ผมอะตัวร้ายในโนเวล ตอนที่ 11
ผมอะตัวร้ายในโนเวล ตอนที่ 11
เขารู้สึกได้ถึงความร้อนที่ไหลเวียนไปตามร่างก่อนจะไหลไปตามแขนขา
เย่เฟยรู้สึกสบายไปทั่วร่างอย่างอธิบายไม่ถูก ราวกับเขาได้เกิดใหม่
"ฟู่!"
ในเวลาเดียวกัน เย่เฟยรู้สึกเหมือนกับมีข้อมูลและวิธีการต่อสู้จำนวนมากถูกถ่ายเทเข้ามาในหัวของเขาโดยตรง
ความรู้และเทคนนิคต่างๆนั้นกับเกิดมาพร้อมกับร่างกายของเขา มันฝังแนบแน่นอยู่ในความทรงจำ ทำให้เขาสามารถควบคุมร่างกายออกท่าทางได้อย่างไหลลื่น
[เตือนด้วยความหวังดี ระดับทักษะการต่อสู้ในปัจจุบันของโฮสต์เทียบเท่าตัวเอกเฉินหลัวแล้ว] เสียงระบบดังขึ้นแจ้งเตือน
เมื่อได้ทราบดังนั้น ในใจของเย่เฟยก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมา
ทักษะการต่อสู้ของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าเฉินหลัวแล้ว ไม่ว่าในด้านทักษะการแพทย์หรือว่าทักษะต่อสู้ เขาก็ไม่ได้ด้อยกว่าเป้าหมาย
เย่เฟยยังเหลือค่าประสบการณ์อีกหกร้อยแต้ม เทียบได้ค่าสถานะจำนวน 60 แต้ม
ค่าสถานะปัจจับนของเย่เฟยเป็นดังนี้
-----------------------------------------------
โฮสต์: [เย่เฟย]
ค่าประสบการณ์: [600]
ทรัพย์สินส่วนตัว: [7.3 พันล้าน]
พละกำลัง: [150]
ความคล่องตัว: [140]
ปัญญา: [135]
เสน่ห์: [150]
โชค: [100]
เพิ่มเติม: (ค่ามาตราฐานสำหรับผู้ใหญ่โตเต็มวัย คือ 100)
-----------------------------------------------
หลังจากเพิ่มระดับทักษะต่อสู้เป็นระดับสูง พละกำลังและความคล่องตัวของเย่เฟยก็กลายเป็น 150 และ 140 ตามลำดับ
"ขอถามหน่อยสิ มีวิธีไหนบ้างที่จะเพิ่มระดับได้เร็วๆ" เย่เฟยถาม
เขายังคงไม่พอใจกับสถานะที่มีอยู่
[มีวิธีอยู่ โฮสต์สามารถแลกเปลี่ยนระดับทักษะและค่าสถานะได้ด้วยเงิน โดยใช้เงิน 100 ล้านหยวน สามารถยกระดับทักษะของโฮสต์ขึ้นไปเป็นระดับสูงได้ด้วยเงิน 300 ล้านหยวน นอกจากนี้ หากค่าความชำนาญของทักษะตรงตามข้อกำหนด โฮสต์ก็สามารถอัพเกรดทักษะเป็นระดับปรมาจารย์ได้โดยตรง] เสียงระบบดังตอบกลับมา
"......"
เย่เฟยรู้สึกจนคำพูดเมื่อได้ฟัง
นี่มันไม่ต่างอะไรกับการเติมเกมเลยนี่หว่า!
ถึงจะบ่นอยู่ในใจ แต่เย่เฟยก็รู้สึกการเพิ่มระดับนี้นับว่าคุ้มค่า
ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ได้ขาดแคลนเงินทองอยู่แล้ว
ตอนนี้ เย่เฟยมีทรัพย์สินมากกว่า 7 พันล้านหยวน และเงินทุนในมือของเขาก็อยู่ที่ประมาณ 500 ล้านหยวน
อย่างไรเสีย สินทรัพย์และเงินทุนนั้นเป็นสองแนวคิดที่ต่างกัน สินทรัพย์นั้นรวมถึงอสังหาริมทรัพย์ มูลค่าการตลาด มูลค่าของหุ้น และสินทรัพย์อื่นๆ แต่เงินทุนนั้นเป็นอีกเรื่อง
500 ล้านหยวน เพียงพอที่เย่เฟยจะใช้เพิ่มระดับทักษะของเขา
"แล้วแต้มคุณสมบัติล่ะ?" เย่เฟยถามต่อ
[1 แต้มจะใช้ 1 ล้านหยวน]
"ไอ้ระบบใจจืดใจดำเอ๊ย!"
หลังจากบ่นเบาๆ เขาก็ยังไม่รีบร้อนใช้เงิน เอาไว้ค่อยใช้เมื่อถึงคราวจำเป็นก็แล้วกัน
"ฉันยังมีค่าประสบการณ์อยู่อีก 600 แต้มสินะ? ลงทั้งหมดไปที่เสน่ห์" เย่เฟยระบุอย่างหนักแน่น
[ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่ประสบความสำเร็จในการเพิ่มค่าสถานะ ค่าเสน่ห์เพิ่มขึ้น 60 แต้ม ค่าเสน่ห์ในปัจจุบันของคุณอยู่ที่ 210 แต้ม ระดับเสน่ห์คือ (เป็นมิตรน่าคบหา) ] ระบบแจ้งเตือน
เย่เฟยเปิดหน้าต่างสถานะขึ้นดู ที่ค่าเสน่ห์มีตัวอักษรขนาดเล็กๆระบุเอาไว้ว่า (เป็นมิตรน่าคบหา) ที่ด้านล่างยังมีคำอธิบายเอาไว้ว่า
[โฮสต์มีค่าเสน่ห์เกิน 200 แต้ม มีเสน่ห์ดึงดูดใจ ง่ายที่จะทำให้คนที่พบเจอรู้สึกประทับใจโฮสต์]
ฟังดูดีทีเดียว แต่เย่เฟยนั้นสงสัยว่ามันจะทำงานยังไง
หลังจากที่เพิ่มค่าสถานะเสร็จ เขาก็กลับไปที่วิลล่าของตระกูลเย่
เย่เฟยไม่ได้อยู่ในวิลล่าของตระกูลเย่บ่อยนัก เหตุผลก็คือ เขาเป็นเจ้าของวิลล่าหลายหลังในเหยียนจิง และมีแม้กระทั่งคฤหาสน์ส่วนตัว
เย่เฟยเข้าบ้าน เอ่ยทักทายพ่อแม่ จากนั้นจึงค่อยเดินทางไปที่บริษัทฮุยหวงเอนเตอร์เทนเมนท์
เขาเริ่มทำการตรวจสอบบัญชีการเงินของบริษัท และพบว่ามีเงินสดอยู่ราว 500 ล้านหยวนจริงๆ
เพื่อที่จะรับมือกับตัวเอกที่สามารถพัฒนาขึ้นได้เรื่อยๆอย่างเฉินหลัว เงินแค่ 500 ล้านหยวนอาจจะยังไม่พอ
"ดูเหมือนจะมีแค่ทางเดียว นั่นคือขอเงินพ่อแม่ ไม่อย่างนั้นเสียทีที่เป็นคุณชายเจ้าสำราญแล้ว" เย่เฟยพูดขณะผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องแต่งตัว
เย่เฟยไม่คิดว่าการขอเงินจากพ่อแม่จะเป็นเรื่องน่าอายอะไร
ไม่อย่างนั้นเขาก็สามารถหาเงินด้วยตัวเอง
...................................
เวลาไม่เคยรอท่า ผ่านไปแล้วอีกหนึ่งวัน
อีกเพียงแค่สองวันเท่านั้นก่อนที่ตัวเอกอย่างเฉินหลัวจะปรากฏตัว
ไม่ง่ายเลยที่จะแย่งชิงโชคชะตาของตัวเอกอย่างเฉินหลัว
ถึงอย่างไร เฉินหลัวก็มีรัศมีของตัวเอก และเขาก็ไม่ควรจะประมาท
อย่างไรก็ดี เย่เฟยมีความคุ้นเคยกับเนื้อเรื่องในนิยาย ทำให้สามารถวางแผนได้ล่วงหน้า
เย่เฟยเดินทางไปที่บ้านตระกูลซูอีกครั้งในฐานะแพทย์ที่ไปตรวจเยี่ยมอาการของคนไข้ ร่างกายของซูเสี่ยวคุนมีอาการดีขึ้นตามลำดับ จิตใจของเขามั่นคงขึ้นมาก
สำหรับซูชิงจู้นั้น.....
ซูชิงจู้ไม่พูดอะไรกับเขาเลยตลอดทั้งวัน ทัศนคติที่เธอมีต่อเขาดูเหมือนจะกลับไปเย็นชาเหมือนแต่ก่อน
แต่เย่เฟยรู้ว่าสภาพจิตใจของหญิงสาวรายนี้มีการเปลี่ยนแปลง
เย่เฟยไม่ได้ร้อนใจแต่อย่างใด เขาไม่รีบร้อนจะพิชิตใจสาวงามน้ำแข็งอย่างซูชิงจู้ เขาเพียงแค่ต้องรักษาระยะห่างกับเธอ พลางกระตุ้นความสนใจของเธอเป็นระยะเพื่อให้ได้ครอบครองหัวใจของเธอ
เนื่องเพราะซูชิงจู้ป่วยเป็นโรคกลัวผู้ชาย ดังนั้นเธอจึงมีความระมัดระวังต่อเพศตรงข้ามมาก
[โฮสต์ ตอนนี้คุณจะทำอะไร? ซูชิงจู้ดูเหมือนจะจัดการได้ยาก อาจต้องใช้เวลาพักใหญ่] ระบบถามขึ้นมา
เย่เฟยกล่าวอย่างไม่ยี่หระ "รีบร้อนไปทำไม? ซูชิงจู้ไม่มีทางไปตกหลุมรักใครในช่วงนี้หรอก ดังนั้นพวกเราไปดูนางเอกอีกคนกันก่อนดีกว่า"
[นางเอกอีกคน?] ระบบถาม น้ำเสียงดูค่อนข้างสับสน
“เอาล่ะ ไปหาลั่วเว่ยหยูกัน” เย่เฟยตอบ
ลั่วเว่ยหยู!
เธอเป็นหนึ่งในสามนางเอกของนิยายเรื่อง "แพทย์อัจฉริยะ"
เมื่อเทียบกับซูชิงจู้ที่ป่วยเป็นโรคกลัวผู้ชายแล้ว นิสัยใจคอของเธอนั้นแตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง
เธอเป็นหญิงสาวที่ร่าเริงสดใส
[โฮสต์ คุณจะตามหาลั่วเว่ยหยู?] ระบบถาม
"ถูกต้อง" เย่เฟยพูดพลางขี้เกียจ "ไปที่ถนนแยงซีกัน"
ถนนแยงซีเป็นถนนที่ไม่โดดเด่นอะไร
เขาเปลี่ยนมาใช้รถปอร์เช่ที่ดึงดูดสายตาน้อยกว่า และขับรถไปที่ถนนแยงซี
รถปอร์เช่ของเย่เฟยวิ่งแล่นไปตามทาง โดยมีรถออดี้หนึ่งคันคอยตามไม่ห่าง ข้างในรถคันนั้นก็คือบอดี้การ์ดของเย่เฟย
ในไม่ช้า รถทั้งสองคันก็มาถึงที่ถนนแยงซี
นี่เป็นถนนทั่วไป ในย่านนี้มีผู้คนอยู่ไม่มากนัก เมื่อเทียบกับเหยียนจิงที่มีคนพลุกพล่านแล้ว ที่นี่แทบจะมองไม่เห็นคนเลย
เย่เฟยค่อยๆเดินไปยังสุดถนนซึ่งมีร้านดอกไม้เล็กๆตั้งอยู่
ลั่วเว่ยหยูอยู่ที่นี่เอง!