EP 15 (Stardew Valley) ความสงสัย
EP 15 (Stardew Valley) ความสงสัย
ผู้แปล วังวน
ปัง ประตูไม้หนาเกือบปิดชนไปที่จมูกของปิแอร์ สัตว์ประหลาดตัวสูงเกือบสามเมตรมันสอดมือข้างหนึ่งเข้ามาในรอยแตกของประตู ด้วยท่าที่ทีดุร้าย ปิแอร์กระแทกประตูจากข้างนอกอย่างรุนแรง โชคดีที่หอคอยเวทย์มนตร์นั้นแข็งแกร่งมาก และไม่แม้แต่จะมีอาการสั่นไหว
หน่านเสี่ยวเอาหลังผิงกำแพง ก่อนที่จะแสดงอาการหอบออกมาขณะจ้องมองที่ประตูอย่างระมัดระวัง มือของเขากำด้ามดาบไว้อยู่เสมอ และไม่กล้าปล่อยดาบด้ามนั้นออกจากมือเลย
ผู้วิเศษเดินเข้ามาและโบกมือให้เขานั่งข้างเขาเพื่อพักผ่อน “มีมนต์สะกดอยู่ที่ประตู สัตว์ประหลาดตัวนั้นไม่สามารถเปิดเข้ามาได้หรอก”
รอดแล้วินะ ในที่สุดหน่านเสี่ยวก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เขาหันมองดูอาบิเกลและเซบาสเตียนซึ่งนอนอยู่บนพื้นอย่างหมดแรง
สภาพของไลนัสเองก็ค่อนข้างแย่ และเขานั่งบนพื้นก่อนที่จะหอบออกมาอย่างต่อเนื่องและดูเหมือนเขาเองก็จะได้รับบาดเต็บมาด้วย เขาเองนั้นถูกกัดที่ข้อมือขวา และตอนนี้ใบหน้าของเขาซีดและริมฝีปากของเขาเองก็เปลี่ยนเป็นสีดำ
ทั้งอาบิเกล และเซบาสเตียน มองไปยังไลนัสด้วยสายตาที่ว่างเปล่า และทั้งสองคนก็กระซิบกัน
นี้มันอะไรกันสองคนนั้นทำไมถึงมีแววตาแบบนั้นนี้คือสิ่งที่พวกเขาปฏิบัติต่อผู้มีพระคุณอย่างงั้นหรอ? เขาสละชีวิตเพื่อช่วยทั้งสองคนเลยนะ!
หน่านเสี่ยวเองทำเป็นมองไม่เห็น ก่อนที่เขาจะหันไปเทกาแฟร้อนหนึ่งถ้วยให้กับไลนัส ชายชราได้แต่กล่าวขอบคุณเขาอย่างสุดซึ้ง และขยับเข้าไปใกล้ๆกับเตาผิงเพื่อนั่งดื่มกาแฟแก้วนั้นอย่างช้าๆ ดูเหมือนอากาศภายในนี้จะหนาวมาก และเห็นได้ชัดว่าต่อให้จะมีไฟจากเตาผิง แต่ก็ดูเหมือนมันก็จะอบอุ่นไม่เพียงพอ ตอนนี้ร่างกายของเขาก็สั่นสะท้านไปด้วยความเย็นที่เต็มไปทั่วห้อง“ราสโมดิส ราสโมดิส!” เขาเรียกชื่อของผู้วิเศษก่อนที่จะพูดต่อไปว่า “ตอนนี้ฉันกำลังใกล้จะตายแล้วใช่ไหม”
ผู้วิเศษเมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาเองก็ดูรีบร้อนก่อนจะเดินเข้าไปประชิดตัวของไลนัส มองดูบาดแผลตามร่างกายของไลนัสอย่างละเอยีด และพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเย็นยะเยือกฟังดูไร้อารมณ์ออกมา: “เลือดพิษของผู้คลั่งไคล้เงาได้ปนเปื้อนไปทั่วทั้งร่างของคุณแล้ว ฉันคงจะช่วยอะไรคุณไม่ได้ ก่อนคุณจะไปคุณต้องการสั่งเสียอะไรหรือป่าว?”
ไลนัสทำได้เพียงหายใจแรงและยิ้มอย่างเยือกเย็น: "ราสโมดิส คุณจำได้ไหมว่าในวันออลโซลส์ เราพูดว่าอะไรกัน— -"
ตอนนี้ภายในใจของหน่านเสี่ยวดูเหมือนจะมีอะไรมาสะกิดใจเขาขึ้นมาทันที เมื่อเขาได้ยินบทสนทนานั้น : “คำพูดของเขาแสดงว่าชายแกเรร่อนคนนี้เขากำลังจะตายอย่างงั้นหรอ!! และตอนนี้เขาก็กำลังพูดสั่งเสียอะไรบางอย่างออกมา”
แน่นอนว่าในเวลานั้นไลนัสก็เอียงศีรษะและล้มลงก่อนที่เขาจะพูดจบ
เสียงร่างกายที่ของชายร่างใหญ่ กระทบกับกระเบื้องขนาดใหญ่ล้มลงนอนไปกับพื้น ก่อนที่แก้วกาแฟที่เขาถืออยู่จะกระเซ็นไปทั่วบริเวณที่เขาล้มลง
สองคนนั้นพูดถึงวันออลโซลส์? ดูเหมือนว่าวันนั้นจะเป็นวันสำคัญอะไรบางอย่าง - มันดูน่าสงสัยเกี่ยวกับบทสนทนาสุดท้ายที่ชายชราผู้นั้นพูดก่อนจะสิ้นใจ
หน่านเสี่ยวขอให้ผู้วิเศษจ่ายเงินรางวัลภารกิจให้กับเขาในทันที: "คุณราสโมดิส ผมทำภารกิจของคุณเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว" เขาชี้ไปที่อาบิเกลและเซบาสเตียน "จากการวิเคราะห์ของผม ทั้งสองคนอาจเป็นลูกหลานในเชื้อสายตระกูลของคุณอย่างแน่นอน ทั้งอาจจะต่างกันตรงที่ผู้ให้กำเนิดอาบิเกลเองเธอเป็นลูกของแคโลไลน์ และเซบาสเตียนเองเป็นลูกของโรบิน"
อันที่จริง ไม่จำเป็นต้องอธิบายเลย ดูแค่เพียงแวบแรกก็รู้แล้วว่าทั้งสองคนจะต้องสืบเชื้อสายมาจากผู้วิเศษอย่างแน่นอนเป็นเพราะสีผมนั่น นัยตานั่น และโครงหน้าของพวกเขา เมื่อมองไปแล้วพวกเขามีลักษณะทางกายภายคล้ายคลึงกับผู้วิเศษราสโมดิสผู้นี้มาก ยิ่งมองอย่างไรก็ยิ่งดูเหมือนมากขึ้นเท่านั้น
เมื่อได้ยินคำพูดของหน่านเสี่ยว อาบิเกล และเซบาสเตียน ก็มองหน้ากันด้วยความสงสัยและไม่คาดคิดว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องจริง
“อาบีเกล เธอได้ยินที่ชายหนุ่มคนนั้นพูดไหม” เซบาสเตียนกดไหล่ของอาบิเกล “ฉันเองเคยสงสัยมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่—”
“เงียบไปเลย!” อบิเกลก็ตะโกนอย่างบ้าคลั่ง เซบาสเตียน “ตอนนี้ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น อย่ามาแตะต้องตัวฉัน” !” เธอเองผลักเซบาสเตียนออกไป
เกิดอะไรขึ้น? ทำไมปฏิกิริยาของอาบิเกลเธอถึงแสดงออกเช่นนั้นล่ะ?
เมื่อครุ่นคิดอย่างรอบคอบแล้ว ดูเหมือนเป็นไปได้ที่ทั้งสองคนกำลังจะจีบกันอยู่ ว่ากันว่าอาบิเกลชอบไปร้านช่างไม้ตอนที่เธอไม่มีอะไรทำ และทั้งคู่ก็ชอบหนีไปเที่ยวเล่นกันเป็นเวลานานและบางครั้งก็ชอบหมกอยู่ในห้องกันสองต่อสอง โรบินเองเธอยังเคยกล่าวไว้ว่าห้องของเซบาสเตียนมี "กลิ่นแปลกๆ" นั้น ในเวชระเบียนของอาบิเกล แพทย์ยังระบุไว้ด้วยว่า เธอกังวลอย่างมากเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของเธอ
เมื่อมองไปที่ผู้วิเศษราสโมดิสอีกครั้ง ใบหน้าของเขาดูไร้อารมณ์ เขาเองไม่ได้แสดงสีหน้าที่สื่ออารมณ์ใดๆออกมาเลย เขาเพียงนั่งสูบไปป์ข้างวงแหวนเวทย์มนตร์ที่วาดบนพื้นโดยไม่สนใจการทะเลาะวิวาทระหว่างทั้งสองคน
ทำไมคุณถึงใจเย็นได้ขนาดนี้ คุณเองก็น่าจะเข้าไปห้ามหรือไกล่เกลี่ยอะไรสักอย่างสิ? แต่ทำไมยังนิ่งได้ขนาดนั้น?
หลังจากนั้นไม่นานหน่านเสี่ยวเองก็ดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ และรู้ว่าเรื่องพวกนี้มันเกี่ยวกับเขาโดยตรง หน่านเสี่ยวคิดเพียงแค่ว่าการได้รับรางวัลภารกิจเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เขาหันไปหาผู้วิเศษและพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูจริงใจออกมาว่า: "คุณราสโมดิส ขอแสดงความยินดีกับความปรารถนาที่มีมาอย่างยาวนานของคุณด้วยนะครับ ผมเองบอกไว้ก่อนว่าภารกิจนี้ยากมากมาก และเกินจินตนาการของผม ผมเองก็เชื่อว่าคุณเป็นคนที่รักษาสัญญาของคุณอยู่แล้ว-"
ผู้วิเศษพยักหน้า: “ขอบคุณที่ช่วยชีวิตพวกเขา ฉันเห็นเรื่องทั้งหมดบนหอคอยเมื่อกี้แล้ว และคุณจัดการกับภารกิจนี้ได้อย่างเด็ดขาด คุณเองสามารถจัดการทุกสิ่งทุกอย่างและผ่านอุปสรรคเหล่านั้นมาได้ ทำได้ดีมาก” ในเวลานั้นเขาเองได้วางถุงยาที่เป็นรางวัลของภารกิจให้ "นี่คือรางวัลที่คุณสมควรได้รับ รับมันไว้สิ"
ยาวิเศษที่จะสามารถทำให้เชียวชาญได้ทุกภาษา!
แต่เดี๋ยวก่อนนะถ้าเกิดใช้ยานี้ในปริมาณมาก มันจะมีผลข้างเคียงอะไรหรือเปล่า?
ขณะถือขวดยาขึ้นมาหน่านเสี่ยวก็เริ่มคิดมากเกี่ยวกับเรื่อง: "คุณราสโมดิส ยานี้จะมีผลข้างเคียงอะไรหรือเปล่า"
"ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น ไม่มีผลข้างเคียง"
"...จริงเหรอ"
"จริงสิ ฉันยืนยัน"
เมื่อได้ยินคำตอบที่เรียบเฉยของผู้วิเศษ หน่านเสี่ยวเองก็คิดอยู่พักหนึ่ง ท้ายที่สุดเขาก็คิดว่ายานี้เป็นยาจากต่างโลก ใครจะรู้ว่ามันเหมาะกับร่างกายกับร่างกายมนุษย์บนโลกหลักหรือไม่? ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าทานยานี้เขาไปต่อให้ได้รับคำยืนยันจะผู้วิเศษก็เถอะ แต่ถ้าฉันดื่มแล้วตายล่ะ? หน่านเสี่ยวได้แต่หัวเราะแห้งๆ “ถ้าเป็นเช่นนั้นผมขอนำยานี้กลับไปดื่มที่บ้านน่าจะเป็นการดีกว่านะ?”
“ได้สิ” อาจารย์กล่าวอย่างเฉยเมย “แต่ดูเหมือนว่ายาพวกนั้นก็ใกล้ถึงกำหนดวันหมดอายุของมันแล้วก่อนวันพรุ่งนี้ ฉันเองแนะนำให้ทานมันในทันที” ”
วันหมดอายุอย่างงั้นหรอ? มันเหลือวันที่จะทานยาพวกนี้ได้แค่วันเดียว? แต่เดียวก่อนทำไมถึงเหลือเพียงวันเดียวล่ะและจะมั่นใจได้ยังไงว่าจะปลอดภัย?
เป็นไปได้ไหมที่ผู้วิเศษนี้พยายามที่จะทำร้ายฉัน? และนำยาพิษมาให้ฉันแทน?
มันไม่สมเหตุสมผล! ฉันเองไม่เคยขัดแย้งอะไรกับเขาด้วยซ้ำ และฉันเองเพียงช่วยเขาตามหาลูกของเขาที่ไม่ได้พบหน้ากับมานานเท่านั้น และเขาก็ต้องอยู่ตัวคนเดียวมาเกือบสิบปี มันก็คงไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะมาทำร้ายฉันหรอกจริงไหม
คิดดูอีกทีก็กลัวว่าบางทีเขาเองต้องการคนถูกบูชายัญหรือเปล่า
ท้ายที่สุด สิ่งที่หน่านเสี่ยวเห็นในตอนนี้คือสองพี่น้องที่ไม่รู้จะทำตัวเช่นไรดีเมื่อรู้ว่าทั้งคู่เป็นพี่น้องต่างพ่อ และคงจะแย่ที่ได้ยินมัน ผู้วิเศษก็เป็นคนที่ฉันเดาใจอะไรในตัวเขาไม่ออกเลย และแน่นอนเขาคงจะไม่มาเสียเวลาหาเงินมาติดสินบนฉันไม่ให้พูดเรื่องนี้ได้ แล้วเขาจะให้วิธีไหนล่ะที่จะมาปิดปากฉันไม่ให้พูดเรื่องนี้? แน่นอนว่าสิ่งที่ง่ายที่สุดคือฆ่าคนที่รู้เรื่องนี้ทั้งหมด
เพื่อรักษาชื่อเสียงของลูกชายและลูกสาวของพวกเขาไว้ และมันก็ไม่น่าจะใช้เรื่องยากสำหรับผู้เป็นพ่อที่จะทำเช่นนั้น ...
หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ หน่านเสี่ยวมองไปที่ยาที่อยู่ในมือ ในเวลานั้นหน่านเสี่ยวไม่กล้าดื่มยานั้นจริงๆ
บูม! ตึงตึง!
ปิแอร์ยังคงกระแทกประตูด้านนอกหอคอยเวทย์มนตร์
อะไรกันเจ้าสัตว์ประหลาดนั้นยังไม่ยอมแพ้อีกหรอ
ในเวลานี้ หน่านเสี่ยวก็รู้สึกว่าภายในหอคอยเป็นสถานที่ที่อันตรายที่สุด
ฉันควรจะทำยังไงต่อไปดี? จะมีวิธีใดรอดจากที่แห่งนี้ไปได้บ้าง ภายนอกเองมีสัตว์ประหลาดที่ไม่ลดละความพยายามจะเข้ามาในหอคอยให้ได้? ถึงแม้ในหอคอยนี้ ผู้วิเศษที่แข็งแกร่ง แต่ไลนัสก็ได้รับบาดเจ็บ ตัวสั่นอยู่ที่เตาผิง สำหรับอาบิเกลและเซบาสเตียนนั้นก็แทบจะเป็นตัวภาระ ในกรณีนี้ถ้าเกิดเจ้าบ้าปิแอร์บุกเขามาได้ ผู้วิเศษจะรับมือกับเรื่องนี้ยังไง
อย่างไรก็ตาม ความสงสัยก็คือว่าผู้วิเศษนั้นอยู่ฝ่ายไหนกันแน่และ ท้ายที่สุด นี่คือเขตแดนของเขาคงมีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปหลังจากนี้
ตอนนี้สิ่งที่ฉันได้ทำได้เพียงอย่างเดียวคือพยายามหาทางออกไปจากที่นี้ให้ได้
ตอนที่หน่านเสี่ยวครุ่นคิดอย่างหนัก เซบาสเตียนก็ได้ทำอะไรบางอย่างที่หน่านเสี่ยวไม่ได้คาดคิดว่าเขาจะทำเช่นนั้นออกมา!