Ep.203 - เอ็งเข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่า?
1/4
Ep.203 - เอ็งเข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่า?
ฮังอวี่เก็บมอนสเตอร์มดยักษ์
“เจ้าหมา!”
“หยุดเล่นได้แล้ว!”
“ถึงตานายออกโรงแล้ว!”
บนใบหน้าของเหล่าหัวหน้าสกายเน็ตต่างปรากฏเครื่องหมายคำถาม?
วินาทีถัดมา พร้อมกับเสียงหอนเบาๆ สัตว์สี่ขาในสภาพเชิดหัว ดูสูงส่งเต็มไปด้วยจิตวิญญาณถูกเรียกตัวออกมาโดยฮังอวี่ เมื่อมองเห็นรูปร่างของมันชัดๆ เหล่าสกายเน็ตต้องตกตะลึงอีกครั้ง
นี่ไม่ใช่ฮัสกี้หรอกหรอ?
แต่ถึงงั้นก็เถอะ ไม่เคยเห็นฮัสกี้แบบนี้มาก่อนเลย
สีขนบนตัวมันชัดเจน สีขาวเกลี้ยงเกลาราวหิมะ สีดำเข้มสนิทดูลึกล้ำ หูแหลมปากยาว ตาสีดำม่านตาสีฟ้า ให้ความรู้สึกเหมือนมนุษย์ ขณะนี้มันกำลังโพสท่ายิ่งใหญ่ราวกับหมาป่า
เจ้าหมอนี่บ้าไปแล้วหรือ?
ทำสัญญากับมดยักษ์ก็ว่าไปอย่าง เพราะยังไงซะพวกมันยังเป็นมอนสเตอร์
แต่นี่กระทั่งฮัสกี้ก็ยังถูกทำสัญญาสัตว์วิญญาณ?
“นี่มันบ้าไปแล้ว!” ซุนเฉาเซิ่งอดไม่ไหว “สหาย ถ้านายมีสัญญาสัตว์วิญญาณเหลือใช้ นายเอามาขายให้พวกเราก็ได้!”
“ฮ่ง เจ้ามนุษย์โง่ มองไม่เห็นถึงสติปัญญาอันหลักแหลมของสุนัข”
หมาหวังเอ๋อเอ่ยปาก
ฝูงชนตะลึงงันอีกครั้ง
ฮัสกี้พูดได้?
แล้วสายตาดูแคลนที่มองไปยังซุนเฉาเซิ่งนั่นมันอะไรกัน?
ทุกท่านคงพอจินตนาการได้ ถึงภาพของตัวตลกฮัสกี้ที่กำลังใช้สายตาเหมือนกำลังมองคนที่ปัญญาอ่อนยิ่งกว่าตัวเอง
ฮังอวี่กระแอมเบาๆ “อย่าเอะอะไป หมาของผมไม่ใช่หมาธรรมดา มันคือผู้ช่วยที่เก่งที่สุด หลังจากนี้พวกเราต้องให้มันช่วย”
“ฮ่ง ใช่แล้ว เปิ่นหวังคือลูกน้องหมายเลขหนึ่งของเจ้านาย!” ฮัสกี้ได้ยินฮังอวี่พูดอย่างนั้น เห็นได้ชัดว่ามันมีความสุขมาก หางหมุนเป็นใบพัด “ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้านายเรียกตัวออกมา เปิ่นหวังไม่มีทางปรากฏตัวมาช่วยพวกไก่อ่อนเด็ดขาด!”
ถึงจะพูดภาษาคนได้
แต่เอ็งมันก็แค่ฮัสกี้ไม่ใช่หรอ!
คำพูดอวดดีที่เหมือนตัวเองเหนือกว่าคนอื่นนั่นมันอะไรกัน?
ทุกคนในที่นี้ล้วนมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าทีม ไม่ก็รองหัวหน้าทีมสกายเน็ตขึ้นไปทั้งนั้น การถูกหมาเรียกว่าไก่อ่อนนี่มัน ...
แต่ถ้าให้พูดตามตรง
ที่หวังเอ๋อกล้าเอ่ยวาจาใหญ่โตเช่นนั้นมันก็ไม่ผิดซะทีเดียว
เพราะแม้สุนัขจะไม่ใช่สัตว์วิญญาณสายโจมตี มันไม่ได้ทรงพลังเป็นพิเศษในแง่การต่อสู้ แต่อย่างน้อยหวังเอ๋อในตอนนี้ก็เป็นถึงชนชั้นยอดขั้นโกลด์เลเวล 4
หากให้สู้กันตัวต่อตัว
มีโอกาสเก้าในสิบส่วนที่หัวหน้าเหล่านี้จะถูกฮัสกี้อัดหมอบลงกับพื้น!
“หวังเอ๋อ เลิกทำเป็นเล่นได้แล้ว ตรวจสอบพื้นที่รอบๆและค้นหาภัยคุกคามซะ!”
“ฮ่ง รับทราบเจ้านาย จากเรดาร์ของเปิ่นหวัง พบว่ามีมอนสเตอร์มากมายอยู่ใกล้ๆ” ฮัสกี้ใช้พรสวรรค์ของมันทันที ยืดคอแล้วดมกลิ่น “ตำแหน่งที่ใกล้ที่สุดอยู่ห่างออกไป 100 เมตร พวกมันมีทั้งหมด 6 ตัว เป็นชนชั้นยอด 2 ตัว และทุกตัวอยู่ในเลเวล 5”
ทุกคนตกใจ
ฮัสกี้ไม่ใช่แค่พูดได้
แต่ยังมีความสามารถในการตรวจจับพลังรบด้วยอย่างนั้นหรือ?
ไม่เพียงสามารถระบุจำนวนและระยะทางของมอนสเตอร์เท่านั้น แต่มันยังรับรู้ถึงระดับความแข็งแกร่งและเลเวลได้อีกด้วย
ถึงสัตว์วิญญาณของพี่ยอดฝีมือจะแปลกๆ แต่ดูเหมือนว่าทุกตัวจะมีความสามารถที่พิเศษ!
กลุ่มคนเริ่มดำเนินการทันที
ฮังอวี่ล็อคเป้าทั้ง 6 ตัว ค่อยๆย่องเข้าไปใกล้
มี 4 ตัวเป็นพลรบมนุษย์ปลา และอีก 2 ตัวเป็นมนุษย์ปลานักรบ
มันไม่ง่ายที่จะรับมือ พลังรบโดยเฉลี่ยของมนุษย์ปลาในหมู่บ้านนั้นแข็งแกร่งมาก หากทุ่มเต็มกำลัง ฮังอวี่สามารถจัดการกับศัตรูเบื้องหน้าทั้งหมดได้ด้วยตัวเองก็จริง
แต่หากทำแบบนั้น มันอาจเอะอะเกินไป
ที่นี่คือข้างในรังมนุษย์ปลา หากเอะอะเกินไปหากโดนปิดล้อมเอาได้
ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน ควรใช้ประโยชน์จากจำนวนคนที่มากกว่าเป็นหลัก
แม้พลังรบของเหล่าหัวหน้าสกายเน็ตเหล่านี้จะไม่เข้าตาฮังอวี่เท่าไหร่นัก แต่ในบรรดาหัวหน้านับสิบคน มี 4 - 5 คนครอบครองสกิลเช่น สะกดจิต หลับลึก เงียบงัน ใบ้ ฯลฯ
คนสิบกว่าคน + หวังเอ๋อ + ฮังอวี่
กลุ่มมนุษย์ปลาเล็กๆไหนเลยจะรับมือไหว?
ผู้ใช้วิญญาณในทีม หนึ่งในนั้นใช้สกิลสายหน่วงเหนี่ยว ทำให้พวกมันไม่สามารถตอบโต้ได้
เหล่าสหายนักเวทย์ในทีมรับช่วงต่อ แต่ละคนปล่อยสกิลที่ไม่ส่งเสียงดังออกมาพร้อมกัน
พลรบมนุษย์ปลา 4 ตัวล้มลง ยังเหลือมนุษย์ปลานักรบที่แข็งแกร่งอีกสองตัว
ฮังอวี่นำหน้านักรบในทีมเข้าสังหารพวกมัน ซุนเฉาเซิ่งตามเขาไปติดๆ เพียงสองสามกระบวนท่า มนุษย์ปลานักรบก็ตายลง ตลอดกระบวนการใช้เวลาทั้งสิ้น 20 วินาที ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใดๆ
“ดีมาก”
“ไปกันต่อ!”
ฮังอวี่นำคนอื่นๆไล่กวาดล้างศัตรูภายในรังมนุษย์ปลา
หมู่บ้านเจียงซินมีขนาดไม่เล็ก นอกจากอาคารทรุดโทรมที่มนุษย์ทิ้งไว้แล้ว ยังมีอาคารที่สร้างจากทรายและหินจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีการจัดวางต่างๆเช่น บ่อน้ำ สระน้ำใหญ่ สถานที่แห่งนี้ ในวันปกติคงเต็มไปด้วยมนุษย์ปลา
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสกายเน็ตกำลังบุกโจมตีเจียงซินโจว
ตอนนี้มนุษย์ปลาส่วนใหญ่จึงถูกส่งออกไป
ดังนั้นหมู่บ้านเจียงซินจึงค่อนข้างว่างเปล่า การป้องกันภายในและพลลาดตระเวนหละหลวม ไม่ดีเท่าบนกำแพงทรายหน้าทางเข้าหมู่บ้าน ซึ่งทำให้ฮังอวี่และคนอื่นๆมีโอกาสใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ และด้วยความช่วยเหลือของหวังเอ๋อ หมอกที่บดบังสายตาจึงไม่กลายเป็นอุปสรรคอีกต่อไป สามารถค้นหาตำแหน่งของพวกมนุษย์ปลาได้อย่างง่ายดาย ต่อให้พวกมันซ่อนตัวอยู่ภายในสิ่งปลูกสร้างก็ไร้ประโยชน์
ด้วยความร่วมมือของทุกคน
พวกเขาสามารถกำจัดกลุ่ม มนุษย์ปลา 5-6 กลุ่มได้โดยไม่มีผิดพลาดใดๆ
มนุษย์ปลาตนอื่นๆยังไม่ตระหนักว่ามีผู้บุกรุก
“ดูนั่น!”
“นั่นคืออะไร?”
ทุกคนพบว่าหลังจากมุ่งหน้าลึกเข้ามาในหมู่บ้านเจียงซินแล้ว หมอกค่อยๆจางลง การมองเห็นกว้างขึ้น
หัวหน้าสกายเน็ตหลายคนค้นพบว่าในเวลานี้ มีสิ่งปลูกสร้างที่มีลักษณะพิเศษหลายแห่งตั้งตระหง่านอยู่ภายในหมู่บ้านเจียงซิน
มันเป็นสิ่งปลูกสร้างที่มีความสูงประมาณ 6 เมตร เหมือนปล่องไฟขนาดใหญ่ ด้านบนมีปล่อยควันสีขาวออกมาอย่างต่อเนื่อง ควันสีขาวกระจายไปทุกทิศทาง เมื่อไกลออกไปก็ก่อตัวเป็นหมอกหนา ปกคลุมไปทั่วทั้งเจียงซินโจว
“ที่แท้หมอกหนาก็เกิดจากหอคอยแปลกๆพวกนี้”
“หมอกหนาเป็นฝีมือของพวกมนุษย์ปลาจริงๆด้วย!”
ในที่สุด ทุกคนก็ค้นพบผู้ร้ายที่อยู่เบื้องหลังหมอกหนาในเจียงซินโจว
หมอกหนาปกคลุมเจียงซินโจว สิ่งนี้ไม่เพียงปิดกั้นการมองเห็น แต่ยังช่วยเป็นที่กำบังแก่มนุษย์ปลา ทำให้โจมตีพวกมันได้ยากขึ้น และขณะเดียวกันก็คอยรบกวนพลังงานวิญญาณต่างๆ ตัดขาดการเชื่อมต่อทั้งหมดของพลรบสกายเน็ต
หากมนุษย์ปลาสูญเสียหมอกที่ใช้กำบังไป
ภายใต้การบุกโจมตีของสกายเน็ต พวกมันคงไม่สามารถต้านทานได้อีกต่อไป!
สีหน้าของฮังอวี่เคร่งขรึม “ผมคิดว่าตราบใดที่หอคอยพวกนี้ถูกทำลาย หมอกหนาที่อยู่รอบๆจะหายไป นั่นจะช่วยให้พวกเราเกิดการบาดเจ็บล้มตายน้อยลงมาก สามารถเร่งการต่อสู้นี้ให้จบเร็วขึ้นได้”
“ยอดเยี่ยม นี่เป็นโอกาสดีที่จะได้รับเครดิต!” ซุนเฉาเซิ่งกล่าวอย่างตื่นเต้น “แล้วยังมัวรออะไรอยู่ ไปทำลายพวกมันกัน!”
แต่ฮังอวี่เอ่ยขัดขึ้นว่า “อย่าพึ่งดีใจไป มันไม่ง่ายอย่างนั้น”
“ใช่ ลองดูดีๆสิ” เหลียงตงพยักหน้าและกล่าว “มีทั้งหมดสามหอคอย พวกมันตั้งอยู่ในตำแหน่งต่างกัน นั่นหมายความว่าตราบใดที่โจมตีหอคอยใดหอคอยหนึ่ง ตำแหน่งของพวกเราจะถูกเปิดโปง เมื่อพวกมนุษย์ปลาเข้าปิดล้อม คงยากที่จะทำลายหอคอยที่เหลืออีกสองแห่ง”
“ฮ่ง ไม่ใช่แค่นั้น เปิ่นหวังยังพบว่ามีกลิ่นอายที่ทรงพลังมากอยู่ตรงกลางด้านหน้า คิดว่าคงเป็นผู้นำของมนุษย์ปลาพวกนี้” หวังเอ๋อกล่าวขึ้นในเวลานี้ว่า “ไม่ใช่เปิ่นหวังดูถูกทุกคน แต่ด้วยพลังรบของพวกนายในตอนนี้ ไม่มีทางเอาชนะเจ้านั่นได้ 100%”
ฝูงชนแตกตื่นตกใจ
ผู้นำมนุษย์ปลา?
แถมยังทรงพลังขนาดนั้น!?
ทุกคนเห็นกับตาตัวเองแล้วว่าหวังเอ๋อทำอะไรได้บ้าง ดังนั้นไม่เคลือบแคลงสงสัยจากคำกล่าวนี้
เหลียงชิวกล่าวอย่างหดหู่ว่า “งั้นพวกเราควรทำยังไงดี?”
ฮังอวี่เอ่ยขึ้น “อืม ในเมื่อมาถึงขั้นนี้ งั้นก็เหลือทางเดียว”
หวงเหยียนรีบถาม “ทางไหน?”
“พวกคุณแยกกันเป็นสามกลุ่ม ทำลายหอคอยสร้างหมอกให้ได้ก่อนที่พวกมนุษย์ปลาจะตอบสนอง” ฮังอวี่หยุดพักหนึ่งก่อนกล่าวต่อ “ส่วนผม ผมจะไปที่ศูนย์กลางของหมู่บ้านคนเดียวเพื่อขวางผู้นำมนุษย์ปลากับลูกน้องมนุษย์ปลาตัวอื่นๆ”
เหล่าหัวหน้าสกายเน็ตตกใจ
ซุนเฉาเซิ่งกล่าวขึ้น “ฉันยอมรับว่านายแข็งแกร่งมาก แต่นายคนเดียวต้องดึงดูดความสนใจจากมนุษย์ปลาจำนวนมาก แถมยังต้องรับมือกับผู้นำมนุษย์ปลาอีก แบบนี้มันไม่ต่างอะไรกับการส่งตัวเองไปตาย!”
กระทั่งเหลียงตงยังเข้ามาเกลี้ยกล่อม “ฉันก็คิดว่ามันอันตรายเกินไป ควรจะมีวิธีอื่นอีกสิ!”
เหลียงชิวพยักหน้า “นายไม่เหมือนพวกเรา ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงขนาดนั้น”
“อย่าพูดไร้สาระ ตอนนี้เจียงซินโจวถูกปกคลุมไปด้วยหมอกหนา กองกำลังหลักข้างนอกกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก อาจมีผู้บาดเจ็บล้มตายได้ตลอดเวลา!” ฮังอวี่กล่าวด้วยน้ำเสียงห้ามปฏิเสธ “แยกย้ายกันได้แล้ว ไปลงมือเดี๋ยวนี้!”
วีรบุรุษ!
ชายผู้นี้คือวีรบุรุษขนานแท้!
เขากำลังใช้ชีวิตของตัวเองเป็นโล่กำบังแก่ทุกคน!
ซุนเฉาเซิ่งนิ่งงันไป
เขารู้สึกผิดมากที่ก่อนหน้านี้ประเมินอีกฝ่ายต่ำไป
“ไม่มีอะไรต้องพูดกันอีกแล้ว ตราบใดที่นายสามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัย ฉันจะถือว่านายคือพี่น้องของพวกเรา สกายเน็ตติดหนี้นายก้อนใหญ่” หวงเหยียนรู้สึกตื้นตัน เขาประสานมือคำนับฮังอวี่
สกายเน็ตคนอื่นๆก็ยืดตัวตรงและคำนับเขาเช่นกัน
ทุกคนต่างแสดงท่าทีราวกับกำลังอำลาผู้พลีชีพ!
เชี่ยเถอะ!
ไอ้พวกนี้
พวกเอ็งเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า?
บิดาจะยอมไปตายได้อย่างไร?
ถ้าทุกคนยังตัวติดกัน แล้วฉันจะโด้สมบัติข้างในได้ยังไง? ถ้าทุกคนยังอยู่ใกล้ๆ งั้นเสี่ยวไป๋ก็ออกมาไม่ได้น่ะสิ!