638 - ผสานรวมกับความมืด
1948 - ผสานรวมกับความมืด
ร่างกายของเขาทำตัวแปลกๆและเริ่มหนักขึ้นนิดหน่อย จุดของแสงมืดปรากฏออกมาริบหรี่ นี่เป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงของปีศาจหรือไม่?
สือฮ่าวสั่นเข้าไปถึงภายใน เขาไม่ได้สัมผัสกับเลือดสีดำจริงๆ แต่เขาก็ปนเปื้อนอยู่เงียบๆแล้ว?
“หยดเลือดนั่น?!” เขารีบหนีไปไกลออกจากภูมิภาคนั้น เขาสงสัยว่ามันมีส่วนเกี่ยวข้องกับเลือดของเมล็ดพันธุ์แห่งความมืดหรือไม่
บางทีนั่นอาจเป็นสิ่งที่ไม่เป็นมงคลที่อาจส่งผลกระทบต่อเขาได้?
สือฮ่าวออกจากสนามรบและเคลื่อนตัวผ่านความว่างเปล่าอย่างรวดเร็วร่างของเขาจึงหายไปอย่างไร้ร่องรอย
สองวันต่อมาในหุบเขามีแสงมืดริบหรี่คลื่นเสียงคำรามต่ำดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง สือฮ่าวได้รับการฝึกฝนในความสันโดษ เขาใช้วิชาลึกลับพยายามที่จะลบล้างความมืด
“น่าจะเป็นเพราะเลือดหยดนั้น”
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ออกมาร่างกายของเขากลับมาเป็นปกติ
กระบวนการนี้ลึกลับและยังอันตรายอย่างยิ่ง ในช่วงเวลานั้นเขาถูกกัดกร่อนด้วยความมืดไม่สามารถประคองตัวไว้
สือฮ่าวลุกขึ้น เขารู้สึกถึงความลังเล แต่ในที่สุดเขาก็ขุดสิ่งประดิษฐ์วิเศษเชิงพื้นที่ออกมาจากใต้หุบเขาอีกครั้ง
เขาเก็บมันไว้กับตัวโดยไม่มีทางเลือก ในตอนนี้เขารู้สึกสงสัยจริงๆว่าสิ่งประดิษฐ์เชิงพื้นที่จะสามารถเก็บมันไว้ได้หรือไม่
อย่างไรก็ตามเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากนำติดตัวไปด้วย เขายังคงระมัดระวังอย่างยิ่งให้ความสนใจกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกายกลัวว่าจะปนเปื้อนอีกครั้ง
โชคดีที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติ สือฮ่าวสงสัยว่าสาเหตุที่เขาเกือบเสียหายเป็นเพราะเลือดหยดลงบนเสื้อผ้าของเขามันจึงส่งผลกระทบเช่นนี้
โลกไม้กางเขนหยินหยางความว่างเปล่าที่นี่แยกออกจากกันสายน้ำสองสายปรากฏขึ้นและกลายเป็นประตู
สือฮ่าวยังคงเดินไปตามเส้นทางนั้น คนอื่นๆไม่สามารถทนแรงกดดันของพลังลึกลับที่อยู่ด้านหลังประตูได้ แต่มันไม่มีปัญหาสำหรับเขานี่เป็นเส้นทางที่มีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถใช้ได้
ในท้ายที่สุดเขาก็เข้าสู่ดินแดนที่ต่ำกว่าและเข้าสู่ดินแดนรกร้างที่เคยเป็นดินแดนปิดผนึก
“เจ้าเอาของประเภทนี้กลับมาได้จริง! นี่ไม่ใช่เลือดแห่งความมืดธรรมดา แต่เป็นสิ่งที่มาจากสิ่งมีชีวิตระดับเมล็ดพันธุ์เลือดแท้แห่งความมืด!”
ราชันย์ดินแดนปิดผนึกตกใจอย่างมาก ในบรรดาสิ่งมีชีวิตแห่งความมืดนี่คือเลือดศักดิ์สิทธิ์!
มันมีความสำคัญเป็นพิเศษ ด้วยเลือดนี้มันจะสามารถทำให้มนุษย์คนหนึ่งวิวัฒนาการไปจนถึงขั้นสูงสุดได้
นี่เป็นเลือดแท้ที่หายากซึ่งถูกสร้างโดยเมล็ดพันธุ์แห่งความมืดผ่านความยากลำบากและกระบวนการสังเวยที่ซับซ้อน เป็นสมบัติล้ำค่าที่สุดสิ่งที่หาไม่ได้อีกแล้ว
“มันไม่ใช่เมล็ดพันธุ์แห่งความมืดที่เกิดจากการบูชายัญ แต่ข้าได้จากศพตัวหนึ่ง” สือฮ่าวได้เล่าถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้านบนให้กับราชันดินแดนปิดผนึกฟัง
เมื่อราชันย์ดินแดนปิดผนึกได้ยินเขาก็สั่นสะท้านไปทั้งตัว
“ถ้าอย่างนั้นมันก็พิเศษยิ่งกว่าเมล็ดพันธุ์ที่เกิดจากการบูชายัญ นี่เป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ เจ้าได้สมบัติล้ำค่ามาแล้วรู้ตัวหรือไม่!”
สือฮ่าวเพิ่งรู้ว่าเลือดนี้ไม่ธรรมดา เขาถามว่าเลือดนี้มีประโยชน์อย่างไรเขาควรจัดการอย่างไร
“เจ้าควรอยู่ห่างมันสักหน่อย ไม่เช่นนั้นมันจะกัดกินเจ้าทำให้เจ้ากลายเป็นสิ่งมีชีวิตแห่งความมืด” ราชันย์แห่งดินแดนปิดผนึกเตือน
“ไม่มีประโยชน์? ถ้าเช่นนั้นต้องทำลายมันแล้ว” สือฮ่าวกล่าว
“มันยากมากที่จะทำลาย มันจะเติบโตและทวีคูณอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเว้นแต่เจ้าจะไปถึงระดับเต๋าอมตะถึงจะสามารถใช้โลหิตของตัวเองเผาผลาญมันอย่างต่อเนื่อง” ราชันย์ดินแดนปิดผนึกกล่าว
สือฮ่าวสายหน้า “เดิมทีข้าต้องการใช้ประโยชน์จากมันบ้าง แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีคุณค่ามากนัก ข้าไม่น่าเอาสิ่งนี้กลับมาเลย”
สือฮ่าวรู้สึกเสียใจเล็กน้อย จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาทำให้อาณาจักรต่ำกว่าปนเปื้อนไปด้วย? เมื่อสสารสีดำนี้แพร่กระจายเขาจะกลายเป็นคนบาปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
“ทิ้งมันไว้ที่นี่ อืมบางทีมันอาจจะมีประโยชน์บ้าง?” ราชันย์แห่งดินแดนปิดผนึกกล่าว
“ต้องใช้อย่างไร?” สือฮ่าวอดไม่ได้ที่จะถาม
“เจ้าสามารถอาบเลือดแห่งความมืดปล่อยให้มันกัดกร่อนเจ้าจนเสียหายอย่างสมบูรณ์”
"อะไร?!"
สือฮ่าวตกตะลึงอย่างถึงที่สุด
ไม่ว่าจะยังไงก็ตามเขาจะไม่ยอมทิ้งจิตวิญญาณดั้งเดิมในปัจจุบันของเขาอย่างแน่นอน
ถ้าเขาทำเช่นนั้นต่อให้เนื้อหนังของเขากลายเป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำลายได้ แต่เขาจะไม่ยอมกลายเป็นคนอื่นอย่างแน่นอน
ในความเป็นจริงเขายังไม่เชื่อใจราชันย์แห่งดินแดนปิดผนึกอย่างสมบูรณ์ เป็นเพราะทุกคนมีความลับของตัวเองนับประสาอะไรกับการที่ฝ่ายตรงข้ามปฏิบัติกับเขาอย่างดีเลิศเช่นนี้
“ อย่ารีบตีโพยตีพายฟังข้าก่อน สสารแห่งความมืดนั้นน่ากลัวอย่างยิ่ง แต่การปิดผนึกมันอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา ไม่ช้าก็เร็วเจ้าจะต้องสัมผัสกับมัน
หากเจ้าสามารถพัฒนาภูมิคุ้มกันของตัวเองเมื่อพบเจอในครั้งต่อไปมันจะไม่สามารถทำอะไรเจ้าได้” ราชันย์แห่งดินแดนปิดผนึกกล่าว
ยิ่งไปกว่านั้นเขารู้สึกเหมือนเวลานี้มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่อาณาจักรเซียนจะพ่ายแพ้ นั่นจะเป็นหายนะที่แท้จริง
“ในอนาคตโลกนี้จะต้องพบกับความวุ่นวายครั้งใหญ่ที่น่ากลัวที่สุดในประวัติศาสตร์อย่างแน่นอน ความมืดจะเข้าครอบงำทุกสิ่งทุกอย่างในโลกหากเจ้ามีภูมิคุ้มกันเจ้าก็จะปลอดภัย อย่างน้อยที่สุดหมอกมืดพวกนั้นจะไม่เป็นภัยต่อเจ้า!”
“สสารมืดอาจเป็นหายนะครั้งใหญ่ แต่มันสามารถหล่อเลี้ยงเนื้อหนังเปลี่ยนความตายให้เป็นชีวิต ขึ้นอยู่กับว่าสามารถใช้งานได้หรือไม่”
เมื่อได้ยินเช่นนี้สือฮ่าวก็รู้สึกสงสัยขึ้นทันที
“หรือว่าท่านต้องการให้ข้าเข้าร่วมกับสิ่งมีชีวิตแห่งความมืด?” สือฮ่าวถาม
หากถูกปนเปื้อนไปแล้วจะไม่มีทางกลับมาเป็นตัวของตัวเองได้อีก เมื่อคนๆหนึ่งตกอยู่ในความมืดจะเสียความรู้สึกของตัวตนนับประสาอะไรกับการมีชีวิตอยู่? ชีวิตเช่นนี้เขาไม่ต้องการ
ไม่เช่นนั้นทำไมอาณาจักรเซียนถึงยังคงมุ่งหน้าปิดผนึกมัน อีกทั้งผู้ที่เคยต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตแห่งความมืดจะไม่สามารถกลับเข้าสู่อาณาจักรเซียนได้อีก?
“ไม่มีที่ว่างให้คิดถึงคนอื่นนี่อาจเป็นโอกาส” ราชันย์แห่งดินแดนปิดผนึกกล่าว
“นี่เสี่ยงเกินไป” สือฮ่าวส่ายหัว
“แม้แต่คำสาปสังหารอมตะยังไม่สามารถทำอะไรเจ้าได้ หากเจ้าสามารถทนรับการกัดกร่อนจากความมืดมันจะทำให้เจ้าแข็งแกร่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด!” ราชันย์แห่งดินแดนปิดผนึกกล่าวอย่างจริงจัง
เมื่อสือฮ่าวได้ยินดังนั้นเขาก็แสดงสีหน้าจริงจังไม่พูดอะไร เขาเริ่มคิดอย่างรอบคอบกับตัวเอง
“ บางทีเจ้าอาจรู้สึกว่าตัวเองน่าทึ่งมากพอแล้ว แต่ขอบอกก่อนว่าการต่อสู้ในอนาคตนั้นไม่ใช่ว่าจะมีเพียงอาณาจักรเซียน โลกที่อยู่หลังกำแพงแห่งความโกลาหล และอาณาจักรแห่งความมืด
ยังจะมีสิ่งมีชีวิตจากโลกอันยิ่งใหญ่อีกนับหมื่นโลกที่จะเข้ามาที่นี่? สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นล้วนเฝ้าดูยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่นี้ผ่านสายน้ำแห่งกาลเวลาที่ไหลเชี่ยวกราก”
คำพูดของราชันย์แห่งดินแดนปิดผนึกนั้นชัดเจน แม้ว่าสือฮ่าวจะมีพรสวรรค์มากที่สุดในประวัติศาสตร์การบ่มเพาะ
แต่แม้จะมีเวลาให้เขาเพิ่มขึ้นอีกนับล้านปีก็ไม่มีทางที่เขาจะสามารถต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตที่ดำรงอยู่มาตั้งแต่ยุคเริ่มต้นซึ่งอาจมีชีวิตอยู่หลายพันล้านปีได้
สือฮ่าวเข้าใจเหตุผลเบื้องหลังสิ่งที่เขาพูด แต่เขาก็ยังรู้สึกเหมือนว่าชายคนนี้บ้าคลั่งเกินไป เหมือนกับว่าฝ่ายตรงข้ามไม่ใส่ใจในชีวิตของเขาเลย
“ นี่คือสิ่งที่เจ้าต้องทำไม่อาจหลีกเลี่ยง หากเจ้าทำสำเร็จเจ้าจะมีโอกาสกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งเกินกว่าราชาอมตะเหล่านั้น แต่หากเจ้าพ่ายแพ้ก็มีเพียงแค่ความตายที่รออยู่
ไม่ว่าจะตายช้าตายเร็วเจ้าก็ต้องตายอยู่ดี หากเจ้าไม่ได้เป็นราชาอมตะเมื่อยุคใหม่เริ่มขึ้นเจ้าก็จะถูกฆ่าตายตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น นี่เป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง” ราชันย์แห่งดินแดนปิดผนึกกล่าวออกมาตรงๆ
“ท่านต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ!” สือฮ่าวกล่าว อย่างไรก็ตามสุดท้ายแล้วเขาก็ตอบตกลง
ในตอนแรกเขาไม่เห็นด้วยกับสิ่งนี้อย่างยิ่ง แต่ท้ายที่สุดเพื่อที่จะแข็งแกร่งขึ้นเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น
“ยอดเยี่ยม. เลือดที่แท้จริงแห่งความมืดเพียงหยดเดียวก็เพียงพอที่จะใช้ในตอนนี้ ในอนาคตเจ้าจะต้องค้นหาเลือดชนิดนี้มาเพิ่มเติมเพื่อให้ตัวเจ้าแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น” ราชันย์แห่งดินแดนปิดผนึกกล่าว
ใบหน้าของสือฮ่าวเปลี่ยนไป ราชันย์แห่งดินแดนปิดผนึกที่อยู่ตรงหน้ามีความบริสุทธิ์สูงส่ง แต่สิ่งที่อยู่ในใจของเขากลับบิดเบี้ยวเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง