Ep.208 - เชลยใจแข็ง
2/4
Ep.208 - เชลยใจแข็ง
เมื่อหมอกในเจียงซินโจวหายไป สภาพแวดล้อมที่แท้จริงของมันก็ปรากฏ เห็นแค่เพียงต้นไม้ที่ดูแปลกตา ป่าไม้รกทึบเขียวชอุ่ม ทิวทัศน์ราวกับเกาะกลางทะเลทราย
ณ สะพานเจียงซินโจว สนามรบหลักที่สกายเน็ตต่อสู้กับมนุษย์ปลา
ศพมนุษย์ปลา 2000 - 3000 ตัวถูกเคลื่อนย้าย กองกำลังขนส่งของสกายเน็ตเข้าสู่สนามรบอย่างรวดเร็ว พวกเขาเริ่มเก็บกวาด ริบอาวุธของพวกมนุษย์ปลา แล้วโยนศพพวกมันซ้อนๆกันจนกองเป็นภูเขา
ฮังอวี่เพียงก้าวเข้ามาบริเวณนี้
ดอกบัวทองรวมวิญญาณในมือพลันร้อนระอุ
แต้มวิญญาณมหาศาลถูกดึงออกจากศพของพวกมนุษย์ปลา
และเนื่องจากศพมนุษย์ปลาเหล่านี้ไม่สามารถใช้สกิลรวบรวมวัตถุดิบได้ ดังนั้นฮังอวี่จึงไม่ต้องกังวลว่าจะถูกจับได้
นอกจากนี้ ตามปกติแล้วความแข็งแกร่งของสายพันธุ์ย่อยที่มีสติปัญญาต่ำนั้นจะมากกว่ามอนสเตอร์ที่ไม่มีสติปัญญาทั่วๆไป
ส่งผลให้เครื่องรางอัญเชิญของฮังอวี่สามารถดูดซับไอวิญญาณได้เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นการเก็บเกี่ยวด้านสมบัติหรือแต้มวิญญาณ ทุกสิ่งล้วนน่าพึงพอใจ
ผลประโยชน์ใดที่ควรได้รับ ฮังอวี่ไม่ยินยอมพลาดมัน
แล้วอีกอย่าง หากเขาไม่รวบรวมแต้มวิญญาณหรือไอวิญญาณปริมาณมากเหล่านี้ สุดท้ายพวกมันก็จะหายไปอย่างไร้ค่า ฉะนั้นทำไมไม่เก็บเกี่ยวพวกมันซะล่ะ?
“สกายเน็ตของพวกคุณคิดจะสร้างสำนักงานใหญ่ที่นี่ใช่ไหม?”
ทางซ้ายและขวาของฮังอวี่ หัวหน้าทีมสกายเน็ตสองคนคอยเดินประกบ ทางหนึ่งคือเหลียงตงผู้มีใบหน้ามุ่งมั่นยุติธรรม อีกทางหนึ่งคือเหลียงชิวสาวสวยผมสั้น ทั้งคู่ได้รับคำสั่งจากหัวหน้ากองลั่วให้ออกมาส่งฮังอวี่เพื่อแสดงถึงความซาบซึ้ง
“ตอนนี้ยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ”
“แต่พวกเราไม่ขอปิดบัง”
“เดิมสกายเน็ตคือองค์กรที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อตอบโต้รับมือวิกฤตจากโลกวิญญาณ เนื่องจากกระบวนการจัดตั้งเป็นไปอย่างเร่งรีบ จึงยังไม่มีฐานที่มั่นที่แน่นอน ตอนนี้จากการประเมินของพวกระดับสูง ได้ข้อสรุปว่า เจียงซินโจวคือสถานที่ๆเหมาะสมที่สุด”
นั่นประไร
เดาได้ถูกเผง
หากฮังอวี่เป็นหัวหน้าของสกายเน็ต เขาคงทำเช่นเดียวกัน
ตำแหน่งของเจียงซินโจวตั้งอยู่ใจกลางเมือง มีปราการธรรมชาติในทิศเหนือและใต้ ช่วยให้ตั้งรับการโจมตีได้ง่าย ส่วนตะวันออกกับตะวันตกเชื่อมต่อกับตัวเมือง โยกย้ายกองกำลังง่าย ข้อดีของมันชัดเจนมากๆ เอื้อต่อการใช้พัฒนาองค์กร
“ยังไงก็เถอะ”
“ยังมีอีกเรื่อง”
“นายได้สู้กับผู้นำมนุษย์ปลารึเปล่า?”
เหลียงตงเอ่ยถามฮังอวี่อย่างไม่แน่ใจ
ฮังอวี่เลิกคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ยอมพูดถึงมัน
ก็รังมนุษย์ปลาใหญ่โตซะขนาดนี้ พวกมันมีประชากรอยู่มากถึงสามพันตัว แล้วจะปราศจากผู้นำได้อย่างไร ถูกไหม?
ระดับสูงของสกายเน็ตคาดการณ์ว่า ผู้นำมนุษย์ปลาอาจเป็นตัวตนระดับเจ้าถิ่น ไม่เพียงทรงพลังแต่ยังมีสติปัญญา
ทว่าทีมหัวกะทิของสกายเน็ตไม่มีใครได้ประมือกับมันเลย
และตอนนี้ หลังจากค้นทั่วสนามรบแล้ว เสียงก็ไม่ได้ยิน ตาก็ไม่ได้เห็นศพ ดังนั้นเขาจึงเกิดคำถาม
“แน่นอน ผมจะบอกให้นะ ตอนนั้นมันอันตรายมาก ผมพลาดนิดเดียวเกือบถูกฆ่าตายแน่ะ” ฮังอวี่เริ่มพูดไร้สาระ “แต่ต้องขอบคุณลูกเล่นเล็กๆน้อยๆที่เก็บไว้ใช้ในเวลาฉุกเฉิน ทำให้รอดชีวิตมาได้ สู้กันไปซักพัก เจ้าหมอนั่นเห็นท่าไม่ดี กระโจนลงน้ำหนีไป”
อะไรนะ?
หนีไป?
ทั้งสองคนไม่รู้ว่าสิ่งที่ฮังอวี่พูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่
อย่างไรก็ตาม พอลองคิดดูดีๆ แม้ฮังอวี่จะแข็งแกร่งมาก แต่ถ้าให้รับมือกับผู้นำมนุษย์ปลาเพียงลำพัง เกรงว่าคงตึงมือเขาเกินไปจริงๆ
และเนื่องจาก ผู้นำมนุษย์ปลาหนีไปได้ การไม่พบศพในที่เกิดเหตุจึงดูสมเหตุสมผล
ฮังอวี่ไม่ควรโกหก แล้วอีกอย่าง มีร่องรอยของการต่อสู้รุนแรงใจกลางหมู่บ้านจินเซียงจริงๆ
เหลียงตงเป็นคนแรกที่เอ่ยปาก “หนีไปแล้ว?”
แต่เมื่อมองไปทางฮังอวี่ และเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ต้องการเล่าแบบเจาะลึกไปมากกว่านี้ เขาจึงหุบปากลง เกิดความคิดขึ้นในใจว่า
‘สงสัยคงไม่อยากเล่าความผิดพลาดของตัวเองให้พวกเราฟัง’
แต่จะยังไงก็ช่าง เพราะสุดท้ายเดี๋ยวทางสกายเน็ตก็คงส่งยอดฝีมือออกไปตรวจสอบย้อนหลังเอง
พวกเขาในฐานะพลรบไม่จำเป็นต้องรู้ละเอียดในทุกๆเรื่อง!
นอกจากนี้ หัวหน้ากองลั่วย้ำว่าควรอ่อนข้อให้ฮังอวี่ แม้จะไม่สามารถดึงดูดอีกฝ่ายให้เข้าร่วมกับทางสกายเน็ตได้ แต่ก็ควรรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับกองพลน้อยที่หนึ่งเอาไว้ ในอนาคตอาจมีเรื่องให้เขาช่วยเหลืออีกมาก การรักษาความปรารถนาดีที่มีต่อกันจึงเป็นสิ่งสำคัญ
“ยึดเจียงซินโจวสำเร็จแล้ว พวกมนุษย์ปลาถูกขับไล่ไม่น่าจะตั้งตัวได้อีกในเร็วๆนี้ ที่เหลือก็แค่สร้างฐานที่มั่นและเสริมกำลังทหารรักษาการณ์” เหลียงตงกล่วาต่อ “อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ลำบากนายมากแล้วจริงๆ ถ้าไม่ได้นายช่วย ราคาที่พวกเราต้องจ่ายอาจหนักหนากว่านี้”
“ด้วยความยินดี ในฐานะพลเมืองดี หน้าที่ปกป้องเจียงเฉิงคืองานของผม”
“ในเมื่อหมดธุระที่นี่แล้ว ผมคงไม่รบกวนหัวหน้าทีมทั้งสองไปมากกว่านี้”
“ขอตัวลา”
ว่าจบ ร่างของฮังอวี่ก็ค่อยๆโปร่งใสและหายไปต่อหน้าต่อตาทั้งสอง
เจ้าหมอนี่จะใจร้อนไปหน่อยไหม?
เหลียงตง เหลียงชิวเหลือบมองหน้ากันพักหนึ่ง
นี่เขาคิดว่าสกายเน็ตจะจับเขากินหรือไร?
เหลียงชิวจ้องมองตำแหน่งที่ฮังอวี่หายตัวไป ปากบ่นพึมพำ “เป็นคนที่แปลกและมองไม่ออกจริงๆ”
“แต่แปลกก็ส่วนแปลก โชคดีที่เขาไม่ใช่คนเลว อย่างน้อยก็ไว้ใจได้ในเวลาวิกฤต ฉันนับถือเขา”
สองพี่น้องรู้สึกเสียดายเล็กน้อย
ชายผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ แต่ทางสกายเน็ตไม่สามารถครอบครองได้
ทว่าเมื่อทั้งคู่ลองคิดภาพตาม หากฮังอวี่เข้าร่วมกับสกายเน็ตจริงๆ ด้วยความสามารถของเขา เกรงว่าคงไม่หยุดอยู่แค่หัวหน้าทีม สุดท้ายอาจได้ขึ้นเป็นหัวหน้ากอง แล้วแบบนั้นมันจะไม่กลายเป็นคู่แข่งกับหัวหน้ากองลั่วหรอกหรอ?
คิดได้แบบนี้
ต้องขอบอกว่าให้เขาอยู่ในสถานะแบบนี้ก็คงดีแล้วล่ะมั้ง
ขอแค่ถึงคราววิกฤต ฮังอวี่จะลงจากเขา กลายมาเป็นอาวุธลับแก่กองพลน้อยที่หนึ่งก็พอแล้ว
...
หลังจบศึกและได้รับผลประโยชน์เต็มอิ่ม ฮังอวี่ผู้ซึ่งทำตัวติดดินและปกปิดชื่อเสียงของตัวเองในที่สุดก็กลับมาถึงบ้าน เขาสั่งให้ราชินีมดจับเชลบวางไว้ใต้ต้นไม้ทั้งสอง
“เสี่ยวไป ปล่อยให้เขาพูดได้ไหม”
“ไม่มีปัญหา”
ฮังเสี่ยวไป๋ฉีกกลีบดอกไม้สองสามกลีบที่ปิดปากผู้นำมนุษย์ปลา
ผู้นำมนุษย์ปลาเริ่มสาปแช่งด่าทอเป็นภาษาของโลกวิญญาณอีกครั้ง
ต้องขอบอกว่ารูปแบบคำด่าทอของเจ้า ผู้นำมนุษย์ปลาค่อนข้างซ้ำซากจำเจ เกือบทั้งหมดมีแต่คำว่า ‘ต่ำต้อย อ่อนแอ’ เป็นต้น
ฮังอวี่ขี้เกียจเถียง ส่งไม้ต่อให้หวังเอ๋อโต้ตอบกับมัน
หนึ่งสุนัขหนึ่งมนุษย์ปลาสาดน้ำลายใส่กัน แต่ผ่านไปหลายสิบนาทีแล้วยังไม่มีทีท่าว่าจะจบสิ้น
“บัดซบ! แกถูกจับแล้ว เลิกโอหังซักที!” ฮังอวี่ตบหน้าผู้นำมนุษย์ปลา “ตอบฉันมาตามตรง ตำแหน่งของรอยแยกที่แกใช้ข้ามมาโลกนี้อยู่ที่ไหน พูด!”
“เจ้ามดปลวกต่างโลกที่แสนอ่อนแอ นอกจากชีวิตแล้ว อย่าหวังจะได้อะไรจากข้าอีก!” ผู้นำมนุษย์ปลาตัวนี้หัวรั้นมาก “คิดหวังข้อมูลจากปากผู้เบิกทางแห่งความรุ่งโรจน์ ช่างเพ้อฝัน!”
“ฮ่ง เจ้านาย ถึงเปิ่นหวังจะไม่เข้าใจที่มันพูด แต่เจ้าปลาตัวเหม็นนี่หยิ่งผยองมาก” หวังเอ๋อเข้ามาพร้อมกระดิกหางและพูดว่า “ทำไมไม่ปล่อยให้เปิ่นหวังสั่งสอนมัน ทรมานด้วยการกัด 10 ครั้งใน 1 วินาที?”
“ฉันคิดว่าการทรมานไม่น่าจะได้ผลกับมัน”
“สิ่งมีชีวิตจากโลกวิญญาณค่อนข้างมีความอดทนต่อความเจ็บปวดทางกายภาพ”
“ฮ่ง เจ้านาย ในเมื่อเป็นแบบนั้นแล้วพวกเราจะพามันกลับมาทำไม?” หวังเอ๋อนั่งยองหย่อนก้นลงพื้น เอียงคอมองมนุษย์ปลา “เจ้าหมอนี่ขี้เหร่มาก ไม่น่าเก็บไว้เลี้ยงเป็นปลาสวยงาม ทำไมพวกเราไม่จับมันไปทำหัวปลาหม้อไฟล่ะ?”
จินตนาการของหวังเอ๋อลึกล้ำจริงๆ
แต่แค่นึกภาพหัวมนุษย์ปลาหม้อไฟแล้ว เกรงว่าคงกินอะไรไม่ลงไปอีกสามวันสามคืนแน่ๆ
สมองของหวังเอ๋อกำลังค่อยๆพัฒนาก็จริง
แต่บางครั้งมันก็ยังตีโจทย์บางเรื่องไม่แตก
การจับตัวผู้นำมนุษย์ปลาเอาไว้มีประโยชน์มาก ปัจจุบันสายพันธุ์ที่สามารถเปิดภูมิปัญญาได้หายากยิ่งกว่าแพนด้ายักษ์ ในเจียงเฉิงเกรงว่าคงมีน้อยชนิดนับด้วยนิ้วมือ หากฮังอวี่ขายมันผ่านช่องทางเฉพาะ อาจแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ดีๆได้ไม่น้อย
แน่นอน สิ่งที่มีค่ายิ่งกว่าตัวมนุษย์ปลาคือข้อมูลที่มันเก็บงำเอาไว้
ตัวอย่างเช่น ข้อมูลตำแหน่งและพลังรบของมนุษย์ปลาในโลกวิญญาณ และอารยธรรมของพวกมัน
นอกจากนี้ การที่มนุษย์ปลาสามารถบุกเข้ามาในเจียงเฉิงได้เป็นจำนวนมาก หมายความว่ารอยแยกที่มันใช้ข้ามผ่านค่อนข้างเสถียร ในฐานะผู้เบิกทาง ผู้นำมนุษย์ปลาย่อมรู้ตำแหน่งและกฏเกณฑ์ของรอยแยกแน่นอน
ข้อมูลทั้งหมดนี้มีค่ามหาศาล!
แต่ตอนนี้ เจ้าหมอนี่หัวแข็งมาก คงไม่ยอมเปิดปากไปอีกซักพัก
ฮังอวี่ส่ายหัวและดีดนิ้ว ทันใดนั้นเอง หนึ่งในต้นไม้ยื่นกิ่งก้านออกมา เข้าห่อหุ้มตัว ผู้นำมนุษย์ปลาเอาไว้ และยกมันรวบเข้าไปข้างใน
ด้วยผนึกของเสี่ยวไป๋ และการเฝ้ายามตลอดเวลาของสองต้นไม้ เจ้าหมอนี่ไม่มีทางหนีไปได้
“อย่าเสียเวลาอีกเลย”
“ปล่อยให้มันอดอาหารซักสองวัน”
“ลองดูแบบนี้จะง้างปากมันได้รึเปล่า”
ฮังอวี่กลับเข้าไปที่ห้องของเขาเพื่อเตรียมพักผ่อน
ระหว่างนั้นเอง โทรศัพท์เขาได้รับข้อความแจ้งเตือน
[เรียนพลเมืองเจียงเฉิง คุณได้รับแต้มบุญระดับห้าจำนวน 900 แต้ม หมายเหตุ : รางวัลจากการต่อสู้ที่เจียงซินโจว หากมีคำถามใดๆ โปรดติดต่อหมายเลขโทรศัพท์ฝ่ายบริการลูกค้าของสกายเน็ต : XXXXXXXXXX ]
สกายเน็ตยังคงประสิทธิภาพสูงเหมือนเคย
ส่งมอบแต้มบุญได้รวดเร็วฉับไว!