(ฟรี ปกติ) บทที่ 659 พ่อจะสอนให้เขาเป็นคน!
ดังนั้นผู้อำนวยการพูดด้วยตัวเองแล้ว นักเรียนย้ายมาใหม่ที่มีบุคลิกเฉพาะของเขาก็ได้แนะนำตัวเองสั้นๆ เขาไม่มีทางเลือกเหมือนกัน ทําได้เพียงแค่ยิ้มและพูดว่า "นักเรียนหรงซื่อไม่ค่อยชอบพูดเท่าไหร่หรอก อาจเป็นเพราะเพิ่งมาครั้งแรก ยังไม่ค่อยชิน ก็อาจจะมีอึดอัดอยู่บ้าง ในฐานะเพื่อนร่วมชั้น พวกเราควรจะดูแลเขา และทำให้เขาคุ้นเคยและเข้ามาร่วมกับพวกเราอย่างเร็วที่สุดโอเคไหม?"
"โอเคค่า!" สาวๆ ที่อยู่ด้านล่างตอบเสียงดัง
หรงซื่อเดินออกลงจากแท่นหน้าชั้นเรียน เมื่อเดินผ่านเบาะหลังของห้องเรียน ก็บังเอิญไปเห็นผู้ชายที่ดูทรงอันธพาลอยู่ตรงมุมห้อง ในมือแอบซ่อนบุหรี่ไว้และสายตาก็ได้จ้องมองมาที่เขาอย่างชั่วร้าย
หรงซื่อไร้อารมณ์ สายตาเขามุ่งหน้าไปข้างหน้าไม่เหล่มอง นั่งลงบนที่นั่งของตัวเอง
กลุ่มพวกผู้ชายกลุ่มเล็กๆ ไม่กี่คนที่อยู่ตรงหัวมุมห้องเฝ้ามองเขาอยู่ตลอด เมื่อเห็นใบหน้าที่เย็นชาของเขาราวกับปฏิเสธผู้คนที่อยู่ห่างออกไปหลายพันไมล์ พวกเขาก็หัวเราะดังออกมา "โย่ นักเรียนย้ายมาใหม่คนนี้นี่มันค่อนข้างหยิ่งจังนะ"
"ลากมันมา! กล้าดียังไงมาหยิ่งใส่หน้าพวกเรา พ่อจะสอนให้เขาเป็นคน!"
"หน้าขาวๆ เล็กๆ มันก็ได้อยู่นะ พวกนายดูผู้หญิงในห้องสิ ดูเหมือนว่าแต่ละคนเสียจิตกันไปแล้ว"
หรงซื่อนั่งอยู่ในที่นั่งเดียวริมหน้าต่าง หลังจากนั่งลงเขาก็หยิบหนังสือเรียนออกมาแล้วหันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง
ด้านนอกเป็นสวนดอกไม้ของโรงเรียน มองจากจากมุมนี้สามารถเห็นประตูทางเข้าโรงเรียน ทางม้าลายและโรงเรียนอีกแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก
อาคารรูปทรงยอดแหลมสีแดงและสีขาวสไตล์ยุโรปนั้นหรูหราและสะดุดตาเป็นพิเศษ ตรงกันข้ามกับอาคารที่เขาเรียนอยู่ อาคารสร้างอยู่ในช่วงทศวรรษ 1980 และ 1990
นั่นคือโรงเรียนเอกชนนานาชาติ ค่าเทอมแพงอย่างน่าประหลาดใจ นักเรียนที่สามารถไปเรียนโรงเรียนแบบนั้นได้ก็ต้องรวยเอามากๆ
เสี่ยวจิ่วก็อยู่ที่โรงเรียนนั้นด้วย
ถ้าเกิดเธอไม่ข้ามชั้น ปีนี้ก็ควรเรียนอยู่มัธยมปลายชั้นปีที่สี่
หรงซื่อเหม่อมองไปที่อาคารนั้นด้วยแววตาลึกซึ้ง
ที่เลือกมาเรียนโรงเรียนนี้ นอกจากค่าเทอมจะถูกแล้ว ยังมีอีกเหตุผลที่สําคัญมากกว่านั้นก็คือสามารถได้ใกล้กับเธอขึ้น
ขณะนี้ เกิดควันฟุ้งกระจาย หรงซื่อหันกลับมาขมวดคิ้วและเปิดหน้าต่างเพื่อให้มันระบายอากาศ
พวกกลุ่มผู้ชายที่อยู่หลังห้องเรียนมองเขา และหันมาพูดใกล้หูอีกครั้งว่า "เฮ้ยลูกพี่ ที่ลูกพี่พูด ไอ้เด็กนี่มันขยะแขยงพวกเราเหรอ?"
"น่าจะใช่ โอ้ ไม่ใช่ว่ามันหล่อกว่านิดหน่อยเหรอ? สำคัญตัวเองจริงๆ เลยนะ!"
"ลูกพี่ หรือพวกเราจะจัดการกับมันสักยกหน่อย ปล่อยให้มันเห็นว่าพวกเราเก่งแค่ไหน!"
"ใช่สิ ถ้าไม่จัดการมัน สาวๆ ในห้องเราก็จะถูกแย่งไปหมด!"
พูดถึงขนาดนี้แล้ว ผู้ชายที่ถูกเรียกว่าลูกพี่ก็อดไม่ได้แล้ว หรี่ตาลงด้วยสายตาที่ดูอันตราย "คอยสังเกตจับตามอง ถ้าไอ้เด็กนี่มันล้ำเกินพวกเรา ก็ต่อยมันได้เลย!"
พวกเขาไม่ได้จงใจที่จะพูดให้เสียงเบาลง ดูเหมือนว่าต้องการที่จะให้หรงซื่อได้ยิน
คนส่วนใหญ่ที่ได้ยินเช่นนี้ พวกเขาก็จะระวังตัวกัน แต่ใบหน้าของหรงซื่อไม่มีการสะทกสะท้านอะไรเลยแม้แต่น้อย มุมปากเขากระตุกจนแทบจะมองไม่เห็น แฝงไปด้วยการเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม
คาบแรกเป็นวิชาคณิตศาสตร์ หลังจากที่ครูเข้ามา ก็ได้กลิ่นควันของบุหรี่และมองไปด้านล่างที่ผู้ชายพวกนั้น "สูบบุหรี่อีกแล้ว! พูดกี่ครั้งแล้ว ไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่ ยิ่งไปกว่านั้นคือไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่ในห้องเรียน! ถ้าอยากจะสูบก็ทำให้บนตัวไม่มีกลิ่นบุหรี่ก่อนแล้วค่อยเข้ามา! ไม่รู้เหรอกลิ่นมันเหม็น?"
ผู้ชายสองสามคนนั้นไม่ได้เอาเขามาใส่ใจ และยังพูดท้าทายอีกว่า "จารย์ กำลังสอนพวกเราเหรอ?"
"ก็ใช่ อาจารย์แบบนี้ก็ระวังหน่อยนะ เรื่องที่ไม่ควรยุ่งก็ไม่ต้องยุ่ง ไม่งั้นมีปัญหาแน่!"
บทที่ 660 เป็นผู้ชายโตเต็มตัวแล้ว
"นี่พวกเธอ" ครูโกรธมากจนพูดไม่ออก
นี่คือพวกอันธพาลไม่กี่คนในโรงเรียน เป็นเด็กที่นิสัยเสียเลี้ยงดูโดยพ่อแม่ที่ร่ำรวยเติบโตมามีคุณค่าทางศีลธรรมเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย ถ้าพวกเขาได้ขู่เข็ญแล้วก็ไม่รู้ว่าจะทำเรื่องอะไรออกมา
(二世祖 วลีนี้เป็นคำเชิงลบที่อธิบายถึงเด็กที่นิสัยเสียเลี้ยงดูโดยพ่อแม่ที่ร่ำรวยเติบโตมาโดยมีคุณค่าทางศีลธรรมเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยหรือทักษะชีวิตประจำวันที่จำเป็น)
เขาไม่อยากมีปัญหา เลยทำได้แค่ปล่อยวางไป
บรรยากาศในชั้นเรียนไม่ดีนัก มีนักเรียนไม่กี่คนในชั้นเรียนที่กําลังตั้งใจฟังครูสอน พวกผู้ชายกําลังแอบเล่นเกมและสูบบุหรี่ พวกผู้หญิงก็กำลังแต่งหน้าทาปากกัน มีทั้งแอบกินขนมในห้องเรียน ทั้งคุยเล่นโทรศัพท์กัน มักจะหันมองไปที่หรงซื่อบ่อยๆ ใบหน้าที่แดงเป็นเลือดฝาด แค่มองก็หันกลับไปอย่างเขินอาย
หรงซื่อไม่ได้สนใจ แค่ตั้งใจฟังที่ครูสอน ถึงแม้เนื้อหาทั้งหมดเขาจะไม่รู้เรื่องก็ตาม
ดูเหมือนกับว่าเขาจะแยกตัวเองอยู่ในฝาครอบกระจกใส ไม่ว่าด้านนอกจะเกิดอะไรขึ้น มันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลย
เมื่อเลิกเรียน ผู้หญิงหลายคนรวมตัวกันรอบตัวเขา เขินอายหน้าแดงเพื่อแนะนำตัวเองให้เขารู้จัก สามารถเป็นเพื่อนกันได้ไหม หรือไม่จากนี้ไปก็ขอให้เขาช่วยสอนการบ้านหน่อย
เขาโดนจู่โจมทักทายจากคนแปลกหน้าอย่างเห็นได้ชัด
หรงซื่อก็ยังคงนิ่งเงียบไม่พูด เอื้อมมือไปหยิบกระดาษที่วางอยู่ใต้โต๊ะเขียนเต็มไปด้วยคำว่า "จิ่ว" และไม่ต้องการให้พวกเธอเห็น
(酒 จิ่ว ไวน์,เหล้า)
ถึงยังงั้นก็มีผู้หญิงตาแหลมคมเห็นการเคลื่อนไหวของเขา เลยถามด้วยความสงสัยว่า "หรงซื่อ นายชอบดื่มไวน์เหรอ?" นายชอบไวน์แบบไหนเหรอ บอกฉันได้ไหม?"
"ไม่ชอบ "
"แล้วนายเขียนคําว่าไวน์ตั้งเยอะทำไมล่ะ? บอกฉันหน่อยสิ บ้านฉันมีไวน์เพียบเลยนะ ฉันเอามาให้นายได้นะ!"
"ไม่ต้อง "
สาวๆ ก็พากันถอนหายใจ นักเรียนใหม่ที่ย้ายมานี่ช่างเย็นชาจริงๆ
ยังไงก็ตามเหอะ เขาหล่อลากมากจริงๆ ว้าววว!
เพียงแค่ครึ่งวันเท่านั้น ข่าวที่มีนักเรียนมัธยมปลายชั้นปีที่หกหล่อเหลาเกินเบอร์ได้กระจายไปทั่วทั้งโรงเรียน นักเรียนหลายคนก็ถือโอกาสในช่วงเลิกเรียนพากันวิ่งมาดู
เมื่อเห็นตัวจริงแล้ว มีเพียงความรู้สึกเดียวคือน่าทึ่งมาก
หล่อจริงๆ เลย!
…
ช่วงพบค่ำ โรงเรียนมัธยมเอกชนนานาชาติ
เสียงกริ่งของโรงเรียนดังขึ้นหลังเลิกเรียนและนักเรียนพากันรีบออกจากห้องเรียน
มัธยมปลายชั้นปีที่สี่ห้อง1เป็นห้องที่ดีที่สุดของทั้งหมดในระดับชั้น ซูจิ่วกําลังเก็บกระเป๋านักเรียน จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงนักเรียนหญิงคนอื่นๆ กระซิบกัน
เรื่องนี้เธอคุ้นชินกับมันแล้ว ไม่ต้องนึกก็รู้ว่าเป็นหานซือเหย่มาแล้ว
ตั้งแต่เขาอยู่มัธยมตอนต้นก็เริ่มมารอเธอเลิกเรียนทุกวัน แม้ว่าเธอจะไม่เคยนั่งรถกับบ้านกับเขาก็ตาม เขาก็ยังคงยืนหยัด ฝนตกฟ้าผ่าอะไรก็ไม่ฟังทั้งนั้น จนเธอเหนื่อยจะพูดแล้ว
ตอนนี้ขึ้นมัธยมปลายแล้วเธอก็ยังได้อยู่โรงเรียนเดียวกับเขา เขาก็จะมารอเธอที่ห้องเรียนอยู่เสมอ ไม่รู้จะพูดอะไรแล้วกับเด็กนี้
หานซือเหย่สวมชุดนักเรียนสีเทาเข้ม สองมือล้วงกระเป๋าเดินมาแบบเท่ๆ เขาเกิดมาพร้อมกับออร่าที่แข็งแกร่งทําให้ผู้คนรู้สึกถึงความน่าเกรงขาม แถมยังเป็นนักเรียนที่มีปัญหาฉาวโฉ่ในโรงเรียนอีกด้วย
นอนในชั้นเรียน การบ้านส่งไม่ตรงเวลา แต่เขาสามารถทําข้อสอบออกมาได้ดีและพวกคุณครูก็ไม่รู้จะทำยังไงกับเขาแล้ว สำหรับนายน้อยซุปตาร์นี้คงทำได้เพียงหลับตาเมินไม่สนใจ
เพราะหน้าตาที่หล่อเหลา พวกสาวๆ ก็มีหวาดกลัวอยู่บ้าง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะแอบคอยมองเขา ทำให้หน้าแดงและใจเต้น
รู้ว่าเขามาหาซูจิ่ว พวกผู้หญิงก็พากันทั้งอิจฉาทั้งริษยาซูจิ่ว
หานซือเหย่มาถึงนอกห้องเรียน จึงใช้นิ้วเคาะไปที่หน้าต่าง เพื่อส่งสัญญาณให้ซูจิ่วซึ่งนั่งอยู่ริมหน้าต่างออกมา
ซูจิ่วเหลือบมองเขาและหยิบกระเป๋านักเรียนเดินออกไป เธอพูดกับเขาอย่างเบื่อหน่ายว่า "หานซือเหย่ นายเป็นผู้ชายโตเต็มตัวแล้วนะ ควรจะกลับบ้านด้วยตัวเองได้แล้ว ไม่ต้องมารอฉันทุกวันแบบนี้ ฉันจะไม่กลับบ้านกับนายหรอกนะ ฉันมีคนขับรถของฉัน!"