EP 18 (Stardew Valley)
EP 18 (Stardew Valley)
ผู้แปล วังวน
เสียงกระแทกประตูยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผ่านมาหลายชั่วโมงแล้ว และปิแอร์ผู้บ้าคลั่งยังคงไม่หยุดยั่งความพยายาม และพยายามกระแทกประตูอย่างต่อเนื่อง
ถึงเวลากำจัดสัตว์ประหลาดตัวนี้แล้วสินะ
หน่านเสี่ยวขึ้นไปที่ชั้นสาม เปิดหน้าต่างอย่างเงียบ ๆ และมองออกไป
ปิแอร์ที่กำลังบ้าคลั่งยังอยู่ที่หน้าประตู ทุบกำปั้นแล้วมายังประตูอย่างต่อเนื่อง ปิแอร์อ้าปากกว้างโดยไม่รู้ตัวและถ่มน้ำลายใส่ประตูไม้มรปริมาณที่มหาศาล แม้แต่หนานเสี่ยวอยู่บนชั้นสามก็ยังได้กลิ่นเหม็น
หน่านเซียวอยากลองใช้พลังของอัญมณีไพลินนั้น ตอนที่ผู้วิเศษท่องคาถานั้น หนานเสี่ยวนั้นก็ได้ยินมันชัดเจน
หนานเสี่ยวถืออัญมณีและเล็งไปที่ปิแอร์และตะโกนว่า "อาบรูคาดาบรา!"
ปิแอร์ผู้บ้าคลั่งเมื่อได้ยินคนพูดอยู่เหนือศีรษะของเขาจึงเงยหน้าขึ้นอย่างสับสน
...ดูเหมือนว่าของวิเศษจะไม่ทำงาน
เมื่อเห็นเช่นนั้นหนานเสี่ยวเขาคิดว่าสำเนียงของเขาน่าจะไม่ถูกต้อง ดังนั้นเขาจึงร่ายคาถาอีกครั้ง: "อวาดา เคดาฟรา!"
ในวินาทีนั้นดูเหมือนการร่ายมนต์จะได้ผล แสงสีน้ำเงินพุ่งออกมาจากระหว่างนิ้วของเขาและกระทบกับใบหน้าของปิแอร์
ร่างกายของปิแอร์นั้นสูงขึ้นมากกว่าสามเมตร และศีรษะของมันก็ใหญ่ขึ้นด้วย และใบหน้าของปิแอร์นั้นอย่างน้อยต้องมีขนาดเท่ากับอ่างล้างหน้า แทบจะเป็นไม่ได้เลยที่จะเล็งพลาดเป้าไปได้
ตอนนี้ผลลัพธ์คล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับอีกาในตอนนี้ ปิแอร์ก็หยุดเคลื่อนไหวไปในทันที ในเวลานั้นมันคว้าคอของมันและพยายามจะคายบางอย่างออกมา แต่ก็ทำไม่ได้ ทันใดนั้น เปลวไฟสีขาวก็ระเบิดออกมาจากตา หู ปาก และจมูกของเขา แม้แต่ร่างกายของสัตว์ประหลาดที่ดูแข็งแรงมากเช่นนี้ ก็ไม่สามารถต้านทานไฟแห่งไสยเวทย์ได้เลย
ตามที่คาดไว้ของสัตว์ประหลาดสูงสามเมตร อย่างปิแอร์พยายามดิ้นรนทรมานนานกว่าสิบหน้าที่ ก่อนที่มันจะตาย มันพยายามใช้มือของมันไตร่ขึ้นบนหอคอยเป็นครั้งสุดท้ายซึ่ง สัตว์ประหลาดสูงสามเมตรสุดท้ายแล้วก็ไม่สามารถทนพิษบาดแผลไว้ ก่อนที่จะตายลงอย่างน่าอนาถ
อย่างน้อยมันก็เป็นพวกสัตว์ประหลาดคลั่งที่สมองส่วนใหญ่ถูกปิดการทำงานไปแล้ว ถ้าพบจุดอ่อนของมัน ก็คงไม่ยากเท่าไรนักที่จะจัดการมัน
หลังจากกำจัดศัตรูที่ทรงพลังได้ภายในคาถาเดียว หนานเสี่ยวเองก็รู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองอยู่ไม่น้อยก่อนจะจัดทรงผมของเขาให้สวยงาม
แล้วยังไงต่อ?
วิธีที่ปลอดภัยที่สุดในตอนนี้คือหลบหนีจากเมืองเพลิแกน และซ่อนตัวอยู่ในภูเขาลึกเพื่อฝึกตกปลา เมื่อความเชียวชาญถึงระดับ 10 ภารกิจก็จะสำเร็จและก็จะได้กลับบ้านสักที แน่นอนว่าตอนนี้หน่านเสี่ยวเองก็เก็บสมบัติในหอคอยเวทมนต์นี้มาอย่างเต็มที่แล้ว ถ้าพูดตามตรรกะแล้วดูเหมือนตอนนี้สถานการณ์ทุกอย่างเหมือนจะคลี่คลายแล้ว
อีกทั้งการที่เขาตัดสินใจไม่กลับไปยังเมืองเพลิแกน ก็เป็นพราะนายกเทศมนตรีเองพยายามจะกลั่นแกล้งเขาอยู่ตลอดเวลาที่อยู่ที่นั้น และหนานเสี่ยวเองก็อดทนมานานมากพอแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องเอาคืนแล้ว?
แน่นอนว่าในเหตุการณ์ที่สัตว์ประหลาดบุกเมืองลูอิสเป็นคนแรกที่หนีจากสถานที่แห่งนั้น
ในช่วงเวลาอึดใจหนึ่งหนานเสี่ยวก็คิดอะไรขึ้นมาได้บางอย่าง เขาลองมาทบทวนดูว่า ลูอิสเป็นนายกเทศมนตรีมาหลายสิบปีและเขาเองก็น่าจะมีทรัพย์สมบัติไม่ก็เงินที่มีจำนวนมากพอๆกัน ถ้าหากฉันจัดการเขาได้ตามกฎของเกมแล้วทรัพย์สมบัติทั้งหมดก็ต้องตกเป็นของผู้ชนะ
แต่ลูอิสอยู่มานานขนาดนี้ได้ เขาเองจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน และก็ไม่มีความจำเป็นอะไรถึงขนาดนั้นที่จะต้องจัดการกับเขา?
หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง หน่านเสี่ยวก็ตัดสินใจที่จะไม่ไปในเมืองแพลิแกนเพื่อเผชิญหน้ากับลูอิส แต่ไปที่เหมืองแทน
เนื่องเข้าต้องการพบกับคนแคระก่อน ตามที่ คัมภีร์จูนิโมบอก นี่เป็นแนวทางปฏิบัติที่ปลอดภัยที่สุด เพื่อต่อสู้กับ เจ้าแห่งปีศาจอย่างเดอะวอยด์ เราเองจำเป็นต้องพึ่งพาเผ่าพันธุ์โบราณอย่างคนแคระ
นอกจากนี้ ในเวลาเดียวกันถ้าอยู่ในเหมืองเขาก็สามารถเพิ่มระดับหรืออาจหาวัตถุมาคราฟของได้ ไม่ก็นำมันอัปเกรดอุปกรณ์นิดๆหน่อย และหาแร่ได้เพียงพอต่อการอัปเกรด ซึ่งมันจะเสริมความมั่นใจได้มากขึ้นระดับหนึ่ง
หนานเสี่ยวข้ามไปยังที่ป่าไซเดอร์ ทางเหนืออย่างเงียบ ๆ และไปทางตะวันออกรอบด้านตะวันตกของฟาร์มสวนอันเงียบสงบ หนานเสี่ยวฉวยโอกาสในยามค่ำคืนเพื่อเร่งฝีเท้าไปจนสุดทาง และในที่สุดเขาก็มาถึงเหมืองสักที
มีสหภสพนักผจญภัยอยู่ไม่ไกลจากทางทิศตะวันออกของเหมืองมากนัก มันเงียบมาก และดูเหมือนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากปกติมากนัก
อย่างไรก็ตาม ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆนั้นถือเป็นสิ่งที่ต้องระวังและน่ากลัวที่สุด ซึ่งแสดงให้เห็นว่า มาร์หลอง ผู้บริหารสมาพันธ์นักผจญภัยนั้นก็อาจจะไม่ใช่คนดี และส่วนใหญ่ก็เหมือนกับนายกเทศมนตรี Lewis
หน่านเสี่ยวหลีกเลี่ยงสหภาพนักผจญภัยและแอบเข้าไปในเหมืองอย่างเงียบๆ
ตลอดทางลงเหมือง!
ตลอดทั้งวัน เขาเริ่มการเดินทางเหมืองที่ยากลำบาก ขุดหาแร่ต่างๆอย่างเมามัน ขุดต่อไป และเมื่อเหนื่อยให้หามุมซ่อนหลบสายตาเพื่อกางเต็นท์ แต่เมื่อเกิดหิวและกระหายน้ำ ให้เปิดกระเป๋าเป้สะพายและมองหาของที่คราฟเป็นอาหารหรือเครื่องดืมให้ได้ หรือง่ายที่สุดอาจจะเข้าไปในส่วนที่มีสัตว์ประหลาดอยู่และล่ามันมาเป็นอาหาร
ตอนนี้หนานเสี่ยวลงไปลึกกว่า 50 ขั้น เหมืองเต็มไปด้วยน้ำแข็งและหนาวมาก อีกทั้งยังสามารถขุดแร่เหล็กได้จำนวนมาก และบางครั้งก็มีเพชรและพลอยสีฟ้า ถึงอย่างงั้นภายในถ้ำก็มักจะมีค้างคาวที่มักสร้างความรำคาญให้เขาอยู่เสมอ
จากชั้นที่ 50 ลงมา หนานเสี่ยวเริ่มเจอมอนเตอร์จำพวกผี ที่บินไปมาและเทเลพอร์ตไปมาซึ่งสำหรับหน่านเสี่ยวเองค่อนข้างจะรับมือยาก แต่หน่านเซียวค่อย ๆ คิดหาวิธีจัดการกับพวกมัน
ยิ่งถึงชั้นที่ 60 ก็ยิ่งสร้างความประหลาดใจให้เขามายิ่งขึ้นไปอีก หลังจากเอาชนะมอนเตอร์ประเภทผีมาได้ ด้วยความยกาลำบาก หนานเสี่ยวเองก็ได้ดร๊อปไอเทมบางอย่างนั้นมันคือกริช! มันมีลักษณะเหมือนใบมีดโปร่งใสเหมือนทำจากคริสตัล อย่างไรก็ตามมันค่อนข้างแข็งแรงและค่อนข้างคมซึ่งมันน่าจะทนทานพอกับเหล็กได้เลย
ไม่น่าเชื่อ นี่ควรจะเป็นสมบัติที่หลงเหลือจากสมัยโบราณหรือป่าว อย่างงั้นฉันขอเรียกมันว่า "กริชคลิสตัล"
หน่านเสี่ยวเองก็ตั้งชื่อให้ก็เพื่อแก้เซงเท่านั้น...
หลังจากชั้นที่ 80 น้ำแข็งก็ค่อยๆ หายไป อากาศเริ่มร้อนขึ้นมาก และแม้แต่หินหนืดกึ่งหลอมเหลวก็ยังโผล่ออกมาจากรอยแยกเล็กน้อย
ประเภทของมอนสเตอร์ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน มอนสเตอร์ประเภทผีนั้นได้หายไปหมดแล้ว ถูกแทนที่ด้วยเมือกสีแดง ค้างคาวลาวา ปูลาวา และอื่นๆ อันที่จริงมันคล้ายกับสัตว์ประหลาดที่พบในตอนแรก แต่ดูเหมืนหนังของมันหนาขึ้นและก็ร้อนมากเมื่อได้สัมผัสมัน มันยากมากที่จะต่อสู้ บางครั้งก็มีผู้คลั่งไคล้เงาและพวกมอนเตอร์ประเภทผีเงาซึ่งยากต่อการจัดการ
โชคดีที่ดาบเทพเจ้าแห่งท้องทะเลของเขาและ กริชคลิสตัล นั้นทรงพลังมาก โดยเฉพาะกริชคริสตัลซึ่งมักจะสร้างความเสียหายที่รุนแรงให้กับมอนสเตอร์พวกนั้น
ดูเหมือนยิ่งลงมาลึกเท่าไรก็จะพบแร่ที่มีค่ามากขึ้นเท่านั้น - ตอนี้เขาลงมาถึงเหมืองทองคำแล้ว บางครั้งอาจพบมรกต คริสตัลสีแดง และทับทิม
มันจะเป็นไปได้ไหมที่จะตกปลาในลาวา! แต่ดูเหมือนนี้จะไม่ใช่การพูดล้อเล่นเชิงหยอกล้อ หนานเสี่ยวเริ่มตกปลาจริงโดยโยยสายเบ็ดลงไปในลาวาและจับสิ่งที่เรียกว่า "ปลาไหลแมกมา" ได้จริงๆ ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นปลาจริงหรือเปล่า แต่ระดับการตกปลานั้นเพิ่มขึ้นเป็นระดับ 9 อยู่ดี
แน่นอว่าหานเสี่ยวหยุดตกปลาในทันที เพราะกลัวว่าถ้าเขาบิงเอิญสามารถทำให้การเชียวชาญด้านตกปลาถึงระดับ 10 ได้เขาจะถูกส่งกลับไปยังโลกหลัก
ตอนนี้เขามีหน้าที่สำคัญคือการลงไปขุดแร่งทองเพิ่ม
ตอนนี้ภายในกระเป๋าเป้ใบใหญ่ก็ได้เริ่มแสดงศักยภาพของมันออกมาแล้ว - มีไอเทมที่เป็นชนิดเดียวกันซ้อนทับกันจำนวนมาก! หนานเสี่ยวขุดแร่ทองคำนับไม่ถ้วนจนตัวเลขที่ปรากฎขึ้นแทบจะเกิน 999 แล้ว
รวยๆแน่เราถ้านำแร่เหล่านี้คราฟมาเป็นทองคำแท่ง และนำทองเหล่านั้นกลับสู่โลกหลักก่อนที่จะขายมัน!
หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยมายาวนาน หน่านเสี่ยวก็เฝ้ารอวันที่มีความสุขหลังจากกลับมายังโลกหลัก
ฉันเคยคิดว่าฉันจะไม่ลงมาลึกขนาดนี้ แต่ในที่สุดวันหนึ่ง เขาก็ขุดลงไปที่ชั้น 120 มีทะเลสาบลาวาหลอมละลายอยู่ทุกหนทุกแห่ง และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะขุดต่อไป
นี้ฉันก็ลงมาลึกมากแล้วนะ? แต่ทำไมยังไม่พบหรือเจอแคระเลยสักคน?
หลังจากฝึกฝนการขุดอย่างหนัก เขาใช้ทักษะในการคราฟของผ่านการเป็นช่างตีเหล็กและได้อัพเกรดเสียมของเขาเป็นคุณภาพทองคำ ด้วยเครื่องมือที่แหลมคมเช่นนี้ ถ้าเป็นหินธรรมดาโดนคงแตกละเอียด อย่างไรก็ตาม หนานเสี่ยวจะขุดให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่พบถ้ำที่อยู่ด้านล่างหรือคนแคระ
ฉันพลาดอะไรไปรึเปล่า?
หน่านเสี่ยวจึงขุดลึกลงไปทุกซอกทุกมุมของเหมืองอย่างระมัดระวัง
การเก็บเกี่ยวนั้นอุดมสมบูรณ์มาก: แร่ทองคำ อัญมณีต่าง ๆ หมวกของคนแคระ...
แต่ไม่มีคนแคระ
ด้วยวิธีนี้ เขาจึงขุดกลับไปที่จุดเริ่มต้น แต่เขาหาคนแคระไม่พบ
ฉันควรทำอย่างไร หน่านเซียวรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย ทำไมฉันไม่ตกปลาให้จบๆแล้วกลับไปที่โลกหลักล่ะ
ฉันจะกลับไปมือเปล่าเช่นนี้ไม่มันต้องมีของอะไรติดไม้ติดมือไปด้วย
หลังจากสังเกตอย่างถี่ถ้วนแล้ว เขาก็พบว่ากำแพงหินที่ชั้นหนึ่งดูแปลกไปเล็กน้อย สีไม่เหมือนที่อื่น หลังจากพยายามขุดไปสองสามครั้งก็ทุบเป็นรู และดูเหมือนว่าจะมีแสงสว่างในนั้น!
ไม่ มันกลับกลายเป็นว่าถูกซ่อนไว้ที่ชั้นหนึ่ง?