บทที่ 4 กล้าดียังไงเอากิ่งไม้ไปสู้
“มันสมกับเป็นอสูรจริงๆ” เหออี้หมิงกำลังตื่นเต้น
แม้ว่าอสูรอูฐสงครามจะไม่มีความสามารถมากนัก แต่ร่างกายของมันก็เต็มไปด้วยผิวหนังที่แข็งแกร่งซึ่งเสริมความสามารถในการป้องกันตัวของมัน โดยเฉพาะขาของมันที่หนาเป็นพิเศษ สัตว์อสูรพวกนี้แข็งแกร่งกว่ามนุษย์ที่ฝึกฝนอยู่ในระดีบเดียวกัน
มันคือสัตว์อสูรที่พลังทางกายภาพสูงมากๆ และมีพลังป้องกันที่เรียกได้ว่าเกือบจะสมบูรณ์แบบ
“ให้ตายเถอะ สัตว์ประหลาดตัวนี้ทำไมดูอันตรายนักนะ”
“ไอตุ๊ดเอ้ย ฉันฆ่ามอนส์เตอมานับไม่ถ้วน ตัวนี้มันก็ง่ายเหมือนปลอกกล้วย”
“ฉันเคยเล่น Monster Hunter 7 มาก่อนมีมอนสเตอร์ชื่อ เหลาชางหลง อยู่ในนั้น มันมีอายุสั้นเมื่อต้องเจอคู่ต่อสู้อย่างฉัน สัตว์ตัวนี้เหรอ ชิวเหมือนเดินเล่นในสวนสาธารณะอยู่เลย”
ผู้เล่นบางคนกลัวจรหน้าซีดด้วยความตกใจ แต่คนอื่นๆส่วนใหญ่เหมือนจะไม่ได้ใส่ใจ
หลังจากเล่นเกม VR มามากมาย สัตว์และปีศาจส่วนใหญ่ก็พยายามจะเข้ามาขู่เหมือนๆกัน
เหออี้หมิงรู้ว่าผู้เล่นของเขาทั้งหมดอยู่ในขั้นแรกของหลอมรวมกายาขั้นแรก พวกเขาไม่มีทางชนะอสูรตัวนี้ได้
“สาวกทั้งหลาย ถอยออกไป” สัตว์อสูรตัวนี้ชื่อ อสูรอูฐสงคราม มันมีขอบเขตพลังอยู่ในขั้นชีพจรวิญญาณ มันไม่ใช่สิ่งที่พวกเจ้าจะสามารถเอาชนะได้ในตอนนี้”
เหออี้หมิงตะโกนออกไปด้วยเสียงดัง
จากนั้นเขาก็ก้าวไปข้างหน้าเพื่อโจมตี
“เอาละนะ”
อย่างไรก็ตามมีผู้เล่นคนหนึ่งที่ เขาเอาไม้ที่หยิบขึ้นมากวัดแกว่งเปรียบเสมือนว่ามันเป็นดาบ และพุ่งทยานไปข้างหน้าทันที
ผู้นำนิกายอย่างเหออี้หมิงได้แต่ยืนงงกับการกระทำของเขาผู้นั้น
ผู้ล่นคนนี้มีชื่อว่าก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ไปเอาความกล้าบ้าๆแบบนั้นมาจากไหนกันนะ
นี่คือสัตว์อสูรในขั้นชีพจรวิญญาณ กล้าดียังไงถึงไปสู้กับมันด้วยเพียงกิ่งไม้
“อะไรกัน? ชายคนนั้นพยายามจะเล่นตลกอยู่เหรอ? ผู้เล่นทุกคนกำลังตลึง”
“บ้าเอ้ย กลยุทธ์อยู่ที่ไหน? แล้วแผนล่ะ?”
“แค่สุ่มสี่สุ่มห้าเข้าไปเหรอ?”
เมื่ออสูรอูฐสงครามเห็นก๋วยเตี๋ยวเนื้อกำลังพุ่งหน้าไปหามัน มันก็ยกเท้าหน้าทั้งสองข้างขึ้น
“ระวังให้ดีนะ มันกำลังจะใช้ War Hunchback Stomp!” เหออี้หมิงตะโกนพร้อมกับถอยหลังกลับเพื่ออยู่ให้ห่างจากอสูร
และแล้วก็มีมนุษย์ที่กำลังสาธิตการโดนท่า War Hunchback Stomp จากอสูรอูฐสงคราม
ในเวลาต่ออสูรได้ใช้เท้าคู่หน้าที่แข็งแกร่งของมันกระทืบลงบนพื้นอย่างรุนแรง ซึ่งทำให้เกิดคลื่นช็อคบนพื้นดินในระยะกว่าสิบเมตรรอบตัวมัน
อันที่จริงผู้เล่นที่ยืนห่างออกไปสี่สิบถึงห้าสิบเมตรยังสัมผัสได้ถึงแรงสะเทือนร่างกายของผู้เล่นสั่นไหว ขาสั่นสะท้าน และเกือบสูญเสียการทรงตัว
“การกระทืบเท้าของสัตว์อสูรจะทำให้ศัตรูของมัน ทรงตัวไม่อยู่ และมันจะใช้ประโยชน์จากจุดนี้เพื่อเข้าโจมตีและเอาชนะศัตรูของมันเพียงครั้งเดียว” เหออี้หมิงกล่าว
และเกือบจะในเวลาเดียวกัน
“อ๊าก~” ก๋วยเตี๋ยวเนื้อล้มลงกับพื้น ดวงตาของสัตว์อสูรจ้องมาที่เขา มันยกเท้าหลังขึ้นมา
“ปัง !” เสียงการโจมตีของมัน และดีดก๋วยเตี๋ยวเนื้อขึ้นไปกลางอากาศ
“บ้าไปแล้ว เจาสัตว์ตัวนี้มันต้องบ้าแน่ๆ”
“เขาถูกฆ่าตายทันที เห็นไหม ถูกฆ่า!”
"บ้าจริง! นี่ไม่เหมือนกับโหมดเริ่มต้นของเกมเลย หรือถ้าใช่มันต้องอยู่โหมดความยากระดับนรกแล้ว”
“ตายแบบนั้นมันดูปัญญาอ่อนจริงๆ”
ผู้เล่นคนอื่นต่างสบถ และตื่นตระหนกกับภาพที่พึ่งได้เห็น
“???”
“อะไรกัน”
ติงห่าว กำลังอยู่ในพื้นที่การเข้าสุ่ระบบ และเขากำลังตกใจในสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่
“ยินดีต้อนรับผู้เล่น ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ”
“เนื่องจากตัวละครของคุณตาย ขอแนะนำให้คุณเริ่มต้นใหม่”
เสียงระบบดังขึ้น และติงห่าวเข้าใจได้ในทันที
“ไอเกมไร้สาระนี่มันห่วยจริงๆ”
อะไรกัน! สัตว์ประหลาดโง่ๆ สามารถฆ่าฉันได้เพียงโจมตีในครั้งเดียวเหรอ
ก๋วยเตี๋ยวเนื้อถ่มน้ำลายออกมา
“อสูรอูฐสงคราม มันมีเพียงท่าเดียวเท่านั้น นั่นคือ War Hunchback Stomp มันใช้ความเร็วและความแข็งแกร่งในการเอาชนะศตรูของมัน” เหออี้หมิงพูดและก้าวไปข้างหน้าพร้อมๆกัน
เขารู้ว่าผู้เล่นไม่สามารถเอาชนะเจ้าสัตว์อสูรได้ แต่เขาพยายามที่จะอธิบายเพื่อเพิ่มโอกาศให้เหล่าผู้เล่น
เหออี้หมิงไม่พูดพร่ำทำเพลงและเริ่มเปิดขอบเขตพลังชีพจรวิญญาณ และพุ่งตรงไปหาอสูรอูฐสงครามโดยตรง
“กาก้า!” เสียงร้องของมันดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อมันเห็นมนุษย์อีกคนกำลังตรงไปหามัน
และมันเริ่มวิ่งเข้าหาเหออี้หมิงเช่นกัน
เหออี้หมิงกระทืบเท้าและกระโดดขึ้นไปในอากาศ เพื่อหลบการโจมตีของเจ้าสัตว์อสูร
อสูรอูฐสงคราม ยกเท้าคู่หน้าขึ้นสูง และโน้มตัวเอาเท้ากระแทกพื้นโดยแรงมหาศาล ทำให้พื้นเป็นหลุมกว้างและลึกกว่าสองเมตร
บูม~!
แรงระเบิดสั่นสะเทือนไปทั่วพื้นที่ทำให้ผู้เล่นเท้าไม่ติดพื้นอีกครั้ง
“รุนแรงเกินไปแล้ว”
“พี่หมิงไปทำอะไรให้มันโกรธกันแน่”
“ชู่วววว อย่าพูดเยอะมันอาจจะเป็นคัตซีนของเกมก็ได้ เดี๋ยวพี่หมิงก็ชนะแล้ว”
ผู้เล่นเริ่มมุงดูการต่อสู้ครั้งนี้ด้วยความตั้งใจ
“ผิวหนังของอสูรอูฐสงครามนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมากและเกือบจะเรียกได้ว่าไร้จุดอ่อนเลยทีเดียว มีเพียงจุดเล็กๆที่หน้าท้องส่วนล่างของมันที่ไม่มีอะไรปกป้องไว้” เหออี้หมิงกำลังหลบเท้าของอสูรที่ตรงเข้ามาหาพร้อมกับอธิบายด้วยเสียงที่ราบรื่น
การต่อสู้ครั้งนี้ดุเดือดมากๆ
เหออี้หมิงชกไปที่หัวของเจ้าสัตว์อสูร มันกรีดร้องออกมาและมีเลือดกระเด็นออกมาจากปากของมัน แต่นี่ก็ไม่ได้ทำให้มันบาดเจ็บอะไรเลย แต่กลับกันยิ่งกระตุ้นความโกรธของมันให้เพิ่มขึ้นไปอีก
ความเร็วของอสูรอูฐสงครามเพิ่มขึ้น รวมทั้งพลังการโจมตีที่เริ่มหนักหน่วงจนเหออี้หมิงสัมผัสความเปลี่ยนแปลงได้
“นี่มันเร็วขึ้นหรือเปล่า มีใครสังเกตุเห็นเหมือนข้าบ้าง” ผู้เล่นบางคนพูดขึ้นมา
ทันใดนั้นเหออี้หมิงยกมือขวาขึ้นมา ชี้สองนิ้วไปที่สัตว์อสูร “ไลท์นิ่ง สไตรค์” สายฟ้ากระจุกอยู่ที่ปลายนิ้วอยู่ชั่วครู่และพุ่งผ่านอากาศไปที่สัตว์อสูร
สัตว์ร้ายส่งเสียงร้องออกมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันทำท่าเจ็บปวด และด้วยผลของวิชาไลท์นิ่ง สไตรค์ทำให้มันขยับตัวไม่ได้
เหออี้หมิงใช้จังหวะนี้รีบวิ่งเข้าไปหามัน รวบรวมพลังชีพจรวิาญญาณทั้งหมดไปที่มือขวา
เขาวิ่งเข้าไปเตะที่ใบหน้ามันอีกหนึ่งครั้ง หลังจากเสียงร้องที่น่าเวทนาของมันจบลง ร่างกายของมันเริ่มสูญเสียสมดุลเผยให้เห็นจุดอ่อนที่เหออี้หมิงรอมานาน
เหออี้หมิงใช้ช่องว่างเล็กๆนี้ ฟันมือที่เต็มไปด้วยพลังวิญญาณเข้าที่ช่องท้องของสัตว์ร้าย
“พ็าฟ”
เสียงมือผ่านอวัยวะต่างๆของอสูรอูฐวิญญาณ เลือดและอวัยวะของมันถูกพ่นออกมา
นี่เป็นการโจมตีที่อันตรายมากๆ