ตอนที่แล้วบทที่ 2 88 ผู้เล่น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 4 กล้าดียังไงเอากิ่งไม้ไปสู้

บทที่ 3 อย่าพูด, พี่หมิงกำลังจริงจังนะ!


“ยินดีต้อนรับ”

“ข้าคือผู้นำนิกายหยานหวง เหออี้หมิง”

“นิกายหยานหวงเคยรุ่งเรืองมาก แต่น่าเสียดายที่เวลาเหล่านั้นได้ผ่านมานานแล้ว ตอนนี้นิกายกำลังตกอยู่ในห้วงหุบเขาลึกจนไม่สามารถเห็นเดือนเห็นตะวันได้

“แต่วันนี้ ข้า เหออี้หมิง สาบานที่จะนำนิกายหยานหวงกลับสู่แสงตะวันอีกครั้ง”

“พวกเจ้าเต็มใจที่จะเข้าร่วมเป็นสาวกของนิกายหยานหวงหรือไม่ เข้าเส้นทางแห่งการฝึกฝน เราจะมาสร้างนิกายที่ทรงพลังที่สุดไปด้วยกัน”

เหออี้หมิงพูดอย่างใจเย็น จากนั้นเขาก็เริ่มทำตามแผนที่ถูกแนะนำด้วยระบบและมอบสัญญาที่ถูกเตรียมไว้

หน้าจอขนาดใหญ่ปรากฏตรงหน้าของผู้เล่นทุกคน

“การท้าทายของอสูรสวรรค์ : Virtual Online Game contract”

สัญญาเต็มไปด้วยเงื่อนไขที่ไม่ยุติธรรมกับผู้เล่นอย่างมาก เช่นการค้นพบและผลประโยชน์ทั้งหมดที่ผู้เล่นได้รับในเกมจะถูกส่งไปยังนิกาย ในทางกลับกันพวกเขาจะได้รับรางวัลสำหรับการมีส่วนร่วมในนิกาย

พวกเขาไม่สามารถทรยศ ต่อต้าน ผู้นำนิกายได้ ถ้าเกิดการขัดต่อสัญญาตัวพวกเขาจะระเบิด มีบทความและอนุประโยคมากกว่าหนึ่งร้อยข้อ ซึ่งทั้งหมดมีความยาวและซับซ้อนมาก

“อะไรกันเนี่ย สัญญาพวกนี้ยาวมากๆ”

“ทำไมคำว่าระเบิดมันเยอะจัง”

“ฉันไม่สนใจหรอก ฉันยังไม่จบการศึกษาระดับประถมด้วยซ้ำ ฉันอ่านมันไม่ออกด้วยซ้ำ”

ผู้เล่นหลายคนยอมแพ้ที่จะอ่านมันหลังจากอ่านไปได้เพียงไม่กี่บรรทัด พวกเขาเพียงแค่กดยอมรับเพื่อให้มันผ่านๆไป

F*ck มันยาวเกินไป

ติงห่าว ID : ก๋วยเตี๋ยวเนื้อไม่ได้พยายามที่จะอ่านด้วยซ้ำ

เขาเลื่อนข้อความไปที่ด้านล่างสุดของสัญญา และกดยอมรับ

ทุกคนยอมที่จะกดตกลงโดยไม่อ่านสัญญาเพื่อที่จะได้เริ่มเกมนี้

ในไม่ช้า ผู้เล่นทั้ง 88 คนก็กดยอมรับ สัญญาก็แล้วเสร็จ

หมายความว่าตอนนี้ผู้เล่นทั้ง 88 คนได้กลายเป็นสาวกนิกายกลุ่มแรกของเหออี้หมิงอย่างเป็นทางการ

“ขอแสดงความยินดีที่เสร็จสิ้นภารกิจ การประเมินภารกิจ : S”

“รางวัลภารกิจ: ยาวิญญาณขั้นสูง”

“ยาวิญญาณชั้นสูง: อัตรา 100% ในการเข้าสู่ขอบเขตพลังชีพจรวิญญาณ!”

หลังจากระบบแจ้ง เหออี้หมิงก็รู้สึกดีใจที่ได้รางวัลภารกิจอันนี้

ไม่ว่ายังไง ในที่สุดเขาก็มีสาวก และเขายังได้รางวัลเป็นยาวิญญาณขั้นสูง

เหออี้หมิงติดอยู่ที่ขั้นสิบของการหลอมรวมกายามานานมากแล้ว เขาเองถือว่ามีระดับการฝึกฝนสูงที่สุดในเหล่าหมู่มนุษย์ด้วยกัน

อย่างไรก็ตามราคาของยาวิญญาณขั้นสูงมีราคาที่เหออี้หมิงเองก็ยังไม่สามารถซื้อได้อยู่แล้วนี่จึงเป็นรางวัลที่มีค่ามากสำหรับเขา

ตั้งแต่ตัวระบบถูกเปิดใช้งาน ก็มีแต่สิ่งดีๆเกิดขึ้น

เหออี้หมิงไม่ลังเล เขากินยาเข้าไปในคำเดียว และบุกเข้าไปในขอบเขตของพลังชีพจรวิญญาณ

เหออี้หมิงรู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อได้สัมผัสถึงพลังวิญญาณไหลผ่านเข้ามาในร่างกายจนล้นออกมา ซึ่งมีความแข็งแกร่งกว่าขอบเขตการหลอมกายาหลายสิบเท่า

ขอบเขตพลังชีพจรวิญญาณนั้นมีความหมายว่าตัวผู้ถือครองได้เข้าสู่เส้นทางแห่งการฝึกฝนที่แท้จริง

เมื่อเขาอยู่ที่ขอบเขตของพลังหลอมรวมกายาเขามีพลังทางวิญญาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้นในร่างกาย เขาต้องพึ่งพากำลังจากร่างกายเพียงอย่างเดียว

การเข้าสู่ขอบเขตพลังชีพจรวิญญาณหมายความว่าเขาจะมีพลังในการใช้เครื่องมือด้วยจิตวิญญาณ และการปลดปล่อยคาถา และเทคนิคการใช้ต่างๆที่เพิ่มมากขึ้นเช่น

สามารถควบคุมดาบให้ขึ้นไปในอากาศได้ในระยะเวลาสั้นๆ

ขณะที่เหออี้หมิงกำลังเพลิดเพลินกับการเข้าสู่ขอบเขตของพลัง ผู้เล่นต่างๆ ก็กำลังซุกซนกันอย่างสนุกสนาน

ผู้เล่นพากันวิ่งไปมา ผู้เล่นบางคนกำลังวิ่งออกไปไกลจนสุดสายตา และบางคนกล้าหาญวิ่งมุ่งหน้าไปเพื่อแตะตัวหัวหน้านิกายของเขา

แม้แต่ชายที่มีชื่อตัวละครว่า ก๋วยเตี๋ยวเนื้อต้องการยื่นมืออกไปแตะในส่วนที่ต้องห้าม

“หัวหน้านิกายจะกรี๊ดออกมาไหมนะถ้าข้าไปแตะตรงนั้น”

ก๋วยเตี๋ยวเนื้ออยากรู้อยากเห็นมาก

เหออี้หมิงตกใจ แล้วเขาก็ทำท่าทางจริงจัง

เหออี้หมิงใช้ความคิดเพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของเหล่าสาวก เนื่องจากการทำสัญญาได้เสร็จสมบูรณ์ เขาจึงสามารถจำกัดการเคลื่อนไหวของเหล่าสาวกได้ทุกเมื่อที่ต้องการ

“ว้าว!! ตอนนี้ฉันขยับไม่ได้แล้ว นี่กำลังจะเริ่มเข้าคัตซีนใช่ไหม”

“จุ๊ จุ๊ จุ๊ …… อย่าส่งเสียงดังสิ”

“พี่หมิงกำลังจริงจังนะ อย่าทำเป็นเล่นกันสิ”

“แม้ว่าผู้เล่นบางคนจะยังหัวเราะอยู่ แต่พวกเขาก็เงียบลงหลังจากนั้น”

“ติ้ง !!”

“มีภารกิจใหม่”

เหออี้หมิงกำลังจะได้ภารกิจใหม่จากระบบ

“กำจัดสัตว์อสูรทั้งหมดที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับนิกาย”

“เป้าหมาย : อสูรอูฐสงคราม 100 ตัว”

“จำกัดเวลา: 3 วัน”

“ระยะเวลาที่ทำภารกิจสำเร็จจะส่งผลต่อการประเมินภารกิจ ยิ่งผลการประเมินสูง รางวัลจะยิ่งสูงขึ้น”

“คำแนะนำ : โฮสต์สามารถมอบหมายภารกิจให้กับสาวกได้ ภารกิจสามารถแบ่งออกเป็นภารกิจย่อย 100 ภารกิจ เพื่อให้สาวกของคุณทำสำเร็จ”

“เหออี้หมิงตกตะลึงหลังจากได้ได้ยินภารกิจจากระบบ”

แม้ว่าระบบจะปล่อยภารกิจมาให้ใหม่ แต่เขาสามารถแยกย่อยภารกิจและส่งมอบให้เหล่าสาวกของเขาได้ ก็เปรียบได้กับให้ผู้เล่นเหล่านี้ทำงานให้เขา มันค่อนข้างดีเลยทีเดียว

แต่…

อสูรอูฐสงคราม? ในขอบเขตพลังชีพจรวิญญาณ สำหรับเหล่าสาวก พวกเขาแทบจะไม่มีทางชนะเลย

เขาเองพึ่งจะเข้ามาถึงขอบเขตพลังชีพจรวิญญาณขั้นแรก แต่ตอนนี้เขาจะต้องฆ่า อสูรอูฐสงคราม ซึ่งขอบเขตพลังของมันน่าจะอยู่ใกล้เคียงกับเหออี้หมิง นี่ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย

เหออี้หมิงเองก็กลัวว่าสาวกของเขาจะตายเพราะภารกิจนี้กันจนหมด

เขาใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง ยากแค่ไหนก็ต้องลองดูมันไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว

“ลูกศิษย์ทุกคน”

“วันนี้ข้าจะพาพวกเจ้าลงจากภูเขาแห่งนี้ เพื่อขยายขอบเขตของนิกาย”

“ตามข้ามา” เหออี้หมิงพูดอย่างเยือกเย็นและเดินนำไปที่บรรไดทางขึ้นของโถงนิกาย

“บัดซบ เรากำลังจะปลดล็อคแผนที่ใหม่”

“ฮู้~ พวกเรากำลังจะลงจากภูเขา”

“นี่เรากำลังจะไปต่อสู้กับมอนสเตอร์หรือเปล่านะ”

“ข้าจะไปฆ่ามอนสเตอร์ให้หมดเลย”

“เดี๋ยวก่อนนะ นี่เรากำลังจะไปสู้กับมอนสเตอร์ด้วยมือเปล่าอย่างงั้นเหรอ”

“ตามพี่หมิงไปก่อนเถอะ”

ผู้เล่นทุกคนกำลังตื่นเต้นกับการออกจากโถงนิกาย พวกเขาเดินลงบันได้ที่ลัดเลาะไปกับภูเขา และในที่สุดก็ถึงเชิงเขา

ที่เชิงเขาเต็มไปด้วยวัชพืชและไม่เลื้อยเล็กๆเต็มไปหมด ไม่มีแม้แต่ทางเดิน เห็นได้ชัดว่าสถานที่นี้ไม่มีผู้คนมาเยือนมาเป็นเวลานานมากแล้ว

ทันใดนั้น พุ่มไม้ที่อยู่ใกล้ก็เริ่มสั่นไหว

“มันกำลังมา” เหออี้หมิงพูดขึ้น พร้อมทำท่าตั้งรับไปที่พุ่มไม้นั้น

กาก้า!

หลังจากเสียงร้องที่ฟังดูแปลกๆ ร่างใหญ่โตที่สูงกว่าสี่เมตรก็ทะลุโพรงต้นไม้ออกมา ดวงตาคู่โตกวาดมองผู้เล่นด้วยความหิวโหย

มันมีผิวสีน้ำตาลที่ดูเหมือนเกล็ด สี่ขายาว และปากใหญ่โตคลุมด้วยฟันแหลมคม

มันดูเหมือนม้า แต่ขาทั้งสี่ของมันมีพละกำลังพอๆกับขาช้างเลยทีเดียว

ฟันที่แหลมคมของมันสามารถกัดและกินคนทั้งตัวได้ในคำเดียว

สัตว์ตัวนี้ดุร้ายมาก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด