อาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 85 รู้สึกเสียใจกับพวกโจร
*วันนี้มีตอนเดียวนะครับ พรุ่งนี้วันหยุดอาจจะมี 3 ตอน*
ตอนที่ 85 รู้สึกเสียใจกับพวกโจร
ผู้กำกับสารคดีเบอร์เจซ มอรันครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นนักข่าวในสงครามที่กองทัพแห่งหนึ่ง
เขามายุโรปเข้าสู่สนามรบ เพื่อถ่ายทำสารคดีเกี่ยวกับสงคราม และหลังจากที่เขาถอนตัวออกไป เขาก็มาเข้าร่วมกับเอ็มจีเอ็ม
สารคดีของเขาได้รับรางวัลมากมาย
ซึ่งนี้แหละเป็นสิ่งที่ฮาร์ดี้ต้องการ
ฮาร์ดี้เล่าเรื่องทั้งหมดให้ผู้กำกับมอรันฟัง
มอรันรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยหลังจากที่ฟังจบ “ผมคิดว่าเรื่องนี้มันน่าสนใจมาก ที่เราจะถ่ายทำเหตุการณ์จับกุมโจรปล้นธนาคารพวกนี้”
“ผมก็หวังว่าเราจะถ่ายฉากตื่นเต้นนี้ออกมาได้ เพราะผมกำลังจะเอาเข้าฉายในโรงหนัง เมื่อได้ลองคิดดูแล้ว” ฮาร์ดี้กล่าว
มอรันยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเมื่อได้ยินอย่างนี้
สารคดีที่เขาเคยถ่ายทำมันไม่มีโอกาสได้เข้าไปในโรงหนังเลย “คุณฮาร์ดี้ไม่ต้องห่วง ตอนนี้ผมรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก และการถ่ายทำจะออกมาดีแน่ๆ”
เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“ผมต้องการช่างภาพแปดคนและกล้องทั้งหมดแปดตัว” มอรันกล่าว
“ไม่มีปัญหา”
“ผมขอใช้ฟิล์มสีในการถ่ายทำได้ไหม?”
“ได้”
“ผมต้องการไปสำรวจที่ธนาคารและกรมตำรวจด้วย”
ฮาร์ดี้ยิ้ม “ไม่ต้องห่วง ทั้งหมดนี้เตรียมไว้ให้คุณหมดแล้ว”
…
สำนักงานใหญ่ธนาคารแห่งอเมริกาสาขาลอสแองเจลิส
กำลังมีการพูดคุยที่ห้องประชุม
ประธานมอเรีย จอห์นสตันกำลังโกรธมากกับการปล้นธนาคารในครั้งนี้ และเขาก็ตัดสินใจเสนอรางวัลมากกว่า 20,000 ดอลลาร์เพื่อค้นหาเบาะแสของโจรและจับกุมมาลงโทษให้ได้
“รู้ไหม? คำขวัญของธนาคารนี้คือ ‘การปกป้องทรัพย์สินของลูกค้าให้มีความปลอดภัยที่สุด’ และตอนนี้เราจะไม่ทนกับสิ่งที่มาทำลายทรัพย์สินของลูกค้าอีก! ซึ่งเหตุการณ์นี้มันต้องจบได้แล้ว”
การประชุมได้จบลง
เอ็ดเวิร์ดผู้จัดการทั่วไปของอุตสหากรรมภาพยนตร์เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม
“คุณจอห์นสตัน เจ้านายของผมได้ตกลงกับเอ็มจีเอ็มแล้วว่าภาพยนตร์เกี่ยวกับการเข้าจับกุมนี้ จะถูกสร้างเป็นสารคดีและเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ใหญ่ๆ ทั่วสหรัฐอเมริกา พร้อมกับที่จะส่งไปชิงออสการ์ด้วย”
“สิ่งนี่เป็นการประชาสัมพันธ์ที่ดีมากสำหรับธนาคาร และเจ้านายของผมได้ฝากมาถามว่า คุณอยากจะมีฉากของธนาคารในสารคดีเรื่องนี้ด้วยไหม? ซึ่งมันจะอยู่ส่วนหน้าๆ ของภาพยนตร์แน่นอน”
เดิมทีเอ็ดเวิร์ดเคยเป็นผู้จัดการบริษัทนายหน้า และบริษัทภาพยนตร์ของฮาร์ดี้ยังไม่มีผู้จัดการอยู่พอดี
ซึ่งก่อนที่ฮาร์ดี้จะได้ยินชื่อเขานั้น
ฮาร์ดี้เองก็มีเรื่องที่ต้องทำหลายอย่าง เช่นติดต่อหาความร่วมมือกับบริษัทเอ็มจีเอ็ม เขาต้องหาคนมาจัดการในส่วนนี้
ดังนั้นฮาร์ดี้เลยให้เอ็ดเวิร์ดมารับหน้าที่เป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัทภาพยนตร์
คนคนนี้ฉลาดมากในการทำธุรกิจ เขาจัดการได้ดีตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน
ฮาร์ดี้เลยบอกให้เอ็ดเวิร์ดมารับผิดชอบดูแลการถ่ายทำสารคดีพวกนี้ด้วย
บริษัทภาพยนตร์?
เมื่อจอห์นสตันได้ยินเรื่องนี้ เขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนคนนี้อยู่ในเครือเดียวกันกับบริษัทรักษาความปลอดภัย
แน่นอนว่าการได้ฉายในโรงภาพยนตร์ใหญ่ๆ ทั่วสหรัฐอเมริกาและการส่งไปชิงออสการ์ถือเป็นการส่งเสริมธนาคารแห่งอเมริกาอย่างแท้จริง
มันจะเป็นการโฆษณาที่ดี
แต่ประโยคสุดท้ายของคุณหมายถึงอะไร?
ได้เป็นฉากเปิดตัว?
แสดงว่ามันต้องมีฉากจบอีกใช่ไหม?
สิ่งนั้นมันจะเป็นภัยคุกคามมาถึงธนาคารหรือเปล่า?
เขารู้ดีว่าตอนนี้ธนาคารแห่งอเมริกาเป็นฝ่ายถูกปล้น และไม่ได้ทำอะไรที่จะป้องกันมันเลย หลังจากเกิดเหตุการณ์ปล้น
การที่จะถูกนำไปทำสารคดีหรือเอาไปฉายเป็นภาพยนตร์ มันจะสร้างความเสียหายเพิ่มให้กับธนาคารหรือเปล่า?
แล้วใครจะปล่อยให้บริษัทเหล่านี้ควบคุมชื่อเสียงของพวกเขา?
จอห์นสตันบอกให้เอ็ดเวิร์ดออกไปก่อน
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรไปหาประธานธนาคารแห่งอเมริกาสาขาหลัก
ซึ่งตอนนี้เขาเป็นแค่ประธานของสาขาลอสแองเจลิส เหตุการณ์ที่จะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของธนาคารนั้น เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจด้วยตัวเองได้
“ท่านประธานมาร์ค ผมมีอะไรจะถามคุณสักหน่อยครับ”
จอห์นสตันเล่าแผนการจับโจร ถ่ายทำสารคดีและนำไปฉายทั่วประเทศพร้อมกับส่งขึ้นชิงออสการ์
และในที่สุดเขาก็กล่าวว่า “บริษัทภาพยนตร์ถามเราว่าอยากให้ ถ่ายทำฉากดีๆ กี่ฉากที่ธนาคาร เพื่อที่พวกเขาจะเอาไปใส่ในสารคดีได้”
ทันทีที่มาร์คได้ยินเขาก็รู้ได้ว่าบริษัทภาพยนตร์ต้องการทำอะไร
“แน่นอนว่ายิ่งเยอะยิ่งดี และภาพลักษณ์ของธนาคารก็ต้องไม่เสียหายด้วย ให้เน้นไปที่การบริการของธนาคารกับประชาชนได้เลย”
“มันต้องไม่มีฉากของธนาคารแย่ๆ โผล่มาเด็ดขาด เพราะคุณรู้ใช่ไหม? ว่าผลที่ตามมาของการประชาสัมพันธ์ที่ผิดพลาดนั้นร้ายแรงเพียงใด มันอาจจะทำลายภาพลักษณ์ของเราจนหมดเลยก็ได้ และมันก็จะติดตัวเราไปอีกนานแสนนาน” ประธานมาร์คกล่าว
“และเพื่อที่จะรับมือกับข่าวแย่ๆ ราคาหุ้นของเราจะลดลง และผู้ถือหุ้นจะไม่ยอมกันแน่ๆ คุณเข้าใจไหมจอห์นสตัน?”
“ท่านประธานมาร์ค ผมรู้สึกได้ว่าบริษัทภาพยนตร์กำลังคุกคามเราพวกเขาต้องการเงินแน่ๆ” จอห์นสตันกล่าว
“แน่นอน ฉันก็รู้สึกเหมือนกัน แต่มันก็เป็นสิ่งที่ดีเพราะอย่างน้อยอีกฝ่ายก็ยังมาเจรจา และถ้าสารคดีส่งเสริมภาพลักษณ์ของธนาคารเราให้ดีขึ้น มันก็จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อธนาคาร และฉันก็ยินดีจะจ่ายเป็นค่าโฆษณาด้วยซ้ำ”
“แล้วท่านคิดว่าเท่าไหร่ ถึงจะเหมาะสมหรือครับ?” จอห์นสตันถาม
อันที่จริงจอห์นสตันก็รู้แล้วว่าต้องทำอะไร
เขานั้นไม่ได้โง่
แต่ท่านประธานมาร์คก็ฉลาดกว่ามาก ก็เลยต้องโทรมาหาเขา เพราะเงินที่ต้องจ่ายออกไปอาจจะไม่ใช่จำนวนน้อยๆ
แล้วเขาก็เป็นแค่สาขาย่อยของธนาคารแห่งอเมริกา มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะได้ตัดสินใจด้วยตัวเอง
“อีกฝ่ายได้เสนอตัวเลขมาหรือเปล่า?” ประธานมาร์คถาม
“ไม่ครับ”
อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“จัดสรรค่าใช้จ่ายในการประชาสัมพันธ์เป็นจำนวน 100,000 ดอลลาร์ จากสาขาลอสแองเจลิสของคุณให้กับอีกฝ่ายได้เลย”
จอห์นสตันกล่าวในใจว่าท่านประธานช่างใจป๋าจริงๆ เขาถึงกับจ่ายถึง 100,000 ดอลลาร์สำหรับการโฆษณาครั้งเดียว
สำหรับจอห์นสตันนั้นไม่มีสิทธิ์ที่จะจ่ายได้ขนาดนี้แน่นอน เพราะจำนวนเงิน 100,000 ดอลลาร์มันมากเกินไปจริงๆ
และเขาก็คาดไม่ถึงเหมือนกันว่ามันยังไม่จบ
ประธานมาร์คกล่าวต่อว่า “ฉันจะหาให้อีก 100,000 ดอลลาร์จากสำนักงานใหญ่ และเอาไปให้อีกฝ่ายให้เรียบร้อยล่ะ”
สำนักงานใหญ่ก็ช่วยออกด้วยเหรอ?
จอห์นสตันรู้สึกแปลกใจ
“จำนวน 200,000 ดอลลาร์มันไม่มากไปหรือครับ?” จอห์นสตันกล่าว
“ตราบใดที่อีกฝ่ายนำเสนอภาพลักษณ์ของเราไปในทางที่ดี และนำไปออกอากาศในโรงภาพยนตร์ทั่วสหรัฐอเมริกาได้ ยังไงมันก็คุ้มค่าอยู่แล้ว”
“ครับท่าน! ผมเข้าใจแล้ว”
200,000 ดอลลาร์
เอ็ดเวิร์ดตื่นเต้นมากเมื่อได้ยินจำนวนเงินนี้
เพราะมันเป็นแค่สารคดีเท่านั้นเอง และมันก็ยังไม่เริ่มถ่ายทำเลยด้วยซ้ำ
แต่เขาก็ได้รับเงินจำนวน 200,000 ดอลลาร์เป็นค่าโฆษณาแล้ว
…
ถึงจะยืมตัวผู้กำกับ กล้องแปดตัว และของบางอย่างก็มาจากเอ็มจีเอ็ม
ค่าใช้จ่ายรวมๆ แล้วก็แค่ 20,000 ดอลลาร์เท่านั้น
แต่ตอนนี้เขากลับได้กำไรมามากถึง 10 เท่า
จอห์นสตันมองดูเอ็ดเวิร์ดและพูดอย่างจริงจังว่า “คุณเอ็ดเวิร์ด พวกเรายินดีที่จะลงทุนค่าโฆษณามหาศาลขนาดนี้ เราก็ต้องได้สิ่งที่พวกเราต้องการด้วย ผมแค่หวังว่ามันจะไม่มีโฆษณาด้านลบเกี่ยวกับธนาคารก็พอแล้ว”
เอ็ดเวิร์ดยิ้ม
“คุณสามารถวางใจได้ หลังจากภาพยนตร์ถ่ายทำเสร็จ หลายบริษัทที่ร่วมมือกับเราจะถูกเรียกให้มารับชมตัวอย่างพร้อมกัน และภาพยนตร์เรื่องนี้จะได้ปล่อยตัวอย่างเป็นทางการก็ต่อเมื่อทุกคนพอใจกับมัน”
ในที่สุดจอห์นสตันก็โล่งใจเมื่อเอ็ดเวิร์ดพูดแบบนี้
เอ็ดเวิร์ดจากไปพร้อมกับเช็ค 100,000 ดอลลาร์ ส่วนอีก 100,000 ดอลลาร์ที่เหลือ จอห์นสตันบอกว่าเขาขอดูตัวอย่างภาพยนตร์ก่อน และเขาจะจ่ายส่วนที่เหลือให้
ซึ่งเอ็ดเวิร์ดก็คิดว่าควรเป็นเช่นนั้น
ด้วยเงิน 100,000 ดอลลาร์ที่อยู่ในมือ
มันคือกำไรอย่างมหาศาล
…
กรมตำรวจลอสแองเจลิส
ผู้กำกับเอ็ดหันหน้าเข้าหากล้องและกำลังพูดถึงคดีการปล้น
ท้ายที่สุดเขายังบอกว่า เขาจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจับกุมพวกโจรมาให้ได้ เพื่อที่จะได้ยืนยันความปลอดภัยของประชาชน
…
บริษัทเอชดีซีเคียวริตี้
ที่ลานกว้าง
เจ้าหน้าที่ทั้งหมดอยู่ที่นี่
ชุดฝึกสีดำ เสื้อเกราะกันกระสุน หมวกกันนอก ปืนพกห้อยที่เอว ไฟฉาย และกระสุนในกระเป๋าข้าง
บางคนก็ถือปืนกล
บางคนก็ถือปืนสไนเปอร์
ทั้งหมดพรางใบหน้า และมีเพียงดวงตาเท่านั้นที่โผล่ออกมา
และชุดพวกนี้ก็คล้ายกับกองกำลังพิเศษอย่างมาก
แน่นอนว่าชุดฝึกสีดำและอุปกรณพวกนี้ถูกทำขึ้นมาให้พวกเขาโดยเฉพาะ
เมื่อฮาร์ดี้ก่อตั้งบริษัท ตอนนั้นพวกเขายังฝึกกันไม่เสร็จเลยด้วยซ้ำ แต่ฮาร์ดี้ก็บอกให้พวกเขาออกมาก่อน ซึ่งถ้าดูดีๆ พวกเขาจะดูหล่อเหลากันอย่างมาก
และแต่ละทีมจะติดตั้งชุดวิทยุสื่อสารไร้สายไว้ เพื่อที่จะเอาไว้สื่อสารกัน
ถึงแม้ระยะมันจะได้แค่ 15 ไมล์ แต่ในยุคนี้ก็ถือว่าเยอะแล้ว ซึ่งมันก็เป็นเทคโนโลยีที่เหมาสมสำหรับการปฏิบัติการขนาดเล็กอย่างนี้ได้ดี
ทันทีที่เจ้าหน้าที่ทั้งหมดยืนอยู่ตรงนี้
มันทำให้ผู้คนรู้สึกปลอดภัยในทันที
มันดูเป็นมืออาชีพมาก
…
นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้กำกับมอรันได้เห็นทีมรักษาความปลอดภัย
เขาตกตะลึงไปเลย
เขารีบสั่งให้กล้องหลายตัวถ่ายไปตามมุมต่างๆ เพื่อพยายามถ่ายภาพออกมาให้ทรงพลังที่สุด
ที่ห้องวางแผน
แลนสเตอร์กำลังถูกสัมภาษณ์
“เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเราล้วนเป็นทหารผ่านศึก พวกเขาเคยไปสนามรบในเอเชียและยุโรปมาแล้ว แน่นอนว่าพวกเขาเก่งกาจในด้านการต่อสู้ พวกเขาเป็นคนที่ช่วยสนับสนุนความปลอดภัยให้ประเทศมาก่อน และหลังจากเข้าร่วมบริษัทรักษาความปลอดภัย ทุกๆ คนจะได้รับการฝึกอบรมจากทางเราให้เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพื่อให้บริการประชาชนต่อไป”
“หลังจากการปล้นธนาคารแห่งอเมริกา บริษัทเราก็ได้รับการว่าจ้างจากธนาคารให้หาเบาะแสมาให้ได้ และเราก็ใช้เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองจำนวนมากเพื่อรวบรวมข้อมูล จนในที่สุดเราก็พบที่ซ่อนตัวของพวกมันแล้ว”
“เราได้ติดต่อกับกรมตำรวจลอสแองเจลิสอีกด้วย และตอนนี้ทั้งสองฝ่ายก็ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในการปฏิบัติการจับกุมครั้งนี้ ซึ่งฉันก็เชื่อว่าบริษัทรักษาความปลอดภัยเราจะกลายเป็นพลังที่สามารถปกป้องพลเมืองลอสแองเจลิสได้ด้วย”
“ทางเราพบว่ามีโจรหกคน แต่อาจจะมีคนอื่นๆ ซ่อนอยู่อีก”
“เราได้เตรียมกองกำลังไว้ทั้งหมด 6 ทีม 5 ทีมจะเป็นหน่วยบุกทะลวง และ 1 ทีมจะเป็นหน่วยสไนเปอร์ ซึ่งอันที่จริงแค่เพียง 1 ทีมก็สามารถจับพวกโจรได้แล้ว แต่เพื่อความปลอดภัยของผู้คน ทางเราจึงส่งกองกำลังไปทั้งหมด 6 ทีม เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาด”
…
“ออกเดินทางได้!”
หลังจากสิ้นสุดคำสั่ง
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหกสิบคนก็ปีนขึ้นไปบนรถ และแลนสเตอร์ก็ขึ้นรถสำหรับออกคำสั่งในฐานะผู้บัญชาการ
ซึ่งมีวิทยุอยู่ในรถเพื่อพูดคุยกับทีมทั้งหก
ช่างภาพหลายคนติดตามหน่วยต่างๆ และถ่ายภาพต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรถสั่งการ
ในเวลาเดียวกัน
สถานีตำรวจก็ส่งทีมมาด้วย
มีทั้งหมด 20 คน
เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรวมตัวกันห่างจากสถานีเก็บขยะประมาณ 3 กิโลเมตร และพวกเขาก็ลงจากสถานีพร้อมกัน
เจ้าหน้าที่ตำรวจดูด้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด
อาวุธของพวกเขาคือปืนพกและปืนยาวสองสามกระบอก
และเมื่อมองไปที่ทีมรักษาความปลอดภัยที่อยู่ข้างๆ พวกเขาดูจะแข็งแกร่งมากกว่าเสียอีก
เหมือนกับจะไปทำสงครามที่ไหนสักที่
ผู้กำกับเอ็ดและแลนสเตอร์จับมือกัน
เอ็ดพูดกับกล้องว่า “พวกโจรที่ปล้นธนาคารเป็นกลุ่มอันธพาลที่ไร้มนุษยธรรม ซึ่งกรมตำรวจขาดอำนาจในการยิงพวกเขา ด้วยเหตุนี้เราจึงร่วมมือกับหน่วยรักษาความปลอดภัยเพื่อเข้าจับกุม และการดำเนินการส่วนใหญ่จะดำเนินการโดยหน่วยรักษาความปลอดภัย ส่วนทางเราจะค่อยช่วยเหลืออยู่รอบนอก”
เอ็ดหันไปมองแลนสเตอร์แล้วถามว่า “คุณแน่ใจใช่ไหม? ว่าพวกโจรยังอยู่ในสถานีเก็บขยะ?”
“ใช่! เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของเราจับตาดูอยู่ตลอด” แลนสเตอร์กล่าว
“ถ้างั้นเรามาเริ่มกันเลยไหม?”
“ตกลง!”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยขึ้นรถไปอีกครั้งและไปที่สถานีเก็บขยะ
ทั้งหมดหยุดที่สถานีเก็บขยะห่างไป 500 เมตร
ทีมปฏิบัติการลงจากรถและพุ่งไปข้างหน้าในทิศทางที่ต่างกัน
ทีมงานภาพยนตร์ติดตามอย่างใกล้ชิดอยู่ข้างหลัง
ตามมาด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ในรถลีมูซีนมีชายร่างใหญ่หลายคนนั่งอยู่ในนั้น
พวกเขาก็คือเมเยอร์หัวหน้าเอ็มจีเอ็ม รอสนายกเทศมนตรีลอสแองเจลิส จอห์นสตันประธานธนาคารแห่งอเมริกาลอสแองเจลิส และฮาร์ดี้หัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัย
นี่เป็นครั้งแรกที่ฮาร์ดี้ได้พบกับนายกเทศมนตรีรอสและประธานจอห์นสตัน
เขาขอให้เมเยอร์หัวหน้าเอ็มจีเอ็มช่วยเชิญเขามาที่นี่
แน่นอนว่าการสร้างเครือข่ายผู้ติดต่อก็มีความสำคัญเหมือนกัน
และตอนนี้เขาก็มีคุณสมบัติที่จะได้เจอคนเหล่านี้แล้ว
“คุณฮาร์ดี้ ฉันขอชื่นชมคุณที่สร้างทีมรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งขนาดนี้ได้ ฉันเชื่อว่าความปลอดภัยของประชาชนจะเพิ่มขึ้นมากอย่างแน่นอน” นายกเทศมนตรีรอสกล่าว
ถัดจากประธานาธิบดี
จอห์นสตันมองไปที่ชายหนุ่มตรงหน้าและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ผมชื่นชมความสามารถในการบริหารจัดการของเขามากกว่า”
บริษัทภาพยนตร์ได้เงิน 200,000 ดอลลาร์จากเขาไปอย่างง่ายดายเมื่อวานนี้ และเขายังต้องขอบคุณคนอื่นๆ ที่มาช่วยในครั้งนี้อีก
และยังมีสัญญาที่จะต้องร่วมมือกันในอนาคตด้วย
เมเยอร์มองดูการปฏิบัติการเข้าจับกุมครั้งนี้ และเขาก็หันไปหาฮาร์ดี้แล้วพูดว่า “ฮาร์ดี้ จู่ๆ ฉันก็รู้สึกเสียใจกับพวกโจรซะแล้วสิ”
“ทำไมเหรอครับ?”
“เพราะพวกเขาต้องมาเจอกับคุณ…”