SWO ตอนที่ 39 โชคดี?
เสียงนกหวีดดังขึ้นพร้อมทั้งห้าคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าวิ่งออกไป
กึง กึง กึง
หมวกปกคลุมใบหน้าของพวกเขา ขณะเดียวกันนั้นกรงเหล็กก็ค่อย ๆ ถูกเปิดออก
หมูป่างาผู้หิวโหยคำรามต่ำ มันใช้ดวงตาสีแดงก่ำของมันจ้องไปยังคนสวมชุดเกราะที่อยู่เบื้องหน้า
ฟิ้ว
มันพุ่งไปข้างหน้าราวกับรถถัง
นักเรียนส่วนใหญ่ในกลุ่มแรกตกใจจนไม่สามารถหลบได้ทันทำให้ถูกหมูป่างากระแทกเข้าใส่อย่างแรง
เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น นักเรียนส่วนใหญ่ในกลุ่มผู้ชมถึงกับหัวเราะ
“ถ้ากระจอกขนาดนั้นจะเข้าร่วมให้เสียเวลาไปทำไม? รีบกลับบ้านไปเลยไป๊!”
“ใช่ หยุดทำให้ตัวเองอับอายได้แล้ว!”
บนแท่นสูงเหล่าผู้นำ และผู้ปกครองต่างส่ายหัว
พวกเขาสามารถบอกได้ว่านักเรียนที่เข้าร่วมกลุ่มนี้ไม่มีประสบการณ์ในการต่อสู้เลย อาจารย์ที่ยืนอยู่ข้างพวกเขา ทั้งหมดก้มหน้าลงด้วยความเขินอาย
“ข้าสงสัยว่าครั้งนี้ใครจะชนะ?”
“หากข้ามองไม่ผิด ควรเป็นลูกสาวของผู้อำนวยการซูใช่ไหม?”
“ข้าก็ว่าเป็นเช่นนั้น ลูกสาวของผู้อำนวยการซูนั้นโดดเด่นจริง ๆ”
ซูเจิ้งกั๋วยิ้มเมื่อได้ยินสิ่งที่คนรอบตัวเขาพูด เขามองไปยังอาจารย์เสิ่น และรีบกล่าวอย่างถ่อมตน “พวกท่านก็พูดเกินจริง การต่อสู้กับสัตว์กลายพันธุ์เป็นการยากที่จะพูด”
เสิ่นจิงไม่ได้กล่าวอะไรขณะมองดูการแข่งขันด้านล่างอย่างไม่ใส่ใจ
นักเรียนที่เข้าร่วมกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าค่อย ๆ ก้าวเข้าไป แต่ผลงานโดยรวมจนถึงตอนนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก
เหตุเพราะไม่มีใครเคยต่อสู้กับสัตว์กลายพันธุ์มาก่อน ทันทีที่พวกเขาเผชิญหน้ากับหมู่ป่างา ความมั่นใจดั้งเดิมของพวกเขาก็หายไปและถูกแทนที่ด้วยความขลาดเขลา
เฉพาะนักเรียนดีเด่นที่อยู่ในระดับแก่นโลหิตขั้นสองขึ้นไปเท่านั้นสถานการณ์ถึงดีขึ้นเล็กน้อย
โจวเฮายืนอยู่ด้านหลัง และส่ายหัวขณะดูภาพตรงหน้า
ซูหลิงก็อยู่ในแถวสุดท้ายเช่นกัน เธอมองตรงไปข้างหน้า และกระซิบ “โจวเฮา ทันทีที่เจ้าไม่ไหวให้ตะโกนขอความช่วยเหลือทันทีอย่าลังเลเด็ดขาด แม้พลังป้องกันของเกราะมาตรฐานจะสูง แต่ผลกระทบจากการโจมตีของหมูป่างาไม่ใช่เบา มันยังทำให้เจ้าบาดเจ็บได้”
ขณะที่โจวเฮากำลังจะกล่าวขอบคุณ เขาเห็นจางอี้กวาดสายตามา ดังนั้นเขาจึงรีบเปลี่ยนสิ่งที่จะพูดทันที “ข้าว่าเจ้าควรเตือนตัวเองเสียจะดีกว่า เวลานี้หวังหมิงจัดการหมูป่างาไปสามตัวแล้ว อย่าแพ้เขาล่ะ!”
เมื่อได้ยินดังนั้นซูหลิงจึงกล่าวขึ้นอย่างมีน้ำโห “เจ้าไม่รู้ว่าอะไรดีสำหรับเจ้า!”
ไม่นานก็ถึงตากลุ่มของโจวเฮา เนื่องจากเขาอยู่ในแถวสุดท้าย ดังนั้นพวกเขาจึงต้องรอให้กลุ่มอื่นแข่งเสร็จหมดก่อน
“ลูกพ่อ เจ้าทำได้!” ซูเจิ้งกั๋วอดตะโกนไม่ได้
ซูหลิงยิ้มตอบ
“นั่นซูหลิงนี่ ด้วยความแข็งแกร่งของนาง นางน่าจะสามารถจัดการหมูป่างาได้สี่ตัว!”
"ไม่จำเป็น ในการต่อสู้กับสัตว์กลายพันธุ์ สัญชาตญาณก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน!”
“เอ๊ะ? โจวเฮา ไอเจ้าคางคกอยากกินเนื้อหงส์นั่นก็เข้าร่วมด้วยเช่นกัน แถมอยู่กลุ่มเดียวกับซูหลิงอีกต่างหาก”
“หึ อยู่กลุ่มเดียวแล้วมันจะทำไม? ถึงอย่างไรความน่าสมเพชของเขามีแต่จะทำให้ซูหลิงโดดเด่นมากขึ้นเท่านั้น!”
"ดูดิ เพียงแค่เห็นหมู่ป่างาขาของเขาก็อ่อนระทวย!”
นักเรียนหลายคนในกลุ่มผู้ชมที่อยู่ห้องเดียวกับโจวเฮาเริ่มพูดคุยกัน คนอื่น ๆ ที่เคยได้ยินชื่อเสียงของโจวเฮาก็เห็นด้วยกับคำพูดของพวกเขา
บนแท่นสูงเสิ่นจิงมองไปยังอาจารย์ใหญ่เจิ้ง
อาจารย์ใหญ่เจิ้งพยักหน้าอย่างลับ ๆ และกระซิบใส่ไมค์หูฟังของเขา
ไม่นานผู้ฝึกยุทธที่รับผิดชอบการปล่อยหมูป่างาก็เริ่มโรยผงโปร่งใสบางอย่างใส่มันหนึ่งกำ ดวงตาสีแดงของหมูป่างาในกรงเหล็กเบิกกว้างขึ้น ทันใดนั้นหมูป่างาก็ยิ่งดูกระหายเลือด และบ้าคลั่งมากขึ้นไปอีก
"เริ่มได้!"
เมื่อเสียงนกหวีดดังขึ้น หมูป่างาก็พุ่งออกมาจากกรงเหล็กทั้งห้าทันที
โจวเฮาแสร้งทำเป็นประหม่าขณะก้มตัวลงพร้อมสั่น
จางอี้ที่อยู่ไม่ไกลจากเขาเวลานี้ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อ
ในกลุ่มของพวกเขา มีเพียงซูหลิงเท่านั้นที่ยังคงดูผ่อนคลาย
ฉุบ!
ขณะที่หมูป่างากระโจนเข้ามา โจวเฮาได้แสร้งทำเป็นเดินโซเซ และสะดุดล้มลงกับพื้นพร้อมกับยื่นกระบี่ไปข้างหน้าซึ่งโชคดีที่เขาล้มลงในจังหวะที่เหมาะเจาะพอดี
เหตุเพราะหมูป่างาได้พุ่งเข้าชนปลายกระบี่โดยบังเอิญ
ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว หมูป่างาที่โจวเฮาเผชิญอยู่ได้ตกตายไปทันที!
ตลอดช่วงการแข่งซึ่งกินเวลานานหลายชั่วโมง นี่คือผู้ที่จัดการหมู่ป่างาได้เร็วที่สุด
ความโกลาหลเกิดขึ้นในหมู่ผู้ชม
“ให้ตายสิ แบบนี้ก็ได้เหรอ!”
“เจ้านี่มันโชคดีแค่ไหนกัน!”
“หมดคำพูดจริง ๆ หมูป่างาดันฆ่าตัวตายเสียได้!”
“ฮึ่ม! โจวเฮาคนนี้ช่างโชคดีจริง ๆ แต่ข้าจะรอดูว่าเขาจะจัดการกับหมูป่างาตัวต่อไปอย่างไร!”
นักเรียนหลายคนพูดคุยและถอนหายใจกับเรื่องบังเอิญที่โชคดี
บนแท่นสูง ผู้นำและผู้ปกครองหลายคนถอนหายใจเพราะโชคช่วยของโจวเฮา
เสิ่นจิงตกตะลึงไปชั่วครู่พร้อมขมวดคิ้ว “เขาแค่โชคดีจริง ๆ งั้นรึ?”
สายตาที่เฉียบคมของเขาสามารถบอกได้ว่าช่วงเวลาที่โจวเฮาล้มลง จังหวะที่กระบี่นั้นฟันโดนหมูป่างามันสมบูรณ์แบบมากราวกับจับวาง
“ครั้งแรกข้าจะถือว่าโชคดีไปก่อน แต่ข้าไม่เชื่อว่าครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นเพราะโชค!” มุมปากของเสิ่นจิงโค้งงอเล็กน้อย เขายังไม่ลืมจุดประสงค์การจัดแข่งครั้งนี้..