SWO ตอนที่ 40 ซูหลิงตกอยู่ในอันตราย
ครืด!
หลังจากที่โจวเฮาฆ่าหมูป่างาได้สำเร็จ อีกตัวก็ถูกปล่อยออกจากกรงเหล็ก ดวงตาสีแดงก่ำของมันทำให้ผู้พบเห็นใจสั่น
แม้ภายนอกของโจวเฮาจะดูกังวล แต่จริง ๆ แล้วภายในนั้นยังคงสงบเช่นเคย เวลานี้เขากำลังคิดหาทางจัดการสัตว์กลายพันธุ์ตัวที่สองนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สามารถแกล้งทำเป็นโชคดีได้อีกต่อไป
มิเช่นนั้นมันจะก่อความสงสัยได้ง่าย
“ดูเหมือนข้าต้องต่อสู้กับมันแบบตัวต่อตัว และแสดงความสามารถในการต่อสู้ของข้า” หลังจากตัดสินใจอย่างลับๆ เขาก็ขยับร่างกายเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ที่จะมาถึง
อย่างไรก็ตามเวลานี้หมูป่างาทางด้านซ้ายที่กำลังพัวพันกับซูหลิงอยู่ได้ปะทุขึ้นพร้อมกลิ่นอายที่ดุร้าย
ราวกับเปลี่ยนร่าง ร่างกายของหมูป่างาเวลานี้ได้เพิ่มขึ้นหลายเมตรภายในเวลาเพียงไม่กี่วินาที
"แย่แล้ว! หมูป่างาตัวนั้นกำลังจะทะลวงผ่าน!”
ทุกคนบนแท่นสูงรวมทั้งผู้ชมยืนขึ้นทันที
สีหน้าของซูหลิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เธอไม่ได้ตื่นตระหนก แม้หมูป่างาจะทะลวงผ่านไปอีกขั้นได้ แต่มันก็ยังไม่ถึงระดับนักรบอสูรขั้นต่ำอยู่ดี ด้วยเหตุนี้ซูหลิงที่เกือบถึงจุดสูงสุดของแก่นโลหิตขั้นสามจึงมากเกินพอสำหรับจัดการกับมัน
ด้วยกระบี่ในมือ เธอรีบถอยห่างจากหมูป่างาอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงของหมูป่างายังคงดำเนินต่อไป!!
บูม!
ร่างกายของหมูป่างาเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง งาทั้งสองของมันทวีคูณเป็นสี่ แทงออกจากปากของมันเหมือนคมมีด
ดวงตาสีแดงแปรเปลี่ยนเป็นสีเลือด ขณะที่ผิวหนังตึงขึ้นพร้อมขนทั่วร่างที่งอกออกมาอย่างบ้าคลั่ง
มันมีกระทั่งเขายื่นออกมาจากหน้าผากของมัน
นักรบอสูรขั้นกลาง!
มันกลายร่างเป็นนักรบอสูรขั้นกลาง หมูป่างาเขาเดียว!!
ความแข็งแกร่งของมันเวลานี้เกินขอบเขตที่ซูหลิงจะจัดการได้ไปแล้ว!
นักเรียนส่วนใหญ่ในกลุ่มผู้ชมกรีดร้อง เด็กผู้หญิงบางคนถึงกับปิดตา
"ลูกข้า!" ซูเจิ้งกั๋วตะโกนอย่างกระวนกระวาย เขาอยากรีบกระโดดลงไปเพื่อช่วยบุตรสาวของเขา
อย่างไรก็ตามได้มีร่างหนึ่งได้ปิดกั้นซูเจิ้งกั๋วไว้
เป็นเสิ่นจิง!
ดวงตาของซูเจิ้งกั๋วแดงก่ำ “อาจารย์เสิ่น นั่นคือลูกสาวของข้า!”
เสิ่นจิงกล่าวอย่างเรียบเฉย “ทำไม? เจ้าคิดว่าข้าไม่สามารถจัดการนักรบอสูรขั้นกลางอย่างมันได้?
ในที่สุดซูเจิ้งกั๋วก็ได้สติ และตระหนักว่าชายที่อยู่ตรงหน้าเขาเป็นถึงปรมาจารย์ขั้นสูง
“อาจารย์ หรือว่าจะ…” เขากลับมาใจเย็นอีกครั้ง
"ถูกต้อง ข้าเป็นคนสั่งลงไปเอง“เสิ่นจิงเหลือบมองผู้นำคนอื่น ๆ”พวกเจ้าจะตื่นตระหนกไปทำไม? นั่งลงแล้วดูต่อเถอะ เฉพาะเมื่อมีวิกฤตถึงชีวิตเท่านั้นคนเราจึงจะแสดงศักยภาพแท้จริงออกมา”
เหล่าผู้นำ และผู้ปกครองถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ที่แท้มันก็ถูกจัดโดยอาจารย์เสิ่น
“อาจารย์เสิ่นพูดถูก มีเพียงการเผชิญกับวิกฤตครั้งใหญ่เท่านั้นคนเราจึงจะสามารถฝ่าฟัน และแข็งแกร่งขึ้นได้!”
“ผู้อำนวยการซู ดูเหมือนอาจารย์เสิ่นจะให้ความสำคัญกับลูกสาวของท่านมาก!”
ซูเจิ้งกั๋วกล่าวอย่างเชื่องช้า “อาจารย์ ตอนนี้…”
เสิ่นจิงโบกมือ "ข้าเข้าใจ"
ขณะที่พวกเขากำลังคุยกัน ที่สนามฝึก เวลานี้ใบหน้าของซูหลิงเปลี่ยนเป็นซีดเผือด เมื่อต้องเผชิญกับหมูป่างาเขาเดียวที่กลายเป็นนักรบอสูรขั้นกลาง เธอทำได้เพียงพึ่งพาการป้องกันจากชุดเกราะ และพยายามหลบหลีกอย่างเร่งรีบเท่านั้น
อีกด้านหนึ่งโจวเฮาอดขมวดคิ้วไม่ได้เมื่อเห็นสิ่งนี้
หมูป่างาตัวอื่นยังปกติดี มีเพียงตัวที่ซูหลิงเผชิญเท่านั้นที่เปลี่ยนไป ยิ่งไปกว่านั้น มันถึงกับเปลี่ยนจากสัตว์กลายพันธุ์ขั้นต่ำไปเป็นนักรบอสูรขั้นกลาง
เขามั่นใจว่าต้องมีคนวางแผนเรื่องนี้ไว้
“ดูเหมือนมีบางคนพยายามบังคับให้ข้าเปิดเผยความแข็งแกร่งอีกครั้ง!” โจวเฮายิ้มอย่างขมขื่น เขาตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าเกิดอะไรขึ้น
คงเป็นพวกผู้นำโรงเรียนที่ต้องการยืนยันว่าใครเป็นอัจฉริยะไร้เปรียบ แต่พวกเขาถึงกับใช้วิธีที่โหดร้ายเช่นนี้…
ครืด!
โจวเฮาครุ่นคิดขณะจัดการกับการโจมตีที่บ้าคลั่งของหมูป่างาได้อย่างง่ายดาย พร้อมกันนั้นเขายังจับตาดูสถานการณ์ของซูหลิงอยู่ตลอด
ในเวลาเพียงห้าถึงหกวินาทีซูหลิงก็ตกอยู่ในอันตราย หมูป่างาเขาเดียวส่งเธอบินออกไปหลายครั้ง จนเกราะมาตรฐานของเธอรับไม่ไหวอีกต่อไป
ผู้ฝึกยุทธที่อยู่รายล้อมอดถามคนสั่งการไม่ได้ว่าควรลงมือหรือไม่
อย่างไรก็ตามเสิ่นจิงยังคงบอกให้พวกเขารอก่อน
บูม!
เกิดการปะทะกันอย่างรุนแรง
ซูหลิงกระเด็นไปอีกครั้ง และกระแทกเข้ากับราว พร้อมทั้งมีเลือดไหลจากมุมปากของเธอ
ซูเจิ้งกั๋วที่เฝ้าดูจากด้านบนรู้สึกปวดใจ แต่เขาฝืนแรงกระตุ้นนั้น และทำได้เพียงตะโกนในใจอย่างเงียบ ๆ “พยายามเข้า!”
โจวเฮาหลบหมูป่างาที่กำลังพุ่งเข้าใส่ และมองไปที่ซูหลิงก่อนแอบส่ายหัวอย่าลับ ๆ
ซูหลิงไม่ใช่คนประเภทที่สามารถแข็งแกร่งขึ้นได้ในยามวิกฤต หากเธอเป็นเช่นนั้น เธอคงจะทะลวงผ่านไปนานแล้วเมื่อเผชิญหน้ากับหมาป่ายักษ์จำนวนมากในพื้นที่รกร้าง
เขารู้เรื่องนี้ดี
“ดูเหมือนข้าต้องลงมือ!”
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาจึงใส่แรงไปที่เท้าส่งกรวดก้อนเล็ก ๆ เด้งไปทางนั้นด้วยความเร็วที่น่าสะพรึง มันได้เจาะทะลุกระดูกต้นขาของหมูป่างาเขาเดียวทันที
บูม!
หมูป่างาเขาเดียวที่พุ่งเข้าหาซูหลิงเซ และล้มลงกับพื้น
ซูหลิงตกตะลึง
นักเรียนจำนวนนับไม่ถ้วนในกลุ่มผู้ชมตกตะลึงไม่แพ้กัน
เวลานี้ไม่ว่าจะเป็นผู้นำหรือผู้ปกครองของนักเรียน ดวงตาของพวกเขาต่างเบิกกว้าง
ซูเจิ้งกั๋วถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาคิดว่าเป็นหนึ่งในผู้ฝึกยุทธที่เคลื่อนไหว
ดวงตาของเสิ่นจิงเป็นประกายขึ้นมาทันที เขากวาดสายตาไปยังนักเรียนอีก 4 คนที่เข้าร่วมพร้อมซูหลิง
"เจ้ากำลังรออะไรอยู่? ใช้โอกาสนี้จัดการมันซะ!!” ผู้ฝึกยุทธที่ยืนอยู่ไม่ไกลอดทนไม่ไหว และตะโกนใส่ซูหลิงด้วยความหงุดหงิด
ในที่สุดซูหลิงก็กลับมารู้สึกตัว เธอรีบก้าวไปข้างหน้า และฟันเข้าที่คอของหมูป่างาเขาเดียวด้วยกระบี่ในมือ
พัฟ
หัวหมูป่างาเขาเดียวที่ดุร้ายถูกตัดออก
"เยี่ยม!"
"ลงมือได้สวย!"
“ซูหลิงจะเก่งเกินไปแล้ว!”
ภาพตรงหน้าทำให้นักเรียนนับไม่ถ้วนร้องออกมาอย่างตื่นเต้น!
หลายคนตะโกนเชียร์ซูหลิง ท้ายที่สุดนี่คือนักรบอสูรขั้นกลาง ซูหลิงถึงกับสามารถจัดการมันได้!
เสิ่นจิงยิ้ม
เป้าหมายที่แท้จริงของการประเมินการต่อสู้ครั้งนี้บรรลุผลแล้ว ที่เหลือก็แค่ต้องพิจารณาว่าใครเป็นอัจฉริยะไร้เปรียบคนนั้น!
“เอาล่ะ จบการแข่งนี้ได้แล้ว!” เขาพูดใส่หูฟัง
ฟุบ! ฟุบ!
ผู้ฝึกยุทธที่อยู่ใกล้ๆ จัดการฆ่าหมูป่างาที่เหลือทันที
เสิ่นจิงก้าวมาข้างหน้า และกล่าวช้า ๆ “เนื่องจากสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด การประเมินการต่อสู้จะสิ้นสุดลงแค่นี้!”
สิ้นเสียงของเขาหลายคนก็ตกตะลึง
กลับกัน นักเรียนที่เข้าร่วมซึ่งมีศักยภาพติดยี่สิบอันดับแรกเริ่มตื่นเต้น
คลื่น!
เมื่อทุกคนคิดว่าการประเมินสิ้นสุดลง พื้นที่ของสนามฝึกก็สั่นสะเทือน....