ตอนที่ 871 - 872: ไปรับเลิ่งเชาถิง, เลิ่งเชาถิงคนทะลึ่ง
ตอนที่ 871: ไปรับเลิ่งเชาถิง
“คุณกู้ เมื่อคืนเธอมีเรื่องชกต่อยกันข้างนอกโรงแรมนี้หรือเปล่า?” เขาถาม
เขาไม่อยากเชื่อว่าเด็กสาวรูปร่างบอบบางอย่างเธอจะเตะต่อยเป็นเหมือนกัน เธออายุแค่สิบแปดเองนะ! ใครบ้างล่ะที่จะไม่ตกใจ
“ใช่ค่ะ” กู้หนิงพยักหน้า เขาคงเห็นเธอต่อสู้เมื่อคืนนี้
“มิน่าล่ะ คนที่โดดเด่นพอๆ กันย่อมได้อยู่ด้วยกัน” ซู่จินหลินเอ่ย เขากำลังพูดถึงเลิ่งเชาถิง
“คุณกู้ ช่วงนี้ก็ระวังตัวหน่อย ถึงยังไงพวกเขาก็เป็นคนของแก๊ง” กงเซ่อหานเอ่ย เขาไม่อยากยุ่งเรื่องของคนอื่น แต่เขายินดีเอ่ยเตือนกู้หนิงอย่างมีน้ำใจเพราะเธอถือว่าเป็นคนรู้จักของซู่จินหลิน
“ขอบคุณค่ะ ฉันจะระวังตัวอย่างดี”
ลิฟต์เคลื่อนมาหยุดอยู่ที่ชั้นสาม กู้หนิงโบกมือลาให้ซู่จินหลินและกงเซ่อหาน
“นี่ เกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกนายสองคน?” กงเซ่อหานถามซู่จินหลินทันทีที่คล้อยหลังกู้หนิง
ซู่จินหลินถอนหายใจ จากนั้นก็เล่าหมดเปลือก กงเซ่อหานหัวเราะลั่น “พูดจริง? ตลกชะมัด”
“แล้วเลิ่งเชาถิงนั่นเป็นใคร? ดูเหมือนนายจะกลัวเขามากทีเดียว” กงเซ่อหานถามอีกครั้ง
“หลานชายคนโตของตระกูลเลิ่งที่เมืองหลวงและเป็นทหารรุ่นพี่จินเฉิน ปกติเขาก็ไม่เคยยุ่งกับผู้หญิง ถ้าเขารู้ว่าฉันหาเรื่องคุยกับผู้หญิงของเขา เขาจะต้องบอกจินเฉินให้ฝึกทักษะการต่อสู้กับฉันแน่ ฉันคงหนีไม่พ้นถูกน้องชายตัวเองต่อยร่วงลงพื้น”
“หลานชายคนโตของตระกูลเลิ่ง?” กงเซ่อหานทำหน้าประหลาดใจ เขารู้ว่าตระกูลเลิ่งและตระกูลซู่รู้จักกันมานานหลายชั่วอายุคนแล้ว และยังได้ยินมาว่าหลานชายคนโตของตระกูลเลิ่งนั้นเย็นชาเพียงใด และสิ่งที่น่าชื่นชมที่สุดคือเลิ่งเชาถิงได้กลายเป็นนายพลหนุ่มด้วยอายุยังไม่ถึงสามสิบซึ่งนั่นยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
นั่นคือทั้งหมดที่กงเซ่อหานรู้เกี่ยวกับเลิ่งเชาถิง
ขณะที่พวกกู้หนิงเดินเข้าไปในห้องอาหารส่วนตัวที่จองไว้แล้ว เธอก็ได้รับสายโทรศัพท์จากเลิ่งเชาถิง ตอนนี้เขาอยู่ที่สนามบินเมืองหลวงแล้ว จะถึง HK ประมาณสี่ทุ่มครึ่ง
กู้หนิงจะเป็นคนไปรับเขาที่สนามบินเอง
เธอจำไม่ได้ว่าเธอวางแผนจะไปสำรวจเกาะเล็กๆ นั้นจนกระทั่งจานอาหารทั้งหมดถูกเสิร์ฟวางอยู่บนโต๊ะ เธอเพิ่งนึกออก จึงล้มพับโครงการนี้ไปก่อนชั่วคราว
ที่บ้านตระกูลเหอ
จั่วเจียงขุยมากินเข้าที่บ้านตระกูลเหอ มีเพียงเหอซีอิ่นและเหอหงเจี๋ยเท่านั้นที่รู้ว่ากู้หนิงจะมาช่วยพวกเขา
หลังจากที่จั่วเจียงขุยกินข้าวและกลับไปแล้ว เหอหงเจี๋ยก็บอกเหอซีอิ่นให้ไปคุยกันที่ห้องหนังสือ
“ลูกพูดถูก เจียงขุยมีสัมพันธ์ลับๆ กับหงเยว่เฟยและยังแอบไปเจอเหอหงหยวนอีกด้วย” เหอหงเจี๋ยพูดเสียงเย็น
เหอซีอิ่นทำหน้าไม่พอใจ เธอไม่แปลกใจเลยสักนิดที่จั่วเจียงขุยทำแบบนั้น
“พ่อคะ พ่อดูแลเขาอย่างดี แต่เขาก็ยังทรยศเราได้” เหอซีอิ่นพูดด้วยความโกรธ
“บางทีเขาอาจคิดว่าหมดยุคของพ่อแล้ว จึงอยากจะไปหาที่เกาะใหม่ ไว้เรามีหลักฐานที่แน่นหนาว่าเขาทรยศ พ่อจะไล่เขาออกไปเอง”
หงเยว่เฟยยังคงอยู่ที่โรงพยาบาล และมีเหออี้ซื่อคอยดูแลเขาลุกจากเตียงและเดิน
ความเจ็บปวดยังคงไม่หายไป เขาแทบทำอะไรด้วยตัวเองไม่ได้เลย ซึ่งนั่นทำให้เขาหงุดหงิดมาก เหอซีอิ่นเองก็อารมณ์ไม่ดีและไม่พอใจ แต่เธอจำเป็นต้องอดทน นับหนึ่งถึงสิบในใจอยู่หลายรอบ
เมื่อหงเยว่เฟยสามารถเดินเองได้ เขาจึงรีบออกจากโรงพยาบาลให้ไว การที่เขาต้องอยู่ที่โรงพยาบาลนั้นถือว่าเป็นทรมานเขามากเหลือเกิน
หงเยว่เฟยเป็นคนที่มีความต้องการทางเพศสูงมาก เขารู้สึกอึดอัดตัวมากยามที่ไม่ได้นอนกับใครสักคน เขาจึงบังให้เหออี้ซื่อใช้มือและปากของเธอช่วยเขาสำเร็จความใคร่ กิจกรรมนี้กินเวลาร่วมๆ ชั่วโมงกว่าที่หงเยว่เฟยจะรู้สึกอิ่มเอม
หลังจากปรนเปรอหงเยว่เฟยจนพอใจแล้ว พ่อของเหออี้ซื่อก็โทรตามเธอกลับบ้าน เพราะการแข่งพนันจะเริ่มวันพรุ่งนี้แล้ว และเขามีบางอย่างจะคุยกับเธอ
เหออี้ซื่อกลับไปแล้ว หงเยว่เฟยก็โทรหาผู้หญิงอีกคน เขาไม่สามารถอยู่คนเดียวได้โดยไม่มีผู้หญิงข้างกาย
ราวๆ สามทุ่มห้าสิบ กู้หนิงก็เดินทางไปที่สนามบิน เธอขับรถไปคนเดียว ก่อนหน้านี้เธอบอกเฉียวหยาและเกายี่ว่าคืนนี้เธอจะไม่กลับมานอนที่โรงแรม
ยี่สิบนาทีต่อมา กู้หนิงก็มาถึงสนามบิน กู้หนิงนั่งรอเขาพลางเล่นมือถือในห้องโถงผู้โดยสารขาเข้า
ชื่อของเธอยังคงอยู่ในรายการหัวข้อที่ร้อนแรงที่สุด แต่พอเลื่อนลงมา ข่าวกอสซิปเกี่ยวกับพฤติกรรมของคนดังและชีวิตส่วนตัวมาแทนที่เธอ
บรรดาคนดังที่ต้องการความสนใจ ส่วนใหญ่จะจ้างกองทัพน้ำเพื่อช่วยดึงดูดความสนใจของคนในอินเทอร์เน็ต
กู้หนิงอ่านข่าวอยู่สักพัก จากนั้นก็ได้ยินเสียงพูดคุยอย่างตื่นเต้นเกี่ยวกับบางสิ่งที่เธอรู้จัก
“ฉันแทบรอไม่ไหวแล้ว ในที่สุดฉันก็จะได้โกวจื่อมาครอบครองในอีกสิบนาที่นี้แล้ว!”
“ฉันเองก็รอไม่ไหวเหมือนกัน ตอนแรกฉันคิดว่าแบรนด์น้องใหม่แบบนี้จะใช้ได้ผลจริงเร้อ แต่กลายเป็นว่ามันใช้ดีมาก! ฉันใช้มาส์กหน้าไปหลายตัว ดูสิ ผิวหน้าฉันดีกว่าแต่ก่อนเยอะมาก”
“ต้องขอบคุณเฟย พวกเราจึงไม่จำเป็นต้องบินไปเมืองหลวง”
“ใช่ ถ้าเฟยไม่เอามาให้พวกเรา ฉันกะว่าจะบินไปเมืองหลวงเองแล้ว”
“ฉันหวังว่าโกวจื่อจะเปิดตลาดใน HK บ้าง จะได้หาซื้อง่ายหน่อย”
กู้หนิงดีใจที่รู้ว่ามีคนชอบผลิตภัณฑ์ของเธอ โกวจื่อจะวางจำหน่ายในตลาด HK ในอีกเร็วๆนี้แน่นอน เธอกำลังจะสร้างโกวจื่อให้เป็นแบรนด์ระดับสากล
ตอนที่ 872 เลิ่งเชาถิงคนทะลึ่ง
กู้หนิงยังคงท่องโลกโซเชียลต่อไป และพบว่าโกวจื่ออยู่ในอันดับที่ 5 ในรายการหัวข้อที่ร้อนแรงที่สุดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
เธอกดเข้าไปดูและอ่านเนื้อหาของโพสต์และอ่านคอมเม้นต์เกี่ยวกับโกวจื่อ
แม้ว่าโกวจื่อจะยังเป็นแบรนด์น้องใหม่ แต่กว่า 99% ของลูกค้าการันตีผลลัพธ์ของมัน และจะโช้โกวจื่อตลอดไป
บนเครื่องบิน เสียงประกาศว่าเครื่องบินกำลังจะลงจอดในไม่กี่นาที เลิ่งเชาถิงแทบทนรอไม่ไหว อยากเจอกู้หนิงแล้วทั้งๆ ที่เพิ่งห่างแค่ไม่กี่วัน เขาคิดถึงเธอมากจริงๆ
ถ้าหากเป็นไปได้ เขาอยากจะอยู่กับเธอยี่สิบสี่ชั่วโมงทั้งเจ็ดวันไปเลย แต่เขารู้ว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะต่างคนต่างมีสิ่งที่ต้องทำ
เลิ่งเชาถิงนั่งอยู่ริมทางเดินของชั้นเฟิร์สคลาส และมีผู้หญิงคนหนึ่งสวมหมวกเบสบอลและแว่นกันแดดนั่งอยู่ตรงที่นั่งริมทางเดินแถวเดียวกันกับเขา ผู้หญิงคนนั้นจ้องไปที่เลิ่งเชาถิง จนเขารับรู้ได้ว่ากำลังถูกจ้องมองอยู่
แม้ว่าเธอจะสวมแว่นกันแดดขนาดใหญ่และไม่มีใครเห็นดวงตาของเธอหรือใบหน้าทั้งหมดของเธอได้ แต่ดูจากลักษณะท่าทางก็ดูออกว่าเป็นคนสวย
หมวกเบสบอลและแว่นกันแดดเป็นเครื่องประดับพรางตัวของพวกดารา
ผู้หญิงคนนี้ก็คงเป็นดารา เธอจ้องเลิ่งเชาถิงตาแทบไม่กระพริบเพราะว่าเขาหล่อจนเกินไปและเธอไม่สามารถละสายตาไปจากเขาได้ นอกจากนี้เขายังนั่งในชั้นเฟิร์สคลาสด้วย และยังแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าแบรนด์เนม มองมาจากดาวอังคารก็ยังรู้ว่าเขารวยโคตรๆ
ไม่มีผู้หญิงโสดคนไหนที่สามารถต้านทานผู้ชายหล่อรวยและยังหนุ่มแบบนี้ได้หรอก
ดาราสาวแอบปลื้มเลิ่งเชาถิง แต่เธอไม่สามารถหาเรื่องชวนเขาคุยได้ ด้วยสถานะของเธอและยังคำเตือนจากผู้ดูแลเธอ
ผู้ดูแลเธอเป็นผู้หญิงอายุสามสิบปี นั่งอยู่ข้างๆ กัน
ผู้ดูแลก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน ดังนั้นเธอจึงพอเข้าใจได้ว่าดาราสาวคงไม่สามารถต้านทานเสน่ห์ของชายหนุ่มรูปงามได้ แม้แต่หล่อนที่แต่งงานแล้วก็ยังอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองเลิ่งเชาถิงเป็นระยะๆ
ดาราสาวจำเป็นต้องรักษาภาพลักษณ์ของตัวเอง จึงไม่สามารถทำตัวประเจิดประเจ้อให้เป็นข่าวได้
หากพวกปาปารัสซี่จับเธอได้ คงไม่พ้นเขียนข่าวโจมตีเธอเสียๆ หายๆ
ผู้ที่เป็นดาราจึงต้องจ่ายค่าตอบแทนนี้ด้วยอิสรภาพในการใช้ชีวิตหากต้องการได้มาซึ่งชื่อเสียงและเงินทอง หากทำตัวไม่เหมาะสม ไม่เป็นแบบอย่างที่ดีต่อประชาชน ชื่อเสียงที่พวกเขาสร้างมาก็สามารถหายวับไปกับตาได้
เมื่อเห็นว่าเครื่องบินกำลังลงจอด ดาราสาวก็รู้สึกผิดหวังลึกๆ อยู่ในใจ
หนึ่งนาทีต่อมา เครื่องบินก็ลงจอดที่สนามบิน HK และเลิ่งเชาถิงก็โทรหากู้หนิงในวินาทีที่เขาลงจากเครื่องบิน เขาไม่มีสัมภาระ ดังนั้นเขาจึงเดินออกไปเลยในขณะที่ดาราสาวต้องไปเอากระเป๋าเดินทางของเธอ ดังนั้นการพบกันครั้งนี้จึงต้องสิ้นสุดลงตรงนี้
ในโถงผู้โดยสารขาเข้า แฟนๆ กลุ่มหนึ่งกำลังรอไอดอลของพวกเขาอยู่ ขณะที่เลิ่งเชาถิงปรากฏตัวขึ้น พวกเขาก็ตะโกนด้วยความประหลาดใจ
“ว้าว ดูสิ ผู้ชายคนนั้นหล่อจังเลย!”
“เป็นดารารึเปล่านะ?”
“ไม่รู้สิ รู้แต่ว่าหล่อชะมัดยาด”
“ไม่ใช่ดาราหรอก น่าจะเป็นพวกเศรษฐีนะ”
“เขาจะเป็นใครก็ช่าง แต่ตรงสเปคฉันชิบหาย”
กู้หนิงรู้สึกภูมิใจที่มีแฟนหล่อ เธอไม่ได้รู้สึกหึงหวงแต่อย่างใด ยกเว้นตอนที่ผู้หญิงพวกนั้นพยายามจะแย่งแฟนเธอหรือทำอะไรที่มันล้ำเส้นจนเกินงาม
แฟนคลับบางส่วนวิ่งไปหาเลิ่งเชาถิง พวกเธอต้องการถ่ายรูปกับเขา ทว่าถูกสายตาเย็นชาตวัดมองมาจึงทำให้ต้องหยุดชะงักกลางทาง
ในขณะนั้น กู้หนิงเดินไปหาเขา เลิ่งเชาถิงยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน จากนั้นก็กุมมือเธอเอาไว้
แม้ว่าสาวๆ เหล่านั้นจะรู้สึกตกใจกับสายตาเย็นชาของเขา พวกเธอไม่ได้รู้สึกเคืองแต่อย่างใด ตรงกันข้าม พวกเธอกลับรู้สึกว่าเขาน่าสนใจมากกว่าเดิม ต้องบุคลิกแบบนี้สิถึงเหมาะกับผู้ชายหล่ออย่างเขา โดยเฉพาะตอนที่เขาเห็นผู้หญิงคนนั้น และสายตาของเขาก็พลันเปลี่ยนเป็นอ่อนโยน ประมาณว่าเย็นชากับคนทั้งโลกแต่อ่อนโยนกับเธอเพียงคนเดียว
ไม่เพียงแต่พวกเธอเท่านั้น แต่คนในโถงผู้โดยสารขาเข้าต่างหันไปมองเลิ่งเชาถิงและกู้หนิงเป็นตาเดียว
“แฟนกันแน่ๆ”
“อ๊า ฉันอิจฉาผู้หญิงคนนั้นจัง ทำบุญด้วยอะไรถึงได้มีแฟนหล่อขนาดนี้นะ”
“ฉันเองก็อยากมีแฟนหล่อๆ แบบนั้นบ้างเหมือนกัน”
“ฉันคิดว่าผู้ชายแบบเขาเป็นผู้ชายแบบที่ผู้หญิงทุกคนใฝ่ฝัน”
“เห็นด้วย”
กู้หนิงและเลิ่งเชาถิงเดินจับมือกันไปที่ลานจอดรถ
“คุณนี่ฮอตจริงๆ นะ” กู้หนิงหัวเราะเบาๆ
“ผมน่าจะสวมหน้ากาก” เลิ่งเชาถิงไม่ชอบให้ตัวเองกลายเป็นจุดสนใจ
“ฮ่าๆ” กู้หนิงหัวเราะ “ไม่เป็นไรหรอก ถ้าคุณสวมหน้ากาก ฉันคิดว่าแฟนคลับเหล่านั้นยิ่งจะคิดว่าคุณเป็นดารา”
ใครอยากใช้ให้เขาหน้าตาดีเกินไปเล่า ไปไหนมาไหนก็ย่อมตกเป็นจุดสนใจ
“แต่ไม่ไม่ใครได้ผมนอกจากคุณนะ” คำพูดสองแง่สองง่ามนี้ทำให้กู้หนิงหน้าแดง
“หยุดเลยนะ!”
“ทำไมล่ะ?” เลิ่งเชาถิงทำหน้าซื่อ “เรื่องจริงนี่นา”
กู้หนิงหน้าแดงแจ๋
เดี๋ยวนี้ชักจะทะลึ่งใหญ่แล้วนะ!