ผมอะตัวร้ายในโนเวล ตอนที่ 12
ผมอะตัวร้ายในโนเวล ตอนที่ 12
ริมถนนแยงซีมีร้านขายดอกไม้เล็กๆอยู่ร้านหนึ่ง
ร้านขายดอกไม้มีขนาดหน้าร้านเพียงสิบกว่าตารางเมตร ที่นี่มีดอกไม้นานาชนิด เช่น กุหลาบ ดอกยิปโซ ลิลลี่ และทิวลิป
ดอกไม้เหล่านี้ได้รับการดูแลอย่างดี บางดอกยังคงมีหยดน้ำเกาะบนกลีบ
แสงแดดที่ส่องผ่านประตูร้านขายดอกไม้ทำให้บรรยากาศดูสวยงามสะดุดตา
เย่เฟยมองดูร้านขายดอกไม้จากระยะไกล ขณะที่เขากำลังเดินเข้าไป เขาก็ได้ยินเสียงความโกลาหลดังออกมาจากภายในร้าน
"คนสวย เธอต้องจ่ายค่าคุ้มครองให้พวกเรา"
"ใช่แล้ว ค่าคุ้มครองสองพันหยวนต่อเดือน นี่คือกฎใหม่ของเรา!”
"ไม่มีเงินงั้นเหรอจ๊ะ? ถ้าไม่มีเงิน จะใช้ร่างกายจ่ายแทนก็ได้นะ? ฮี่ๆ"
เย่เฟยขมวดคิ้วเบาๆ ภาพที่ปรากฏขึ้นในสายตาคือพวกอันธพาลจำนวนสามคนกำลังล้อมหญิงสาวคนหนึ่งอยู่ในร้านขายดอกไม้
หญิงสาวคนนั้นนั่งอยู่บนรถเข็น ร่างกายของเธอค่อนข้างผอมบาง หน้าตาของเธอดูงดงามอย่างสมบูรณ์แบบ แม้จะไม่ได้แต่งหน้า แต่เธอก็สวยจนแทบจะลืมหายใจ
สิ่งเดียวที่น่าเสียดายก็คือ หญิงสาวกำลังนั่งอยู่บนรถเข็น
อันธพาลสามคนในร้านขายดอกไม้ยิ้มอย่างชั่วช้า ดวงตาฉายแววหื่นกระหายอย่างไม่ปิดบัง
หญิงสาวกัดริมฝีปากแน่น แม้ใบหน้าจะแดงด้วยด้วยความโกรธ ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่คิดจะยอมแพ้
หญิงสาวผู้นี้ก็คือคนที่เย่เฟยกำลังตามหา ลั่วเว่ยหยู
"ฉันขอเตือนพวกนาย ถ้าพวกนายยังก่อปัญหาอีก ฉันจะแจ้งตำรวจ!” ลั่วเว่ยหยูตะโกน
"แจ้งตำรวจงั้นเหรอ? พวกเราพี่น้องไม่กลัวหรอก”
“เหอๆ ถ้าเธอกล้าแจ้งตำรวจ พวกเราก็จะมาที่ร้านขายดอกไม้ของเธอทุกวันและทุบแม่งให้หมด มาดูกันว่าเธอยังจะกล้าเปิดร้านอีกรึเปล่า!”
ลั่วเว่ยหยูหน้าซีดเมื่อได้ยินคำขู่ของพวกอันธพาล
เย่เฟยขมวดคิ้ว เขามาเพื่อตามหาลั่วเว่ยหยู แต่ไม่คิดว่าจะได้เจอฉากนี้
เย่เฟยเดินเข้าไปในร้านขายดอกไม้ด้วยสีหน้าเฉยชาและพูดเบาๆว่า "กำลังทำอะไรกันอยู่เหรอ?"
อันธพาลทั้งสามหันหน้ามามองและเห็นชายในชุดลำลองสีขาวยืนอยู่ที่ประตูทางเข้า ผู้ชายคนนี้มีท่าทางดูสบายๆ แต่ดูก็รู้ว่าไม่ธรรมดา
ชายหนุ่มสูงยาวเข่าดี หน้าตาหล่อเหลา ดูมีชาติตระกูล
"หืม ไอ้หนูอยากจะยุ่งเรื่องชาวบ้านอย่างงั้นเหรอ?"
"ไอ้หนู ทางที่ดีแกรีบกลับบ้านไปดูดนมแม่จะดีกว่า อย่ามารบกวนผู้ใหญ่เขาคุยกัน!"
เมื่อเห็นเย่เฟย พวกอันธพาลทั้งสามก็เยาะเย้ย
เย่เฟยขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาล่ะหมดคำจะพูดกับพวกตัวประกอบแบบนี้จริงๆ
เขาโบกมือเบาๆ หลังจากนั้น ที่ด้านหลังของเขาก็มีชายร่างกำยำในชุดสูทสองคนปรากฏตัวขึ้น
"คุณชายเย่" ชายร่างกำยำสองคนเป็นบอดี้การ์ดของเย่เฟย ทั้งสองค้อมตัวให้เย่เฟยด้วยความเคารพ
"ลากพวกมันออกไป แล้วโยนลงไปในทะเลสาบของอุทยานเพื่อป้อนอาหารปลา" เย่เฟยสั่งการขณะมองดูพวกอันธพาลทั้งสาม
"ครับคุณชายเย่" บอดี้การ์ดทั้งสองตอบกลับอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงลากคออันธพาลทั้งสามออกจากร้านขายดอกไม้
อันธพาลทั้งสามไม่สามารถแม้แต่จะขัดขืนต่อหน้าบอดี้การ์ดมืออาชีพ
บอดี้การ์ดของเย่เฟยนั้นมีฝีมือเทียบได้กับทหารหน่วยรบพิเศษของกองทัพ
เสียงร้องตะโกนขอความเมตตาจากพวกอันธพาลดังเข้ามาจากนอกร้าน
การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเกินคาดคิด ลั่วเว่ยหยูยังตกตะลึงไม่หาย
เย่เฟยจัดการเหตุการณ์อย่างรวบรัด โดยการสั่งให้บอดี้การ์ดจัดการกับพวกอันธพาล คืนความสงบสุขให้กับร้านขายดอกไม้อย่างรวดเร็ว
เย่เฟยยิ้มสดใสให้ลั่วเว่ยหยู "เถ้าแก่เนี้ย ผมมาเพื่อซื้อดอกไม้ ร้านคุณยังขายดอกไม้อยู่รึเปล่า?"
ลั่วเว่ยหยูเป็นเจ้าของร้านขายดอกไม้เล็กๆแห่งนี้
ในนิยายนั้น ลั่วเว่ยหยูเป็นหญิงสาวที่มีบุคลิกร่าเริงสดใสเหมือนพระอาทิตย์
อย่างไรก็ตาม ชีวิตของเธอต้องพบเจอกับเรื่องราวร้ายๆมากมาย
เมื่อตอนที่เธอยังเป็นเด็ก รถยนต์ของครอบครัวเธอเกิดประสบอุบัติเหตุในระหว่าง
พ่อแม่ของเธอเสียชีวิตในอุบัติเหตุครั้งนั้น ส่วนลั่วเว่ยหยู แม้โชคดีที่รอดมาได้ แต่ขาของเธอก็พิการ ต้องใช้ชีวิตอยู่บนรถเข็น
แต่ลั่วเว่ยหยูเป็นหญิงสาวที่สู้ชีวิต
เธอไม่ย่อท้อหรือกล่าวโทษโชคชะตา
ลั่วเว่ยหยูรับเงินชดเชยจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ และใช้มันเปิดร้านขายดอกไม้ในถนนแยงซี ใช้ชีวิตที่เหลือด้วยความเข้มแข็งโดยการพึ่งพาตนเอง
แม้ว่าเรื่องราวของเธอจะน่าเวทนา แต่เธอก็เข้มแข็งและมองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ สดใสร่าเริงดังพระอาทิตย์ที่มอบแสงสว่างแก่ผู้คน
แม้จะเผชิญกับเรื่องร้ายต่างๆนานา แต่เธอก็ยังคงรักษาจิตใจอันดีงามเอาไว้ได้
ในนิยายนั้น ลั่วเว่ยหยูได้พบเจอและตกหลุมรักตัวเอกอย่างเฉินหลัว ในขณะที่ได้รับการรักษาขา
แต่ตอนนี้ เย่เฟยชิงปรากฏตัวตัดหน้าเฉินหลัว
เมื่อได้ยินคำถามของเย่เฟย ลั่วเว่ยหยูก็ได้สติ เธอพูดขอบคุณอย่างนุ่มนวล "ขอบคุณที่ช่วยค่ะ คุณต้องการซื้อดอกไม้ใช่มั้ยคะ? เดี๋ยวฉันจะแถมกระถางดอกไม้ให้คุณแทนการขอบคุณ"
ลั่วเว่ยหยูตระหนักได้ว่าเย่เฟยไม่ใช่คนธรรมดา อาจจะเป็นคุณชายตระกูลร่ำรวยหรือไม่ก็ดาราหนุ่ม บอดี้การ์ดของเย่เฟยเพิ่งจัดการพวกอันธพาลได้ง่ายๆ และคนเหล่านั้นก็คงจะไม่กล้ามาก่อกวนที่ร้านของเธออีก
เย่เฟยยิ้มเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ เขาตอบกลับไปว่า "กระถางดอกไม้? โอเค ผมจะรับมันไว้"
"เชิญเลือกได้เลยค่ะ" ลั่วเว่ยหยูยิ้มบาง เป็นรอยยิ้มที่ดูน่ารักสดใส
บรรยากาศรอบตัวหญิงสาวดูผ่อนคลายสบายๆ เธอเหมือนดอกบัวที่บริสุทธิ์ พาลให้ผู้คนต้องทอดถอนใจชมเชย
เธอไม่ได้รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเพราะความพิการที่ขาของเธอ และเธอก็ไม่ได้จงใจประจบเพราะตัวตนของเย่เฟย
เย่เฟยยิ้มตอบ เขากวาดตามองดูภายในร้าน แม้ว่าร้านขายดอกไม้จะเล็กไปบ้าง แต่ก็มีดอกไม้หลากหลายชนิด การตกแต่งร้านนั้นเรียบง่ายแต่ดูสะอาดตา
ลิลลี่ ทิวลิป ยิปโซฟิล่า กุหลาบ ฯลฯ
เย่เฟยเมินดอกไม้ที่มีสีสันสดใสเหล่านี้ เขาเดินไปที่ริมหน้าต่างและมองเห็นกระถางกล้วยไม้ธรรมดาๆตั้งอยู่ที่นั่น
"เอาอันนี้ก็แล้วกัน" เย่เฟยยิ้ม "ผมชอบกล้วยไม้ ผมเอากล้วยไม้กระถางนี้ไปได้ไหม?”
ลั่วเว่ยหยูตกใจเล็กน้อย เพราะกล้วยไม้ที่เย่เฟยเลือกเป็นดอกไม้ที่เธอชอบที่สุดในร้านขายดอกไม้แห่งนี้!
"คุณก็ชอบกล้วยไม้เหรอคะ?" ดวงตาของลั่วเว่ยหยูทอแววประหลาดใจ
เย่เฟยตอบอย่างอบอุ่น "ครับ แม้ว่ากล้วยไม้จะดูธรรมดา แต่ก็มีความพิเศษในตัว พวกมันไม่ได้เอาไว้ประชันความงามหรือกลิ่นหอม พวกมันสดใสบริสุทธิ์ เมื่อคุณมีกระถางกล้วยไม้ในห้องของคุณ ภายในห้องก็จะเต็มไปด้วยกลิ่นหอม ในบรรดาดอกไม้ทั้งหมด ผมชอบกล้วยไม้มากที่สุด"
ดวงตาของลั่วเว่ยหยูสว่างไสวราวกับธารน้ำใส ดวงตาฉายแววประหลาดใจยิ่งกว่าเดิม
เพราะสิ่งที่เย่เฟยพูดนั้นเหมือนกับสิ่งที่เธอคิดไม่มีผิด!
เธอชอบกล้วยไม้มาโดยตลอด และถึงกับยึดถือกล้วยไม้ที่เย่เฟยเลือกเป็นสมบัติล้ำค่า เมื่อเย่เฟยพูดเช่นนั้น เธอก็รู้สึกเหมือนได้พบพานเพื่อนสนิทที่มีความรักชอบเหมือนกัน
แน่นอน เย่เฟยย่อมทราบเนื้อเรื่องในนิยายเป็นอย่างดี เขาย่อมรู้ด้วยว่าดอกไม้ที่ลั่วเว่ยหยูชอบที่สุดก็คือกล้วยไม้