STY-ตอนที่ 27 ปรับแต่งหุ่นเชิด!
ขณะที่ศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขากล่าวเสร็จ นางก็เริ่มโจมตีเย่เฉินทันที
ในช่วงเวลาของการฝึกฝนในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ ศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขามักจะมาท้าทาย เย่เฉิน ในทุกวัน
แต่ทุกครั้ง ชัยชนะก็ตกเป็นของ เย่เฉิน
ขณะที่ ศิษย์พี่เหยาเหยา โจมตีใส่เย่เฉิน รัศมีพลังศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งก็ได้ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของ เย่เฉิน
เย่เฉิน ได้ยื่นมือออกมาเบา ๆ และ ป้องกันการโจมตีของ ศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขา
เย่เฉิน เป็นผู้เชี่ยวชาญในอาณาจักรมหายาน แน่นอนว่าเขาจะไม่มีทางลงมือจริงจังเมื่อต้องฝึกซ้อมต่อสู้กับศิษย์พี่ของเขา แต่เขาพยายามจะให้คำแนะนำกับศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขา อนึ่งจะต้องรู้ว่า ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของศิษย์พี่หญิงเจ็ดได้เชื่อมต่อกับความจริงที่ว่านางได้รับคำแนะนำจาก เย่เฉิน ผ่านการต่อสู้ในทุกวัน
ทุกครั้งที่ เย่เฉิน ต่อสู้กับนาง เขามักจะแอบมอบคำแนะนำให้กับ ศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขาอย่างลับๆ
ตอนนี้ ศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขาเกือบจะอยู่ยงคงกระพันในหมู่ผู้ที่อยู่ในระดับเดียวกันในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์แล้ว
ศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขาได้โจมตีใส่ เย่เฉิน อย่างต่อเนื่อง
เย่เฉิน เพียงแค่เคลื่อนไหวเบา ๆ ไม่ว่าศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขาจะโจมตีเขามามากแค่ไหน นางก็ไม่สามารถแตะต้องตัวของเขาได้
“ไอ้บ้า แน่จริงอย่าหนีสิ!”
ศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขาได้ตะโกนออกมาและกระโจนเข้าหา เย่เฉิน อีกครั้ง
“งั้นก็ได้!”
เย่เฉิน ได้ยืนนิ่ง
ในขณะนี้ ศิษย์พี่หญิงเจ็ดที่คิดว่า เย่เฉิน จะพยายามหลบหนี ทันใดนั้น นางก็เดินซัดโซเซตกลงไปในพื้นที่
“ระวังหน่อยสิ!”
เย่เฉิน ได้ก้าวขึ้นไปบนบันไดเมฆและปรากฏตัวที่ด้านหน้าศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขาในทันที
เขาได้โอบกอดศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขาไว้ในอ้อมแขนของเขา
“เจ้าคนไร้ยางอาย!”ศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขาขมวดคิ้วแน่นและรีบผละออกจากอ้อมแขนของ เย่เฉิน
ใบหน้าของนางได้เปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อยขณะที่นางมองไปที่ เย่เฉิน อย่างเขินอาย
จากนั้น ศิษย์พี่หญิงเจ็ดก็มองไปที่เย่เฉินด้วบใบหน้าที่ภาคภูมิใจและกล่าวพูดออกมา “เย่เฉิน ครั้งหน้าข้าจะเอาชนะเจ้าให้ได้!”
หลังจากพูดเสร็จ ศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขาก็จากไป
ตอนนี้ไม่ว่าจะสถานะใด เย่เฉิน ล้วนอยู่เหนือกว่าศิษย์พี่หญิงของเขาทั้งหมด ดังนั้นพวกนางจึงแทบจะไม่สามารถสอนอะไรให้เขาได้อีกแล้ว
แต่ตรงกันข้าม มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ เย่เฉิน สามารถสอนพวกนางได้
เย่เฉิน ได้ลงชื่อเข้าใช้และได้รับเทคนิคบ่มเพาะพลัง เช่นเดียวกับประสบการณ์การฝึกฝนจำนวนมาก แต่เขาไม่ได้บอกเรื่องเหล่านี้กับศิษย์พี่หญิงของเขา
เกี่ยวกับโอสถหรืออะไรก็ตามที่เขาใช้ไม่ได้ เย่เฉิน ก็มักจะหาโอกาสมอบมันให้กับศิษย์พี่หญิงของเขา
หลังจากที่ ศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขาจากไป
เย่เฉิน ก็รู้สึกเบื่อเล็กน้อย
เขาจำได้ว่าเขาไม่ได้ไปเยี่ยมศิษย์พี่หญิงสี่เป็นเวลานานเลย
ดังนั้น เย่เฉิน จึงได้ลุกขึ้นและเดินไปที่ถ้ำของศิษย์พี่หญิงสี่
เขาได้เดินมาถึงที่ด้านหน้าถ้ำอย่างรวดเร็ว
จากนั้นเขาก็เคาะประตู
“นั่นใคร?”เยว่หลิงซือ ได้กล่าวถาม
“ข้าเอง เฉินน้อย!”เย่เฉิน ได้ตอบกลับ
“โอ้!”
ในเวลานี้ ศิษย์พี่หญิงสี่ของเขาก็ค่อย ๆ มาเปิดประตู
เย่เฉิน มองไปที่ ศิษย์พี่หญิงสี่ของเขาด้วยความตกใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
เห็นได้ชัดว่าศิษย์พี่หญิงสี่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเขา ร่างกายของนางเปียกชุ่มไปด้วยน้ำ ดูเหมือนว่า ศิษย์พี่หญิงสี่ของเขากำลังอาบน้ำอยู่ และ นางไม่ได้เช็ดตัวให้แห้งก่อนที่จะมาเปิดประตู
แม้ว่า ศิษย์พี่หญิงสี่ของเขาจะเป็นคนที่ไร้เดียงสา แต่นี่มันก็มากเกินไป!
“ศิษย์พี่หญิงสี่ นี่ท่าน…”เย่เฉิน ชี้ไปที่ เรือนร่างของ ศิษย์พี่ของเขาและกล่าวถาม
“พอดีข้ากำลังอาบน้ำอยู่”ศิษย์พี่หญิงสี่ของเขาได้ตอบกลับ
แม้ว่า เย่เฉิน จะได้เห็นเรือนร่างของศิษย์พี่หญิงสี่ของเขาหลายครั้ง แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นเรือนร่างที่งดงามที่เพิ่งผ่านการอาบน้ำมาแบบนี้
ด้วยหยดน้ำที่เกาะอยู่บนผิวกายที่เปรียบเสมือนหยกของนาง อีกทั้งยังมีผมยาวสีดำที่พาดลงมาบนแผ่นหลัง
นางคล้ายกับดอกบัวที่เพิ่งโผล่ขึ้นมาเหนือผิวน้ำ ใครเห็นต่างก็คงรู้สึกชื่นชอบมัน
ใบหน้าของ เย่เฉิน แดงขึ้นเล็กน้อย และ เขารีบผลักศิษย์พี่หญิงสี่ของเขาเข้าไปข้างใน
“ศิษย์พี่หญิงสี่ เหตุใดก่อนที่ท่านจะมาเปิดประตูถึงไม่ใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อน? รีบเข้าไปเช็ดตัวให้แห้งเถอะ เดี๋ยวจะเป็นไข้เอา!”เย่เฉิน ได้กล่าวขณะเดิน
“นั่นก็เพราะว่าเป็น เฉินน้อย ข้าถึงได้มาเปิดประตู”ศิษย์พี่หญิงสี่ของเขาได้กล่าวพูดอย่างใจเย็น
“แล้วถ้าไม่ใช่ข้าล่ะ?”เย่เฉิน ได้กล่าวถามอย่างอับอาย
“ถ้าไม่ใช่เฉินน้อย ข้าก็คงไม่เปิดประตู เพราะถ้าเป็นเฉินน้อยก็คงไม่เป็นไร”ศิษย์พี่หญิงสี่ของเขาได้ตอบกลับ
อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้มีคำเปลี่ยนแปลงในคำพูดของนาง
“เพียงแต่ ถ้ามีบุรุษคนอื่นมาเห็นเรือนร่างของข้า ข้าจะควักตาพวกเขาออกมาซะ!”ศิษย์พี่หญิงสี่ ได้กล่าวเสริมอย่างรวดเร็ว
เย่เฉิน ได้นิ่งเงียบ
เขาได้ผลักศิษย์พี่หญิงสี่ของเขาเข้าไปในห้อง แล้วโยนผ้าเช็ดตัวให้กับนาง
“รีบเช็ดตัวให้แห้ง ไม่งั้นท่านจะเป็นไข้เอาได้!”
“เฉินน้อย ช่วยเช็ดหลังให้หน่อย ข้าแตะหลังของตัวเองไม่ได้”ศิษย์พี่หญิงสี่ ได้มองไปที่ เย่เฉิน และ กล่าวออกมา
เย่เฉิน ได้นิ่งเงียบไปอีกครั้ง
…
เย่เฉิน ได้ช่วย ศิษย์พี่หญิงสี่ของเขาเช็ดตัวให้แห้ง ซึ่งในระหว่างนี้ ศิษย์พี่หญิงสี่ของเขาก็ไม่ได้มีท่าทีที่เปลี่ยนไปอะไรแม้แต่น้อย นั่นก็เพราะ เย่เฉิน เคยเห็นเรือนร่างของนางมาหลายครั้งแล้ว ดังนั้นนางจึงไม่ได้สนใจ
จากนั้น นางก็เริ่มเปลี่ยนเสื้อผ้าต่อหน้า เย่เฉิน
“เฉินน้อย เจ้ามาหาข้ามีธุระอันใดงั้นเหรอ?”
“ศิษย์พี่หญิงสี่ ข้าต้องการที่จะปรับแต่งหุ่นเชิด!”ในขณะนี้ เย่เฉิน ได้กล่าวออกมา
“ปรับแต่งหุ่นเชิด?”เยว่หลิงซือ ได้มองไปที่ เย่เฉิน
ศิษย์พี่หญิงสี่ของเขาเป็นช่างฝีมือระดับปรมาจารย์ก็จริง แต่ข้อกำหนดในการปรับแต่งหุ่นเชิดก็เข้มงวดมาก มันจำเป็นจะต้องมีวัสดุที่จำเป็นนอกจากนี้ยังไม่อนุญาติให้ใช้วัสดุทั่วไป ทุกสิ่งที่ใช้จำเป็นจะต้องเป็นวัสดุคุณภาพสูง และ เนื่องจากข้อจำกัดทางด้านวัสดุ ศิษย์พี่หญิงสี่ของเขาจึงไม่เคยสอน เย่เฉิน ปรับแต่งหุ่นเชิด มาก่อน
อย่างไรก็ตาม เย่เฉิน ได้ลงชื่อเข้าใช้และได้รับวัสดุมาจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับการปรับแต่งหุ่นเชิด ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่า ตอนนี้ เย่เฉิน จะเป็น ปรมาจารย์ยุทธ์และเป็นอาจารย์อาของประมุขนิกาย แต่เขาก็ไม่สะดวกที่จะเปิดเผยตัวตน ดังนั้น ถ้าเขามีหุ่นเชิด เขาก็สามารถปล่อยให้มันทำหน้าที่ต่าง ๆ แทนเขาได้
“การปรับแต่งหุ่นเชิดจำเป็นจะต้องใช้วัสดุคุณภาพสูงจำนวนมาก มันค่อนข้างน่าเสียดาย ที่ข้าไม่มีพวกมันในเวลานี้”ศิษย์พี่หญิงสี่ของเขาได้กล่าวอย่างตรงไปตรงมา
เย่เฉินยิ้มและตอบกลับ “ข้าจะหาทางเกี่ยวกับการได้รับวัสดุเหล่านั้นมาเอง สิ่งที่ข้าต้องการก็คือการเรียนรู้วิธีการปรับแต่งหุ่นเชิดจากท่าน”
ในเวลานี้ ศิษย์พี่หญิงสี่ของเขาก็ยิ้มออกมาโดยนางได้เดินไปหยิบหนังสือ 2-3 เล่มมาจากชั้นหนังสือแล้วยื่นให้กับ เย่เฉิน
“กระบวนการปรับแต่งหุ่นเชิดมีลักษณะคล้ายกับการปรุงยาและปรับแต่งอาวุธ ซึ่งระดับการปรุงยาของเจ้าก็อยู่เกินกว่าระดับของข้าไปแล้ว ดังนั้น การปรับแต่งหุ่นเชิด จึงไม่น่าจะใช่เรื่องยากสำหรับเจ้า โดย หนังสือ 2 เล่มนี้ ได้บันทึกวิธีการปรับแต่งหุ่นเชิดเอาไว้ ลองเอาไปดูสิ”เยว่หลิงซือได้ยื่นหนังสือให้กับเย่เฉิน