ตอนที่แล้วอาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 84 การวางแผนให้ชัดเจน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปอาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 86 สร้างความน่าเชื่อถือ

อาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 85 รู้สึกเสียใจกับพวกโจร


*วันนี้มีตอนเดียวนะครับ พรุ่งนี้วันหยุดอาจจะมี 3 ตอน*

ตอนที่ 85 รู้สึกเสียใจกับพวกโจร

ผู้กำกับสารคดีเบอร์เจซ มอรันครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นนักข่าวในสงครามที่กองทัพแห่งหนึ่ง

เขามายุโรปเข้าสู่สนามรบ เพื่อถ่ายทำสารคดีเกี่ยวกับสงคราม และหลังจากที่เขาถอนตัวออกไป เขาก็มาเข้าร่วมกับเอ็มจีเอ็ม

สารคดีของเขาได้รับรางวัลมากมาย

ซึ่งนี้แหละเป็นสิ่งที่ฮาร์ดี้ต้องการ

ฮาร์ดี้เล่าเรื่องทั้งหมดให้ผู้กำกับมอรันฟัง

มอรันรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยหลังจากที่ฟังจบ “ผมคิดว่าเรื่องนี้มันน่าสนใจมาก ที่เราจะถ่ายทำเหตุการณ์จับกุมโจรปล้นธนาคารพวกนี้”

“ผมก็หวังว่าเราจะถ่ายฉากตื่นเต้นนี้ออกมาได้ เพราะผมกำลังจะเอาเข้าฉายในโรงหนัง เมื่อได้ลองคิดดูแล้ว” ฮาร์ดี้กล่าว

มอรันยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเมื่อได้ยินอย่างนี้

สารคดีที่เขาเคยถ่ายทำมันไม่มีโอกาสได้เข้าไปในโรงหนังเลย “คุณฮาร์ดี้ไม่ต้องห่วง ตอนนี้ผมรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก และการถ่ายทำจะออกมาดีแน่ๆ”

เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

“ผมต้องการช่างภาพแปดคนและกล้องทั้งหมดแปดตัว” มอรันกล่าว

“ไม่มีปัญหา”

“ผมขอใช้ฟิล์มสีในการถ่ายทำได้ไหม?”

“ได้”

“ผมต้องการไปสำรวจที่ธนาคารและกรมตำรวจด้วย”

ฮาร์ดี้ยิ้ม “ไม่ต้องห่วง ทั้งหมดนี้เตรียมไว้ให้คุณหมดแล้ว”

สำนักงานใหญ่ธนาคารแห่งอเมริกาสาขาลอสแองเจลิส

กำลังมีการพูดคุยที่ห้องประชุม

ประธานมอเรีย จอห์นสตันกำลังโกรธมากกับการปล้นธนาคารในครั้งนี้ และเขาก็ตัดสินใจเสนอรางวัลมากกว่า 20,000 ดอลลาร์เพื่อค้นหาเบาะแสของโจรและจับกุมมาลงโทษให้ได้

“รู้ไหม? คำขวัญของธนาคารนี้คือ ‘การปกป้องทรัพย์สินของลูกค้าให้มีความปลอดภัยที่สุด’ และตอนนี้เราจะไม่ทนกับสิ่งที่มาทำลายทรัพย์สินของลูกค้าอีก! ซึ่งเหตุการณ์นี้มันต้องจบได้แล้ว”

การประชุมได้จบลง

เอ็ดเวิร์ดผู้จัดการทั่วไปของอุตสหากรรมภาพยนตร์เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม

“คุณจอห์นสตัน เจ้านายของผมได้ตกลงกับเอ็มจีเอ็มแล้วว่าภาพยนตร์เกี่ยวกับการเข้าจับกุมนี้ จะถูกสร้างเป็นสารคดีและเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ใหญ่ๆ ทั่วสหรัฐอเมริกา พร้อมกับที่จะส่งไปชิงออสการ์ด้วย”

“สิ่งนี่เป็นการประชาสัมพันธ์ที่ดีมากสำหรับธนาคาร และเจ้านายของผมได้ฝากมาถามว่า คุณอยากจะมีฉากของธนาคารในสารคดีเรื่องนี้ด้วยไหม? ซึ่งมันจะอยู่ส่วนหน้าๆ ของภาพยนตร์แน่นอน”

เดิมทีเอ็ดเวิร์ดเคยเป็นผู้จัดการบริษัทนายหน้า และบริษัทภาพยนตร์ของฮาร์ดี้ยังไม่มีผู้จัดการอยู่พอดี

ซึ่งก่อนที่ฮาร์ดี้จะได้ยินชื่อเขานั้น

ฮาร์ดี้เองก็มีเรื่องที่ต้องทำหลายอย่าง เช่นติดต่อหาความร่วมมือกับบริษัทเอ็มจีเอ็ม เขาต้องหาคนมาจัดการในส่วนนี้

ดังนั้นฮาร์ดี้เลยให้เอ็ดเวิร์ดมารับหน้าที่เป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัทภาพยนตร์

คนคนนี้ฉลาดมากในการทำธุรกิจ เขาจัดการได้ดีตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน

ฮาร์ดี้เลยบอกให้เอ็ดเวิร์ดมารับผิดชอบดูแลการถ่ายทำสารคดีพวกนี้ด้วย

บริษัทภาพยนตร์?

เมื่อจอห์นสตันได้ยินเรื่องนี้ เขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนคนนี้อยู่ในเครือเดียวกันกับบริษัทรักษาความปลอดภัย

แน่นอนว่าการได้ฉายในโรงภาพยนตร์ใหญ่ๆ ทั่วสหรัฐอเมริกาและการส่งไปชิงออสการ์ถือเป็นการส่งเสริมธนาคารแห่งอเมริกาอย่างแท้จริง

มันจะเป็นการโฆษณาที่ดี

แต่ประโยคสุดท้ายของคุณหมายถึงอะไร?

ได้เป็นฉากเปิดตัว?

แสดงว่ามันต้องมีฉากจบอีกใช่ไหม?

สิ่งนั้นมันจะเป็นภัยคุกคามมาถึงธนาคารหรือเปล่า?

เขารู้ดีว่าตอนนี้ธนาคารแห่งอเมริกาเป็นฝ่ายถูกปล้น และไม่ได้ทำอะไรที่จะป้องกันมันเลย หลังจากเกิดเหตุการณ์ปล้น

การที่จะถูกนำไปทำสารคดีหรือเอาไปฉายเป็นภาพยนตร์ มันจะสร้างความเสียหายเพิ่มให้กับธนาคารหรือเปล่า?

แล้วใครจะปล่อยให้บริษัทเหล่านี้ควบคุมชื่อเสียงของพวกเขา?

จอห์นสตันบอกให้เอ็ดเวิร์ดออกไปก่อน

เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรไปหาประธานธนาคารแห่งอเมริกาสาขาหลัก

ซึ่งตอนนี้เขาเป็นแค่ประธานของสาขาลอสแองเจลิส เหตุการณ์ที่จะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของธนาคารนั้น เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจด้วยตัวเองได้

“ท่านประธานมาร์ค ผมมีอะไรจะถามคุณสักหน่อยครับ”

จอห์นสตันเล่าแผนการจับโจร ถ่ายทำสารคดีและนำไปฉายทั่วประเทศพร้อมกับส่งขึ้นชิงออสการ์

และในที่สุดเขาก็กล่าวว่า “บริษัทภาพยนตร์ถามเราว่าอยากให้ ถ่ายทำฉากดีๆ กี่ฉากที่ธนาคาร เพื่อที่พวกเขาจะเอาไปใส่ในสารคดีได้”

ทันทีที่มาร์คได้ยินเขาก็รู้ได้ว่าบริษัทภาพยนตร์ต้องการทำอะไร

“แน่นอนว่ายิ่งเยอะยิ่งดี และภาพลักษณ์ของธนาคารก็ต้องไม่เสียหายด้วย ให้เน้นไปที่การบริการของธนาคารกับประชาชนได้เลย”

“มันต้องไม่มีฉากของธนาคารแย่ๆ โผล่มาเด็ดขาด เพราะคุณรู้ใช่ไหม? ว่าผลที่ตามมาของการประชาสัมพันธ์ที่ผิดพลาดนั้นร้ายแรงเพียงใด มันอาจจะทำลายภาพลักษณ์ของเราจนหมดเลยก็ได้ และมันก็จะติดตัวเราไปอีกนานแสนนาน” ประธานมาร์คกล่าว

“และเพื่อที่จะรับมือกับข่าวแย่ๆ ราคาหุ้นของเราจะลดลง และผู้ถือหุ้นจะไม่ยอมกันแน่ๆ คุณเข้าใจไหมจอห์นสตัน?”

“ท่านประธานมาร์ค ผมรู้สึกได้ว่าบริษัทภาพยนตร์กำลังคุกคามเราพวกเขาต้องการเงินแน่ๆ” จอห์นสตันกล่าว

“แน่นอน ฉันก็รู้สึกเหมือนกัน แต่มันก็เป็นสิ่งที่ดีเพราะอย่างน้อยอีกฝ่ายก็ยังมาเจรจา และถ้าสารคดีส่งเสริมภาพลักษณ์ของธนาคารเราให้ดีขึ้น มันก็จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อธนาคาร และฉันก็ยินดีจะจ่ายเป็นค่าโฆษณาด้วยซ้ำ”

“แล้วท่านคิดว่าเท่าไหร่ ถึงจะเหมาะสมหรือครับ?” จอห์นสตันถาม

อันที่จริงจอห์นสตันก็รู้แล้วว่าต้องทำอะไร

เขานั้นไม่ได้โง่

แต่ท่านประธานมาร์คก็ฉลาดกว่ามาก ก็เลยต้องโทรมาหาเขา เพราะเงินที่ต้องจ่ายออกไปอาจจะไม่ใช่จำนวนน้อยๆ

แล้วเขาก็เป็นแค่สาขาย่อยของธนาคารแห่งอเมริกา มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะได้ตัดสินใจด้วยตัวเอง

“อีกฝ่ายได้เสนอตัวเลขมาหรือเปล่า?” ประธานมาร์คถาม

“ไม่ครับ”

อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

“จัดสรรค่าใช้จ่ายในการประชาสัมพันธ์เป็นจำนวน 100,000 ดอลลาร์ จากสาขาลอสแองเจลิสของคุณให้กับอีกฝ่ายได้เลย”

จอห์นสตันกล่าวในใจว่าท่านประธานช่างใจป๋าจริงๆ เขาถึงกับจ่ายถึง 100,000 ดอลลาร์สำหรับการโฆษณาครั้งเดียว

สำหรับจอห์นสตันนั้นไม่มีสิทธิ์ที่จะจ่ายได้ขนาดนี้แน่นอน เพราะจำนวนเงิน 100,000 ดอลลาร์มันมากเกินไปจริงๆ

และเขาก็คาดไม่ถึงเหมือนกันว่ามันยังไม่จบ

ประธานมาร์คกล่าวต่อว่า “ฉันจะหาให้อีก 100,000 ดอลลาร์จากสำนักงานใหญ่ และเอาไปให้อีกฝ่ายให้เรียบร้อยล่ะ”

สำนักงานใหญ่ก็ช่วยออกด้วยเหรอ?

จอห์นสตันรู้สึกแปลกใจ

“จำนวน 200,000 ดอลลาร์มันไม่มากไปหรือครับ?” จอห์นสตันกล่าว

“ตราบใดที่อีกฝ่ายนำเสนอภาพลักษณ์ของเราไปในทางที่ดี และนำไปออกอากาศในโรงภาพยนตร์ทั่วสหรัฐอเมริกาได้ ยังไงมันก็คุ้มค่าอยู่แล้ว”

“ครับท่าน! ผมเข้าใจแล้ว”

200,000 ดอลลาร์

เอ็ดเวิร์ดตื่นเต้นมากเมื่อได้ยินจำนวนเงินนี้

เพราะมันเป็นแค่สารคดีเท่านั้นเอง และมันก็ยังไม่เริ่มถ่ายทำเลยด้วยซ้ำ

แต่เขาก็ได้รับเงินจำนวน 200,000 ดอลลาร์เป็นค่าโฆษณาแล้ว

ถึงจะยืมตัวผู้กำกับ กล้องแปดตัว และของบางอย่างก็มาจากเอ็มจีเอ็ม

ค่าใช้จ่ายรวมๆ แล้วก็แค่ 20,000 ดอลลาร์เท่านั้น

แต่ตอนนี้เขากลับได้กำไรมามากถึง 10 เท่า

จอห์นสตันมองดูเอ็ดเวิร์ดและพูดอย่างจริงจังว่า “คุณเอ็ดเวิร์ด พวกเรายินดีที่จะลงทุนค่าโฆษณามหาศาลขนาดนี้ เราก็ต้องได้สิ่งที่พวกเราต้องการด้วย ผมแค่หวังว่ามันจะไม่มีโฆษณาด้านลบเกี่ยวกับธนาคารก็พอแล้ว”

เอ็ดเวิร์ดยิ้ม

“คุณสามารถวางใจได้ หลังจากภาพยนตร์ถ่ายทำเสร็จ หลายบริษัทที่ร่วมมือกับเราจะถูกเรียกให้มารับชมตัวอย่างพร้อมกัน และภาพยนตร์เรื่องนี้จะได้ปล่อยตัวอย่างเป็นทางการก็ต่อเมื่อทุกคนพอใจกับมัน”

ในที่สุดจอห์นสตันก็โล่งใจเมื่อเอ็ดเวิร์ดพูดแบบนี้

เอ็ดเวิร์ดจากไปพร้อมกับเช็ค 100,000 ดอลลาร์ ส่วนอีก 100,000 ดอลลาร์ที่เหลือ จอห์นสตันบอกว่าเขาขอดูตัวอย่างภาพยนตร์ก่อน และเขาจะจ่ายส่วนที่เหลือให้

ซึ่งเอ็ดเวิร์ดก็คิดว่าควรเป็นเช่นนั้น

ด้วยเงิน 100,000 ดอลลาร์ที่อยู่ในมือ

มันคือกำไรอย่างมหาศาล

กรมตำรวจลอสแองเจลิส

ผู้กำกับเอ็ดหันหน้าเข้าหากล้องและกำลังพูดถึงคดีการปล้น

ท้ายที่สุดเขายังบอกว่า เขาจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจับกุมพวกโจรมาให้ได้ เพื่อที่จะได้ยืนยันความปลอดภัยของประชาชน

บริษัทเอชดีซีเคียวริตี้

ที่ลานกว้าง

เจ้าหน้าที่ทั้งหมดอยู่ที่นี่

ชุดฝึกสีดำ เสื้อเกราะกันกระสุน หมวกกันนอก ปืนพกห้อยที่เอว ไฟฉาย และกระสุนในกระเป๋าข้าง

บางคนก็ถือปืนกล

บางคนก็ถือปืนสไนเปอร์

ทั้งหมดพรางใบหน้า และมีเพียงดวงตาเท่านั้นที่โผล่ออกมา

และชุดพวกนี้ก็คล้ายกับกองกำลังพิเศษอย่างมาก

แน่นอนว่าชุดฝึกสีดำและอุปกรณพวกนี้ถูกทำขึ้นมาให้พวกเขาโดยเฉพาะ

เมื่อฮาร์ดี้ก่อตั้งบริษัท ตอนนั้นพวกเขายังฝึกกันไม่เสร็จเลยด้วยซ้ำ แต่ฮาร์ดี้ก็บอกให้พวกเขาออกมาก่อน ซึ่งถ้าดูดีๆ พวกเขาจะดูหล่อเหลากันอย่างมาก

และแต่ละทีมจะติดตั้งชุดวิทยุสื่อสารไร้สายไว้ เพื่อที่จะเอาไว้สื่อสารกัน

ถึงแม้ระยะมันจะได้แค่ 15 ไมล์ แต่ในยุคนี้ก็ถือว่าเยอะแล้ว ซึ่งมันก็เป็นเทคโนโลยีที่เหมาสมสำหรับการปฏิบัติการขนาดเล็กอย่างนี้ได้ดี

ทันทีที่เจ้าหน้าที่ทั้งหมดยืนอยู่ตรงนี้

มันทำให้ผู้คนรู้สึกปลอดภัยในทันที

มันดูเป็นมืออาชีพมาก

นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้กำกับมอรันได้เห็นทีมรักษาความปลอดภัย

เขาตกตะลึงไปเลย

เขารีบสั่งให้กล้องหลายตัวถ่ายไปตามมุมต่างๆ เพื่อพยายามถ่ายภาพออกมาให้ทรงพลังที่สุด

ที่ห้องวางแผน

แลนสเตอร์กำลังถูกสัมภาษณ์

“เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเราล้วนเป็นทหารผ่านศึก พวกเขาเคยไปสนามรบในเอเชียและยุโรปมาแล้ว แน่นอนว่าพวกเขาเก่งกาจในด้านการต่อสู้ พวกเขาเป็นคนที่ช่วยสนับสนุนความปลอดภัยให้ประเทศมาก่อน และหลังจากเข้าร่วมบริษัทรักษาความปลอดภัย ทุกๆ คนจะได้รับการฝึกอบรมจากทางเราให้เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพื่อให้บริการประชาชนต่อไป”

“หลังจากการปล้นธนาคารแห่งอเมริกา บริษัทเราก็ได้รับการว่าจ้างจากธนาคารให้หาเบาะแสมาให้ได้ และเราก็ใช้เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองจำนวนมากเพื่อรวบรวมข้อมูล จนในที่สุดเราก็พบที่ซ่อนตัวของพวกมันแล้ว”

“เราได้ติดต่อกับกรมตำรวจลอสแองเจลิสอีกด้วย และตอนนี้ทั้งสองฝ่ายก็ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในการปฏิบัติการจับกุมครั้งนี้ ซึ่งฉันก็เชื่อว่าบริษัทรักษาความปลอดภัยเราจะกลายเป็นพลังที่สามารถปกป้องพลเมืองลอสแองเจลิสได้ด้วย”

“ทางเราพบว่ามีโจรหกคน แต่อาจจะมีคนอื่นๆ ซ่อนอยู่อีก”

“เราได้เตรียมกองกำลังไว้ทั้งหมด 6 ทีม 5 ทีมจะเป็นหน่วยบุกทะลวง และ 1 ทีมจะเป็นหน่วยสไนเปอร์ ซึ่งอันที่จริงแค่เพียง 1 ทีมก็สามารถจับพวกโจรได้แล้ว แต่เพื่อความปลอดภัยของผู้คน ทางเราจึงส่งกองกำลังไปทั้งหมด 6 ทีม เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาด”

“ออกเดินทางได้!”

หลังจากสิ้นสุดคำสั่ง

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหกสิบคนก็ปีนขึ้นไปบนรถ และแลนสเตอร์ก็ขึ้นรถสำหรับออกคำสั่งในฐานะผู้บัญชาการ

ซึ่งมีวิทยุอยู่ในรถเพื่อพูดคุยกับทีมทั้งหก

ช่างภาพหลายคนติดตามหน่วยต่างๆ และถ่ายภาพต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรถสั่งการ

ในเวลาเดียวกัน

สถานีตำรวจก็ส่งทีมมาด้วย

มีทั้งหมด 20 คน

เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรวมตัวกันห่างจากสถานีเก็บขยะประมาณ 3 กิโลเมตร และพวกเขาก็ลงจากสถานีพร้อมกัน

เจ้าหน้าที่ตำรวจดูด้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด

อาวุธของพวกเขาคือปืนพกและปืนยาวสองสามกระบอก

และเมื่อมองไปที่ทีมรักษาความปลอดภัยที่อยู่ข้างๆ พวกเขาดูจะแข็งแกร่งมากกว่าเสียอีก

เหมือนกับจะไปทำสงครามที่ไหนสักที่

ผู้กำกับเอ็ดและแลนสเตอร์จับมือกัน

เอ็ดพูดกับกล้องว่า “พวกโจรที่ปล้นธนาคารเป็นกลุ่มอันธพาลที่ไร้มนุษยธรรม ซึ่งกรมตำรวจขาดอำนาจในการยิงพวกเขา ด้วยเหตุนี้เราจึงร่วมมือกับหน่วยรักษาความปลอดภัยเพื่อเข้าจับกุม และการดำเนินการส่วนใหญ่จะดำเนินการโดยหน่วยรักษาความปลอดภัย ส่วนทางเราจะค่อยช่วยเหลืออยู่รอบนอก”

เอ็ดหันไปมองแลนสเตอร์แล้วถามว่า “คุณแน่ใจใช่ไหม? ว่าพวกโจรยังอยู่ในสถานีเก็บขยะ?”

“ใช่! เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของเราจับตาดูอยู่ตลอด” แลนสเตอร์กล่าว

“ถ้างั้นเรามาเริ่มกันเลยไหม?”

“ตกลง!”

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยขึ้นรถไปอีกครั้งและไปที่สถานีเก็บขยะ

ทั้งหมดหยุดที่สถานีเก็บขยะห่างไป 500 เมตร

ทีมปฏิบัติการลงจากรถและพุ่งไปข้างหน้าในทิศทางที่ต่างกัน

ทีมงานภาพยนตร์ติดตามอย่างใกล้ชิดอยู่ข้างหลัง

ตามมาด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ในรถลีมูซีนมีชายร่างใหญ่หลายคนนั่งอยู่ในนั้น

พวกเขาก็คือเมเยอร์หัวหน้าเอ็มจีเอ็ม รอสนายกเทศมนตรีลอสแองเจลิส จอห์นสตันประธานธนาคารแห่งอเมริกาลอสแองเจลิส และฮาร์ดี้หัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัย

นี่เป็นครั้งแรกที่ฮาร์ดี้ได้พบกับนายกเทศมนตรีรอสและประธานจอห์นสตัน

เขาขอให้เมเยอร์หัวหน้าเอ็มจีเอ็มช่วยเชิญเขามาที่นี่

แน่นอนว่าการสร้างเครือข่ายผู้ติดต่อก็มีความสำคัญเหมือนกัน

และตอนนี้เขาก็มีคุณสมบัติที่จะได้เจอคนเหล่านี้แล้ว

“คุณฮาร์ดี้ ฉันขอชื่นชมคุณที่สร้างทีมรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งขนาดนี้ได้ ฉันเชื่อว่าความปลอดภัยของประชาชนจะเพิ่มขึ้นมากอย่างแน่นอน” นายกเทศมนตรีรอสกล่าว

ถัดจากประธานาธิบดี

จอห์นสตันมองไปที่ชายหนุ่มตรงหน้าและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ผมชื่นชมความสามารถในการบริหารจัดการของเขามากกว่า”

บริษัทภาพยนตร์ได้เงิน 200,000 ดอลลาร์จากเขาไปอย่างง่ายดายเมื่อวานนี้ และเขายังต้องขอบคุณคนอื่นๆ ที่มาช่วยในครั้งนี้อีก

และยังมีสัญญาที่จะต้องร่วมมือกันในอนาคตด้วย

เมเยอร์มองดูการปฏิบัติการเข้าจับกุมครั้งนี้ และเขาก็หันไปหาฮาร์ดี้แล้วพูดว่า “ฮาร์ดี้ จู่ๆ ฉันก็รู้สึกเสียใจกับพวกโจรซะแล้วสิ”

“ทำไมเหรอครับ?”

“เพราะพวกเขาต้องมาเจอกับคุณ…”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด