดเผยข้อมูลของมัน แต่เมื่อเห็นว่าฮังอวี่คล้ายรู้ผลของสกิลแล้ว หากเขาสัญญาว่าจะไม่บอกข้อมูลเชิงลึกของมันกับใคร เธอก็ยินดีอธิบายให้ฟัง

สกิลพรสวรรค์ ‘เนตรมนตร์เสน่ห์’ เป็นความสามารถที่ทรงพลัง

มันช่วยสร้างเสน่ห์ดึงดูดแก่สายพันธุ์ทรงภูมิปัญญาหรือสายพันธุ์สติปัญญาต่ำได้

ก่อให้เกิดการควบคุมจากก้นบึ้งของจิตใจและจิตสำนึก

เอฟเฟกต์เสน่ห์ไม่สามารถลบออกได้ด้วยการชำระล้าง ปัดเป่า หรือกลวิธีใดๆ

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมสกิลนี้จึงละเอียดอ่อน ... เพราะเอาจริงๆมนุษย์เองก็นับเป็นสายพันธุ์ทรงภูมิปัญญาเช่นกัน ตามทฤษฏีแล้ว ซูหยุนปิงสามารถควบคุมคนใหญ่คนโตให้อยู่ในเงื้อมมือได้ มันเป็นพลังที่ร้ายกาจมาก!

แน่นอน

สถานะหลงเสน่ห์นั้นใช่ว่าจะไม่มีข้อจำกัด

ข้อจำกัดแรกเลยก็คือจำนวนผู้ที่ติดสถานะหลงเสน่ห์มีจำนวนจำกัด

ข้อจำกัดที่สองคือรัศมีอิทธิพลของสถานะเสน่ห์มีจำกัด

หากเป้าหมายที่ร่ายมนตร์มีมากเกินไป หรือตัวเธออยู่ห่างจากเป้าหมายนานเกินไป สถานะหลงเสน่ห์จะหายไป ซึ่งเป็นเหตุผลให้ซูหยุนปิงต้องนำมนุษย์ปลาน่าเกลียดติดตามไปด้วยตลอดเวลา

นอกจากนี้

อำนาจของสกิลยังสัมพันธ์กับเลเวล พลังวิญญาณ และค่าพลังจิตเช่นกัน

อัตราความสำเร็จนั้นขึ้นอยู่กับเลเวล ค่าคุณสมบัติ และความต้านทานลังจิตของเป้าหมาย

แน่นอน ซูหยุนปิงไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดข้างต้นได้ แต่สำหรับฮังอวี่จะบอกไม่บอกมันก็เหมือนกัน เขาสามารถค้นข้อมูลเชิงลึกจากความทรงจำได้

แต่สิ่งที่อยากรู้ตอนนี้ก็คือ

ปัจจุบันสกิลของเธอมีอิทธิพลสูงแค่ไหน

“ฉันสามารถควบคุมมนุษย์ปลาเลเวล 3 ชั้นยอดขั้นบรอนซ์ได้ 2 ตัว หรือมนุษย์ปลาเลเวล 4 ชั้นยอดขั้นบรอนซ์ได้ 1 ตัว”

“แต่ถ้าเป้าหมายคือชั้นยอดขั้นซิลเวอร์ หากเตรียมการมาดีการจะควบคุมมันก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่”

เลเวล 4 ชั้นยอดขั้นซิลเวอร์ไม่ได้อ่อนแอ

หัวหน้าทีมสกายเน็ตส่วนใหญ่ก็มีพลังรบราวๆนั้น

นี่หมายความว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เหล่าชั้นยอดของสกายเน็ตจะเอาชนะซูหยุนปิงในการดวล!

เว้นแต่พวกเขามั่นใจว่าสามารถหลบสายตาของซูหยุนปิงในระหว่างต่อสู้ มิฉะนั้นเมื่อถูกราชินีซูหว่านเสน่ห์ใส่ หลังจากนั้นคงได้หมอบแทบเท้าเธอ กลายเป็นทาสผู้ภักดี รับใช้อย่างเต็มใจ

“ควบคุมได้สูงสุดแค่เลเวล 4 ชั้นยอดขั้นซิลเวอร์เองหรอ?”

เดิมซูหยุนปิงนึกว่าฮังอวี่จะตกใจ

แต่ใครจะคิด แทนที่จะตกใจ เขากลับรู้สึกผิดหวัง นี่ทำให้เธอประหลาดใจเล็กน้อย

“มากกว่านั้นก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ฉันสามารถควบคุมชนชั้นยอดขั้นโกลด์เลเวล 4 ได้ชั่วคราว เมื่อพลังจิตของเป้าหมายหมดลง” เธอกล่าวต่อ “หรือหากเป้าหมายคือเลเวล 5 ชั้นยอดขั้นบรอนซ์ ถ้าอยู่ในสถานะเกือบตายฉันก็พอจะควบคุมมันได้ชั่วคราวเช่นกัน”

นี่คือขีดจำกัดสูงสุดแล้ว!

ต่อให้เธอสามารถร่ายมนต์เสน่ห์ใส่ชนชั้นยอดขั้นซิลเวอร์เลเวล 5 ก็ตาม

แต่ด้วยพลังรบในตอนนี้ของเธอ ระดับพลังของมนตร์เสน่ห์ยังคงจำกัด ทำให้ยากต่อการสะกดไม่ให้พวกมันขัดขืน

แล้วอีกอย่าง ระหว่างกระบวนการ ซูหยุนปิงต้องเติมสถานะหลงเสน่ห์ให้พวกมันอย่างต่อเนื่อง ไม่เช่นนั้นอีกฝ่ายอาจหลุดการควบคุมได้ทุกเมื่อ

ชนชั้นยอดขั้นซิลเวอร์เลเวล 5 ยังแทบเอาไม่รอด

งั้นชนชั้นเจ้าถิ่นเลเวล 6 คงไม่ต้องกล่าวถึง

ดูท่าว่าแผนนี้คงต้องระงับไว้ชั่วคราว

ซูหยุนปิงเอ่ยถาม “นายบอกฉันได้ไหมว่าทำไมถึงถามคำถามนี้”

“ผมต้องการความร่วมมือจากอาจารย์ซู” ฮังอวี่ดื่มไวน์หมดแก้ว จากนั้นวางแก้วเปล่าลงบนบาร์ เอ่ยต่อว่า “แต่ด้วยพลังของอาจารย์ซูในตอนนี้ ยังไม่ตอบโจทย์ความต้องการของผม เอาไว้รออาจารย์เลเวล 6 แล้วมีพลังมากกว่านี้ค่อยว่ากันใหม่”

ดวงตาของซูหยุนปิงสว่างไสวขึ้นเล็กน้อย “ความร่วมมือแบบไหน?”

“เป็นความลับ เอาไว้ถึงเวลาอาจารย์ซูจะรู้เอง”

“หืม ... อย่างงั้นหรอ ฟังดูน่าตื่นเต้นจัง”

ใบหน้าของซูหยุนปิงยังคงสงบ

แต่ในใจเธอกลับกำลังลอบบ่นอย่างเงียบๆ

เจ้าหมอนี่เก่งเรื่องกระตุ้นความอยากรู้ของฉันซะจริง!

“โอเค ถ้าไม่อยากบอกอะไรไปมากกว่านี้ งั้นฉันก็ไม่ถามแล้ว” เธอดื่มไวน์หมดแก้วและเปลี่ยนหัวข้อทันทีว่า “ในเมื่อดูบาร์เสร็จแล้ว งั้นสนใจไปดูโกดังด้านหลังไหม? นายสามารถหยิบพวกมันติดไม้ติดมือกลับไปซักสองสามขวดได้ตามใจชอบเลย”

ไวน์ที่อยู่บนบาร์เป็นเพียงส่วนเล็กๆ

สำหรับบาร์ที่ใหญ่โตขนาดนี้ ไวน์วิญญาณเพียงเล็กน้อยในร้านย่อมไม่เพียงพอ

บาร์นักท่องราตรีมีโกดังสำรองที่ซูหยุนปิงเช่าเอาไว้ มันอยู่ห่างออกไปจากที่นี่ไม่กี่ร้อยเมตร

เครื่องดื่มวิญญาณหลังจากได้รับการหมักและบ่มโดยสำนักงานผลิตของซูหยุนปิง พวกมันจะถูกส่งมายังโกดังเพื่อเก็บเป็นความลับ เมื่อถึงคราวบาร์ต้องเติมของถึงค่อยนำออกไป นี่คือนโยบายที่ช่วยรับประกันเครื่องดื่มวิญญาณอันแสนล้ำค่าพวกนี้

ไหนๆก็มาถึงที่นี่แล้ว

แน่นอนว่าต้องแวะไปดู

ทั้งสองออกจากบาร์ผ่านประตูหลัง

ระหว่างทางเดินเข้าไปในตรอกนอกชุมชนมังกรฟ้า

ทั้งคู่เดินอย่างช้าๆ พูดคุยกันเหมือนคู่รักหนุ่มสาวกำลังเดินเล่น

อาจารย์ซูเป็นคนเพียบพร้อมทุกอย่าง เธอหน้าตาดี บุคลิกสูงส่ง มีรูปร่างอันแสนร้ายกาจ พ่อเป็นมหาเศรษฐีร่ำรวยอันดับต้นๆในเจียงเฉิง ... เพียงแต่ออกจะหน้าเนื้อใจเสือไปหน่อยก็เท่านั้น

ฮังอวี่อดจินตนาการไม่ได้

มันคงจะดีหากอาจารย์ซูบูชาตนเป็นมหาเทพเหมือนกับเจียงหนาน

ฮังอวี่รู้ตัวดีว่าตัวเองมีจุดอ่อนตรงไหน หากสามารถดึงตัวซูหยุนปิงเป็นพรรคพวกได้ เธอจะกลายเป็นส่วนเสริมที่ดีมากๆ

แต่เกรงว่าเรื่องนี้คงยาก ด้วยความทะเยอทะยานและความสามารถส่วนบุคคลของซูหยุนปิง เธอเป็นผู้หญิงประเภทที่ไม่ต้องการอยู่ใต้บังคับบัญชาใคร หรือต่อให้ร่วมมือกันแบบการเปิดบาร์ในครั้งนี้ สัดส่วนของเธอก็ต้องมากกว่า

ไม่ง่ายเลย

การพิชิตเธอไม่ง่ายเลยจริงๆ อ๊าาาาา!

เมื่อทั้งสองเดินมาถึงตรอกเล็กๆสายหนึ่ง

สายตาของฮังอวี่พลันเหลือบไปเห็นร่างหนึ่งกระพริบผ่านหลังคา

คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย บังเกิดลางสังหรณ์ไม่ดี

“รอก่อน”

“สถานที่นี้มีบางอย่างผิดปกติ”

ตรอกเบื้องหน้าและเบื้องหลังว่าเปล่า ทว่าในอากาศกลับฟุ้งไปด้วยจิตสังหาร

ซูหยุนปิงเองก็ตระหนักถึงความผิดปกติเช่นกัน “ไป! รีบออกไปจากที่นี่!”

วินาทีถัดมา

หวือ หวืออ หวือออ!

มีดบิน 7-8 เล่มกรีดผ่านอากาศ

ประกายเย็นเยียบหลายสายพุ่งเข้าหาซูหยุนปิงแทบจะในเวลาเดียวกัน

ชัดเจนว่าอีกฝ่ายต้องการให้เธอตาย!

ซูหยุนปิงหลบไปมาอย่างรวดเร็ว หลีกเลี่ยงอาวุธลับส่วนใหญ่ได้

แต่ยังไม่ทันพบตัวศัตรู

ในตอนนั้นเธอก็เหยียบลงบนกับดัก

หนามแหลมทิ่มทะลุฝ่าเท้าเธอ หญิงสาวกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด การเคลื่อนไหวถูกจำกัด

มีดบินเล่มหนึ่งปักลงบนไหล่เธอ อาการเสียวซ่านแพร่กระจายจากหัวไหล่ ร่างกายเริ่มชา

ไม่ได้การ!

มีดบินพวกนี้มีพิษ!

อาวุธลับอีกสี่ห้าสายถูกขว้างเข้าหาเธออีกระลอก

เมื่อเห็นสถานการณ์นี้ ฮังอวี่จึงต้องลงมือ

แต่วิธีลงมือของเขาเรียบง่ายและหยาบคายมาก เจ้าตัวยกขาขึ้น ถีบก้นกลมๆแน่นๆเพื่อช่วยเธอหลบเลี่ยงอาวุธลับ กวัดแกว่งหอกในมืออย่างรวดเร็ว อาวุธลับหลายชิ้นถูกปัดตกไป

“กล้าดียังไงมาเตะตูดฉัน!”

ซูหยุนปิงทั้งเศร้าและโกรธ

แม้ชายคนนี้จะใจดีช่วยเหลือ แต่เธอรู้สึกไม่เต็มใจที่จะขอบคุณเขา!

อย่างไรก็ตาม ซูหยุนปิงตกอยู่ในสถานะติดพิษ แทนที่จะโล่งใจ เธอกลับยิ่งมายิ่งมึนงง เธอไม่เคยเจอพิษที่ทรงพลังเช่นนี้มาก่อนในโลกวิญญาณ เมื่อขยับตัวไม่ได้จึงหันไปควบคุมมนุษย์ปลานักล่าตอบโต้กลับแทน

ผู้ลอบโจมตีเป็นยอดฝีมือ!

หอกก้างปลาล้มเหลวในการโจมตีตอบโต้

ฮังอวี่กำลังจะปลดปล่อยสกิลก้าววายุและล่องหนเพื่อลอบเข้าไปสังหารพวกมัน

แต่ใครจะคิด ว่าในเวลานั้น คัมภีร์สกิลสามม้วนถูกโยนลงมาในตรอก

“ระวัง!”

“พลังงานในคัมภีร์นั้นแข็งแกร่งมาก!”

ซูหยุนปิงเป็นผู้ใช้วิญญาณ ค่าคุณสมบัติจิตรับรู้ของเธอสูงมาก

เธอสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจน ว่าสกิลที่ติดมากับคัมภีร์เหล่านี้ทรงพลังเพียงใด

อย่างไรก็ตาม สมควรเป็นคัมภีร์สกิลสีขาวเลเวล 4 -5  และในพื้นที่ขนาดเล็กเช่นนี้ แทบไม่มีโอกาสหลบเลี่ยงได้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้สถานะติดพิษและอัมพาต หากถูกโจมตีด้วยคัมภีร์เหล่านี้ มั่นใจได้เลยว่าตายแน่นอน

ฮังอวี่ขมวดคิ้ว

พลังรบของนักฆ่าไม่อ่อนแอ

แต่ละคนไปถึงเลเวล 4 และเตรียมการมาอย่างดี

มีทั้งกับดัก อาวุธลับ และคัมภีร์สกิล

เจ้าพวกนี้มีที่มาที่ไปยังไง? ทำไมถึงต้องการฆ่าซูหยุนปิง!

แต่นี่ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องนี้ ฮังอวี่รีบกระโจนเข้าใส่ กดร่างซูหยุนปิงเอาไว้ด้านล่าง

เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ซูหยุนปิงถูกผู้ชายขึ้นคร่อม แต่ใจเธอไม่มีเวลาห่วงเรื่องนี้ เห็นได้ชัดว่าฮังอวี่ต้องการใช้ร่างกายปกป้องเธอ และเธอเองก็ไม่คิดอยู่เฉยเช่นกัน

ท่ามกลางช่วงวิกฤต หญิงสาวใช้เสน่ห์ควบคุมมนุษย์ปลานักล่าให้มาบังร่างของฮังอวี่อีกทอดหนึ่งเพื่อรองรับการโจมตี

คัมภีร์สกิลทั้งสามเปิดใช้งาน

พริบตาเดียวระเบิดเสียงดังสนั่น ควันไฟคละคลุ้งไปทั่วตรอก

พื้นดินและกำแพงพังทลาย เลอะเทอะไปหมด

นักฆ่าทั้งสามไม่หยุดเพียงเท่านี้ พวกเขายังคงยิงธนูและขว้างอาวุธลับ รวมไปถึงการโจมตีด้วยเวทมนตร์ลงไปอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งในตำแหน่งนั้นไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ การโจมตีอันรุนแรงจากระยะไกลจึงหยุดลง

“ตายแล้วใช่ไหม?”

“น่าจะตายแล้ว”

“เธอไม่ได้แข็งแกร่งเกินเลเวล 5”

“ถ้าเป็นพวกเรา โดนระดมโจมตีแบบนี้ยังไงก็ตาย!”

“อย่าประมาท! พวกเราต้องยืนยันด้วยตาตัวเอง ถ้าเธอรอดไปได้พวกเราเจอปัญหาใหญ่แน่!”

หลังจากพูดคุยกันสั้นๆ นักฆ่าทั้งสามชักอาวุธออกมา กระโดดลงจากบ้านหลังเตี้ย หยั่งเท้าลงในตรอกเล็ก ก้าวเข้าไปยังตำแหน่งที่เกิดระเบิดอย่างระมัดระวัง

ควันในบริเวณนี้หนามากจนทำให้มองเห็นไม่ชัด ไม่อาจทราบสถานการณ์ที่แน่นอน

อย่างไรก็ตาม ขณะที่ทั้งสามกำลังเข้าใกล้ พวกเขาก็ต้องตกใจ เมื่อพบว่าร่างภายใต้เงาดำที่นิ่งสนิทตลอดเวลาพลันผุดลุกขึ้น โจมตีสวนกลับมาด้วยความเร็วอันน่าตื่นตกใจ!